วิธีสร้างศิลปินปั้นพระพุทธรูปแก้วของไทย หน้า 15 #290 ขึ้นไป

เตาอบมีหลายแบบให้เลือกใช้ มีแบบเปิดประตูหน้า เปิดฝาบน หรือแบบถอดออกทีละท่อนเพื่อเพิ่มขนาดได้

 

เตาอบแบบมีตัวดูดไอและควันด้วย มาพร้อมกันสำเร็จรูปเลย สามารถใช้ได้แม้แต่อยู่ในบ้านพัก

 

ไม่ต้องปิ้งแก้วเป็น ไม่ต้องเอาก้อนแก้วออกมาเข้าเตาหลอมพิเศษใดๆ ไม่มีการต้องใช้ฝีมือเลย อย่างในภาพนี้ผมใช้คอมพิวเตอร์ทำแสดงให้เห็นว่า ถ้าฝึกฝีมือปั้นแก้วมือเปล่าฟรีฟอร์ม ในที่สุดการสร้างด้วยมือเปล่าต้องผ่านขั้นตอนดังในภาพนี้ แต่ถ้าใช้เทคนิค Lost Wax ก็ไม่ต้องผ่านขั้นตอนนี้เลย

 

ไม่ต้องใช้แม่พิมพ์เหล็กเหมือนอย่างในรูปนี้ เพราะเทคนิคใหม่ใช้แม่พิมพ์ปูนปลาสเตอร์ทนไฟมาแทน

 

เมื่อปี พ.ศ. 2548 - 2549 ผมเองก็เคยพลาดมาแล้ว คือตอนนั้นผมยังไม่ได้นึกถึงเทคนิค Lost Wax ผมไปสร้างแม่พิมพ์เหล็กสำหรับสร้างพระแก้วหน้าตัก 9 นิ้วราคาหลายแสนบาท ปัจจุบันอาจแพงขึ้นไปอีก

ถ้าเป็นเทคนิค Lost Wax เราสร้างแม่พิมพ์ปูนปลาสเตอร์ทนไฟ ราคาแม่พิมพ์ละไม่กี่ร้อยบาทหรือเต็มที่ก็ 1,000.- บาท ( หน้าตัก 9 นิ้ว ) [ ไม่รวมหุ่นต้นแบบนะครับ ค่าปั้นต้นแบบแพงแค่ไหนก็มี ถูกแค่ไหนก็มี ]

 

ผมเริ่มสร้างแม่พิมพ์เหล็ก ( ต่อมากลายเป็นแม่พิมพ์ปูนปลาสเตอร์ในปีสองปีต่อมา ) ผมเริ่มโครงการด้วยช่างวาดของช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร วันที่ 27/01/2005

 

พระแก้วที่สร้างด้วยแม่พิมพ์เหล็กสร้างแบบกลวงเป่าด้วยปอด หน้าตัก 9 นิ้ว สร้างด้วยแก้วโซดาไลม์ซิลิก้า สร้างสีใสและสีขาวฝ้า ความจริงก็คือสีเดียวกันคือสีใส เมื่อนำแก้วสีใสไปพ่นทรายก็จะกลายเป็นสีขาวฝ้า

 

ผมเลือกภาพนี้คือภาพที่หัวเข่าแตกทะลุ จะได้เห็นว่า ผมได้สร้างพระแก้วหน้าตัก 9 นิ้ว เทคนิคเป่าแก้วด้วยปอด สีใสและสีฝ้าขาว ( ความจริงยังมีสีอื่นอีกเล็กน้อย แต่คนขอไป )

 

คุณสมศักดิ์เจ้าของโรงงานแก้วเจษฏาเมตตารับโครงการของผมไว้หลายเดือนกว่าจะเสร็จหรือถ้าพูดตามจริงน่าจะเกือบปี จำนวนสร้างทั้ง 2 สี 500 องค์ ซึ่งถือว่าไม่คุ้มค่าใดๆทั้งสิ้น เพราะท่านคิดผมองค์ละ 450.- บาท หน้าตัก 9 นิ้วนะครับ เฉพาะองค์พระแก้ว 450.- บาท จะมีฐานแก้วติดมาด้วยก็คงเท่ากัน

แต่ผมขอแยกฐานให้เป็นโลหะทึบแสง ให้โรงงานอลูมีเนียมหล่อ ทางโรงงานอลูมีเนียมหล่อเสร็จ พ่นสี ย้อมสี บางรุ่น ชุบสีให้ในราคาฐานะละ 200.- ถึง 250.- บาทภายในมีขั้วไฟเกลียว E27 สองขั้วพร้อมสายไฟเสียบปลั๊กใช้ได้เลย

 

ขณะนี้จบเรื่องขั้นตอนการสร้างพระแก้วด้วยเทคนิคการเป่าแก้วด้วยปอดไปก่อนนะครับ

เอาไว้พรุ่งนี้ถ้ามีเวลาว่าง จะมาต่อด้วยเทคนิค Lost Wax ซึ่งผมจะเปิดเผยให้หมด ท่านจะได้รู้ว่า ต้นทุนไม่แพง และถ้าใครสร้างขายโดยเอาส่วนต่างมากๆมาพัฒนาสตูดิโอของตนเองก็ดี หรือจะเอาส่วนต่างทำบุญในโครงการต่างๆก็ดี จะเกิดประโยชน์มหาศาลครับ

 

ก่อนไปทานข้าว ผมมาเปิดเผยเล็กๆให้รู้ก่อนใครครับ

ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อจากจีน ขายปลีกราคากิโลกรัมละ 5 หยวน ประมาณโลละ 25.- บาท

หลวงปู่ทิมหน้าตัก 5 นิ้ว สร้างด้วยก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อจากจีน

 

หน้าตัก 5 นิ้ว หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ องค์ละ 1 กิโลกรัมเศษ ต้นทุนก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อประมาณ 30 - 40 บาท ราคาขาย ถ้าเป็นชิ้นงานขนาดนี้คือหน้าตัก 4 นิ้วของศิลปินในอเมริกาประมาณ 7 หมื่นกว่าบาทครับ

 

ถ้าเป็นหน้าตัก 8 นิ้วเศษราคาประมาณ 4 แสนกว่าบาท

 

องค์นี้หน้าตัก 8 นิ้วเศษของลาลีคฝรั่งเศสราคา 4 แสนบาทเศษ ไม่รวมภาษี ยังไม่มีการปลุกเสกใดๆนะครับ ราคาเฉพาะองค์พระออกจากโรงงานครับ

 

คิวที่นัดไว้พอดีว่างลง ผมเลยมาโพสต์ต่อเลยดีกว่าครับ

เรื่องการสร้างพระพุทธรูปทุกขนาดจากแก้วจริงๆแก้วแท้ๆจากทั่วโลก เป็นสิ่งที่มีคนรู้เพียงบางส่วนนั้นมีมาก นับหลายหมื่นคนในไทย แต่ที่รู้ครบทุกอย่างนั้น มีน้อยคน ขณะนี้ในไทยก็น่าจะมีผมคนเดียวแล้ว นอกนั้นท่านก็อายุมากถึงเกือบร้อย และท่านก็เลิกติดตามความรู้ใหม่ๆหมดแล้ว

 

ช่างเป่าแก้วด้วยปอดก็รู้เฉพาะเรื่องเป่าแก้วด้วยปอด ( อันนี้พูดถึงในไทย ) ถ้าเป็นเมืองนอก ช่างเป่าแก้วด้วยปอด ที่จะยกตัวเองเป็นศิลปินหรือช่างปั้นแก้วมือเปล่าฟรีฟอร์ม ต้องมีความรู้ ต้องมีทักษะอื่นๆปะปนด้วยไม่มากก็น้อย

ช่างอื่นๆในไทยก็เป็นแค่ช่างอย่างนั้นเพียงอย่างเดียว

แต่ช่างแก้วหรือศิลปินแก้วในเทคนิค Lost Wax Glass ควรรู้แทบทุกอย่าง แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นเลย ไม่ต้องเป่าแก้วเป็น ไม่ต้องปั๊มแก้วเป็น ไม่ต้องอะไรสักอย่าง เพราะเป็นงานหล่อเหมือนการเททองเหลืองนั่นเอง

 

ทำไมถึงบอกว่า ช่างแก้วหรือศิลปินแก้วในเทคนิค Lost Wax Glass ควรรู้เรื่องงานแก้วแทบทุกอย่าง ก็เพราะว่า จะได้รู้ขอบข่ายในสิ่งที่ตนจะสามารถทำได้ ไม่เช่นนั้นพอทำไปแล้ว มันอาจจะค่อยๆตีบ หรือบางทีตัน ทำให้มึนตึบ หาทางออกไม่เจอก็มี

ช่างแก้วหรือศิลปินแก้วในเทคนิค Lost Wax Glass ในเมืองไทยนั้น ความจริงเคยมีอยู่ 1 คนในเมืองไทย เขามาทำงานโรงงานแก้วสมุทรปราการอยู่นานกว่า 25 ปี หลังจากนั้น ทางบริษัทโรงงานแก้วสมุทรปราการจะเพิ่มเติมขยายตลาดสินค้าใหม่ๆที่เป็น Lost Wax ซึ่งนับเป็นเพียงแห่งแรกและแห่งเดียวในขณะนั้น จึงได้เปิดบริษัทที่ได้รับความร่วมมือจากต่างประเทศ ให้มีความรู้ทางด้าน Lost Wax Glass ได้เปิดบริษัทใหม่ขึ้นมาบริษัทหนึ่ง ขณะนั้นได้เปิดโรงงานระดับสตูดิโอเล็กๆแห่งหนึ่งที่จังหวัดระยอง

 

หัวหน้าช่างท่านนี้ชื่อปีเตอร์ เป็นสัญชาติพม่า หลังจากถูกโอนเข้ามาเป็นหัวหน้าช่างของบริษัทเปิดใหม่แล้ว ได้ค่อยๆเรียนรู้เทคนิค Lost Wax ทั้งจากในและต่างประเทศอยู่ระยะหนึ่ง ซึ่งต้องถือว่านานหลายปี แต่ไม่สามารถหล่อเองได้ในประเทศไทย ทางบริษัทจึงว่าจ้างจีนให้สร้างด้วยการใช้เทคนิคของเยอรมันซึ่งผมไม่ทราบว่า เขาควบคุมกันอย่างไร ให้จีนหล่อพระพุทธรูปหน้าตัก 3 นิ้วเฉพาะองค์พระ แล้วมาเพิ่มเติมฐานดอกบัวแก้วด้วยเม็ดแก้ว 8 เหลี่ยม ( Octagon ของ Swarovski ออสเตรีย )

 

ซ้ายมือคือม้าของ Swarovski ออสเตรียแท้ทั้งหมด

ขวามือคือพระพุทธรูปแก้วคริสตัลหล่อด้วยเทคนิค Lost Wax เฉพาะองค์พระพุทธหน้าตัก 3 นิ้วเศษ นำเข้าแยก คือนำเข้าองค์พระแก้ว แยกเป็นชิ้นๆ ฐานแก้วแบนๆก็มาจากจีน ส่วนเม็ดแก้ว 8 เหลี่ยมเป็นแก้วทรง Octagon ของ Swarovski นำมาติดกาวไร้รอย แล้วขายส่งให้กับเอเย่นต์ที่ใหญ่เท่านั้นเพื่อจัดจำหน่ายในไทย ผมเองเคยซื้อพระแก้วองค์นี้แล้วบอกว่า ผมร่วมสร้างนั้น ความจริงของคนไทยอีกคำหนึ่งคือคำว่า ร่วมสร้างคือแค่ไปซื้อมา หรือร่วมสร้างด้วยวิธีหรือขั้นตอนอื่นใดก็เรียกว่า ร่วมสร้าง แต่แท้ที่จริงผมไม่ได้สร้าง แต่ปีเตอร์เป็นคนติดกาวต่างหาก ต่อมาอีกหลายปี ปีเตอร์จึงมาเป็นลูกน้องวิชาแก้วกับผม โดยผมจะได้เล่าต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้ความรู้นี้ได้กระจ่าง ว่า จริงๆ ในไทยมีความเป็นมาอย่างไร ?