วิธีรักษาโรคมะเร็งทุกชนิดหายขาด

กระผมได้ทำการวิจัยเองท่านผู้ใดสนใจสามารถคัดลอกไปแต่งหนังสือขายหรือเสนอทางโรงพยาบาลต่างๆได้โดยมิได้สงวนลิขสิทธิ์

วิธีรักษาโรคมะเร็งทุกชนิดหายขาด
ขั้นตอนการทดลอง
ตัวยาสมุนไพรที่ใช้รักษาโรคมะเร็งควบคู่กับการบำบัดทางเคมี
ยาบำรุงเลือด ขับถอนพิษ แก้ไข้ ขับร้อน เช่น ขิง ข่า ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วลิสง หัวผักกาดขาว ดอกคำฝอย เห็ดหลินจือ มะนาว กระเจี๊ยบน้ำต้มผักขม(สีเขียว และแครอทสีส้ม ใช้รักษา โรคมะเร็งปอด หลอดลม โพรงจมูก ช่องปาก สมอง
ยาสลายก้อนเนื้อ ได้แก่ รังผึ้ง กระเทียม มะเขือเทศ น้ำต้มผักขม(สีเขียว และแครอทสีส้ม)ใช้รักษา มะเร็งเต้านม รังไข่ มดลูก ไทรอยด์ ไต กระดูก ลูกหมาก องคชาติ กระเพาะปัสสาวะผิวหนัง
ยาบรรเทาปวด เนื่องจากเจ็บปวดที่ปลายประสาทได้รับผลกระทบจากมะเร็ง เช่น ขมิ้นชัน พิษคางคก น้ำต้มผักขม(สีเขียว และแครอท)สีส้ม ใช้รักษา โรคมะเร็งตับ ถุงน้ำดี ตับอ่อน
การควบคุมการเติบโตของเนื้องอก เช่น เห็ดหลินจือ เห็ดหอม เห็ดหูหนูขาว เห็ดฟาง น้ำต้มผักขม(สีเขียว และแครอทสีส้ม) ชาเขียว มะระ ดอกกุหลาบ แห้ว มะเฟือง กระเทียมใช้รักษาโรคมะเร็งทางเดินอาหาร กระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ใหญ่
วิธีการที่ทำให้เซลมะเร็งหายขาดได้มีวิธีการดังกล่าวดังต่อไปนี้
1.ทำให้เซลมะเร็งเกิดการหยุดชะงักเจริญเติบโตช่วงหนึ่งทำให้เซลมะเร็งตายลงโดย วัคซีนวัณโรคหรือพิษสุนัขบ้า ฉีดเข้าสู่เซลมะเร็งตรงบริเวณที่เป็น ซึ่งจะทำให้เม็ดเลือดขาวในเซลมะเร็งนั้นเกิดการชะงักตัวเพราะจะเกิดการสร้างเม็ดเลือดขาวขึ้นในบริเวณเซลมะเร็งเป็นจำนวนมากซึ่งจะต้องฉีดวิตามิน B 6เข้าไปในโซนนี้ด้วยเพราะวิตามินนี้วิจัยออกมาแล้วว่าจะเข้าไปช่วยคุ้มครองเม็ดเลือดขาวที่สร้างขึ้นมาไม่ให้เซลมะเร็งทำลายได้ง่ายๆ ซึ่งวัคซีนจะทำให้เกิดเม็ดเลือดขาวขึ้นมาและส่วนมอร์ฟีนจะเป็นตัวช่วยกดประสาทให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟีน ซึ่งจะทำให้ร่างกายรู้สึกสบายจะทำให้เม็ดเลือดขาวในเซลมะเร็งเกิดการหยุดชะงักเนื่องจากกดศูนย์การหายใจทำให้การหายใจช้าลงและอาจเป็นอันตรายแก่ร่างกายได้ ซึ่งถ้าผู้ป่วยมีความรู้สึกห่อเหี่ยวใจจะทำให้เม็ดเลือดขาวในเซลล์มะเร็งนั้นเกิดการหยุดชะงักการแบ่งเซลล์ได้ ซึ่งคาดว่าจะฉีดในปริมาณที่น้อย
2.ในช่วงเซลล์มะเร็งมีกระบวนการเผาผลาญพลังงานอย่างปกติ ตัวยาจากเฟนฟลูรามีนผสม
(สารแอนติออกซิแดนซ์ คือ น้ำต้มผักขมหรือผักสีเขียว และแครอทสีส้มกับชาเขียว )จะทำให้ขัดขวางการหายใจของเซลล์มะเร็ง และจะทำให้กระเพาะหลั่งสารเซโรโทนินออกมาในจำนวนที่พอเหมาะจะทำให้เม็ดเลือดขาวในเซลมะเร็งระบบทางเดินอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ เล็ก หลอดเลือดแดง และมะเร็งเม็ดเลือดขาว นั้นเกิดการหยุดการแบ่งเซลล์และหมดไปในที่สุด และจะรับประทานวิตามิน b6 ที่ผสมกับสารสกัดจากเห็ดหลินจือ เห็ดหอม เห็ดหูหนูขาว เห็ดฟาง น้ำต้มผักขม(สีเขียว และแครอทสีส้ม) ชาเขียว มะระ ดอกกุหลาบ แห้ว มะเฟือง กระเทียมเข้าไปด้วย

3.ทำลายโครงสร้างเม็ดเลือดขาวในเซลมะเร็งทำให้เซลไม่มีเยื้อห่อหุ้มและตายไปโดยจะใช้สารจากวัคซีนวัณโรค หัดเยอรมัน ไข้เลือดออก และสุนัขบ้าผสม ส่วนวิตามิน b6โดยผสมกับยาเคมีบำบัดที่ใช้ในการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวคือ cytosine arabinoside ชื่อการค้าคือ ara-c ,cytosar ซึ่งมีกลไกในการออกฤทธิ์คือเข้าไปรวมตัวในดีเอนเอของเซลมะเร็ง และอีกตัวยาหนึ่งคือ cytarabine ชื่อทางการค้าคือ 5

 

มะเร็งหายได้อย่าสิ้นหวัง

ที่มูลนิธิไทยกรุณารักษาโรคร้ายทุกชนิด ด้วยสมุนไพรไทยหายมาหลายคนแล้วสนใจยินดีให้ข้อมูล0870985794

 

เป็นสิ่งที่ดีที่นำมาบอกเล่าให้ฟังกันเลยค่ะ

 

น้ำอัลคาไลน์ รักษาโรคมะเร็ง ปรับสมดุลร่างกาย ขับถ่ายของเสีย

น้ำอัลคาไลน์
ช่วยในการรักษาโรคมะเร็งได้เหมือนกัน คลินิคพลังจักรวาลนำไปใช้ควบคู่กับการรักษา

 

บริโภคเนื้อสัตว์ เสี่ยงมะเร็งลำไส้

Headlines: <!-- HEADLINE CONTENT -->

<SCRIPT type=text/javascript>/* <![CDATA[ */ //$(window).addEvent('domready', function(){ // options setting var options = { box:$('jalh-modid194'), items: $$('#jalh-modid194 .ja-headlines-item'), mode: 'horizontal', wrapper:$('jahl-wapper-items-jalh-modid194'), buttons:{next: $$('.ja-headelines-next'), previous: $$('.ja-headelines-pre')}, interval:8000, fxOptions : { duration: 1000, transition: Fx.Transitions.Pow.easeInOut , wait: false } }; var jahl = new JANewSticker( options ); // });/* ]]> */ </SCRIPT>


<!-- MAIN CONTAINER --><!-- CONTENT --><SCRIPT type=text/javascript src="http://www.meedee.net/components/com_jomcomment/assets/script.js?4.0"></SCRIPT>บริโภคเนื้อสัตว์เสี่ยงมะเร็งลำไส้


<!-- Article tools --><DL class="article-info clearfix"><DD class=create>Medical Upgrade - </DD></DL>

<DL class="article-info clearfix"><DD class=category-name>Foods Security </DD></DL><!-- // Article tools --><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>
<?xml:namespace prefix = fb ns = "http://www.facebook.com/2008/fbml" /><fb:share-button class="url fb_share_count_hidden" href="http://www.meedee.net/magazine/med/foods-security/1493" type="button_count"></fb:share-button>
<fb:like class=" fb_edge_widget_with_comment fb_iframe_widget" width="360" href="http://www.meedee.net/magazine/med/foods-security/1493" layout="standard" show_faces="0" height="24" action="like" colorscheme="light" font="tahoma"></fb:like>
บริโภคเนื้อสัตว์เสี่ยงมะเร็งลำไส้

การบริโภคเนื้อสัตว์ กับการเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ นอกจากโรคหัวใจก็มีเจ้าโรคมะเร็งนี้แหละที่คนส่วนใหญ่กลัวกัน เพราะเมื่อเป็นแล้วมีข้อจำกัดมากมายในการดูแลรักษาเป็นอย่างมาก ดังนั้นวิธีการรักษามะเร็งที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้เป็นมะเร็งนี่แหละเป็นวิธีที่ดีที่สุด
คงเข้าทำนองที่ว่า "กันไว้ดีกว่าแก้ เพราะแย่แล้วจะแก้ไม่ทัน" และที่สำคัญการป้องกันนั้นง่ายกว่าการรักษามากเลยทีเดียว ที่ง่ายที่สุดก็คือ เรื่องอาหารการกิน ซึ่งเป็นตัวการสำคัญตัวหนึ่งที่เพิ่มโอกาส เสี่ยงการเป็นมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร
เนื้อสัตว์ไม่ว่า จะเป็นเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อเป็ด-ไก่ มีผลจากการวิจัยของศูนย์สุขภาพ มหาวิทยาลัยโลมา-ลินดา แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยมีรายงานการวิจัยว่า เนื้อสัตว์ทั้งหลายไม่มีความแตกต่างกันในเรื่องอัตราเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่ ล้วนมีความเสี่ยงพอ ๆ กัน โดยมีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งมากกว่าพวกที่กินมังสวิรัติที่ไม่กินเนื้อเลยถึง 55 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งกินบ่อย และปริมาณมากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้น รวมถึงการกินเนื้อสัตว์ที่มีการปิ้งย่าง เนื้อที่มีส่วนไหม้เกรียม ตัวอย่างจากผลการวิจัยผู้ที่กินเนื้อสัตว์สัปดาห์ละ 4 มื้อ จะมีโอกาสเสี่ยงในการเกิดมะเร็งสูงกว่าปกติถึงร้อยละ 200 ในคนที่ทานเนื้อสัตว์ 1-2 มื้อต่อสัปดาห์มีโอกาสเสียงกว่าปกติร้อยละ 38
ผู้วิจัยเชื่อว่าการกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์มาก ๆ มีความถี่มากเท่าใด และไม่ว่าชนิดใด จะเป็นสาเหตุสำคัญในการเพิ่มโอกาสต่อการเกิดมะเร็งในระบบทางเดินอาหารมากขึ้น ยิ่งในรายที่มีอาการท้องผูกร่วมด้วยจะยิ่งไปเพิ่มโอกาสการหมักหมมของซากโปรตีนจากสัตว์ในลำไส้ใหญ่ ทำให้มีโอกาสเพิ่มและตกค้างของสารพิษซึ่งเป็นตัวหนึ่งที่มีโอกาสกระตุ้นให้เกิดโอกาสเกิดมะเร็งสูงขึ้นด้วย ในกรณีที่หลีกเลี่ยงการทานเนื้อสัตว์ไม่ได้ อย่างน้อยควรพยายามอย่าให้มีกากโปรตีน จากเนื้อสัตว์ค้างในลำไส้ อย่าพยายามทำให้เกิดท้องผูก
พยายามขจัดกากออกให้เร็วที่สุดเป็นประเด็นหนึ่งในระบบชีวจิตที่มีการเน้นให้มีการทำ ดีท็อกซิฟิ-เคชั่น หรือการขจัดสารพิษที่ตกค้างในลำไส้ วิธีการขจัดสารพิษออกจากร่างกายมีหลายวิธี ยากง่ายให้ผลมากน้อยแตกต่างกันไป ตามความสะดวก พฤติกรรมการบริโภคที่มีผลต่อความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร ในบ้านเราตามปกติแล้วจะชินกับการทานอาหาร 3 มื้อมาตั้งแต่เล็กจนโต เมื่อขาดการทานมื้อใดมื้อหนึ่งไป เมื่อถึงเวลาด้วยความเคยชินก็จะหลั่งน้ำย่อยออกมา เมื่อไม่มีอาหารให้ย่อย ผนังกระเพาะ และลำไส้ก็มีส่วนถูกย่อยด้วยกรดจากน้ำย่อย
ดังนั้น ควรทานอาหารให้ครบมื้อและตรงเวลา การฝึกในการลดอาหารหรือลดจำนวนมื้อในแต่ละวันควรเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้ร่างกาย มีปรับตัวได้ทันและไม่ทำอันตรายต่อระบบย่อยอาหารของเราเอง คนที่มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อบ่อย เป็นเพราะมีการทานอาหารในแต่ละมื้อนั้น
มากเกินไปหรือเคี้ยวไม่ละเอียด ทำให้สัดส่วนของอาหารและน้ำย่อยไม่เพียงพอ ทำให้เหลืออาหารที่ไม่ถูกย่อยหรือย่อยไม่หมดเหลือมาก เพียงลองลดอาหารในแต่ละมื้อลง เปลี่ยนมาทานให้บ่อยขึ้นหรือเคี้ยวอาหารให้ละเอียดมากขึ้น จะช่วยให้การย่อยอาหารสมบูรณ์ขึ้น กระเพาะและลำไส้ไม่ต้องทำงานหนัก
ปริมาณอาหารที่พอดีในแต่ละคนมีวิธีสังเกตง่าย ๆ คือ คนที่อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไปมีส่วนสูงประมาณ 165 ซม. ในผู้ชายควรมีน้ำหนักมาตรฐาน 63 +/- 5 กิโลกรัม ในผู้หญิงควรมีน้ำหนักประมาณ 56 +/- 5 กิโลกรัม ถ้ามีน้ำหนักน้อยหรือมากกว่ามาตรฐานแสดงว่าการรับประทานในแต่ละวันไม่สมดุล โดยอาจไม่ถูกสัดส่วนกับความต้องการของร่างกาย
คนที่มีอาการเบื่ออาหาร อาจมีสาเหตุมาจากความเครียด ทำให้กินอาหารไม่ตรงเวลา การกินในปริมาณมากเกินไปในขณะที่กระเพาะลำไส้ไม่ทำงาน บางคนกระเพาะลำไส้ทำงานมากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการกินอาหารไม่ทันใด ก็ต้องวิ่งเข้าห้องน้ำ
การดื่มชากาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเยอะ จะไปกระตุ้นให้กรดออกมาเยอะ การสูบบุหรี่จัดมีผลให้กระเพาะบีบตัวได้ไม่ดี หูรูดของกระเพาะที่ต่อกับหลอดอาหารและกระเพาะกับลำไส้เปิด-ปิดได้ไม่ดี เกิดอาการกรดในกระเพาะล้นพ้นขึ้นมาบริเวณหลอดอาหารได้ทำให้รู้สึกหน้าอกแสบร้อนได้
ดังนั้นการลดกาแฟหรือบุหรี่ลง กินอาหารรสไม่จัด สักประมาณ 1 อาทิตย์ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์ การปล่อยให้เป็นลักษณะนี้ไปนานๆอาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งได้


นิตยสาร Medical Upgrade ฉบับ 010

 

เนื้อสัตว์ เสี่ยงต่อโรคมะเร็งร้ายนานาชนิด สูงถึง 300 %

ข่าวล่าสุด อาหารตะวันตก
ซึ่งมีเมนูจานเนื้อเป็นหลัก เสี่ยงต่อการป่วยโรคมะเร็งร้าย
สูงถึง 300 เปอรเซนต์

<TABLE class=attachtable border=0 cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center><TBODY><TR><TD colSpan=2 align=middle>


</TD></TR></TBODY></TABLE>
<HR>ข่าวล่าสุด อาหารตะวันตก
ซึ่งมีเมนูจานเนื้อเป็นหลัก เสี่ยงต่อการป่วยโรคมะเร็งร้าย
สูงถึง 300 เปอรเซนต์

ซึงถือเป็นภัยคุกคามชีวิตคนชาติตะวันตก สูงมาก ที่กลุ่มคนชนรุ่นใหม่
และ วัยรุ่นยังนิยมบริโภคเนื้อ ทำให้ทางการสหรัฐ

โดยสถาบันวิจัยโรคมะเร็ง แห่งสหรัฐ (AICR)
ต้องออกโรงเตือนเป็นการเร่งด่วนให้หยุด ละ บริโภคเนื้อสัตว์
เพื่อลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วย
ด้วยโรคมะเร็งร้ายนานาชนิด ตามที่มีการศึกษา วิจัยอย่างกว้างขวาง
ว่า เนื้อสัตว์เป็นภัยร้าย บ่อเกิดของโรคมะเร็งหลายๆ ชนิด นอกจากโรคหัวใจ
โรคไขมันอุดตัน ในเส้นเลือด

ข้อมูลจาก สถาบันวิจัยโรคมะเร็งแห่งสหรัฐ

เวปอ้างอิง

www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=18151

 

เนื้อสัตว์ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย โรคมะเร็ง ไขมันอุดตัน โรคหัวใจ ปีละจำนวนหลายร้อยล้านคนทั่วโลก

เวปข้อมูลอ้างอิง

www.watisan.com/showdetail.asp?boardid=1080

 

หายจริงๆหรอครับบบบบๆๆๆๆๆ

 

หายจริงเหรอคะ...สงสัยน่ะค่ะ

 

สมุนไพรไทยนี่แหละของดีที่สุดในโลก ฝรั่งเค้าอยากได้นักหนา แต่เค้าเอาไปปลูกแล้วมันไม่ขึ้น

 

ขอบคุณสำหรับบทความดีดี

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ

 

คุณ lotte เดี๋ยวนี้หายไปไหนแล้ว
เมื่อก่อนผมชอบโครงการดี ๆ ของคุณนะ

 

สมุนไพรรักษามะเร็ง

รักษาด้วยสมุนไพรไทย พลูคาว โรจนภัทร ขวดละ 790 บาท ติดต่อ สุเนตร 089-7468728

เวปไซท์ http://www.rpghouse.net/?id=527599

 

ลองหาที่นั่งสมาธิทำบุญควบคู่กา<WBR>รรักษาดูครับ หลวงลุงที่เชียงไหม่จะมีการนั่ง<WBR>สมาธิแบบที่พอช่วยได้ลองถามแท็ก<WBR>ซี่ที่แอร์พอต มชดูครับว่าหลวงลุงเมดิเทชั่นไป<WBR>ที่ไหน อันนี้เปนแนวการทำบุญหรือช่วยกั<WBR>นนั่งเพื่อรักษาเอาไรไปช่วยๆกัน<WBR>นั่งรักษาได้ครับ สนปฎิบัติบัตธรรมล้านนา89หมู่2 ต.บ้านช้าง อ.แม่แตง แล้วแต่นเชื่อนะคับ

 

ขอบคุณครับ

 

สมุนไพรไทย หายไม่หาย ก็ต้องลองทดสอบ ยังดีกว่า รอความตาย หรือ ปล่อยให้อาการทรุดหนัก จนยากต่อการเยียวยา
แต่ก็อยากเตือนสติให้ผู้ป่วย เข้าถึง ธรรมด้วยการเจริญสติ ภาวนา ควบคู่กับการอธิฐานจิต แผ่เมตตาต่อเจ้ากรรมนายเวร รวมถึงเหล่าสรรพสัตว์ หลังสวดมนต์ภาวนา และ ใส่บาตรพระเช้า ก็มีหลาย ๆ รายอาการป่วยก็ได้เริ่มทุเลา และ บางรายอาการ ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม อย่าได้ประมาท ให้พยายามลดละ บริโภคเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นแหล่งต้นเหตุอันหนึ่งของโรคร้าย ดังที่มีหลักฐานพิสูจน์ทางวิชาการแพทย์

เฉกเช่น คนดื่มสุรา หรือสูบบุหรี่ ได้เพิกเฉย เฉยเมย ต่อคำเตือน จนนานปี ได้ป่วยโรคตับ หรือ ถงลมโป่งพอง หรือ มะเร็งปอดด้วยพิษภัย สุรา หรือ บุหรี่ ได้โอดครวญ แต่ก็สายไปแล้ว เพราะความประมาท เฉก โรคมะเร็ง อันเกี่ยวเนื่องจากการบริโภคเนื้อสัตว์ ขอให้ตระหนักถึงพิษภัย ที่มีผู้ป่วยนับล้าน ๆ คน


*********************
สารพัดพิษที่มากับเนื้อสัตว์

 

บริโภคเนื้อสัตว์ เพิ่มความเสี่ยงต่อการป่วย โรคมะเร็งลำไส้

บริโภคเนื้อสัตว์เสี่ยงมะเร็งลำไส้ | MEEDEE.NET

 

สารเบต้ากลูแคน กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านมะเร็งร้าย

เราก็คิดว่าการกินเนื้อสัตว์ซ้ำๆนานๆเข้าโดยไม่กินผักหรือกินน้อย
เสี่ยงต่อการเกิดเป็นโรคมะเร็งนะ

แต่เท่าที่เราดูสูตรรักษามะเร็งมันจะมีเห็ดสารพัดก็เพราะในเห็ดบางชนิด
มีสารเบต้ากลูแคน ซึ่งมีผลในการกระตุ้นระบภูมิคุ้มกัน

ที่มา goodbetagulcan.com

 

วิธีรักษาโรคร้ายต่างๆ หาย จริง

โรคหัวใจ โรคไต โรคตับ อัมพฤต อัมพาต ปวดข้อ ปวดเข่า เบาหวาน ถุงลมโปร่งพอง วัณโรค มะเร็ง ไทรอยด์ กระเพราะ โรคนิ่ว มดลูก ตกขาว ริดสีดวง ม้ามโต ต่อมลูกหมากโต ต่อมทอลซินอักเสบ สะเก็ดเงิน - สะเก็ดทอง
เส้นเลือดขอด กระดูกสันหลังทับเส้น อาการชาตามส...่วนต่าง ๆ ปัญญาอ่อน
มีบุตรยาก ไมเกรน ไขมันอุดตัน ความดันสูง - ต่ำ เลือดเป็นพิษ งูสะหวัด
เริ่ม เชื่อรา ไส้เลื่อน วิงเวียน - หน้ามืด หอบหืด หาย!
หายได้ยังไง? จริงหรือเปล่า? โทร.0894938413 คุณเด
www.houlukseam.shopup.com