วิมุตติและวิมุตติญาณทัศนะ

วิมุตติและวิมุตติญาณทัศนะคือการทำสมถะวิปัสนาที่สบูรณ์ วิมุติ(ฝ่ายสมถะ)วิมุติญานทัศนะ(ฝ่ายวิปัสนา)เรียกร่วมกันว่าสติสัมปชัญญะบริบูรณ์นั้นเอง

 

วิมุตติ = นิพพาน เป็นสภาวะ
วิมุตติญาณทัสสนะ = อายตนนิพพาน เป็นสิ่งที่รู้ในวิมุตติ(หรือรู้ในนิพพาน)

 

วิมุตติ กับ วิมุตติญาณทัสสนะ

https://www.youtube.com/watch?v=uhAkjggAaE4

 

อันนี้ คัดลอกมา หรือ เป็นสภาวะที่เกิดกับตน?

 

เกิดกับตนค่ะ

 

เยี่ยมยอด

สาธุ สาธุ

(ขอเกิดกับเราบ้างเถิ๊ดดดดด)

 

บิ๊กตู่ ตามก้น สาวรุ่นลูกอม อมแล้วหอม ในอดีตไปติดๆ

ตามอมลุกอมไว้น้า จะได้ลาภนะป๋าขา

 

แต่อันนี้ อนุโลมให้ป๋า คายออก วางไว้
ก่อน เพื่อพิสูจน์กลิ่นที่ทวนลม ได้ ไม่ว่ากัน


ไปชงกาแฟและ อิอิ

 

มะคืน เพิ่งสวดปาฏิโมกข์ วันรุ่ง เอาอีก เป๋นเช่นนี้อยู่ร่ำไป

เขาเรียกว่าอะไร น๊า..... สัญญาดับ นึกไม่ออก

 

กาแฟ เป็นของมึนเมา

 

MindSoul วิมุติทั้งกายและจิต หรือ วิมุติเฉพาะจิตอย่างเดียว

 

กายก็ปล่อยได้แยกจากจิตได้ เรียกว่ากายวิมุตติหรือเปล่า ในความหมายของคุณตั้งฉาก

 

หากชอบอักษรในพระไตรปิฎก

ธรรมทั้งปวง
มีฉันทะเป็นรากเหง้า
มีมนสิการเป็นแดนเกิด
มีผัสสะเป็นเครื่องให้กำเนิด
รวมลงในเวทนา
มีสมาธิเป็นหัวหน้า
มีสติเป็นใหญ่
มีปัญญาเป็นเยี่ยม
มีวิมุติเป็นแก่นสาร
มีนิพพานเป็นที่สุด

 

พระศาสดากล่าวว่าผู้ที่ได้ฌานนั้นสติย่อมไม่หลงลืม. สติแล่นไปสู่วิมุติ. สัมปชัญญะคือการทำปริญญา(วิปัสนาสภาวะวิมุติ)จบกิจทั้งหมดตรงนี้ นี้คือปฎิปทาเพื่อละพระนิพพาน. สภาวะธรรมจึงแยกออกมาเป็นผลวิมุติเป็นผลของสมถะวิมุติญานทัศนะคือผลของวิปัสนา

 

กล่าวมากขึ้น เลื่อนระแด๊บ จาก ลูกอมมายมินท์

จะกลายเป็น จิตใสใส ใจยิ้มยิ้ม จ่าแอม( jaammany kook )

กล่าวต่อไปอีก น้าจรจะถามหา

แต่ถ้า........พยายาม เอาจิตดิ้นรน ที่กำลังเด่นดวง เป็นใหญ่
เพราะ มีเชื้อ ตรงที่ " ความคิดหลังจากจิตนิ่ง " คือ ปัญญารู้รอบ
ที่รถไฟสาย108 จบ เอามาหยอดให้เกิด เชื้อเน่าลุกลาม
เพราะไปเออออตาม ความไม่ฉลาดในมรรค ความไม่สิ้นอาสวะ ละนิสัยไม่หมด

เรียบร้อยไปกันหมด

คำทำนาย สิ้นสุดลงที่ ลต เป็นจริงร้อยรัด น่าสังเวชใจ

 

อุปมา
1. วิมุตติญาณทัสสนะ(ผู้รู้ในวิมุตติ) = ปลาที่กระโดดพ้นน้ำ มาสัมผัสอากาศเหนือน้ำ อากาศเหนือน้ำมีแต่สภาวที่เป็นปรมัตถธรรมล้วนๆ
2. สภาวะวิมุตติ = อากาศเหนือน้ำเป็นสภาวะปรมัตถธรรมล้วนๆ
3. น้ำ = ขันธ์๕(ผู้รู้เป็นส่วนหนึ่งของขันธ์๕)+กระบวนการปฏิจสมุปบาท

 

พรมที่มีสภาวะสูงสุดนั้นแหล่ะผลจากสมถะเป็นสภาวะนิพพาน. พระพุทธเจ้าไปทำลายความเห็นพรมด้วยปัญญา(วิมุตติญานทัศนะ). นั้นไม่ใช่สภาวะเป็นตัวตนไม่ควรยึดว่านั้นเที่ยงจึงทำลายความยึดมั่นในนิพพานได้. สภาวะนิพพานจึงเป็นผลสมถะวิมุติญานทัศนะเป็นปัญญา

 

สรุปว่า ได้ คอนเซ็ป(สังกัปปะ) ใหม่มา

ยก สมถะ นำหน้า แล้ว ตล่อมด้วย วิปัสสนา มันคงเหมือน
ใครคงไม่ค้าน ค้านไม่ได้

แล้ว ก็ อมลูกอมวิธีนี้เป็นตัวทิฏฐิ สมยอมให้มันครอบ ทิฏฐิ วิ่งไปตาม กระทู้

เหมือน ลูกอมมายมินท์ จิตใจ ใจจรจัด ไป.......(อันนี้)... เรื่อยๆ


" เวทนาร้อยรัด ไม่ได้กำหนดรู้ "

 

เปลี่ยนให้ใหม่ถ้ายังยึดกับบัญญัติตัวอักษร

อุปมา
1. วิมุตติญาณทัสสนะ(สิ่งที่รู้ในวิมุตติ) = ปลาที่กระโดดพ้นน้ำ มาสัมผัสอากาศเหนือน้ำ อากาศเหนือน้ำมีแต่สภาวที่เป็นปรมัตถธรรมล้วนๆ
2. สภาวะวิมุตติ = อากาศเหนือน้ำเป็นสภาวะปรมัตถธรรมล้วนๆ
3. น้ำ = ขันธ์๕(ผู้รู้เป็นส่วนหนึ่งของขันธ์๕)+กระบวนการปฏิจสมุปบาท

 

ตะกี้ มีเพื่อน มายมินท์ เขาทักมาว่า

นิพพาน คือ ขึ้นบก .... ต้องแยกกันให้ชัดๆ ไม่เช่นนั้น จะถือว่า "จมแช่ในน้ำ และ ในอากาศ"(เรียกว่า ประมาทอยู่ )