ว้าว! ออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม-ปอดได้

​

รายงานฉบับแรกมาจากคณะแพทย์ศาสตร์ เมโย คลินิก คอลเลจในโรเชสเตอร์ รัฐมินนิโซตา สหรัฐฯ ที่ระบุว่าการศึกษาผู้หญิงอายุระหว่าง 55-69 ปีจำนวนกว่า 36,000 คน โดยติดตามผลนานหลายปี พบว่าคนที่มีกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายมากที่สุดเมื่อเริ่มต้นการศึกษา มีความเสี่ยงน้อยลง 14% ในการเป็นมะเร็งเต้านม

แม้กลไกเรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจน แต่เป็นไปได้ว่าการออกกำลังกายช่วยลดไขมันในร่างกาย ซึ่งเป็นที่มาของฮอร์โมนเอสโทรเจนในผู้หญิงวัยทอง ที่ทำให้เกิดเนื้องอกชนิดที่มีตัวรับสัญญาณกระตุ้นจากฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นบวก และตัวรับสัญญาณกระตุ้นจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเป็นลบ ซึ่งปกติแล้วถือเป็นมะเร็งขั้นลุกลาม

รายงานที่เผยแพร่ในวารสารอาร์ไคฟ์ส ออฟ อินเทอร์นอล เมดิซินสรุปว่า จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลนี้ และประเมินความสัมพันธ์ของเรื่องนี้ในหมู่ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ซึ่งหากพบว่ามีความเกี่ยวข้องอย่างแท้จริงกับการลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม ก็จะเท่ากับว่าการออกกำลังกายมีนัยสำคัญอย่างยิ่งในเชิงสาธารณสุข

ในรายงานอีกชิ้นที่ตีพิมพ์อยู่ในวารสารแคนเซอร์ เอพิเดมิโอโลจี ไบโอมาร์เกอร์ส แอนด์ พรีเวนชั่นฉบับเดือนนี้ ดร.แคทรีน ชมิตซ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากศูนย์ระบาดวิทยาและชีวสถิติ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย สหรัฐฯ พบว่าคนสูบบุหรี่ที่ออกกำลังกายมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอดน้อยกว่าคนสูบบุหรี่ที่ไม่ค่อยมีกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายถึง 35%

โครงการวิจัยนี้อิงจากข้อมูลการศึกษาสุขภาพสตรีในรัฐไอโอวา ซึ่งเริ่มต้นในปี 1986 และติดตามผลหญิงสูงวัยเกือบ 42,000 คน ที่ต้องมารายงานภาวะสุขภาพทุกปี รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการสูบบุหรี่และการออกกำลังกาย

ณ สิ้นปี 2002 โครงการนี้เก็บข้อมูลอาสาสมัครได้ทั้งสิ้น 36,410 คน โดยมี 777 คนเป็นมะเร็งปอด ซึ่งในจำนวนนี้ประกอบด้วยคนที่เคยสูบบุหรี่ 177 คน, คนที่ยังสูบอยู่ 475 คน ส่วนอีก 125 คนไม่สูบ

ดร.ชมิตซ์ร่วมกับนักวิจัยอีก 4 คนวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าว และพบว่ากลุ่มที่ยังสูบบุหรี่และไม่ค่อยออกกำลังกาย เป็นมะเร็งปอด 324 คน ขณะที่กลุ่มที่ยังสูบบุหรี่และออกกำลังกายบ่อยๆ เป็นมะเร็งปอด 151 คน

แต่กลุ่มที่เลิกบุหรี่และออกกำลังกายด้วยเป็นมะเร็งแค่ 82 คน เทียบกับ 95 คนในกลุ่มที่เลิกบุหรี่แล้วแต่ไม่ออกกำลังกาย

สำหรับกลุ่มที่ออกกำลังกาย อัตราเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอดที่ต่ำที่สุดพบในผู้ที่ออกกำลังกายระดับปานกลางสัปดาห์ละมากกว่า 4 ครั้ง หรือออกกำลังกายอย่างจริงจังสัปดาห์ละ 2 ครั้งขึ้นไป

นักวิจัยอธิบายสาเหตุที่การออกกำลังกายอาจช่วยป้องกันมะเร็งปอดได้ว่า เนื่องการสมรรถนะการทำงานของปอดดีขึ้น จึงลดการเกาะตัวของคาร์ซิโนเจน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ในปอด นอกจากนั้น การออกกำลังกายยังอาจทำให้ผู้สูบบุหรี่ตระหนักถึงอันตรายต่อปอด ทำให้สูบน้อยลงหรือเลิกสูบไปเลย

กระนั้น ดร.นอร์แมน อิเดลแมน ประธานฝ่ายการแพทย์ของสมาคมปอดแห่งอเมริกา เห็นด้วยกับทัศนะของดร.ชมิตซ์ที่ระบุไว้รายงานว่า การค้นพบนี้ไม่ควรถูกนำไปเป็นข้ออ้างในการสูบบุหรี่ เพราะอย่างไรเสีย คนที่สูบบุหรี่เป็นประจำก็มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอดมากกว่าคนที่ไม่สูบถึง 10 เท่า ขณะที่ความเสี่ยงที่ลดลง 35% สำหรับสิงห์อมควันที่ออกกำลังกาย ถือเป็นสัดส่วนที่เล็กน้อยมาก

นอกจากนั้น รายงานชิ้นนี้ยังไม่ได้ระบุถึงประโยชน์จากการออกกำลังกายที่มีต่อโรคอื่นๆ จากการสูบบุหรี่ เช่น โรคหัวใจ และโรคถุงลมโป่งพองแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ผู้หญิงที่ออกกำลังกายมักไม่ใช่คนอ้วน จึงไม่ชัดเจนว่า ความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอดลดลงเพราะการออกกำลังกายหรือเพราะน้ำหนักตัวกันแน่ เนื่องจากมะเร็งบางประเภทพบมากในคนที่เป็นโรคอ้วน


ที่มา ผู้จัดการออนไลน์