ว่าด้วยอาการเพ้อ ฝัน ความหวัง ความเจ็บปวด การปลดปล่อย มั่วจนมึนตึ้บ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย SegaMegaHyperSuperCyberNeptune, 23 มิถุนายน 2018.

  1. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    ใครไม่มีอาการอย่างผมคงไม่รู้หลอกที่ต้องย้ำคิดย้ำทำจนเจ็บสมองปวดช้ำไปหมดแล้ว ยิ่งหาทางแก้ยิ่งมีแต่เรื่องเพ้อฝัน จะชวนหลุดโลก หลุดวงโคจรไปดาวอื่น เช่น ผมกำลังศึกษาดาวเนปจูน ฝันเจ้ากรรมดันพาไปว่ายน้ำเป็นพระมหาชนก 2 ด้วยความเจ็บปวดของสมองทำให้จำถึงความสุขนั้นแม่นเลย สมองจึงตีความได้ว่า ได้ไปว่ายน้ำบนดาวเนปจูน แต่ความจริงมันเป็นสวนน้ำบนโลกนี่แหละ แต่เพราะผมไม่ค่อยมีตังจึงไม่มีโอกาสไปเปิดหูเปิดตาแหล่งสวรรค์บนโลก จึงได้แต่เพี้ยนไปเรื่อยกับความรู้ใหม่ๆ บนโลก และนอกโลก ออกจากบ้านก็โดนบ่นแล้วจึงไม่อยากไปไหน เกิดอาการเก็บตัว ทำให้คิดว่าความตายเท่านั้นที่จะปลดปล่อยเราได้จากอาการดังกล่าว แต่ทำไมต้องเจ็บก่อนตายด้วย เป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ยุติธรรมแล้วเหรอ ก็คงไม่มีใครบอกได้ คงมีแต่จินตนาการเท่านั้นที่เป็นทางรอดสุดท้ายของคนเหล่านี้ ความรู้เยอะเกินแล้ว
     
  2. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    ดาวเนปจูนเป็นดาวเคราะห์ดวงสุดท้ายในระบบสุริยะแล้วก่อนจะหลุดวงโคจรของพวกเหล่ายอดมนุส ทำให้เจอแต่ความหนาวเย็นมาก มีสีฟ้าจึงคิดว่าน่าจะเป็นน้ำคล้ายโลกเรา แต่เป็นกลุ่มแก๊ส ทำให้เข้าใจผิด เข้าโหมดจินตนาการสำคัญกว่าความรู้ เพ้อไปเรื่อยว่าลงไปเล่นน้ำมา ความรู้ ความเข้าใจผิดๆ ก็นำมาซึ่งความน่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย
     
  3. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    โลกความจริง ถ้ามันเจ็บปวด คนเรามักจะหนีไปอยู่ในโลกจินตนาการ พอหลุดออกมาจากโลกจินตนาการ ก็เจ็บปวดเหมือนเดิม

    ความตายไม่ใช่จุดสิ้นสุด ความตายเพียงแค่ หยุดพักชั่วคราว แล้วเกิดใหม่ก็สืบต่อใหม่ เพียงแค่อยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ แต่สถานการณ์เดิม

    ชีวิตที่รอวันตาย คิดว่าความตายจะปลดปล่อยเราออกอาการนี้ เป็นชีวิตที่หลบหนีปัญหาเพียงชั่วคราว เมื่อประสบปัญหาแล้วท้อแท้ บ่อนทอนกำลังใจเราให้อ่อนแอ ปัญหามีไว้เรียนรู้เพื่อต่อสู้ ทำให้เราแกร่งและเข้มแข็งทางปัญญา พอผ่านด่านแต่ละชีวิตแต่ละบททดสอบ แต่ละอุปสรรค เมื่อทำอะไรไม่ได้แต่เราก็ยอมรับและสู้ไม่ท้อถอย จนถึงที่สุด จึงเป็นกำไรและมีคุณค่าในการเกิด เป็นรางวัลของชีวิตสมกับเป็นนักรบแสงสว่างอย่างแท้จริง จะไม่ยอมแพ้เพราะทุกปัญหามีทางแก้ ถ้ามีใจเข้มแข็งมุ่งมั่นฝ่าฝัน ทุกดวงจิตวิญญาณจะเข้าไปพบพลังแสงสว่างที่อยู่ข้างหน้าเมื่อฝ่าฟันเข้าไปได้จะมีคำตอบที่ซ่อนเอาไว้อยู่ ถ้าใจยังมีหวังจริง

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า การเกิดยากนัก เปรียบดั่งเต่าตาบอดลอยอยู่ในทะเลร้อยปีจึงจะผุดขึ้นมาสักครั้งแล้วมุดหัวเข้าบ่วงที่อยู่กลางทะเลได้สักครั้งหนึ่ง ยากสักปานไหน
     
  4. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    เรื่องกรรม มนุษย์เองเท่านั้นที่เป็นผู้ก่อขึ้น เพราะมนุษย์รู้ดีว่า ทุกคนมีกรรมเป็นกำเนิดทั้งสิ้น อันหมายถึง กระทำกรรมใดไว้ในภพอดีชาติ ตนย่อมได้รับผลกรรมในชาติปัจจุบัน นั้นต่างหากคือความเหมาะสม แต่ที่มันไม่เหมาะสมคือการไม่ยอมรับ จึงเป็นความไม่เหมาะสม

    การเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บของมนุษย์ บางกรณีก็อาจเกิดสืบเนื่องจากชาติปางก่อน บางทีไม่เกี่ยวข้องกับกรรมใด ๆ และเกิดจากความประมาทของตนเองก็ได้ เช่น
    การเข้าไปเกี่ยวข้องกับเครื่องไฟฟ้าก่อให้เกิดสนามแม่เหล็กเทียมอยู่เป็นประจำ ที่เซลล์แต่ละเซลล์ในร่างกาย มักทำหน้าที่ผิดพลาดและสับสน โดยแปลรหัสสัญญาณในดีเอ็นเอที่ผิดพลาด ป้อนข้อมูลสู่ดีเอ็นเอให้หลั่งสารเคมีชนิดหนึ่งออกมาย่อยสลายเม็ดเลือดขาวของตน ยังผลให้อำนาจต้านทานโรคของคนเราต่ำลงไปเรื่อย ๆ จนรับเชื้อโรค ถ้าจำนวนเม็ดเลือดขาวเพียงพอ ร่างกายคนเราจะไม่มีวันรับเชื้อโรคใด ๆ เข้าสู่ร่างกายได้เลย มันจะทำหน้าที่เป็นกุญแจปิดล๊อกไม่ให้สิ่งแปลกปลอมใด ๆ โดยจะมีสิ่งหนึ่งที่จะถูกกระตุ้นให้สร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวในระดับที่สมดุลเสมอ สอดคล้องกับสภาวะกรรมในแต่ละวัฏกจักรผู้นั้นอย่างลงตัว
     
  5. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    โดยปกติแล้ว ร่างกายที่เป็นระบบชีววิทยาของคนเรา เมื่อรับเอาเชื้อโรคร้ายเข้าไว้จะขาดความสมดุลทันที เหตุเพราะความเจ็บป่วยทางกายนั้นจะมีผบกระทบโดยตรงต่อสภาพจิตใจและจิตวิญญาณผู้นั้นเสมอ จะทำให้การสื่อสารผ่านช่องทางที่สามแทบเป็นไปไม่ได้ ม่านกั้นระหว่างมิติถูกปิดไว้ ไม่อาจได้รับแรงสั่นสะเทือนจนมากพอที่จะเปิดมันออกมาได้เลย มนุษย์จำนวนมากเมื่อป่วยเป็นโรคร้าย มักจะเสียชีวิตไปโดยไร้ความหวังในการบำบัดรักษาในที่สุด
     
  6. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ทันทีที่ร่างกายได้รับเชื้อโรคร้ายเข้าไป การสื่อสารทางจิตวิญญาณด้วยวิธีดังกล่าวจึงไม่ค่อยได้ผล เพราะสภาวะกายกับจิตมนุษย์นั้นขาดความสมดุล ด้วยเหตุเพราะร่างกายทรุดโทรมไม่ปกติมีอาการเจ็บไข้ได้ป่วย พลอยให้จิตใจห่อเหี่ยว หดหู่ไม่มีพลัง ซึ่งหมายถึงว่า ถ้ามีการเจ็บป่วยไข้เมื่อใด การสื่อสารทางวิญญาณกับมิติที่สามของเวลาที่แท้จริงจะไม่มี
     
  7. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    ถ้าเกิดจากความประมาทของตน เช่นการเข้าไปอยู่สนามไฟฟ้าแม่เหล็กเทียมจากเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น แอร์ พัดลม หม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูง โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดถือว่าเป็นแหล่งกำเนิดสนามแม่เหล็กเทียม ถ้าอยู่เป็นประจำ เป็นผลให้ขั้วต่างทางร่างกายขาดความสมดุลไปจากสนามแม่เหล็กโลก ความสมดุลในเซลล์ร่างกายจะถูกกำกับไว้ด้วยความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กโลก ที่ห่อหุ้มร่างกายคนเราไว้เสมอ ถ้าเจ็บป่วยด้วยสาเหตุนี้ มนุษย์นั้นไม่ได้รับโอกาสและอำนาจการร้องขอใด ๆ เพื่อบำบัดการรักษาโรค เพราะเป็นการกระทำด้วยความประมาทเนื่องจากพาตนเองไปเกี่ยวข้องกับสนามแม่เหล็กเทียมที่ทำให้เซลล์สร้างความผิดพลาดสับสน ที่เป็นเหตุการป่วย

    การรักษาโรค ด้วยธรรมชาติบำบัดอยู่ในอากาศท่ามกลางธรรมชาติที่บริสุทธิ์ก็ด้วยเหตุนี้

    แต่ถ้าบุพรกรรมในอดีตชาติกำหนดอายุขัยมายืนยาว และด้วยความประมาท การร้องขอโอกาสเพื่อบำบัดรักษาโรคยังพอมีอยู่ ขึ้นอยู่กับรหัสบุพรกรรมในอดีตชาติที่กำกับอายุขัยไว้ตั้งแต่แรกเกิดแล้วกำหนดไว้เท่าไหร่ ถ้ายังไม่หมดวาระ
     
  8. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    ชีวิตเจอแต่กับของเทียมก็มีแต่สารปลอมๆ หลอก ธรรมชาติเท่านั้นน่าจะเป็นทางออก แต่เป็นคนเมืองเต็มตัวไปแล้ว จะแก้ก็ไม่ไหวแล้ว ไม่รู้จะไปทางไหนเหลือบนฟ้ากับใต้โลก ยิ่งความคิดไม่ปกติคงได้แต่เดาอีกหละ อย่าให้เพ้ออีกนักเลย โดนชาวโลกด่าเปล่าๆ
     
  9. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,420
    ค่าพลัง:
    +3,195
    เห็นทางออกแล้วเหรอค่ะ
     
  10. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    รีบไปก็มีแต่ตายก่อน ไปรอคู่รักบนทางช้างเผือก ต้องอยู่เพื่อรอปาฏิหารย์อาการหายดีกว่า วิจัยเรื่องโลกต่อไป ยังไงกรรมก็หนีไม่พ้น
     
  11. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,868
    เวลา teleport ไปในที่ไหนๆนั้นต้องอาศัย นิมิต หรือ เครื่องหมาย ต่างๆเพื่อทำการโยกย้าย

    ส่วนความตายนั้น ไม่มีนิมิต ไม่มีเครื่องหมาย จึงไม่มีการโยกย้าย หรือ ไม่ไปไม่มา

    ไฟแดง ไฟเหลือง ไฟเขียว เป็นสิ่งที่มีมาอยู่ก่อนแล้วการประยุกต์ไฟ 3 สี เข้ามาสู่กระบวนการ

    ทางการจราจรนี้มีมาทีหลัง จินตนาการจึงสำคัญกว่าความรู้

    สิ่งที่มีมาก่อนความถูก ผิด ก็เป็นความไม่ถูก ไม่ผิด

    หากนำเครื่องหมายมาก่อนความตาย จะกลายไปเป็น หมายไปหาที่ตายไปโดยปริยาย

    เพราะถูก ผิด นั้นเป็นเครื่องหมาย แต่ก่อนเครื่องหมายหรือความตายนั้น ไม่ถูก ไม่ผิด

    สติ ไม่มีเครื่องหมาย การที่มีเครื่องหมายมากไม่ได้แปลว่ามีสติ
     

แชร์หน้านี้

Loading...