วิธี ฝึก กรรมฐาน ขั้น พื้นฐาน จนสูงสุด ฉบับ ตอน 2ปรับปรุง อ.ก๋ง

เมื่อเพื่อนๆ ได้ อารมณ์ ขณิกฌาน แล้ว ฌานยังไม่นิ่งพอ ถ้าจะรอ ทำนานๆ คงใช้เวลา เรามา เร่ง หลักสูตร เลยดีกว่าครับ...เมื่อตามลมหายใจแล้ว จะได้ปิติ และ ความเบาหวิว ของจิต ...แต่ยังไม่แน่น ต้องหา ตัวเร่ง เชื้อ คือ กสิณ ไฟ .... เหตุใด ต้องใช้ กสิณ เพราะมันง่ายที่สุด ที่จะเร่ง ตบะ ฌาน ให้แก่กล้า กสินมี 10 อย่าง แต่เราๆ ท่านๆ แค่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ก็หรู แล้ว ที่เลือก เอากสิณ ไฟ เพราะ มันง่าย เห็นง่าย และ พิจรณา ง่าย .....วิธีการฝึกก็ง่าย ครับทำดังนี้ 1 เหมือนเดิม อาบน้ำ ให้เรียบร้อย ครับ แล้วสวดอิติปิโส .. จากนั้น หาเทียน หนัก หนึ่งบาท ถ้ามี มาจุด ที่หน้า โต๊ะพระ หรือที่ห้อง แล้ว มองเพ่งไปที่ไฟ ให้เพ่งที่ ปลาย ของไส้ เทียน ขณะที่เพ่ง ท่องในใจ ว่า "เตโช " ฃึ่งแปลว่าไฟ นั่นเอง ไปเรื่อยๆ ครับ จน เมื่อย ลุกตา (จนกว่าจะเมื่อย ) จำไว้ว่าพยายามอย่าให้เปลวไฟ ไหว ดังนั้น พัดลมห่างๆ หน่อยครับ เมื่อมองไป จงพิจารณา ว่า ไฟ มี การดึงไข ของขี้ผึ้ง เผาที่ไส้ ให้แสง สว่าง และ ความร้อน ... เหมือนชีวิต กำลังมอดลง ทั้งร่างกาย และ จิต ที่ กำลงมอด ทุกอย่างล้วน อนิจจัง เหมือนการไหม้ ของไฟ คิดอย่างนี้ จะได้ วิปัสนา ไปในตัว ครับ แต่ถ้าไม่คิด จะ ได้ ฌาน พระฤาษี ตาไฟ ไป ทำฤทธิ์ ..เมื่อเมื่อยตาแล้ว ก็ดับไฟ แล้วหลับตา ภาวนาต่อ ..ภาพดวงไฟ จะติด ที่ตาวิญญาน เป็นสีแดง มั่งม่วงมั่ง เขียว มั่ง ตาม จริตอารมณ์ แล้วก็กำหนด มันให้อยุ่เบื้องหน้าเรา ภาวนา ไป เรื่อยๆ เตโช " จนกว่า ดวงไฟ นั้นจะดับ ๆ แล้วอยากฝึกต่อก็มอง เทียนต่อ รักษา ระดับ ของ ดวงไฟ ให้คงที่ เสมอ ๆ แค่นี้ก็จะได้ กำลังฌานที่ เต็ม และบริบูรณ์ ...ตบะ จะ แก่กล้าขี้น ... ปิติ ที้งหลายจะกลายเป็นพลัง หรือภูมิธรรม จะ มีเกราะ ป้องกัน เชื้อ กิเลส เอง ครับ .... มาร มันก็จะรู้ว่าเรา ฝึก กสิณ ไฟ มันจะกลาย พลัง ไฟ ที่เราใช้ เป็น ไฟ ราคะ เข้ามาทางไฟ เช่นกัน ผู้ฝึกจึงต้องควบคุมเรื่องกาม ถ้าเป็นคน คือ อย่าอยาก มาก นัก คอยมีสติ ตลอด ถ้าเป็นพระอ่านอยุ่ก็ รักษา พรหมจรรย์ ให้ได้ เวลามองคนสวย ให้คิดว่า เพราะเขาทำบุญมาดี อย่าคิดไป ฟันเค้าเด็ด ขาด แค่นี้ กิเลสทางไฟ จะค่อยๆหายไป ครับ เมื่อกสิณนิ่งจิตจะ เบากว่าเก่า และ เหมือนมีพลัง บอกไม่ถูกผู้ฝึกจะรู้เอง ครับ....แค่นี้ ความก้าวหน้า จะอยู่ ที่ ฌาน 1 กำลังเต็มพิกัดสามารถต่อต้าน กิเลส บางตัวสบายๆ ครับ ...ห้องใจมีกำลังแล้ว ทีนี้ ทำรัย ก็ดูมั่นคง ไปหมด ....... ท่านก็จะรู้สภาพ ความเสื่อมของสรรพสิ่งจากไฟ นั่นเอง ว่า ต้อง เสื่อมไปตาม ความเป็นจริง ครับ ... ดังนั้น ฝึกให้ได้ ไม่ต้องกลัว เอ๋อ ครับ เพราะเราแค่ เพิ่มกำลัง ตบะ มาช่วย สมาธิ ครับ บทหน้า เราต้องทิ้งมันแล้ว ดังนั้น ฝึกมากๆ ครับ จิต จะแข็ง ขึ้น ครับ .... ต่อคราวหน้า ปลุกจิต ใต้สำนึกออกมาทำงานครับ

 

อนุโมทนาคะ
วันนี้จะกลับบ้านไปฝึก แต่ว่าอยู่คอนโดเลยไม่มีเทียน คงจุดเทียนไม่ได้ เขาไม่อนุญาต เอารูปเปลวเทียนในเวปแทนได้ไหมคะ

 

อ.ขอถามหน่อยนะคะ อยู่ต่างประเทศไม่ได้อาบน้ำทุกวัน แบบว่าช่วยชาติประหยัด หุๆ คืออากาศมันหนาวเย็นทุกวันร่างกายไม่มีเหงื่อค่ะ เลยรู้สึกว่าร่างกายมันสะอาด ซักแห้งได้ อ.อนุโลมให้ได้ไหมคะ?

ส่วนข้อ๒ ที่อังกฤษหาเทียนที่หนัก๑บาทคงหายาก คืออยากทราบว่าให้เพิ่งที่เทียนจนกว่าจะหมอดไปน่าจะไม่เกิน๑ชม.ใช่ไหมคะ?

เรื่องการสวดอิติปิโสฯ คือให้สวดพระคาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกจนจบใช่ไหมคะ?

กราบขอบพระคุณอาจารย์ที่ให้ความกรุณาค่ะ

ผลบุญที่อาจารย์ซินแสได้เผยแพร่ ชี้แนะแก่กัลยาณมิตรในการนั่งกรรมฐาน นั่งสมาธิขอให้อาจารย์ซินแสเทวดาประสบแต่ความสุข ความเจริญ ทั้งทางโลกและทางธรรมเจ้าค่ะ

อนุโมทนาสาธุค่ะ

 

ใครอยากได้ รูปแบบที่เป็นต้นฉบับ หนังสือ แบบที่พิมพ์มาแล้วพับครึ่งกลายเป็นหนังสือได้เลย ติดต่อขอที่เอาเข้าเล่มได้เลย ติดต่อ อ ก๋ง นะคะ

ไม่งั้นก็ ติดต่อ กับใหม่ก็ได้


ให้สำหรับผู้ที่สนใจนะคะ<!-- google_ad_section_end --> กดโหลดที่ไฟล์ที่แนบไว้เลยคะ...


ไฟล์เก่ามีผิดตรงนี้นะคะ ส่วนไฟล์ใหม่ล่าสุดอัพให้ข้างล่างแล้วคะ
หน้า คำผิด คำถูก
1 พระอริยเจ้า พระอริยะเจ้า
2 ซินแซ เทวดา ซินแสเทวดา ( หมอ , ครู )
3 ปึ้ก ปึก ( แน่น ,สิ่งที่เกาะรวมกันแน่น )
4 อธิฐาน อธิษฐาน
5 นั่งคิดฟุ้งไปเรื่อยๆ นั่งคิดฟุ้งซ่าน
5 ตกภวัง ตกภวังค์
6 ฤาษี ฤๅษี
11 โคลงกระดูก โครงกระดูก
14 อริยเจ้า อริยะเจ้า
14 หว่างคิ้ว ระหว่างคิ้ว
15 ก็ภานา ก็ภาวนา
15 ฤาษี ฤๅษี
19 ระม้าย ละม้าย
21 ตัง สตางค์
23 มหันจริงๆ มหันต์จริงๆ
23 สันดารมนุษย์ สันดานมนุษย์
25 ฐิถิ ทิฐิ
26 ปึ๊ก ปึก
26 เด็กน้อยผู้ซน เด็กน้อยผู้ซุกซน
27 ซินแซเทวดา ซินแสเทวดา
30 กะโดด กระโดด
31 อธิฐาน อธิษฐาน
31 เบือตัวเอง เบื่อตัวเอง


และมีอีกคำ คือ อริยบถ เป็น อิริยบถ คะ

ไฟล์แนบข้อความ</LEGEND> <TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0><TBODY><TR><TD></TD><TD>หนังสือกรรมฐาน อ ก๋ง พรหมบุตร ไว้อ่าน</TD></TR><TR><TD></TD><TD>ต้นฉบับไว้พิมพ์แจก พิมพ์แล้วพับครึ่งแจกได้เลย </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เมิล<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2749354", true); </SCRIPT> มิงจุด ใครจะไปเห็น

 

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ดาวจรัสแสง<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2749372", true); </SCRIPT> อะไรที่เป็น เปลวไฟ ได้ หมดครับ ถ้า ไม่มีจริงๆ ใช้ ไฟ ฉายก็หน้าจะได้ ครับ ลำบาก แท้กรรมฐาน หนอ คนเรา............ ก็ให้ใช้น้ำ ก็ได้ ครับ ท่องว่า อาโป อาโป ไปเรือยๆ ก้ได้ครับ

 

ตอบเมิลไม่เห็นตอบแบบคุณดาวจรัสแสงเลย...อย่างกับคนละคนมาตอบแนะ ... งอน
ก็คอนโดสมัยนี้นะเขามีระบบตรวจจับความร้อนกับควันในห้องอาดิ มีควันฟุ้งในห้องหน่อยก็รปถ.ก็เดินมาดูแล้ว ไม่เป็นไรเมิลมีไฟฉายใช้ไฟฉายแทนก็ได้ อิ อิ ๆ ๆ ๆ ๆ....ไม่มีควัน

 

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เมิล<!-- google_ad_section_end --> จะแม่คุณ เอา ไฟ ที่เค้าขายตามห้าง ที่เหมือนเทียน ก็ได้ อันละ 299 บาท ครับ คุณฯ เมิล คนสวย และ แสนดี น่า ทะนุนทะหนมอ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2749496", true); </SCRIPT>

 

5555555555555555555555

 

555555555555 อ.ก๋ง ยังไง้ ยังไง ก้อยังเปน อ.ก๋งวันยังค่ำ ไหนว่าจะงดวจีกรรมไง อิอิอิ พวกลูกศิษย์ระวังเน้อ อย่าแหย่เสือหลับ (ตา) 5555

 

ขอบคุณมากค่ะ

จะลองปฏิบัติตาม ค่ะ

 

add ไฟล์เรียบร้อยแล้วค่ะ อาจารย์ // อนุโมทนาสาธุค่ะ จะตั้งใจปฏิบัติค่ะ

 

อ้าว ก็กะทู้ หนังสือ ปฏิบัติ อ่า ทำงัย ไม่พูด ก็ ไม่ดี ครับ อย่าไปยึด ครับ แค่ไมไปพูด ทีอื่นทีมันรุนแรง กอ่น อ่าสครับ

 

๕๕๕๕๕
แบบนี้นั่งไปขำไปแน่เลย
ไม่ดีๆ ล้อเล่นเดี๋ยวโดนจารย์ด่านะ....
ได้อารมณ์ดีแบบนี้ก็ทำให้อยากฝึกเหมือนกันนะ มีเพื่อนฝึกด้วย

ปล. อาจารย์คะถ้าเพ่งน้ำ ตักน้ำใส่ขันแล้วก็นั่งเพ่งหรือคะ

 

อ.เพ่งกสิณในน้ำนี่ให้ตักน้ำ ใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองประมาณนั้นหรือเปล่าคะ
ถามเผื่อคนอื่นค่ะ นู๋คงเพ่งไฟดีกว่าชอบของร้อนๆ hot hot มากก่าอ่ะ

 

ยังฮาไม่เริก ฮิฮิฮิ

 

ขออนุญาติ confirm หน่อยนะครับ สำหรับกสินไฟ ที่ อ เคยบอกไว้ตั้งแต่คราวก่อนและผมได้ลองปฎิบัติตาม ได้ผลเป็น กำลัง สมาธิที่ปึกจริง ๆ ครับ และอารมณ์วิปัสนาญาณ ก็ ได้ตอนพิจารณาด้วยเช่นกันเรียกว่าเห็นกันได้ชัด จริง ๆ ทั้งสองอย่างครับ แต่ กามราคะเนี่ยครับ มันขึ้น ด้วย 5555555

 

คุณเมิลขาไม่งอนท่านอ.นะคะ ท่านคงรักและเอ็นดูคุณแหละค่ะท่านจึงหยอกเล่น

ดาวจรัสแสงเป็นสาวราศรีน้ำ แต่ว่ายน้ำไม่เป็น ไม่ชอบว่ายน้ำ ชอบลงอ่างซะมากว่า อิๆ ดีน้ะที่เกิดเป็นผู้หญิง เพราะฉะนั้นจึงลืมประเด็นที่จะฝึกกสินน้ำ ณ ตอนนี้ และคิดว่า ยังไม่อยากที่จะตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูกรรมตัวเอง หุๆ อยากจะร้อนแรงเหมือนหลายๆท่าน ฮิๆ

ขอสมัครเป็นมิตรรักแฟนขับอ.ด้วยคนนะคะ และขอฝากเนื้อฝากตัวไว้กับศิษย์รักของอ.ทุกท่านไม่ว่าจะเป็นคุณนิพพาน คุณลอว์ออฟคาร์มา คุณเมิล ฯลฯ

ขออนุโมทนาสาธุค่ะ

 

ความประมาทของการนั่งสมาธิ ๑๑ ประการ

หลังจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งสอนเวไนยสัตว์ตลอด 45 พรรษาแล้ว
ทรงเปล่งปัจฉิมวาจาก่อนดับขันธปรินิพพาน ณ เมืองกุสินารา ว่า "ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราจักเตือนเธอทั้งหลาย สังขารทั้งหลายเป็นของไม่เที่ยง
มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เธอทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด"
(มหาปรินิพพานสูตร ฑี.ม. 10/143/180) ความหมาย "ความไม่ประมาท"
คือการที่สติกำกับตัวอยู่เสมอ ไม่ว่าจะคิด จะพูด จะทำสิ่งใดๆ จะไม่ยอมถลำ
สู่ทางเสื่อม และไม่ยอมพลาดโอกาสในการสร้างความดี.

1. ไม่ทำกิจโดยเคารพ คือนั่งสมาธิไปอย่างนั้นๆ ไม่ศึกษาว่าทำถูกต้อง ถูกวิธีหรือไม่
ทำผิดก็คิดว่าทำถูก ทำน้อยก็คิดว่าทำมาก จึงได้รับผลไม่เต็มที

2. ไม่ทำติดต่อกัน คือนั่งสมาธิแบบเดี๋ยวจริงเดี๋ยวหย่อน เหมือนธารน้ำที่ไม่เชื่อมต่อกัน
ก็กลายเป็นร่องน้ำเป็นหย่อมๆ ไป

3. ทำๆ หยุดๆ คือนั่งสมาธิไปช่วง เลิกนั่งไปอีกช่วงเหมือนกระแตที่วิ่งๆ หยุดๆ
แม้ช่วงที่ได้นั่งสมาธิจะได้ผลอย่างดี แต่หากทำๆ หยุดๆ แล้วก็ ยากที่จะเอาดีได้
เหมือนนักกีฬาที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูง หากซ้อมบ้างไม่ซ้อมบ้าง ก็ยากที่จะก้าว
ไปสู่ความเป็นเลิศได้

4. ทำอย่างท้อถอย คือนั่งสมาธิเหมือนคนซังกะตายเหมือนลูกจ้างที่ทำงานไม่เต็มแรง

5. ทอดฉันทะ คือทำแบบเลื่อนลอย ทำแบบหมดรัก
"ความรัก" จะก่อให้เกิดพลังอย่างน่าอัศจรรย์

6. ทอดธุระ อาการหนักกว่า ทอดฉันทะอีก คือไม่สนใจทำแล้ว

7. ไม่ติด คือทอดธุระแล้วก็ชะล่าใจ ชักนั่งสมาธิไม่ติดแล้ว ผุดลุกผุดนั่ง

8. ไม่คุ้น คือพอทิ้งไปมากเข้าบ่อยเข้า ครั้นมานั่งสมาธิอีก ก็เหมือนมาเริ่มต้นใหม่
เหมือนไม่เคยนั่งสมาธิมาก่อน รู้สึกอึดอัดขัดข้องไปหมดก็ต้อง อดทน...อดทน...
แล้วก็ อดทน ก็จะดีขึ้นไปเรื่อยๆ เอง ไม่ควรท้อถอย หรือหมดกำลังใจ

9. ไม่ทำจริงๆ จังๆ คือทำแบบเช้าชาม เย็นชาม ทำพอได้ชื่อว่าทำ

10. ไม่ตั้งใจทำ คือทำแบบถูกบังคับให้นั่ง ทำแบบให้คิดจะเอาดี อันที่จริง
จะตั้งใจนั่งสมาธิกับไม่ตั้งใจช่วงเวลานั้นก็ใช้เวลาเท่ากัน ไหนๆ จะต้องเสียเวลาแล้ว
ก็น่าจะทำให้ดีที่สุด

11. ไม่หมั่นประกอบ คือนานๆ ทำที ทำที่ก็ทำแต่น้อย เช่นนั่งสมาธิปีละ3 ครั้ง
ครั้งละ 10 นาทีเป็นต้น พระพุทธองค์ท่านทรงสอนให้เราสันโดษในปัจจัย 4
แต่ไม่ใช่สันโดษในการสร้างความดี ความดีเป็นสิ่งที่ต้องสร้างอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เหมือนทะเลไม่อิ่มด้วยน้ำ บัณฑิตไม่อิ่มด้วยความดี โดยเฉพาะความดีที่เกิดจากการ
นั่งสมาธิเจริญภาวนา

ที่มา : วารสารกัลฯ ฉบับที่ 144 ธันวาคม 2540
จากยอดดอย โดยทันต์จิตต์

 

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->นิพ_พาน<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2752398", true); </SCRIPT> อันนี้ อะ สำคัญ พวกเก่งแล้วมัก หลงระเริง คิดว่า ค่อยๆ ฃ้อม อิๆๆๆๆๆๆๆ กุก็เป็น อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขอบใจมากทีมาเตื่อนสตื อิๆๆๆๆๆๆๆๆ