วิธีสกัดกิเลส สกัดด้วยสติรู้ขันธ์ 5ได้ไหมฮับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 19 พฤษภาคม 2019.

  1. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ที่ผมกล่าวเพราะรู้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นคือสิ่งที่เขายอมรับแล้วว่า เขาคือศิษย์ของพี่คับ แม้เขาจะยอมรับหรือไม่การกระทำนั้นสนองตัวมันเองว่าเขาเอาแบบอาจารย์เขา แต่เขาไม่ได้สนทนาตรงๆ อย่างศิษย์อาจารย์ปกติ คงติดที่สถานะ ซึ่งคิดว่า ถ้ายึดถือตามความละเอียดของจิต มี่เป็นลำดับวาระ หากเขาอยู่ในสายธรรมย่อมควรรับรู้ได้ว่าองค์ธรรมของพระอริยะบุคคลนั้นประกอบด้วยอะไร
     
  2. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    และที่มองว่าโลกสวยเพราะว่า หากโลกมันเป็นจริงตามจริงทั้งหมด อาจหมายถึงโอกาสของสรรพสิ่งต้องดับลงและไม่เป็นเหตุให้ต้องสั่งสมบารมีต่อไป และหากทุกคนที่เป็นแบบเดียวกันนี้เห็นจริงในเรื่องนั้น คงถึงกาลวิบัติของยุคสมัย เพราะความจริงจะเป็นทุกข์เสมอไม่อาจแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้คับ
     
  3. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    บางอย่างเกิดขึ้นเพราะกรรมในอดีตบางอย่างก็เกิดขึ้นเพราะกรรมปัจจุบัน เพราะเลือกเกิดไม่ได้เพราะต้องเป็น/ปตามกรรม หน้าที่ที่ควรทำคือชำระจิตใจตนเอง จะเกลือกกลั้วของสกปรกแต่ไม่ชำระจิตจะสกปรก มากเข้ามันจะสะสมเป็นก้อนและออกยาก ต้องชำระไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่เหลืออะไรต้องชำระ แต่ไม่ใช่วันนี้
     
  4. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,493
    ค่าพลัง:
    +2,364
    ไม่ใช่ฮับ เพราะหากไม่เห็นตามจริง ก็จะไม่พบความจริงเลย หากไม่รู้ความจริงก็ย่อมไม่รู้เช่นกันว่าสิ่งที่มันเรียกว่า "บารมี" หรือเปล่าใช่ไหมละฮับ และการเห็นตามจริงไม่ใช่ทุกข์แต่อย่างใด. ขณะที่เสพสุขก็รู้ว่าสุขอยู่ ขณะที่เครียดก็รู้ว่าเครียดอยู่

    หากไม่เห็นตามจริงผมจะยกตัวอย่าง ผัวเมียทะเลาะกันให้นะฮับ เช่น คุณภรรยาตอนรักกันดีอยู่สามีทำอะไรก็ "ไม่เป็นไรเรารับได้(คิดเอาเองว่ารับได้)ขณะที่จิตมันไม่ชอบแต่ดันหลอกตัวเอง เมื่อแต่งไปถ้าอารมณ์รักลดลง โดยไม่มีปิติ กับ สุขมาเพิ่ม หากไม่มีลูกโอกาสเลิกจะมาถึงโดยพลัน เพราะไม่รู้ตามจริงนั่นแหละฮับ "เหตุ" ตรงๆเลย เพราะหลอกตัวเองว่า รับได้ หลายๆครั้ง มนุษย์สอนให้หลอกตัวเองซึ่งไม่ถูกต้อง ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งความจริงหากไม่เห็นตามจริง ผู้นั้น ไม่ใช่นักปฏิบัติฮับ
     
  5. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    บางอย่างก็ต้องละไว้ตามฐานที่เข้าใจ เพราะถ้ารู้แล้วแต่ใจรับไม่ได้ มันจะเสียการ
     
  6. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ที่บอกว่ายังไงก็ทุกข์เพราะไม่ว่ายังไงตัวเราก็ไม่พ้นมันไปได้ ด้วยเจตนานั้น สิ่งที่เห็นจริงจึงเป็นทุกข์มากกว่าอย่างอื่น ที่กลบเกลื่อนเพราะว่าถ้ามีแต่ทุกข์จะมีคำถามว่าค้นหาเพื่ออะไร เมื่อคนเราไม่เห็นทุกข์ก็จะไม่เห็นสุข ถ้าคนเราเห็นจรืงในทั้งทุกข์และสุข ทุกสิ่งก็หมดความหมายแต่นี่ก็แค่คำพูดเท่านั้น เอาเป็นว่าวิธีคิดผมอาจแตกต่างกันกับหลายๆท่านคับ อย่ากังวล
     
  7. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ถ้าทุกอย่างเราไม่ได้กำหนดจะลงเอยแบบนั้น แต่ถ้าทุกอย่างเราเองเป็นผู้กำหนดตั้งแต่ลืมตามาดูอะไรก็ไม่รู้นี่ ทุกสิ่งจะแตกต่างไปจากที่คิดโดยสิ้นเชิง และบางสิ่งมันเป็นจริงและคิดตามได้ยาก จึงต้องตัดออกไปเพราะมันไม่ใช่ฐานะ
     
  8. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    เวลาสร้างบารมีทุกครั้งเราจะเห็นสถานการณ์ ถ้าไม่ใช่กาลที่ควรก็ไม่ต้องทำ แต่ถ้าไม่รู้กาลก็ทำเพราะคิดว่าคือการสั่งสม อันนี้ยากจริงยอมรับว่า ใครจะอยู่ที่ไหนของการสั่งสม ที่สำคัญเลย เราจะไม่เอาคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มาร่วมทางด้วย ถ้าเขาไม่มีบุพกรรมกับเรา เช่น ต้องมีเมีย มีลูก หรือมีศิษย์ คนอื่นที่ไม่มียุพกรรมร่วมกันจึงไม่ควรที่จะไปยุ่งกับเขา แต่ละครั้งที่มาสร้างกุศลตามฐานะ บาปและกรรมบางอย่างก็ละไม่ได้ เพราะยังไม่ถึงที่สุดแห่งทุกข์ อันนี้พอเข้าใจนะคับ
     
  9. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ที่พูดนี่ก็ไม่ได้มีจิตคิดก้าวล่วงพี่ธรรมชาตินะคับ
     
  10. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,493
    ค่าพลัง:
    +2,364
    ไม่ใช่ฮับ ทุกอย่างเรากำหนดยกเว้นวิบากที่เราไม่ได้กำหนดฮับ อย่างกำหนดจะเดินเราก็กำหนดแต่ไม่มีสติพอจะรู้ว่าเราเองกำหนด หรือหากจะทำอกุศลก็เรานี่ล่ะที่กำหนดแต่ด้วยอิทธิพลของอารมณ์ตะหากที่ทำให้เราเลือกจะกำหนดอย่างนั้น พระพุทธองค์จึงให้ทำกรรมดีงดเว้นกรรมชั่ว เพราะเราไม่เท่าทันทอารมณ์(ยกเว้นเลือกจะติดข้องในอารมณ์นั้นเองก็ไม่ว่ากัน) เพราะถ้าไม่ได้ "กำหนดเอง" แล้วทำไมถึงต้องใช้กรรม(การกระทำ)แปลกไหมฮับ
     
  11. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +3,154
    ขออนุโมทนาในธรรมของทุกท่านด้วยความเคารพครับ

    ข้าพเจ้าไม่มีความรู้อะไรจะร่วมเสวนาในเรื่องของกระทู้นี้ได้หรอกครับ แต่ข้าพเจ้าสะกิดใจในข้อความของคุณ Sataniel คุณเองก็น่าจะไม่ธรรมดานะครับ คุณมองเห็นได้ว่าเราเป็นผู้กำหนดกรรมด้วยตัวเอง

    จะสังเกตได้ว่า ก่อนที่เราจะกระทำอันใดลงไปนั้น เช่นการตัดสินใจที่จะกระทำเนื่องมาจากความโกรธ. ในระหว่างนั้น จิตเราไม่ได้อยู่ที่ความคิดที่จะทำอย่างนั้นเพียงอย่างเดียว หรือไม่ได้อยู่กับอารมณ์นั้นเพียงอย่างเดียว มันจะมีหลายความคิดเกิดขึ้น ทั้งดีและไม่ดีหรือกลางๆ และอารมณ์ก็ไม่ได้มีอารมณ์เดียว มันเกิดดับ แปรเปลี่ยนไปตลอดเวลา ว่างเปล่าก็มี แต่เราก็เลือกที่จะกระทำตามอำนาจแห่งความโกรธลงไป เพราะ.........

    อำนาจแห่งกรรมนั้นจะเกิดผล หรือเป็นผลของกรรมหรือเป็นวิบากกรรมได้นั้น จะต้องครบองค์ประกอบของกรรมนั้นๆ ไม่ว่าจะกรรมชั่วหรือกรรมดี เหมือนผัดกระเพราหมูสับ ถ้าไม่มีกระเพราก็ไม่ใช่ ถ้าไม่มีหมูสับก็ไม่ใช่ อย่างนั้น มันเป็นไปตามสภาวะธรรมชาติของมัน

    คงพอเท่านี้ดีกว่านะครับ ความรู้ข้าพเจ้ายังน้อยหากผิดพลาดต้องขอโทษด้วยครับ

    ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปทุกท่านครับ
     
  12. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,493
    ค่าพลัง:
    +2,364
    ไม่หรอกครับผมรู้เท่าที่รู้ได้ เพราะได้อานิสงค์จากอาจารย์ที่สอนผมครับ ต้องขอบคุณตัวเองที่ทำกรรมมาดี นั่นแลฮับท่านสุภพ
     
  13. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    กล่าวได้ดี ขอสนับสนุนอีกหนึ่งเสียงครับ
    เพราะขี้เกียจเขียนเอง ค่อยเสริมผู้อื่นดีกว่ากันเยอะ
    สบายกว่ากันเยอะเลย อยู่เฉยๆดีกว่า
     
  14. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    บารมีที่สั่งสมคนหลายคนคิดว่ามีมากแล้วจะไม่ทุกข์ ถ้ามันเป
    ผมว่ายังมีอีกมากที่เรายังไม่รู้คับ ถ้าเราอยากรู้ก็ปิดลงไม่ได้ แต่ถ้าเราไม่อยากรู้หรือไม่จำเป็นต้องรู้ก็เท่ากับว่าเราเสียเวลาที่ต้องมาที่นี่ ขึ้นอยู่กับว่าเรามาเพื่อเรียนรู้หรือเรามาเพราะรู้แล้ว แต่ข้อหลังนี่/ม่เคยมีและเป็นไปไม่ได้เลยคับ
     
  15. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ถ้าเราเจตนาจะติดข้องละ อันนี้ใครจะพิสูจน์ให้ บอกแล้วว่ามันยากและเกินฐานะ แต่ถ้าจะต่อว่ากันมันก็แค่เรื่องธรรมดาคับ มันเป็นอะไรที่ไม่ใช่ของทั่วไป แต่ไม่ใช่ว่าจะดีกว่าใคร เพราะตั้งใจไว้แบบใดต้องได้แบบนั้น ไม่ใช่แบบโลกๆ ที่เขาทำกัน เอาให้ตนเองดีแล้วเอาสิ่งดีที่ตนมีใช้กับคนอื่นก็พอ สิ่งไม่ดีละไว้ไม่นำมาใช้
     
  16. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    วิบาก เป็นผลไม่ใช่สิ่งที่กำหนด แต่วิบากมีและเป็นไปตามสถานะที่สร้าง คนที่มองว่าเป็นวิบากอาจเพราะเขาไม่ยอมรับความจริงว่า ไม่ว่าจะทำอะไรต้องพบอุปสรรคและปัญหาไม่ต้องอุปมาถึงพระมหาชนก โดยปกติต้องพบแน่ๆ แต่ใครจะยอมรับความจริงได้มากเท่าไหร่ก็สุดแต่ละบุคคล
     
  17. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ที่ไม่เห็นด้วยเรื่องชีวิตเพราะว่าความสมบูรณ์มันไม่ใช่ตัดออกแต่มันรู้ว่านี่คือองค์ประกอบของชีวิต คนที่ไม่มีใครเพราะเขาไม่ได้สร้างกรรมร่วมกันมา หรือคนที่สิ้นสุดกรรมนั้นแล้ว หมายถึงชดเชยและตอบแทนให้แล้วตามกรรมตามวาระที่เหมาะสม เห็นจริงหรือไม่ในแง่นั้นจึงใช้ไม่ได้ในแง่ทุกข์ เพราะบางคนมีเมียก็ไม่รู้ว่ามีไปทำไม บางคนแย่กว่าคือไม่มีเมีย แต่คนที่เหนือกว่าเพราะรู้ว่าเมียไม่ได้ให้และเป็นที่สุดของชีวิต แต่ผมคือต้องมีเพราะชีวิตที่ต้องมีและเติมสิ่งที่ขาดหายกรรมก็เป็นของที่มีร่วมกันมาทั้งในอดีตปัจจุบันและอนาคต อันนี้ไม่รู้ว่าจริงไหมแต่เห็นแบบนั้น
     
  18. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +3,154
    ขออนุโมทนาครับ
     
  19. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,571
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ คำว่า "ศิษย์" นั้น จากการให้นิยามความหมายจาก https://th.wiktionary.org/wiki/ศิษย์

    +++ ในข้อที่ 3 (ซึ่งไม่ใช่ศิษย์โดยตรง) ต้องมีอาการดั่ง ข้อความตามนี้
    +++ คือผู้ที่ "ผู้ที่ศึกษาหาความรู้จากตำราของผู้ใดผู้หนึ่ง แล้วนับถือผู้นั้นเป็นเสมือนครูบาอาจารย์ของตน"

    +++ แต่ คณะของ "มหาโจร" รายนั้น "ไม่มีอาการ นับถือ แต่ประการใดทั้งสิ้น" มันหวังตั้งตัวเป็น อาจารย์ เสียเอง

    +++ ดังนั้น คำว่า "ศิษย์" ย่อมไปปรากฏตามความเป็นจริง "ในจิตของมัน"

    +++ คุณ kenny2 คงทราบอยู่แล้วว่า "สภาวะที่ผม ถ่ายทอด" ออกมาในเวปนี้
    +++ คือ สภาวะที่พ้นจากความ "เกิด แก่ เจ็บ ตาย และ ไร้ทุกข์"
    +++ การถ่ายทอดของผม ถ่ายทอด ด้วยวิธี "เดินจิต"


    +++ การ "เดินจิต" ที่ผมเอามาถ่ายทอดนี้ เกิดจาก "ประสพการณ์จริง ที่ผม ผ่านมาด้วยตนเอง"
    +++ ดังนั้น "การใช้ภาษา รวมถึง วิธีการขั้นตอนการ ปฏิบัติทางจิต (เดินจิต)" จึงเป็น แบบฉบับส่วนบุคคล
    +++ หากมีผู้ใดมา "ปลอมปน ลอกเลียนแบบ" จึง "ไม่ยาก" ที่จะจำแนกออกมาได้อย่างง่าย ๆ

    +++ ส่วนผู้ที่ "ทำการปลอมปน ลอกเลียนแบบ" แล้ว นำมาแสดงธรรม โดยที่ "ไม่มีสภาวะธรรมนั้น ปรากฏในตน"
    +++ ตรงนี้ "พระพุทธองค์" ทรงกล่าวไว้ว่า เป็นการ "อวดอุตริมนุษย์ธรรม อันไม่มีในตน" ตรงนี้แหละ คือ "ปาราชิก"


    +++ ส่วนการที่ จะรู้ได้ว่า "ผู้นั้น มีสภาวะธรรมในตน จริงหรือไม่" สามารถทำได้โดยการ "เดินจิต" ตามที่ผู้นั้นกล่าวไว้
    +++ เมื่อผลลัพธ์ ที่ปรากฏมานั้น "ออกมากันคนละทาง หรือ ไม่เกิดตามความเป็นจริง" ย่อมถือได้ว่า
    +++ สภาวะธรรมนั้น "ไม่มี/ไม่บังเกิด ในบุคคลผู้นั้น"
    +++ หากบุคคลผู้นั้น "นำมาแสดง โดยไม่มีสภาวะธรรมนั้น ในตน"
    +++ บุคคลผู้นั้น "เป็น ปาราชิก" โดยอัตโนมัติ

    +++ ผมของย้ำอีกทีนะว่า "พวก ปาราชิก" ผมไม่รับเป็น "ศิษย์"
    +++ คุณ kenny2 พอเข้าใจคำว่า "โลกสวย" มากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่
    +++ ขืนมองโลกในแง่ที่ "ไม่ถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง" มันจะเป็น "โลกซวย" เอานะ
    +++ สถานะ "ปาราชิก" ในขณะที่ "อยู่ในเครื่องแบบ สงฆ์"
    +++ รวมทั้ง "ปาราชิก" ในขณะที่ "เป็นโดย ไม่ต้องอยู่ในเครื่องแบบ สงฆ์ (ตุ๊ด)"


    +++ สรุปก็คือ "สถานะ ปาราชิก" เนียะนะ อย่าเอามาโยนให้เป็น "ศิษย์" ใครต่อใครล่ะ
    +++ คุณ kenny2 จะเอา "ศิษย์" ประเภท "ปาราชิก" ก็เอาไป ผมไม่ว่า "ขอให้โชคดี ก็แล้วกัน"
    +++ ปาราชิก นี้ อยู่ในสาย "ห้าม มรรค ผล นิพพาน" ขาดจากการเป็น "พระ/นักบวช" โดยอัตโนมัติ
    +++ คุณ kenny2 "ยังพยายาม มองสาย ปาราชิก ว่าเป็นสาย ธรรม" อยู่อีกเหรอ
    +++ หากยังมองอย่างนี้อยู่ร่ำไป "โลกสวย ย่อม = โลกซวย" อย่างแน่นอน เพราะ "สัจจธรรม" ไม่เหลือเลย
    +++ พยายาม "อย่าเอา สิ่งที่เชื่อว่าเป็นความดี ตามที่โลกนิยม" แล้วเอามา "กลบเกลื่อน สัจจธรรม ในพุทธศาสนา"

    +++ ผมจะ "พยากรณ์" ไปตาม "กฏแห่งกรรม" ให้คุณ kenny2 ไว้ข้อหนึ่ง ในตอนนี้เลยก็ได้
    +++ ต่อไปเบื้องหน้า ในอนาคต คุณ kenny2 จะได้ "ศิษย์" ที่เป็น "ตุ๊ด หรือไม่ก็ ปาราชิก" มาก่อนหน้านั้นแล้ว
    +++ และ "ย่อมได้มา ด้วยความเชื่อว่า เป็นความดี เป็นมงคล" จนกว่า "สัจจธรรม" จะแสดงผลของมันออกมา
    +++ หลังจากนั้น คุณ kenny2 จะ "ลืมตาตื่น ขึ้นมาได้" และย่อมสามารถ "แยกความเชื่อ ออกจาก ความจริง" ได้
    +++ แล้วหลังจากนั้น จึงค่อย "พัฒนาจิตตน" จนหลุดพ้น จากความเชื่อทั้งปวงได้ แล้วมุ่งตรงต่อ "สัจจธรรม" อย่างเดียว
    +++ เหตุการณ์ที่กล่าวมานี้ "จะบังเกิดในยามที่ คุณ kenny2 ลืมเลือน เรื่องราวที่พูดกันใน โพสท์นี้ไปนานแล้ว"
    +++ ขอให้ "ผ่านพ้น" ปรากฏการณ์นั้น ไปด้วย "ความเร็วสูง" นะครับ
     
  20. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +470
    กระทู้เด้งแล้วคิดถึงลุงแม้ว
    สงสัยไปเข้ากำกระถางปิดวาจาอยู่

    ไม้ขีดก้านเดียว ก็เป็นไฟลามทุ่งได้
    สังขารแม้น้อยนิด ก็เป็นภัย...
     

แชร์หน้านี้

Loading...