== วิธีพิสูจน์พระอรหันต์ ==

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย wisarn, 16 มกราคม 2016.

  1. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014





    เค้าเอาไว้วัด พวกมนุษย์ขึ้เหม็น
    ที่คิดว่า ตนเองเป็นพระอรหันต์แล้ว
    เป็นอย่างนั้น จริงหรือไม่
    แต่ก็ยังมีวิธีวัดอย่างอื่นอีก
     
  2. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014




    คนที่จะพิสูจน์นั้น
    ย่อมไม่ใช่ เราผู้ถาม
    แต่เป็นผู้ที่ถูกถาม
    เค้าย่อมรู้ได้ด้วยตนเองว่า
    ความอยากยังมีอยู่หรือไม่
    แต่ถ้าหากเค้า ไม่ยอมตอบ
    หรือ ตอบไม่ได้
    ก็แสดงว่า เค้ายังไม่พร้อม
    ยังไม่สามารถที่จะบรรลุธรรมได้
    ่ต้นเหตุก็เพราะว่า
    เค้ายังไม่มีความมั่นใจเพียงพอ
    ที่จะก้าวข้าม โฆษะ นั่นเอง
     
  3. Greenpleace

    Greenpleace เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2012
    โพสต์:
    895
    ค่าพลัง:
    +8,768
    ปถุชน ก็ยังพิสูจน์พระอรหันต์ไม่ได้ครับ เพราะแม้ดวงตาเห็นธรรม ก็ยังทำให้เกิดขึ้นไม่ได้ แล้วธรรมอันบริสุทธิ์ของพระอรหันต์ที่แท้จริง ในใจท่าน ก็มิอาจรู้ได้ครับ ส่วนอากัปกริยาภายนอกนั้น อาจไม่ใช่เครื่องพิสูจน์จริงๆ ผลที่ได้ไม่แน่นอนครับ

    สิ่งที่มนุษย์ปุถุชนคิด ที่ยังใช้แนวทางของสังคม ก็ย่อมเจือด้วยสิ่งที่เบียนเบียน ทั้งที่รู้ก็ดี ไม่รู้ก็ดี สิ่งเหล่านี้ จะนำไปสู่การปรามาสได้ครับ เป็นการปิดทางไปสู่อริย หรือ มรรค ครับ

    เหตและปัจจัยของการบรรลุธรรมนั้นมีอยู่ อย่าไปคาดเดากันเลยครับ ว่าใครพร้อมหรือไม่พร้อมครับ จะทำให้ผู้อื่นนั้น เกิดมิจฉาทิฐิ เป็นกรรมติดตัวไป ทำให้เสียเวลาไปอีกหลายภพชาติครับ
     
  4. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014




    ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง
    พระอรหันต์ ก็จะเป็นแต่เพียง
    คำคม หรือ คารม ของคนบางคน
    ที่จะเอาไว้หลอกหากิน
    กับคนที่หลอกง่ายๆ
    เค้าบอกอย่างไร ก็เชื่ออย่างนั้น
    ถ้าอย่างงั้น จะมีหลัก กาลามะสูตร
    เอาไว้เพื่ออะไร
    แค่ให้เชื่อ อาจารย์ ที่เค้าสอนก็พอ
    ไม่จำเป็นต้องมีความคิดของตนเองก็ได้

    พระอรหันต์ที่แท้จริง ย่อมต้องทนต่อการพิสูจน์ได้
     
  5. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    ต้องทนต่อการพิสูจน์ คุณพูดเองทั้งเลย

    พิสูจน์ อะไรล่ะ พิสูจน์เพื่อ ? ทาง โลกทั้งนั้น

    พระอรหันต์ท่าน ละโลกโลกธรรม ได้หมดแล้ว

    จะพิสูจน์ หรือไม่พิสูจน์ ไม่มีผลอะไรกับท่าน
     
  6. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014





    เณรคำ ท่านก็บอกว่า
    ท่านเป็นพระอรหันต์
    คนที่ไปพิสูจน์ท่านก็มีเยอะแยะ
    ต้องตกหลุมพรางก็มีไม่น้อย
    อย่างนี้ต้องทำไง
     
  7. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    [/COLOR]
    พระอรหันต์ที่แท้จริง ย่อมต้องทนต่อการพิสูจน์ได้[/QUOTE]

    แล้วไง เณรคำเป็นอรหันต์ ท่ีแท้จริงซะที่ไหนเล่า

    คุณพูดว่า พระอรหันต์ที่แท้จริง? ใช่ หรือไม่?
     
  8. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    ท่านจะเป็นอะไร ท่านรู้ของท่านเอง จะเที่ยวไปพิสูจน์มั่วๆ เชื่อตามแต่สิ่งที่ท่าน "อาจจะ" ล้อเล่นแกล้งทำให้เห็นมั่วๆแล้วจะไปถือวิสาสะตัดสินว่าท่านเป็นนั่นเป็นนี่ เป็นระดับนั้นระดับนี้ เชื่อไปตามความคิดการคาดเดาของตัวเราเองได้งัย ทำไม่ได้
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ต้องแยกแยะ การย้อนแย้งด้วย ธรรม เพื่อ ธรรม มันจะมีอยู่ และ จะต้อง
    ฝึกหัดให้เป็นให้ได้

    พระพุทธองค์ ทรงทนลำบากจะไม่ปรินิพพานเด็ดขาด หาก พุทธบริษัท
    ไม่สามารถแก้ไข การจาบจ้วงของ เดียรถีย์นอกศาสนา ได้

    ดังนั้น

    หน้าที่ของชาวพุทธ ที่ละเว้นไม่ได้ อย่าอกตัญญูต่อ พระศาสดา คือ

    จะต้อง แก้ไขการจาบจ้วงของ เดียรถีย์ ได้

    หากเจอ เดียรถีย์ จาบจ้วงพระพุทธศาสนา แล้ว ทำธุระไม่ใช่

    ก็ไปหากุฏิ หาเชือก หาโรงพยาบาล หาสายน้ำเกลือ มาหาทางออกซะ
     
  10. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    อนึ่ง พึงทราบ วิธี การย้อนแย้ง ด้วยธรรม เพื่อธรรม เอาไว้ให้เป็น

    วางจิตให้ดี


    การแก้ไขการจาบจ้วงพระศาสนา กับ การไปมุ่งชี้คุณธรรมตัวบุคคล จะคนละเรื่องกัน

    อันหนึ่ง ปราศจากความผิด และเป็นหน้าที่

    อีกอัน เผลอไปทำ ปิดนิพพานได้ เพราะ ลมหายใจสุดท้าย หากเดียรถีย์นั้น
    กำหนดรู้เท่าทันโมหะ ได้ คนๆนั้น ก็จะเป็น อริยะเจ้า อันคนไปจาบจ้วงตัวบุคคล
    ก็เท่ากับ อริยูปวาโท ปิดนิพพาน สถาณเดียว
     
  11. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    โดยนัยความหมายของผม ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ตรวจสอบนะครับ
    อยากตรวจสอบก็ตรวจไป
    แต่จะให้ไปไว้ใจ วางใจ 100 เปอร์เซ็นต์ เชื่อในหลักฐาน ที่อาจจะเป็นหลักฐานเท็จ
    ตามความสามารถของการเห็น ของผู้ตรวจสอบนั้นน่ะ ไม่ได้
     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ต้องฟังให้ดีๆ เรื่องของ "หลักฐาน" อันนั้น เป็นเรื่อง ตัวบุคคล

    ถ้า ฟังธรรมให้เป็น การย้อนแย้ง การมีต้นทุน หรือ หลักฐาน
    จะเป็นเรื่อง " มุขนัยในการปฏิบัติไปเห็นผล "

    พูดง่ายๆ หลักฐาน ในทางธรรม หมายถึง น้อมไปปฏิบัติจนเห็นผลได้

    จึงเป็นเรื่องว่าด้วยธรรม เพื่อธรรม ไม่ใช่เรื่องตัวบุคคล

    หลักฐานทางธรรม จึงไม่มีจริง มีเท็จ มีแต่ ลองปฏิบัติแล้วหรือยัง

    หรือยังเอาแต่ มุ่งเรื่องโลกๆ เรื่องตัวบุคคล มองไม่ออกว่า ธรรมะ เป็นเรื่อง
    พ้นตัวตน บุคคล เราเขา ได้อย่างไร ทำไมจึงเป็น สุญญตา ว่าแต่โลกุตระ เสมอ
     
  13. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ยกตัวอย่าง

    วิธีพิสูจน์ โสดาบัน ที่พระพุทธองค์ทรงประทานไว้ให้

    พระพุทธองค์ให้ กำหนดรู้ " การถูกวิบากจากการผิดศีล5 ส่งผล "

    หากผู้หนึ่งผู้ใด มีอาการปริเวทนาด้วยเพราะ วิบากกรรมของการผิดศีล5
    เข้าห้อมล้อมจิต กดทับจิต ให้แล่นไปสู่ วิบากกรรม

    ก็เป็นอันว่า ผู้นั้น ไม่ใช่โสดาบัน


    *************************************

    งง ไหม มีคำว่า " ผู้นั้น " เหมือนๆ จะเป็นเรื่อง ตัวบุคคล

    แต่จริงๆ ไม่เกี่ยว เพราะ นัยยะสำคัญ จะดูที่ " ปริเวทนา " ซึ่งตรง
    นี้ไม่ใช่เรื่อง ความเป็นตัวตน บุคคล เรา เขา [ ประโยคคำพูด ภาษา จำต้องอาศับ
    บุคคลาธิษฐาน เข้ามาประกอบประโยค เพื่อให้เป็น ภาษามนุษย์ สื่อสาร ถ้าปัญญาเข้ามาเห็นตรงนี้ได้ จะเห็น
    เลย ที่พูดๆกันอยู่ ไม่ใช่ สัตว์คุยกับสัตว์ ไม่ใช่คนคุยกับคน แต่เป็น ธรรม สิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี ตถตา เช่นนั้นเอง ]


    อาการปริเวทนาปรากฏ ก็ จบ สรุปความได้ทันทีว่า มีภูมิโสดาบัน ไหม

    แต่ถ้าเรา ประมาท แล้วไปกล่าวว่า คนที่มีอาการปริเวทนาอย่างนั้น ไม่ใช่โสดาบัน
    กล่าวเท่าไหร่ ชี้เท่าไหร่ ย้อนแย้งเดียรถียเท่าไหร่ ก็ไม่มีเวร มีภัย (แต่จะต้อง
    วางจิตเก่งๆนะ หากจิตผลิกไปนิดเดียว เวรกรรมย่อมมี ) [ ตรงนี้ ลักลั่น เดียวขอเรียงประโยคใหม่ ]

    ไปสรุปความเป็นตัวบุคคล แม้แต่ พระที่ผูกคอตายในกุฏิแล้วเราไป ชี้คุณธรรม
    ด้วยอาการปริเวทนาสุ่มสี่สุ่มห้า ระวัง จะปิดนิพพาน

    *****************************

    แก้เป็น

    แต่ถ้าเรา ประมาท แล้วไปกล่าวว่า คนที่มีอาการปริเวทนาอย่างนั้น ไม่ใช่โสดาบัน
    ไปสรุปความเป็นตัวบุคคล แม้แต่ พระที่ผูกคอตายในกุฏิแล้วเราไป ชี้คุณธรรม
    ด้วยอาการปริเวทนาสุ่มสี่สุ่มห้า ระวัง จะปิดนิพพาน

    แต่ถ้าเรา กล่าวว่า อาการปริเวทนาอย่างนั้น ไม่ใช่โสดาบัน
    กล่าวเท่าไหร่ ชี้เท่าไหร่ ย้อนแย้งเดียรถียเท่าไหร่ ก็ไม่มีเวร มีภัย (แต่จะต้อง
    วางจิตเก่งๆนะ หากจิตผลิกไปนิดเดียว เวรกรรมย่อมมี )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2016
  14. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60

    นี่แหละ..กระผมถึงได้บอกว่า จะไปด่วนสรุป ว่าใครเป็นระดับไหนอย่างไรโดยที่
    จะไปเชื่อเอาตามการคิดการคาดเดาของเราเองไม่ได้
     
  15. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    เราเว้น ชี้ บ่งชี้ ตัวบุคคล

    แต่เราไม่เว้น อย่างไรคือการประพฤติพรหมจรรย์ อย่างไรไม่ใช่

    มีคนผูกคอตาย แล้ว เราเว้น ไม่กล่าว ก็ อกตัญญู ต่อ พระศาสนา

    ทีนี้ จะกล่าวอย่างไร

    ก็เรื่องของจิตภายใน ชิโนสุเกะ แล้วหระ เพราะ เพียงคำพูด ไม่พอ

    " ขันธ์5 พร่องเสมอ ....ภาษาก็เป็นสิ่งที่อาศัยขันธ์5 ...จึงไม่ควร
    ศึกษาธรรม เพื่อหา ปัญญาที่พูดได้ "
     
  16. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    ถ้าเขาอยากจะล้อเล่นกับเรา แล้วแกล้งทักทายธรรมต่อเราโดยแสดงอาการปริเวทนาให้เราเห็น
    อย่างนี้ เราก็จะไปตัดสินเขาเสียแล้ว ว่าเขานั้นน่ะ ไม่ใช่โสดาบัน
    เราทำอย่างนั้นได้หรือ???
     
  17. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ก็แล้วแต่ ชิโนะสุเกะ เป็นมิตร เป็นสหาย หวังให้เพื่อน คนนั้น
    เขาได้ประโยชน์ ยังไง แค่ไหน ไง

    ถ้า ชิโนสุเกะ ไม่รู้ธรรม ก็หมดปัญญา อยู่แล้ว ถูกไหม

    แต่ถ้า ชิโนสุเกะ รู้ธรรม รู้ประโยชน์ รู้สิ่งที่เขาทำ ไม่ใช่ประโยชน์

    แล้ว ชิโนสุเกะ ต้องการให้เขา เรือหาย หรือว่า ต้องการบอกกล่าวหนทาง
    อันเป็นประโยชน์ ที่ตนรู้ อะเป่า

    ถ้า ชิโนสุเกะ ไม่มีเมตตาจิต ไม่มีมิตรใจ เห็นเพื่อนจมอยู่ในโทษ
    แล้วก็ปล่อยปละละเลย ไม่บอก ไม่กล่าว กินประโยชน์นั้นคนเดียว

    แล้ว ธรรม หรือ ประโยชน์ ที่ชิโนะสุเกะ กินอยู่ แน่ใจหรือว่า ของจริง

    ถ้า ธรรม ที่ชิโนะรู้ เป็นของจริง ....การไม่กล่าว บอกทาง บอก
    ประโยชน์แก่ มิตร นั่นย่อมหมายถึง ชิโนะอกตัญญู ต่อ พระศาสนา

    ดังนั้น

    ต้องพินา กาล เทศะ ในการบอกกล่าว สัจจะ ความจริง ประโยชน์
    เอาเอง ห้ามเว้น !! ( ถ้าเป็นพระ มีข้อวินัย ปรับอาบัติ เลยหละ )


    ปล.ลิง " การแสดงธรรมด้วยการไม่พูด " จัดเป็น การบอกกล่าวประโยชน์
    อาการหนึ่ง ชนิดหนึ่ง ( แต่ สงวนไว้สำหรับคนมีธรรมแท้ๆ อะนะ ถ้าปุถุชนทำ จะมีค่าเป็น ประเพณี )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2016
  18. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    บางที การที่เขาไม่แสดงของจริงให้ดูเสียตั้งแต่แรก
    ก็ถือว่าเป็นการแสดงธรรม แบ่งธรรม ให้ธรรม อย่างหนึ่ง
    เพราะได้เป็นการชี้ให้เห็นแล้วว่า
    เรา..จะเชื่อเสียแต่ในสิ่งที่เราเห็นที่เราคิดไม่ได้นะ
    ไม่ใช่ว่าเห็นลักษณะเขาเป็นมายังงัย
    เราก็จะปักใจเชื่อ แล้วก็คาดหมายทำนายทายทัก ไปตามลักษณะของเขาที่เราเห็นแค่เปลือกไปเสียหมดแค่นั้น จะไปทึกทักเอาแค่นั้นไม่ได้

    แล้วถ้าเขาไม่แสดงของจริงให้ดูเสียตั้งแต่ทีแรก
    เราเอง..ก็จะรีบไปตัดสินเขา ว่าเขาเป็นผู้ที่มีเจตนาร้าย
    ไม่มีเมตตาจิต ไม่มีมิตรใจ อยากเห็นเพื่อนจมอยู่ในโทษ
    แล้วก็ปล่อยปละละเลย ไม่บอก ไม่กล่าว กินประโยชน์นั้นคนเดียว
    จะรีบไปตัดสินเขาอย่างนั้นก็ไม่ได้ เพราะบางทีเค้าต้องการแค่ชี้ธรรมให้ดูในเบื้องต้นเท่านั้น

    เพราะฉะนั้น ต่อให้เขายังไม่แสดงธรรมแท้ออกมาให้เราจับ ว่าเขาอยู่ level ไหน เราก็จะรีบไปตัดสินเขา ว่าเขาเป็นผู้ที่ไม่หวังดีต่อมิตร ไม่ได้เลย ท่านว่าอย่างนั้นไหม
     
  19. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    อุปมาได้กับ ธรรมและวินัย เป็นเสมือน
    เรือ หรือ แพใช้ข้ามฟากไปเท่านั้น
    เมื่อข้ามฝั่งไปได้แล้ว ก็วางธรรมและวินัยลง
    ส่งคืนให้กลับ โลกสมมติที่มีไว้แต่ในโลกสมมติเท่านั้น ส่วนตัวก็ อยู่กับธรรมญาณที่บริสุทธิ์ ดีแล้ว
    ใครเข้ามาในข่ายพระญาณ ก็ไปปรกโปรด
    ถ้าไม่มีเวไนย์ มาเข้าข่ายพระญาณ ก็อยู่
    อย่างปกติ เสวยวิมุตติสุข ของความหลุดพ้นอยู่แล้ว

    ก็ขอเตือนผู้ปรารถนาจะเข้าพระนิพพาน
    มารมักจะใช้คำพูดที่ทำให้คนกลัว
    เจ้านี่บวชเรียนมามาก ธรรมแตก
    เจ้าเชื่อพระพุทธะ เจ้าก็จะเป็นเช่นพระ
    พระพุทธะ ตรัสรู้ได้เอง
    เจ้าเชื่อมาร มารก็หลอกใช้ให้เจ้า
    ทำร้ายพระพุทธะ ก็จะยิ่งเป็นการออก
    ห่างจากการตรัสรู้ได้เอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...