ศาลาพักใจ มลายทุกข์ ของ ชาวสโมสรก๊วนบุญ (คณะเบิกบานบันเทิงบุญ)

เจ๊ลักยึดกระทู้เหรอ
ไม่มีใครมาเลย

 

55 เอ...พูดไงหว่า อย่างน้อยก็มี ตาฝุ่น นี่ไง

แต่จะว่ายึดกระทู้ม่ายถูกนา เจ้าของเขาฝากไว้ตั้งแต่พระเจ้าเหาคุยกับพระยาเห็บ...แล้วว่าให้ช่วย ยืดดดดดดดดดดดดดหน่อย แล้วท่านจะกลับมายึดคืน 55

 

วันพฤหัสบดี ที่ 27 ธันวาคม 2550
.....ให้ของขวัญปีใหม่แก่ตัวเองกันเถิดพี่น้อง.....
Posted by มะอึก , ผู้อ่าน : 92 , 09:45:06 น. | หมวดหมู่ : สังคม
พิมพ์หน้านี้

<TABLE class=blog_center_data><TBODY><TR><TD>.

.
.
ทุก ๆ ปีใหม่ เราจะมอบของขวัญให้แก่กัน
นักปราชญ์ฝรั่งท่านหนึ่งกล่าวว่า
"วงแหวนและเพชรพลอยที่แวววาวบนเรือนแหวนนั้นไม่ใช่ของขวัญ
แต่เป็นตัวแทนของขวัญ
ของขวัญที่แท้จริงนั้นคือจิตใจของผู้ให้นั่นเอง"
.
อ่านแล้วก็ไม่ค่อยจะเข้าใจนัก
ลองอ่านต่ออีกนิดซีครับผมจะขยายความให้ฟัง
.
หาของขวัญปีใหม่ให้กับตัวเองก่อนดีกว่า
เช่น
ความรักที่บริสุทธิ์
ความกรุณาอันอ่อนโยน
ความสุขอันร่าเริง
ความเข้าใจอันลึกซึ้ง
การปลอบประโลมใจอันละมุมละไม
ความอดทนอันมั่นคงถาวร
การให้อภัยอันซึ้งใจ
.
เมื่อเราได้มอบของขวัญเหล่านี้ให้กับตัวเราแล้ว
เราจึงนำของขวัญที่เรามีอยู่
ไปมอบให้ผู้อื่นเป็นของขวัญในโอกาสต่าง ๆ ต่อไป
.
เราจะให้สิ่งใดกับใคร
เราต้องมีสิ่งนั้นก่อนครับ
.​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post875332 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>


เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 10:35 PM
วันที่สมัคร: Apr 2005
ข้อความ: 1,230 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 1,320 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 6,937 ครั้ง ใน 1,141 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 849


</TD><TD class=alt1 id=td_post_875332 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ อักขรสัญจร
เจ๊ลักยึดกระทู้เหรอ
ไม่มีใครมาเลย
</TD></TR></TBODY></TABLE>
55 เอ...พูดไงหว่า อย่างน้อยก็มี ตาฝุ่น นี่ไง

แต่จะว่ายึดกระทู้ม่ายถูกนา เจ้าของเขาฝากไว้ตั้งแต่พระเจ้าเหาคุยกับพระยาเห็บ...แล้วว่าให้ช่วย ยืดดดดดดดดดดดดดหน่อย แล้วท่านจะกลับมายึดคืน 55
<!-- / message --><!-- sig -->
____________________________________________________________

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ฮ่า...ฮ่า สวัสดีปีใหม่ครับ ทุกท่าน โดยเฉพาะ ท่านฝุ่นและเจ๊ยิ้ม
ซึ่งแวะเข้ามาเยี่ยมเยียนเป็นประจำเพียงสองท่านเท่านั้นเอง โห...
ต้องขอประทานโทษเป็นอย่างสูงที่ดันลืมกระทู้ตัวเอง เที่ยวไปป่าวประกาศว่าจะปิด เลยไม่มีใครเขามาพักเลยแฮะ หรือสงสัยว่าจะมีแต่คนมีความสุข ไม่มีความทุกข์ ก็เลยไม่มีใครแวะเวียนมาดูเลย 555
เพื่อตอบสนองความดีและเพื่อเป็นกำลังใจ ผมใคร่ที่จะมอบวัตถุมงคลให้กับท่านทั้งสอง คนละหนึ่งชิ้นครับ เชิญเลือกเลยครับ อันนี้ผมเพิ่งได้บูชามาจากเพื่อนฝูงเมื่อเร็วๆนี้ในราคามิตรภาพ เป็นของเก่าสะสมไว้นานแล้ว สนนราคาค่าบูชาหลักพันเลยเชียวนะครับ หมดไป หก-เจ็ดพัน ได้มาไม่กี่องค์เอง ว่าจะไม่เช่าก็เสียดาย เอามาแบ่งให้บูชากันครับ แล้วแต่วาสนาของท่าน
มีให้เลือกดังนี้ครับ คนละ 1 องค์เท่านั้น
ผมว่าจะไปเป่ายันต์เกราะเพชรที่วัดท่าขนุน วันที่ ๑๒ มกราคม นี้ จะไปรับพระที่นั่นเลยก็ได้หรือถ้าไม่สะดวก ก็ค่อยนัดกันอีกทีว่าจะเจอกันที่ไหน เมื่อไหร่ หรือจะให้ส่งทางไปรษณีย์ก็ว่ามานะครับ
1.เหรียญหลวงพ่อเงินวัดดอนยายหอม เนื้อกะไหล่ทอง ปี พ.ศ.2512
2.เหรียญพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร เนื้อกะไหล่เงิน (เก่า) สร้างรุ่นไหน ยังไม่ ทราบแน่นอน กะว่าประมาณรุ่น 5-10 กว่า ปี พ.ศ. 2510-2520 กว่าๆ
3.เหรียญหลวงปู่แหวน สุจิณโน เนื้อทองแดง รุ่นเราสู้
4.ล็อตเก็ต หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ประจวบคีรีขันต์ รุ่นพระจันทร์ทรงกลด
ด้านหลังมีพระปรกใบมะขามและเศษจีวรพอกด้วยขี้ผึ้งหรือเทียนไข
5.พระผงสามเหลี่ยม จุ่มรัก ของหลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ อยุธยา รูปทรงคล้ายหลวงพ่อโต กรุวัดบางกระทิง แต่องค์ย่อมกว่า
หรือ ถ้าชอบสายหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ก็มีพระคำข้าวหรือพระหางหมากให้เลือก
รับไปเลยฟรีไม่มีเงื่อนไข ผมชอบแจกอยู่แล้ว ความจริงมีอย่างอื่นอีกเป็นกระบุง (สำนวน) จริงๆ มีไม่ถึงกระบุงหรอก

 

โมมทนาบุญค่ะ มาถึงก็แจกของขวัญปีใหม่ให้เล๊ยนะค่ะ กราบขอบคุณมากค่ะ ยิ้มขอพระหางหมากไปคู่กับพระคำข้าวองค์ก่อนก็ละกันค่ะ ขอไปรับกันที่งานเป่ายันต์ฯ เลยนะค่ะ เพราะหนู๋ยิ้มต้องนำชนวนสีผึ้งเข้าพิธีค่ะ ไว้พบกันค่ะ

ส่วนตาฝุ่น ... แกบอกว่าเยอะแล้ว ยกให้หนู๋ยิ้ม ฮี่ ๆๆ(ความโลภไม่เข้าใครออกใคร...แม้เพื่อนพ้องก็อาจหักหลังได้)

 

เอางั้นก็ได้ครับ แล้วนู๋ยิ้ม ไม่มีของขวัญปีใหม่ให้กับพี่บ้างเลยเหรอ......
แหะ..แหะ..ล้อเล่นอ่ะครับ อย่าเพิ่งต๊กกะใจไปสิ
(tm-love) : bat:

 

ม่ายต๊กใจค่ะ ยินดีค่ะ ว่าแต่ท่านพรหมฯ อยากได้บูชาอะไรหละค่ะ ยิ้มก็ไม่ค่อยมีอะไรกับเขาหรอกจ๊ะ เพ่...จะมาซึมลึกตอนท้ายนี่แระ... ว่าแต่( แอบกระซิบ กระซาบนะ)ท่านมีพระธาตุข้าวบิณฑ์ฯ ขององค์ปู่วงศ์ฯ ยังกะ แบ่งให้ 1 องค์ ..ยินดีรับไหมค่ะ:d

 

ก็ดีจ๊ะ เผื่อเอาไปบรรจุกรุ หรือสถานที่อันสมควร ในวาระทีสำคัญๆ ต่อไปในอนาคตข้างหน้า แท้งกิ้วหลายเด้อ...
(f)

 

แหงะ เจ๊ลัก สมชื่อเลยแฮะ
ป๋มเอาก๊าบ
ขอไปเลือกที่งานเป่ายันต์ได้ป่าวก๊าบ
หรือต้องเลือกเด๋วนี้เลย

 

นี่แระ ... เขาว่ารู้หน้าไม่รู้ใจไง บางคนดูเคร่งขึม จริงจัง... แต่ไม่เป็นโล้เป็นพายอะไร บางคนดูบ้าบอ ไร้สาระ... แต่พูดจริงทำจริง

เอ๊ะ...เราพูดอะไรเนี้ย ม่ายเอาดีกว่า ใกล้ถึงวันของเด็ก ... เรานำขอขวัญมาให้คุณพ่อ คุณแม่... ที่ยังรักและคิดถึงลูก ๆ ยังเห็นเขาคือหัวใจในอนาคตของประเทศ .... อย่าเป็นพ่อแม่รังแกฉัน นะค่ะ เพราะครั้งหนึ่งยิ้มก็เคยเป็นเช่นกัน ถ้าคุณไม่หยุดเสียวันนี้ ...วันหนึ่งข้างหน้าจะต้องเสียใจ

*****************************

ปริญญาสองใบ...น่าอ่าน

ที่เมืองไทยปีที่แล้วมีข่าวเกรียวกราวมาก
คือมีดาราคนหนึ่งซึ่งมีชื่อดังมาก
เป็นคนดำเนินรายการคนค้นคน
ดร.อภิวัฒน์ วัฒนางกูร <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
มาเรียนที่อเมริกา
เป็นคนเพอร์เฟคชั่นนิส
ทำงานทุกอย่างต้องดูดีที่สุดแม้กระทั้งล้างจาน
ล้างเสร็จแล้วแกต้องเอามาดมดู
ว่าสะอาดจริงมั้ย
กลับไปเมืองไทยก็ไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย
มีแฟนก็จีบดาวมหาวิทยาลัยเลย
ต้องให้ดีที่สุด
เวลาแกไปเสนองานอะไรต่าง ๆ เขียนไว้สามแผน
แผนที่หนึ่งลูกค้าไม่ซื้อ
แกเสนอแผนที่สอง
แผนที่สองลูกค้าไม่ซื้อแกเสนอแผนที่สาม
ใครไปดีลงานกับแกติดทุกราย แกมีบ้าน
มีรถ มีลูก มีภรรยา มีธุรกิจ
มีชื่อเสียงทุกอย่าง แกมีทุกอย่าง
วันหนึ่งแกพักผ่อน
หลังจากที่ทำงานแบบไม่ได้พักเลย ลุกเมียไปขอพบ
บอกไปเจอพ่อที่ออฟฟิต
วันหนึ่งแกไปพักที่ปากช่อง ตื่นขึ้นมากลางวันล้มฟุ๊บลงไป
ภรรยาพาเข้าโรงบาล ตรวจพบมะเร็ง
พอพบปุ๊บเป็นระยะสุดท้ายเลย จริง ๆ
เค้าก็เตือนตลอด
แต่พอไม่มีเวลาไปตรวจมันก็แก้ไม่ได้
แกไปนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล
แล้วก็สารภาพให้รายการคนค้นคน บันทึกชีวิตแก
ก่อนจะเสียชีวิต แกก็ไปนอนให้พ่อแม่เช็ดเนื้อเช็ดตัว
แกก็บอกว่าสังเวชตัวเองมากแทนที่ลูกจะได้ดูแลพ่อแม่
กลับมาเป็นว่าพ่อแม่ต้องมาดูแลลูก
ก่อนจะเสียชีวิตแกให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์คมชัดลึกบอกว่า
พ่อผมเคยบอกว่าเกิดเป็นคนต้องได้ปริญญาสองใบ
ปริญญาใบที่หนึ่ง "ปริญญาวิชาชีพ" เราจะต้องทำมาหากินเป็น กินอิ่ม นอนอุ่น
พูดง่าย ๆ
ล้วงไปในกระเป๋าแล้วมีเงินใช้ อยากจะนอนมีบ้านเป็นของตัวเอง
แค่นี้คือปริญญาวิชาชีพ
แต่"ปริญญาวิชาชีวิต"
ซึ่งเป็นปริญญาใบที่สองที่พ่อแกบอกไว้
แกบอกว่าผมสอบตกโดยสิ้นเชิง
ผมเป็นดอกเตอร์จากอเมริกาได้ปริญญาวิชาชีพ
แต่ปริญญาวิชาชีวิตสอบตก เพราะอะไร
เพราะทำงานจนป่วยตาย
ก่อนที่จะเสียชีวิตแกได้สารภาพว่าผมได้เตรียมทุกอย่าง
บ้าน รถ มอบมันให้กับลูกและภรรยา
แต่ในวันที่ผมมีทุกสิ่งทุกอย่าง
ผมกลับลืมมอบหนึ่งอย่างให้กับลูกและภรรยา
สิ่งนั้นคือสิ่งที่ผมลืมและทำให้ผมล้มเจ็บใหญ่ครั้งนี้
สิ่งที่ว่านี้คือผมลืมมอบตัวเองเป็นของขวัญให้กับลูกและเมีย
เพราะทำงานหนักจนกระทั่งป่วยตาย
นี่คือปริญญาวิชาชีวิต
ธรรมะเราจะต้องมี ถ้าเราไม่มีธรรมะ
เราจะกลายเป็นหุ่นยนต์เท่านั้นเอง
ที่ทำงานแทบล้มประดาตายแล้วสุขภาพไม่ดี
ดังนั้นเมื่อเราทุกคนทำงานแล้ว
อย่าลืมชั่วโมงสุขภาพของตัวเองในแต่ละวันนะ
แต่ละวันควรจะมี ให้ดูแลตัวเอง
ดูจิต ดูใจตัวเอง ว่าเราเอ๊ะมันทุกข์
มันทุกข์มากเกินไปรึเปล่า
แบกเรื่องโน้นเรื่องนี้ เกินไปหรือเปล่า
พยายามลดลงในแต่ละวัน ๆ
เพื่อที่ว่าอะไร
เพื่อที่ว่าเราจะได้ปริญญาสองใบในชีวิต
หนึ่งปริญญาวิชาชีพ
เราทำมาหากินจนประสบความสำเร็จร่ำรวยมั่งคั่ง
มีเงินมีทองใช้มีบ้านอยู่
แต่ต้องไม่ลืมปริญญาใบที่สอง
คือวิชาธรรมะ
สำหรับจะดูแลชีวิตให้ดำเนินอยู่ในทางสายกลาง
ไม่ทุกข์เกินไปไม่เดือนร้อนเกินไป
ทำอะไรให้พอดี พอดีอยู่ดีมีสุข
อยากเที่ยวให้ได้เที่ยว อยากพักให้ได้พัก
อยากทำบุญให้ได้ทำบุญ
ลูกหลานมาหาก็ให้ได้มีเวลากับลูกกับหลานบ้าง
อย่าวิ่งไปจนซ้ายสุด ขวาสุด
และมารู้สึกตัวอีกทำจนล้มเจ็บใหญ่ไม่ดี เพราะอะไร
เพราะว่าสิ่งสูงค่าทีสุดในชีวิตของเรา
เคยมีคนไปทูลถามพระพุทธเจ้า
ว่าอะไรคือสิ่งสูงค่าที่สุด บางคนก็ตอบเงิน
บางคนก็ตอบเพชร บางคนก็ตอบทอง
บางคนก็ตอบอำนาจ บางคนก็ตอบราชบัลลังก์
พระพุทธเจ้าบอกไม่ใช่ สิ่งสูงค่าที่สุดในชีวิตของพวกเธอคือสุขภาพและชีวิต
สุขภาพก็คือการที่เราไม่เจ็บไข้ได้ป่วย
คนที่สุขภาพดีดื่มน้ำธรรมดาก็อร่อยนะ
และก็ชีวิตของเรา<o></o>

 

น่านเสะ เจ๊พูดอะไรง่ะ

 

ต้องขอ Sorry ด้วยกับทั้งสองท่าน เพราะว่าผมไปถึงท่าขนุน ก็ประมาณเที่ยงเศษๆ แต่ยังไม่ถึงวัดเลย ก็เจอรถบัสวิ่งสวนทาง มาสามคัน ก็เดาว่าพวกท่านกำลังเดินทางกลับกันแล้ว เผอิญว่าออกสายไปหน่อยน่ะครับ เพราะมีเจ้าตัวเล็กคิดไปด้วย แกนอนตื่นสายเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมลุกง่ายๆอ่ะ
โอกาสยังพอมี ก็คงได้เจอกันอีก ถ้าใจร้อนด่วนๆ ก็เขียนจดหมายถึงตัวเองใส่ซองปิดแสมป์ + ค่าส่ง (กันหาย) ส่งไปให้ผม แล้วจะรีบส่งพระให้นะจ๊ะ ขอที่อยู่ผมทาง PM ได้นะครับ (ได้นำพระเข้าพิธีเป่ายันต์ด้วยแล้ว)(y)

 

ได้ค่ะท่านพรหมฯ มีโอกาสจะได้พบกันเมื่อไหร่ อย่าลืมส่งสัญญาณเรียกกันด้วยนะคร๊าบบบบ

 

เห็นแล้วชวนน้ำลายไหล...

วันอาทิตย์ ที่ 13 มกราคม 2551
น้ำพริก อาหารพื้นบ้าน วัฒนธรรมไทยที่กำลังสูญหายไปจากยุคโลกาภิวัฒน์

Posted by artemis-tai , ผู้อ่าน : 73 , 21:15:44 น. | หมวดหมู่ : อนุรักษ์ไทย
พิมพ์หน้านี้

<TABLE class=blog_center_data><TBODY><TR><TD>[FONT='Cordia New','sans-serif'] น้ำพริก คือ อาหารประเภทเครื่องจิ้มชนิดหนึ่ง โดยการนำเครื่องปรุงชนิดต่าง ๆ ลงโขลกรวมกันในครก รสชาติของน้ำพริกโดยทั่วไปแล้ว จะมีรสเผ็ดนำ รสเค็มตาม แต่ภาคกลางนั้นจะเพิ่มรสเปรี้ยวลงไปด้วย ทางเหนือ น้ำพริกอ่อง ก็จะมีรสเผ็ดนำ รสเค็มตาม แต่ว่า ค่อนข้างหวาน ไปในที [/font]
[FONT='Cordia New','sans-serif'][FONT='Cordia New','sans-serif'] การเรียกชื่อน้ำพริกแต่ละชนิดมักจะเรียกตามส่วนประกอบหลักที่นำมาทำ ซึ่งอาจเป็นเนื้อสัตว์ พืชผัก แมลง หรือผลิตผลจากพืชหรือสัตว์ก็ได้ เช่น น้ำพริกขิง น้ำพริกปลาน้ำพริกร้า น้ำพริก-น้ำปู น้ำพริกต่อ(ตัวอ่อนของตัวต่อ) น้ำพริกน้ำผัก เป็นต้น ประเภทของพริกที่นำมาตำน้ำพริกก็มีทั้งพริกดิบ หรือ พริกหนุ่ม และพริกแห้ง ชนิดของน้ำพริกนอกจากจะแบ่งตามลักษณะของพริกที่นำมาทำแล้ว ยังอาจแบ่งได้ตามลักษณะของน้ำพริก ได้แก่ น้ำพริกที่ลักษณะค่อนข้างแห้ง และน้ำพริกลักษณะมีน้ำขลุกขลิก[/font][FONT='Cordia New','sans-serif']น้ำพริกที่คนไทยรู้จักดี เช่น น้ำพริกกะปิ [/font][FONT='Cordia New','sans-serif'] [/font][FONT='Cordia New','sans-serif']น้ำพริกกะเหรื่ยง [/font][FONT='Cordia New','sans-serif'] [/font][FONT='Cordia New','sans-serif']น้ำพริกกุ้งสด [/font][FONT='Cordia New','sans-serif'] [/font][FONT='Cordia New','sans-serif']น้ำพริกกุ้งเสียบ [/font][FONT='Cordia New','sans-serif'] [/font][FONT='Cordia New','sans-serif']น้ำพริกปลาร้า [/font][FONT='Cordia New','sans-serif'] [/font][FONT='Cordia New','sans-serif']น้ำพริกปลาทู [/font][FONT='Cordia New','sans-serif'] [/font][FONT='Cordia New','sans-serif']น้ำพริกเผา น้ำพริกนรก [/font][FONT='Cordia New','sans-serif'] [/font][FONT='Cordia New','sans-serif']น้ำพริกแมงดา น้ำพริกหนุ่ม [/font][FONT='Cordia New','sans-serif'] [/font][FONT='Cordia New','sans-serif']น้ำพริกตาแดง [/font][FONT='Cordia New','sans-serif'] [/font][FONT='Cordia New','sans-serif']น้ำพริกอ่อง [/font][FONT='Cordia New','sans-serif'] [/font][FONT='Cordia New','sans-serif']น้ำพริกแจ่ว [/font][FONT='Cordia New','sans-serif'] [/font][FONT='Cordia New','sans-serif']น้ำพริกลงเรือ[/font][/font]
[FONT='Cordia New','sans-serif'][/font][FONT='Cordia New','sans-serif'][/font]
[FONT='Cordia New','sans-serif'][/font]
[FONT='Cordia New','sans-serif'][FONT='Cordia New','sans-serif'] น้ำพริกลงเรือ[/font]
[FONT='Cordia New','sans-serif'] น้ำพริกกุ้งเสียบ[/font]
[FONT='Cordia New','sans-serif'] น้ำพริกนรก[/font]
[FONT='Cordia New','sans-serif'] น้ำพริกนรก[/font]
[FONT='Cordia New','sans-serif'] น้ำพริกกุ้งย่าง[/font]
[FONT='Cordia New','sans-serif'] น้ำพริกแมงดา[/font]
[FONT='Cordia New','sans-serif'][/font]
[FONT='Cordia New','sans-serif'][/font]
[FONT='Cordia New','sans-serif'] [/font]

 

ชวนตาลายมากก่า

 

สวัสดีค่ะ แวะมาทักทายค่ะ

 

สวัสดีค่ะ อย่าเพียงแวะมาทักทายซิค่ะ ท่านเจ้าของกระทู้ฯ อยากให้มีคนมาช่วยกันคุย ท่านขี้เหงา... หุหุ

 

ชมภาพเล่น ๆ ไปก่อนละกัน

 

ภาพอารายง่ะ
มีแต่ของปลอม

 

ก็ของปลอมจิ .... ของจริงจะเหลือกลับมานั่งหน้าจอเหยอออ

มาช่วยท่านพรหมฯ ดูแลกระทู้หน่อยจิ...เรากำลังจะหมดแรงแย้ว