ศาสตร์ลึกลับแห่งอินเดีย

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย DuchessFidgette, 27 มิถุนายน 2013.

  1. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    [​IMG]


    ความจริงแล้วดิฉันก็ไม่ได้
    เป็นคนที่สนใจเรื่องความสวยความงาม ออกจะเป็นคนที่มีนิสัยชุ่ยเสียด้วยซ้ำ
    เราอยู่เมืองหนาว หน้าก็ไม่ค่อยล้าง แต่ไม่เป็นสิวแม้แต่เม็ดเดียว แต่เป็นคนชอบ
    ศึกษาและหาอ่านเรื่องราวต่างๆทั่วๆไปโดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องลึกลับต่างๆ
    จนกระทั้งมีอยู่วันหนึ่งได้เข้าไปในเมืองจะไปซื้อเทียนมาจุดไหว้ผี ก็ไปเกิด
    สะดุดใจกับเทียนหอม ในร้านเครื่องประทินผิวของสตรีร้านหนึ่งเข้า.....อย่าง
    ที่เคยเล่าไว้ในกระทู้ประตูผี.....เป็นครั้งแรกที่ดิฉันรู้สึกติด addictกับกลิ่นหอม
    ที่ออกมาจากเทียนสปาร์แท่งนั้นมากเลยทีเดียว มันหอมชนิดที่ว่าได้กลิ่นทีไร
    ก็จะรู้สึกมีความสุขทุกที ขนาดว่าเราไปตั้งเฉยๆไม่ต้องจุดไฟ ห้องไหนก็
    หอมรัญจวนไปทั่ว หลังจากนั้นก็เลยเริ่มมาศึกษาเรื่องเครื่องหอม
    ที่ทำให้คนเวลาได้กลิ่นแล้วรู้สึกมีความสุข ก็เลยมาพบว่าเรื่องกลิ่นหอม
    เป็นยานี้ ก็ถูกบรรจุเป็นส่วนหนึ่งในศาสตร์โบราณของอินเดียที่มีชื่อว่า
    อายุรเวทย์ สันสกฤต: आयुर्वेद; อังกฤษ: Ayurveda เป็นการแพทย์
    แผนโบราณของอินเดียมานานกว่า 5,000 ปี
    ถูกบรรจุอยู่ในคำภีร์พระเวทย์ Suśruta Saṃhitā และ Charaka Saṃhitā
    มีผลงานที่มีอิทธิพลต่อการแพทย์แผนในยุคนี้


    [​IMG]


    อายุรเวทพัฒนาจำนวนของการเตรียมยาและขั้นตอนการผ่าตัดตามยุคสมัย
    ปฏิบัติสำหรับการรักษาโรคต่างๆ การปฏิบัติปัจจุบันมา ยาอายุรเวทได้รับการ
    ยกย่องว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแพทย์เสริมและทางเลือก และร่วมกับ
    และการแพทย์แผนจีน, รูปแบบพื้นฐานสำหรับระบบการแพทย์

    แม้ว่าในปัจจุบันด้านความปลอดภัยการของทั้งสหรัฐอเมริกาและ
    อินเดีย Ayurveda ได้รับการหยิบยก เข้ามาในวงการแพทย์ แต่ก็ยังน่า
    กังวลว่า พบว่าประมาณร้อยละ 20 ของยาอายุรเวทที่ผลิตในสหรัฐอเมริกา
    สิทธิบัตรขายผ่านทางอินเทอร์เน็ตนั้น มีบางรายที่ยังมีพิษที่มีโลหะในระดับสูงผสมอยู่
    ที่เป็นหนัก ก็เช่น ตะกั่วปรอทและสารหนู รวมถึงการใช้สมุนไพรที่มีสารพิษและการขาด
    การควบคุมคุณภาพสิ่งอำนวยความสะดวกในอายุรเวท ยังต้องมีการควบคุมให้ดี


    [​IMG]


    ในวรรณคดีคลาสสิกสันสกฤต Ayurveda ถูกเรียกว่า "วิทยาศาสตร์แปดองค์ประกอบ"
    (astanga अष्टांग) การจัดหมวดหมู่ที่เป็นที่ยอมรับสำหรับอายุรเวท คือ:
    (ยาทั่วไป) - Kaya-chikitsa: "รักษาโรคที่มีผลต่อร่างกาย"
    (กุมารเวชศาสตร์) Kaumāra-bhṛtya "การรักษาในเด็ก ๆ "
    SurgeryŚhalya-chikitsa "การกำจัดของสารที่ได้เข้าสู่ร่างกาย (เช่นเดียวกับการผ่าตัด ฯลฯ )
    (จักษุวิทยา / ENTŚālākyaแทนท "รักษาโรคของตาหรือหู ฯลฯ
    (หมอไล่ผี / psychiatryBhūta (อดีต) Vidya "การรักษาโรคทางจิต"
    (บทความเกี่ยวกับยาถอนพิษ) อกาธาแทนท "ยาแก้พิษ"
    น้ำทิพย์ Rasayana "รัสยานา" ยาอายุวัฒนะ หรือน้ำทิพย์ ที่มีการใช้ สมุนไพร
    และพืชพันธ์ต่างๆ มาทำยาชนิดนี้ จุดมุ้งหมายหลักคือเพือทำให้อายุยืน
    aphrodisiacs Vājīkaraṇa ยาปลุกกำหนัด บำรุงทางเพศ



    [​IMG]

    ตรีโทษ (วาตะ ปิตตะ กผะ) คืออะไร?
    ตามหลักทฤษฎีทางอายุรเวท ศาสตร์แห่งอินเดียระบุว่า การทำงานของกาย
    และจิตของมนุษย์จะถูกควบคุมโดยพลังงานพื้นฐาน 3 ส่วน เรียกว่า
    "ไตรโทษะ หรือ ตรีโทษ (Tri Dosha)" ได้แก่ วาตะ ปิตตะ และ กผะ พลังเหล่านี้
    มาจากธาตุสำคัญ 5 ชนิด ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ และอากาศธาตุ
    ที่รวมตัวกันเป็นจักรวาล ซึ่งก็คือส่วนประกอบของกายและจิตของเรานั่นเอง
    และตรีโทษทั้ง 3 นี้ มีบทบาทและหน้าที่ในร่างกายของเรา เช่นเดียวกับธาตุทั้ง 5
    การบำบัดรักษาตามแนวทางอายุรเวทนั้น ผู้บำบัดจำเป็นต้องมีเข้าใจในเรื่องของ
    "ตรีโทษ"โบราณว่ากายที่ดีนั้นต้องมีจิตใจภายในที่ดีด้วย ดังนั้นการรักษาแบบ
    อายุรเวทก็จะเรื่องบำบัดจิตใจเข้ามาด้วยเช่น นั่งสมาธิ สูดกลิ่นของหอม นวดสปาร์
    อาบน้ำแร่ แช่น้ำนมอะไรทำนองนั้นซึ่ง จากแนวคิดด้านอายุรเวทของอินเดียนี้เองที่
    ทำให้ในปัจจุบันมีสปาร์มากมายดัดแปลงไปใช้กับศิลปะการผ่อนคลายแบบท้องถิ่น
    เช่น ถ้าของสแกนดิเนเวียก็จะมีการใช้หินร้อนหินเย็นตามแม่น้ำในตำนานพื้นบ้านมา
    ประคบตัว ถ้าของไทยก็อาจจะมีนวดไทย หรือ ล้างเท้าด้วยดอกมะลิ พิมเสน การะบูน
    ให้มันเย็นสบาย ถ้าของญี่ปุ่นก็อาจจะเป็นอาบน้ำร้อนองเซน ของตุรกีก็โรงอาบน้ำ
    คลีโอพัตรา เป็นต้น



    [​IMG]


    ชาววาตะ (Vata) ผู้มีธาตุลมและอากาศธาตุ
    เป็นธาตุประจำตัวarticle ชาววาตะ (Vata) นั้นมีแรงอึดค่อนข้างน้อย อ่อนเพลียได้ง่าย
    จึงต้องระวังเรื่องอาการเป็นลม (แพ้ลมตัวเอง) หอบหืด และระบบทางเดินหายใจ
    การดื่มน้ำมากสักหน่อยจึงช่วยให้ชาววาตะ กระชุ่มกระชวยขึ้น และยิ่งเป็นน้ำที่มีน้ำตาล
    เป็นส่วนผสมสักหน่อยก็จะช่วยให้สดชื่นขึ้นมาก ชาววาตะ (Vata) มักมีปัญหาเรื่อง
    ท้องผูกและท้องเสีย โดยเฉพาะเรื่องท้องผูกที่เป็นปัญหาสำหรับชาววาตะเสมอมา
    นอกจากนี้ ความตื่นตระหนก ขี้กังวล และขนาดกลัวของชาววาตะ มักมีอาการนอน
    ไม่หลับอยู่เสมอ หากปล่อยไว้นาน ๆ โดยไม่แก้ไขก็อาจจะทำให้ชาววาตะเสีย
    สุขภาพในระยะยาวได้ เพราะการขาดการพักผ่อนอย่างเพียงพอจะทำให้โรคภัย
    ไข้เจ็บตามมาได้


    [​IMG]


    ชาวปิตตะ (Pitta) ผู้มีธาตุไฟ
    เป็นธาตุประจำตัว
    ชาวปิตตะ (Pitta) มีไฟเผาผลาญทั้งทางกายและจิตใจค่อนข้างมาก จึงมัก
    จะเจ็บป่วยอยู่เสมอ ๆ เช่น ร้อนใน แสบคันตามผิวหนัง ประจำเดือนมามากผิดปกติ
    ท้องเสีย เป็นต้น สิ่งที่ชาวปิตตะ (Pitta) ควรระมัดระวังคืออย่าให้ร่างกายร้อน
    จนเกินไป และที่สำคัญคือต้องควบคุมไม่ให้อารมณ์ร้อนแรงตามร่างกายไปด้วย
    ส่วนที่ดีที่สุดของชาวปิตตะ (Pitta) คือความเฉลียวฉลาด รอบคอบและแยบยล
    ชาวปิตตะ (Pitta) สามารถคิดแผนการดี ๆ ได้หลายเรื่อง หากนำไปใช้ในทาง
    ที่ถูกที่ควรก็จะเป็นที่ยอมรับได้ไม่ยาก แต่ถ้าใช้ไม่ถูกทางก็ถือเป็นแผนร้ายระดับ
    เทพพระกาฬทีเดียวชาวปิตตะ (Pitta) คิดอะไรไม่ซ้ำใคร กล้าคิด กล้าทำ
    ความคิดของชาวปิตตะ (Pitta) จะได้รับการกลั่นกรองอย่างละเอียดถี่ถ้วนเสมอ
    ด้วยความที่ชาวปิตตะ (Pitta) มักจะคิดจนได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ จึงไม่ต้องกลับ
    มาคิดวกวนซ้ำซากให้กดดันตัวเอง ชาวปิตตะ (Pitta) จะตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว
    เสมอและไม่เคยนึกเสียใจกับสิ่งที่ได้ตัดสินใจไปแล้ว



    [​IMG]


    ชาวกผะ (Kapha) ผู้มีธาตุดินและธาตุน้ำ
    เป็นธาตุประจำตัว...... ชาวกผะ (Kapha) ต้องระมัดระวังเรื่องน้ำหนักตัวให้ดี
    เพราะอ้วนง่ายมาก และต้องระวังเรื่องอาการบวมตามข้อต่อต่าง ๆ หากธาตุน้ำในตัวไม่สมดุล
    นิสัยของชาวกผะ (Kapha) มีความอดทน หนักแน่น ไม่วู่วาม สงบเยือกเย็น
    นับเป็นเสน่ห์ของชาวกผะ (Kapha) ชาวกผะ (Kapha) อาจจะไม่หวือหวาก็จริง
    แต่รอบคอบในการใช้ชีวิต ชอบดูแลเอาใจใส่คนรอบข้างอย่างทะนุถนอม มีคุณสมบัติ
    ของการเป็นผู้ให้สูง สิ่งที่ชาวกผะ (Kapha) ไม่ชอบเลยก็คือการเป็นผู้นำแม้แต่ผู้นำ
    กลุ่มเล็ก ๆ ชาวกผะ (Kapha) ไม่ชอบออกคำสั่งหรือบังคับจิตใจใคร ชอบเป็น
    ผู้ปฏิบัติตามและรอฟังคำสั่งมากกว่า
    ชาวกผะ (Kapha) มีบุคลิกเหมือนกับรูปร่างอุ้ยอ้ายและเชื่องช้า มักทำอะไรแบบช้า ๆ
    ไม่รีบร้อน ดูเหมือนขาดความกระตือรือร้น แต่ในความจริงแล้วชาวกผะ (Kapha)
    ทำอะไรทำจริงและทำได้นานเสมอ ชาวกผะ (Kapha) เป็นคนที่เรียนรู้ได้ช้า
    เข้าใจอะไรได้ยาก แต่ถ้าจำได้แล้วก็จะจดจำได้นานเป็นปี ๆ ชาวกผะ (Kapha)
    ไม่ค่อยมีความคิดสร้างสรรค์ และไม่ชอบคิด แต่ทำเก่งโดยเฉพาะการทำตาม




    มาดูเคล็ดลับที่ทำให้ผิวขาวแบบสาวอินเดียอารยัน


    [​IMG]


    ผู้หญิงอินเดียที่มีผิวขาวใสสวย
    นั้น เป็นเรื่องค่อนข้างยาก เพราะเขาอยู่ในเขตโซนร้อนคล้ายไทย แต่ของเขามีทะเลทรายอ่อนๆ
    ผสมอยู่เล็กน้อย ไม่ค่อยมีต้นไม้ทึบเช่นไทยเรา แต่ต้นไม้เยอะนี้แหละที่วิวัฒนาการว่า
    ยิ่งทำให้คนในโซนนั้นไม่ค่อยมีดั้ง เพราะต้องคอยวิ่งหลบต้นไม้ ประเทศไหนต้นไม้ยิ่งน้อย
    จมูกยิ่งโด่งแหลม ดูพวกที่อยู่ทะเลทรายเป็นหลัก.... เข้าเรื่องต่อ วิธีที่สาวอินเดียทำให้
    ผิวขาวดูอ่อนกว่าวัย..... วิธีการง่ายๆ นตอนที่สาวอินเดียโบราณบอกต่อลูกหลานด้วย
    สูตรอายุรเวทในการทำให้ผิวขาวใสขึ้นทันตาเห็นโดยไม่ต้องไปเข้า บิวตี้ เซ็นเตอร์
    แบบสาวเกาหลี การที่มีผิวหน้าหมองคล้ำนั้นทำให้ใบหน้าโดยรวมดูโซม มีริ้วรอย
    และขอบตาคล้ำ สาวอินเดียโบราณจะใช้ น้ำเย็นล้างหน้า หรือใช้ก้อนน้ำแข็งลูบหน้า
    เพื่อกระตุ้นให้เลือดฝาดและผิวเด้ง อีกสูตรให้ฝ่านส้ม และเอาเปลือกส้มด้านใน
    ที่ยังมีเนื้อส้มติดอยู่ถูขัดใบหน้า




    [​IMG]


    หรือ ใช้ สครับอ่อนๆ ถูหน้าและตัว
    ระหว่างล้างอาทิตย์ละครั้ง ถ้าไม่อยากซื้อก็ประยุคเอาของในครัวมาใช้ก็ได้
    โดยเฉพาะคนที่เป็นสิวให้ใช้น้ำตาลทรายหยดน้ำมะนาวไปหยดนึง
    และขัดถู ที่หน้าทุกครั้งเวลาล้าง และใช้น้ำมันจากต้นโจโจ้บาแทน มอยเจอร์ไรซเซอร์
    ถ้าผิวแห้งแบบฝรั่ง...... ดัชเชสก็ผิวแห้งเพราะอยู่เมืองหนาว
    ให้ใช้น้ำมัน มารูล่า ของอินเดีย หรือ น้ำมันมะกอก ก็ได้ หยดไปที่สำลี
    และนวดไปที่หน้าเบาๆ และล้างด้วยน้ำอุ่น สิบ นาที ให้น้ำมันที่เรานวดไว้ออกให้หมด


    ทีนี้มาดูวิธีทำให้ผิวขาวใสแบบสาวอินเดียโบราณ ก็มีสอง วิธีคะ วิธีแรก
    คล้ายของไทยมาก.....ให้เอามะขามเปียกผสมนมสดหน่อยนึงล้างหน้าทุกวัน
    ตามด้วย ใช้น้ำมันมะพร้าวหยดลงบนสำลีและนวดที่ใบหน้าก่อนจะล้าง
    ด้วยน้ำอุ่น สิบ นาที เป็นอันเสร็จ เวลาที่ไปตากแดดมาจนหน้าดำหน้าไหม้
    สาวอินเดียโบราณจะใช้โยเกิร์ตที่ปรุงขึ้นในครัวเรือนพอกหน้า ซึ่งจะทำให้
    หน้าหายแสบหายพองและขาวเร็วขึ้นอีกด้วย





    [​IMG]




    ผมงามแบบสาวอินเดีย



    [​IMG]



    อินเดียนั้นมีวัฒนธรรมที่ผู้หญิงนิยมความหรูหราสมบูรณ์แบบ จะต้องครบ
    เครื่องตั้งแต่ศีรษะยันจดปลายเท้า การไว้ผมยาวมากจนถึงข้อเท้านั้นเป็น
    ที่นิยมเป็นอย่างยิ่งในประเทศอินเดีย จะว่าไปแล้วอาจจะจัดได้ว่าอินเดีย
    มีจำนวนสตรีที่ไว้ผมยาวมากที่สุดในโลกก็ว่าได้ตามหลักด้านความงาม
    ของเรือนผมแบบอินเดียโบราณนั้นได้จัดให้ผมที่ดีจะแบ่งประเภทได้สาม
    ลักษณะดังนี้ ซึ่งเป็นลักษณะประเภทผมที่ปรากฏในชาวชมพูทวีปทั่วๆไป

    1.)ผมสีดำเส้นใหญ่ตรง- เส้นปานกลาง ผมประเภทนี้
    แต่พอพบเจออยู่ในระแวกอินเดียฝั่งตะวันออก
    เฉียงเหนือ ที่อยู่ใกล้เขตชายแดนชาวจีนชาวมองโกล
    เช่น อรุณาจัลประเทศ หรือ ทิเบตใต้



    [​IMG]


    2.) ผมสีแดงหรือสีน้ำตาลอมทอง เส้นเล็กนุ่ม หยักศกเป็นคลื่น
    อันนี้ก็พอหาได้ในพวกชาวอินเดียทาง
    ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ เช่นแคว้นราชะสถาน หรือทาง
    ตะวันตกเฉียงเหนือ เช่น ตักศิลา แคชเมียร์ เป็นต้น



    [​IMG]


    3.)ผมสีดำ หยักศกเป็นลอล ไม่ถึงกับหยิก
    เส้นปานกลาง หรือใหญ่
    เป็นลักษณะผมที่พบ
    ในชาวอินเดีย หรือ ชมพูทวีปโดยทั่วไป



    [​IMG]


    การดูแลเส้นผมจึงต้อง
    ประกอบกันไปกับธาตุเจ้าเรือน ซึ่งแบ่งเป็น 3 ธาตุ คือ
    - วาตะ ผมเส้นใหญ่ แห้ง หยาบ แตกปลาย สีเข้ม แต่ไม่ดำ
    หรือแม้สีดำก็แห้ง จัดทรงยาก
    - ปิตตะ ผมละเอียดกว่าทุกธาตุ สีออกน้ำตาลแดง ค่อนข้างตรงหรือยักอ่อนๆ มีความมันเล็กน้อย
    - กผะ ผมมัน เส้นใหญ่ มีลอน มีน้ำหนัก เป็นสุดยอดปรารถนาของสาวแขกทั้งปวง

    แต่ไม่ว่าใครจะมีธาตุเจ้าเรื่อนอย่างไร เขาจะใช้น้ำมันซึ่งเขาถือว่าเป็นสุดยอดนำมัน
    จากพืช คือ น้ำมันงา รองลงมาคือน้ำมันมะพร้าว กระบวนการผลิตต้องไม่ผ่านความร้อน
    เช่น อินเดียทางตอนใต้จะปล่อยให้มะพร้าวแห้งคาต้น แล้วจึงสอยลงมาผ่าข้างในไม่มี
    น้ำมะพร้าวเหลืออยู่แลย เนื้อก็ล่อนหลุด เขาเอาไปหีบทั้งชิ้น เพื่อนำมาใช้ในครัวเรือน
    ทั้งบำรุงผม ทาผิว กิน เหลือใช้จึงส่งขายเพื่อแปรรูปต่อไป

    ถ้าจะผสมสมุนไพร บางสูตรใช้อำล่า (มะขามป้อม)
    เคี่ยวผสมกับน้ำมันงา อีกตัวหนึ่งที่แก้ผมเสีย คือ ทางต้นตาลสดๆ หรือกาบลูกตาล
    (ที่นำมาทำขนมตาล) นำมาทุบคั้นน้ำให้ได้ 1 ถ้วย คราม (ที่ใช้ย้อมสีน้ำเงิน) 1 ถ้วย
    หญ้าแพรก ขมิ้นอ้อย นำมาตำให้ได้ปริมาณเท่าๆ กัน แล้วนำไปเคี่ยวกับน้ำมันงาให้น้ำ
    ในสมุนไพรระเหยออก เหลือเฉพาะสารสำคัญผสมอยู่กับน้ำมันงา นำไปกรองตะกอน
    ออก ใช้บำรุงหนังศีรษะเช่นกัน

    ใบบัวบกก็เป็นสมุนไพรยอดนิยมของสาวแขกที่ใช้กันมานาน
    โดยนำใบบัวบกมาปั่น คั้นน้ำไปเคี่ยวกับน้ำมันในปริมาณเท่าๆกัน
    ใช้ไฟอ่อนมากๆ จนน้ำระเหยไปหมด นำมากรองเก็บไว้ใช้ได้นาน
    เวลาจะใช้เพียงชโลมให้ทั่วหนังศีรษะและผม ทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง
    แล้วสระออก รักษาผมร่วงได้ดีมาก




    [​IMG]



    ทั้งหมดทั้งมวลเรื่องที่อ่านผ่านๆ
    และมาเล่าให้ฟังนี้ ถ้าเป็นการยุ่งยากที่จะต้องไปหาซื้อ
    อันนั้นอันนี้มาผสม เดี๋ยวนี้เขาก็มี skincare มากมายหลายยี้ห้อทีเขาเน้น
    ออกแบบมาจาก ศาสตร์อายุรเวทของอินเดีย มาให้เลือกมากมาย
    หลายยี้ห้อ ถ้าถาม คคหสต ดัชเชส อย่างเช่น ยี้ห้อ sky Island
    อันนี้อายุรเวทของไอซ์แลนด์ สกัดมาจากน้ำในฟยอร์ด
    หรือ ถ้าตำหรับคำภีร์พระเวทย์ออกมาเลยก็ ยี้ห้อ สุนทรี Sundari
    ทำโดยดีไซนเนอร์สาวชาวอเมลิกันและเพื่อนหญิงชาวอินเดีย
    หรอ อีกอันนึงก็ The ritual ตอนนั้นได้มาโดยบังเอิญ
    มาร์สกพอร์คหน้ากลิ่นดอกบัว กับ นมข้าว หอมมากคะ
    หรือไม่ก็ยี้ห้อ Crabtree เขามี skincare สูตร อายุรเวทด้วย
    ในเซต India Hick (หอมมาก)......ถ้าจะเอาแบบ แฮนเม็ค ทำกับมือส่งตรงจากอินเดีย
    ซานาส ฮุสเซน Sanaz Hussein นางเป็นเจ้าของสปาร์ และเครื่องสำอางค์
    อายุรเวทจากประเทศ อินเดีย ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี



    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.3023470/[/MUSIC]



    ยังไม่จบเดี๋ยวมาเล่าต่อ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2014
  2. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    พิศวง ศาสตร์ลึกลับแห่งความงามของสาวแขก ตอน 2

    [​IMG]


    ดัชเชสเป็นคนที่ชอบอ่านเวลาสรุปอะไรได้เพื่อกันลืม และมารวบรวมอ่านได้อีกทีก็จะ
    ใช้วิธีมาพิมพ์เป็นเรื่องลงในเวปนี้เพื่อเป็นการสรุป
    กันลืมอีกอย่างเราก็เหมือน
    เป็นการให้ความรู้คนที่เขาสนใจด้วย......



    เคล็ดลับการทำให้หน้าใสดูอ่อนกว่าเยาว์
    แบบสาวอินเดียตะวันออก




    [​IMG]



    ไม่รู้ว่าทำไม แต่ก็เป็นความจริงประการหนึ่ง
    ที่สาวอินเดียแต่ละยุคสมัยมักติดอันดับ
    เป็นหนึ่งในท็อปเทน ผู้หญิงที่งามที่สุดในโลก อยู่เสมอ
    และมีจำนวนสาวอินเดียติดอันดับนางงามจักรวาล
    และนางงามโลกอยู่บ่อยครั้งเมื่อเทียบกับบรรดา
    ประเทศอื่นๆในระแวกเอเชียด้วยกัน คงจะเป็นเพราะ
    สวยธรรมชาติที่ออกมาจากข้างในจริงๆของสาวแขก
    กระมัง สมัยรุ่นคุณพ่อคุณแม่พวกเราก็มีสาวแขกติด
    อันดับสวยที่สุดในโลกเสียหลายคน อย่าง
    มหารานี กยาตรี แห่ง ชยปุระ นีล่า นาดู และก็
    เรขา อย่าง เรขา นี้เธอเป็นนางแบบและนักแสดง
    อินเดียซึ่งขนาดวัย 50 กว่าแล้วยงสวยและสาว
    ไม่สร่างจริงๆคะ


    ภาพ นีล่า ไนดู สาวอินเดียผู้ติดTop งามที่สุดใน
    โลก เมื่อสมัยก่อน ไล่เลี่ยมากับ
    มหารานี กยาตรีเทวี แห่งแคว้น ชัยปุระ และ ;aa51
    เรขา กาเนซานดารา บอลลิวู้ดด์สมัยก่อน
    ส่วนภาพมหารานี กยาตรีเทวีตอนสาวเป็นยังไงถ้าอยากดูก็เข้า
    ไปดูในกระทู้ข้างล้างตามลิงค์นี้ได้ ตอนนี้ท่านสวรรคตไปแล้ว

    http://palungjit.org/threads/ท็อป-11-อันดับ-เจ้าหญิงที่สวยที่สุดในโลก.500099/




    [​IMG]



    [​IMG]


    เดี๋ยวจะมาเล่าเรื่องอื่น เช่น ตา อื่นๆต่อ



    เคล็ดลับตางามแบบสาวแขก


    [​IMG]



    ใครๆก็ปรารถนาจะมีตาโตกลมใหญ่เบ้าลึกเปลือกตาชัด
    ขนตางอนแบบสาวแขกแม้แต่พวกสาวฝรั่งก็เถอะ
    ดัชเชสเคยอยู่บ้านเดี๋ยวสาวแหม่มวัยรุ่นอายุไม่เกิน
    สิบเก้าเธอยังชอบดวงตาแบบสาวอินเดียมาก
    เธอบอกทำให้หน้าดูเหมือนตุ๊กตา ซึ่งเดี๋ยวดัชเชส
    เจ้าเอารูปแบบลูกกะตาคนเราที่พบในโลกแบบต่างๆที่
    เม็คอัพอาร์ตตีสได้ระบุอย่างเป็นทางการเอาไว้มาโชว
    ให้ดู และจะได้รู้วิธีการทำอย่างไรให้ตาสวยเหมือน
    ตุ๊กตาแบบสาวอินเดีย




    colour__
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2013
  3. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    สมุนไพรเพื่อความงาม

    [​IMG]



    ส่วนสาว ใหญ่นางนี้ชื่อ เรขา คะนี้เชื่อไหมคะนาง60 แล้วยังสวยพริ้งอยู่
    เลยก็ติดอันดบงาม ที่สุดในโลก by Vouge Magazine
    เมื่อตอนสาวๆเช่นกัน


    [​IMG]



    มาดูกันว่าสาวอินเดียมีเคล็ดลับทางอายุรเวทอันใดที่ทำให้หน้าดูอ่อนกว่าวัย?


    น้ำมันสะเดาและใบสะเดามีการใช้ในการดูแลผิวของสาวแขกมาเป็นพัน ๆ ปี เป็นน้ำมันอันทรงคุณค่า
    อย่างสูงในประเทศอินเดียและมีการใช้อย่างกว้างขวางในยาอายุรเวท
    สำหรับปัญหาผิวหลายๆกรณี และเมื่อเร็ว ๆ การเพิ่มขึ้นของความ
    นิยมน้ำมันสะเดามีไปทั่วยุโรป&ประเทศสหรัฐอเมริกา



    [​IMG]



    น้ำมันสะเดาเป็นน้ำมันพืชสกัดจากผลไม้และเมล็ดสะเดา
    (Azadirachta indica), สามารถใช้ได้ในเชิงพาณิชย์
    จากสะเดาสำหรับเกษตรอินทรีย์และยารักษาโรค

    น้ำมันสะเดาโดยทั่วไปเป็นสีแดงเป็นสีเลือดและมีกลิ่น
    ค่อนข้างแรงที่มีการกล่าวถึงรวมกลิ่นของถั่วลิสงและ
    กระเทียม ส่วนใหญ่มันประกอบด้วยไตรกลีเซอไรด์
    และมีสาร triterpenoid จำนวนมากซึ่งมีรสขม



    [​IMG]


    ต้นสะเดาคืออะไร?

    สะเดาเป็นต้นไม้เกิดในป่าดิบเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลต้น
    มะฮอกกานีคุณสมบัติโดยทั่วไปมักขึ้นในทีของภูมิภาค
    แห้งแล้งของอินเดีย & เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ
    บางส่วนของแอฟริกา เปลือกไม้สะเดา, ใบ, ผลไม้
    เมล็ดพืช และน้ำมันทั้งหมดมีคุณสมบัติเป็นยา หลาย
    คุณสมบัติเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพผิว
    การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ได้แสดงให้เห็นสะเดาจะมี
    คุณสมบัติที่มี:

    • iconAntiviral - ยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัส
    •ต่อต้านเชื้อรา - ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา
    •แบคทีเรีย - ทำลายการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย
    ยาแก้ปวด• - ให้บรรเทาความเจ็บปวด
    •ต่อต้านการอักเสบ - ลดอาการบางอย่างของการอักเสบบวมหรือความอ่อนโยน
    •ต้านจุลชีพทำลายการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์



    [​IMG]




    วิธีการนำสะเดามาใช้ต่อต้านริ้วรอย



    น้ำมันสะเดาถูกนำมาใช้ในการดูแลผิวเพราะมันเต็มไปด้วยสารอาหาร สะเดามีระดับสูง
    ของสารต้านอนุมูลอิสระพิเศษที่ช่วยในการปกป้องผิว
    จากความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม สะเดายังมีสาร(คล้ายกับแคโรทีน)
    ที่ให้สารต้านอนุมูลอิสระสูงช่วยปกป้องอายุผิวจากอนุมูลอิสระ



    [​IMG]



    น้ำมันสะเดาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีกรดไขมันในระดับสูง ที่สำคัญ
    และ วิตามินอีช่วยดูดซึมสู่ผิวได้ง่ายโดยไม่ทำให้ผิวออกมันเยิ้ม
    ดูดซึมได้ทันที คุณสมบัติเหล่านี้มีประสิทธิภาพการทำงานเพื่อ
    ฟื้นฟูเซลล์ผิวและคืนความยืดหยุ่น

    เมื่อใช้เป็นประจำมีส่วนผสมของสารนี้ทำให้สะเดาที่สมบูรณ์
    แบบสำหรับการปรับให้เรียบริ้วรอยและริ้วรอยในขณะที่ช่วย
    ป้องกันไม่ให้อาการของริ้วรอย ความอิ่มตัวของสารต้านอนุมูล
    อิสระและวิตามินอีจะช่วยฟื้นฟูอ่อนเยาว์ให้กับผิวแห้งหรือ
    เสียหายและโทนสีผิวสมดุล


    [​IMG]


    คำแนะนำ: หลังจากทำความสะอาดใบหน้า ใช้น้ำมันสะเดา
    ไม่กี่หยดของสะเดารักษา (ส่วนผสมของน้ำมันสะเดา
    และน้ำมันโจโจบา) บนปลายนิ้วและนวดเบา ๆ บนใบหน้า
    และลำคอทุกคืนก่อนนอน






    2. สะเดาจะปรับผิวที่มีรูขุมขนกว้าง


    [​IMG]



    น้ำมันสะเดาเหมาะสำหรับผิวสิวที่เป็นได้ง่ายเพราะมันสามารถช่วยบรรเทาการ
    ระคายเคืองและการอักเสบชัดเจนขึ้นสิวและกำจัด
    แบคทีเรียจากพื้นผิวของผิวที่สามารถทำให้เกิดการ
    แบ่งลึกมากขึ้น

    น้ำมันสะเดามีสารแอสไพรินเหมือนที่จะช่วยผิวทีมี
    เชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว นอกจากนี้ยังช่วยลดรอย
    แดงและการอักเสบ

    เนื้อหากรดไขมันสูงในน้ำมันสะเดามีการกล่าวถึงการป้อง
    กันและรักษารอยแผลเป็นจากสิวและไม่ ใบนี้ที่สากๆบด
    ตำให้ละเอียดเอามาถูหน้าก็ยังทำให้สิวอุดตันหลุดด้วย
    การไป ขัดถูุดออกมาจากรูขุมขน





    3 ปลอบประโลมผิวแห้ง และ กลากเกลื่อน หรือ รอยแดงบนผิวหน้าจาก
    อากาศหนาวด้วยสะเดา



    [​IMG]


    ภาพหนูน้อยชาวนูรีสถานแก้มแดง



    รอยแดงบนผิวหน้า
    เป็นสภาพผิวที่พบบ่อยมากจากอากาศ
    หนาวที่โดดเด่นด้วยการอักเสบระคายเคืองมาก
    แห้งสีแดงคันผิวหนัง, โดยมากจะเกิด
    กับคนผิวขาวชมพูเช่นคนตะวันตก
    และคนเอเชียทางเหนือๆแต่ฝรั่งจะเป็นมากกว่า
    ฝรั่ง แขกทางเหนือเช่นพวก พักตุน หรือ คนเอเชีย
    ทางเหนือๆเช่น มองโกลเลีย แต่ไม่เป็นกับคนทาง
    เกาหลี จีน หรือ ญี่ปุ่น เพราะทางนั้นหนาวจริงแต่
    อากาศชื้น ไม่แห้งแบบทาง
    เมืองฝรั่ง เมืองแขก ธิเบต หรือ มองโกลเลีย


    [​IMG]


    คนที่มีอาการเช่นนี้มักอยู่ในพันธุกรรม บางคนเป็นมาก
    มีอาการ แสบแดงทั่วหน้าน้ำมันสะเดาสามารถบรรเทา
    อาการได้ แต่จะไม่รักษารากสาเหตุของ การเป็นเพราะ
    มันเป็นอาการที่ผิวเป็นเช่นนั้นอยู่แล้วโดยพันธุกรรม
    แต่เนื่องจากความสามารถในการลดการอักเสบและ
    สมานรอยถลอกก็สามารถผ่อนคลายได้มากสามารถ
    ใช้กับผู้ป่วยโรคเรื้อนกวางได้อีกด้วย

    nimbidin และ Nimbin เป็นสองสารต้านการอักเสบ
    ที่พบในน้ำมันสะเดาซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการบวมและ
    อักเสบ ที่สามคือ Quercetin ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีเป็น
    สารที่สนับสนุนความสามารถของร่างกายในการตอบ
    สนองต่อการอักเสบระคายเคือง

    emollients เป็นสิ่งที่แพทย์ผิวหนังแนะนำสำหรับกลาก
    สารที่เติมช่องว่างและรอยแตกในผิวหนังป้องกันไม่ให้สูญ
    เสียความชุ่มชื้นและฟื้นฟูป้องกัน ตั้งแต่สะเดาโดยเฉพาะ
    อย่างยิ่งในระดับสูงในกรดไขมันที่สำคัญและวิตามินอี
    ได้อย่างรวดเร็วและสามารถเจาะชั้นนอกของผิวเป็นอย่าง
    มากที่มีประสิทธิภาพในการรักษาผิวแห้งและเกิดความเสีย
    หาย คุณสมบัติของน้ำยาฆ่าเชื้อที่แข็งแกร่ง ยังจะช่วยให้
    แบคทีเรียและการติดเชื้อผิวหนัง



    ทำอย่างไรจึงจะมีเท้าสวยเล็ก แบบนักเต้นระบำแขก?


    [​IMG]


    รักษาเล็บเท้าเชื้อรากลากเกลื่อน ส้นเท้าแตกด้วยสะเดา


    เล็บเชื้อรากลากและเท้านักกีฬาการ ติดเชื้อราที่พบโดย
    ทั่วไปของผิวหนัง สารสกัดสะเดามีบางส่วนที่มีประสิทธิภาพ
    มากที่สุดป้องกันเชื้อราได้ สารสกัดจากพืชสะเดาเป็น
    ทางเลือกที่ดีในธรรมชาติ ดีกว่าครีมที่เคาน์เตอร์จากร้านขายยามาก

    Gedunin และ nimbidol สารประกอบที่พบในใบ
    ของต้นไม้สะเดาเป็นตัวป้องกันเชื้อราที่มีประสิทธิภาพ
    ที่จะทำลายเชื้อราซึ่งเป็นสาเหตุเท้ากลากและเชื้อราเล็บ
    ของนักกีฬา

    คำแนะนำ ให้ใช้น้ำมันสะเดารักษาไปยังนวดบริเวณเท้า
    ที่เป็นและแช่เท้าในน้ำอุ่นสลับน้ำเย็น หากคุณมีแนวโน้ม
    ที่จะติดเชื้อราที่ผิวหนังโดยใช้น้ำมันสะเดาหรือโลชั่นสะเดา
    ในชีวิตประจำวันอาจช่วยป้องกันการติดเชื้อในอนาคต



    [​IMG]




    .....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2013
  4. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    [​IMG]


    เคล็ดลับตางามแบบสาวแขก


    Makeup Artists ของโลกได้แบ่งจำพวกประเภทดวงตาของมนุษย์เราออกเป็นทั้งหมด 7-8
    แบบด้วยกัน ได้แก่ ตากวาง หรือตารูปอัลมอนด์, ตาโปน,
    ตาลึก, ตาสองชั้นหลบใน, ตาคว่ำ, และก็ตาชั้นเดียว มาดู
    กันว่ามีแบบใดบ้างและแต่ละแบบมีรูปแบบใด





    1.ตาโปน หรือตานูน

    [​IMG]


    ตาชนิดนี้มีลักษณะกลมใหญ่ ลึกเข้าไปในเบ้าเหมือนตาตุ๊กตาเปลือกตาชัด มี love band
    หรือขอบตาบวมๆ ที่ทำให้ดูเศร้าๆปนน่ารัก และมักจะมี
    เบ้าตาลึกเสมอสำหรับผู้ที่มีดวงตาลักษณะนี้ Makeup Artists
    กล่าวว่า แต่งหน้าง่ายที่สุด เวลาเขียน อายไลน์เนอร์ก็ทำ
    ได้สวยเพราะ เปลือกตาสูงมีที่พอเหลือเฟือที่จะเห็นผิวตัด
    กันระหว่างเส้นอายไลเนอร์ และเนื้อเปลือดตาด้านบนที่ยังเหลืออยู่






    2. ตากวาง/ตาเนื้อทราย หรือ ตา รูปอัลมอน


    [​IMG]


    ตากวาง หรือตารูปอัลมอน
    เป็นตาที่คนไทยสมัยโบราณในวรรณคดีชื่นชอบมาก
    เป็นพิเศษ เป็นลักษณะดวงตาที่กล่าวกันว่าทำให้หน้า
    หวานและสวยมากที่สุดตาชนิดนี้ก็มีเนื้อที่เพียงพอต่อ
    การแต่งเปลือกตาด้วยอายไลนเนอร์ในขณะที่ยังสามารถ
    เห็นชั้นตาด้านบที่ตัดกันกับอายไลนเนอร์ได้
    เช่นเดียวกับตาโปน เป็นตาที่ไม่ต้องแต่งอะไรมากก็สวย
    เพราะดัชเชสเคยไปเรียนพิเศษตอนมัธยม แล้วอาจารย์
    บรรยายลักษณะตัวพระในวรรณคดีรามเกียรติ์ ว่า
    จมูกเหมือนลูกศร และตากวาง อาจารย์ก็พยามจะอธิบาย
    ว่าตากวางเป็นยังไงก็เลย ชี้มาที่พี่สาวของดิฉันว่า
    ตาแบบนี้คือตากวางจะคล้ายๆแบบของพี่สาวเรา






    3. ตาลึก

    [​IMG]

    ตาลึก เป็นลักษณะ
    ตาที่จมลงไปในกระโหลกเพราะมีโครงหน้าที่ยื่น
    หน้าผากนูนต่อกับดั้งสูงสุง ทำให้ตาแลดูเล็กลงและ
    ลึกเข้าไปใต้โหนกคิ้ว ลักษณะตาชนิดนี้จะพบมากใน
    ชาวยุโรป หรือฝรั่ง หรือ แขกที่มีสายเลือดใกล้ชิดไป
    ทางฝรั่ง พบมากเฉพาะคนคอร์เคซอยด์ทีขาว และมีผม
    หรือตาสีอ่อน หน้าผากกว้างนูน ใบหน้าเล็ก ทั้งๆจริงๆ
    ขนาดตาถ้าไปดูใกล้ๆก็ใหญ่และสองชั้นชัด แต่ต่างกัน
    ที่ตาของฝรั่งจะอยู่ลึกเข้าไปในเบ้ากว่า ทำให้ตาแลดู
    เล็กลง เวลากรีด อายไลนเนอร์จะเห็นเฉพาะอายไลนเนอร์
    แต่ไม่ค่ยเห็นเนื้อที่เปลือกตาชั้นบนเพราะโดนบังโดย
    โหนกคิ้ว สันจมูกที่โด่งมาก และหน้าผากนูน






    4. ตาชิดกัน


    [​IMG]

    ตาประเภทนี้จะอยู่แคบเข้ามาใกล้จมูกทำให้ดูเศร้าๆเล็กน้อย คนมีตาชิดจมูกมักมีรูป
    จมูกยาว หน้าผากแคบ พบมากในคนที่มีสาย
    เลือดระหว่างเอเชียตะวันออกผสมแขก เช่นชาว
    ปากีสถาน






    5. ตาคว่ำ หรือที่หางตาตก


    [​IMG]



    ภาพนักร้องเลบานอนตอนเด็กและตอนโต

    ตาคว่ำ หรือที่หางตาตก
    ไม่ชี้ขึ้น จะเป็นลักษณะตาที่ตรงกันข้ามกับตา หางหงษ์
    ที่หางตาชี้ขึ้นซึ่งเป็นลักษณะเด่นในชาวเอเชียมองโกลลอยด์
    ตาคว่ำพบมากในชาวยุโรป แถบตะวันตก เช่นชาวเยอรมัน
    หรือ ทางเอเชียจะเป็นพวกชาวญี่ปุ่น ตาคว่ำนี้เป็นได้ทั้ง
    ชั้นเดียวและสองชั้น แต่จะมีหางตาที่เหมือนกันคือ
    หางตาตกเป็นลักษณะตาที่ทำให้รู้สึกเหมือนขี้สงสัย
    ให้ความรู้สึกสงสัย แต่ก็ทำให้ตาดูน่ารักในขณะเดียวกัน





    6. ตาสองชั้นธรรมดา


    [​IMG]

    ตาชนิดนี้ก็ตามชื่อ คือตาสองชั้นธรรมดา ไม่ได้มีตำหนิอะไรพิเศษ สามารถ
    แต่งให้ดูลึกคมได้






    7. ตาสองชั้นหลบใน


    [​IMG]

    ตาสองชั้นหลบในพบได้ในคนแก่คนมีอายุที่หนักตาบริเวณ
    ใต้คื้วหย่อนลงมาคลุมชั้นตาแบบเผยอๆ ไม่คลุมทั้งหมด
    หรือในชาวเอเชียทางตะวันออกเฉียงใต้บางคนที่เป็นลูก
    ผสมคนไทยกับจีน ทำให้มีตาสองชั้นจริง แต่เบ้าตาไม่ลึก
    มีหนังตาด้านบนที่ยังมีไขมันข้างใต้ห่อหุ้มอยู่ด้วยอิทธิพลสาย
    เลือดทางเชื้อจีนทำให้ แม้มีเชื้อไทยทำให้มีตาสองชั้น แต่
    ก็ดวงตาก็ดูไม่ค่อยโดดเด่นสะดุดตาเท่าไร เพราะหนังตาด้าน
    บนที่บวมแบนมันพับลงมาปิดชั้นตาทำให้เห็นชั้นตา
    แบบเผย๋อๆ เวลาทาอายไลน์เนอร์ ก็จะเห็นเป็นเส้นอาย
    ไลน์เนอร์ชัดแต่ไม่มีหนังตาด้านบนมาตัดกันให้ดูกลมกลืน
    เป็นชั้นเป็นเชิงน่าสะดุดตา





    8. ตาตะวันออกหรือ ตาชั้นเดียว (แบบผ่าตัดกรีดตาเป็นสองชั้นแล้ว)


    [​IMG]





    จากภาพด้านบน ต้นฉบับเขาได้ photoshop แล้ว
    ให้ตาดูใหญ่ขึ้นและปากเป็นกะจับเผยอสองข้างเท่ากันเป๊
    ตัวนางแบบได้ผ่าตัดตกแต่งเปลือกตาเป็นสองชั้นแล้วแต่
    เราก็ยังเห็นความแตกต่าง คือ ระหว่างตาสองชั้นธรรมชาติ
    กับ ตาสองชันที่เกิดจากศัลยกรรม จะมีระยะห่างจากคิ้ว
    ลงมาที่เปลือกตาจะมีมาก กว่าคนตาสองชั้นธรรมชาติ
    ซึ่งกรอบตาจะมีความลึกกว่า......
    ในขณะที่คนตาชั้นเดียวแต่ผ่าตัดให้มีสองชั้นจะยังมีกรอบตาแบน
    ตาลักษณะนี้โดยรูปร่างของกรอบเองก็จะเป็นในลักษณะ
    รูปทรงแหลมๆไม่กลม แม้ว่าจะติดขนตาทั้งด้านบน
    และล่างหรือกรีดอายไลนเนอร์หนาๆก็ยิ่งทำให้ตาดู
    เรียวยาวมากกว่าจะดูกลมขึ้น เนื้อที่ระหว่างคิ้วลงมายัง
    ชั้นตาจะกว้างและแบน ไม่เป็นเบ้าลึกเข้าไปแต่ตาชนิดนี้
    กำลังเป็นที่นิยมในโซนประเทศทางเอเชีย มากกว่าทาง
    โซนตะวันตกควรแก้โดยใช้กริทเทอร์สีขาวหรือทองทา
    เป็นเปลือกตาปลอมขึ้นมาและใช้สีน้ำตาลระบายเขียน
    กรอบเบ้าตาให้ดูมีมิติขึ้น




    8. ตาชั้นเดียว

    [​IMG]


    พบในคนเอเชียตะกูล
    มองโกลอยด์ทั้งหมด เปลือกตา
    ตาจะมีชั้นเตี้ยมากจนมองแทบไม่เห็นหรือไม่มีเลย
    ในขณะที่กรอบตาจากใต้คิ้วลงมาจะมีมากกว่าตาทุกชนิด
    และแบน ไม่มีมิติความลึก รูปตาเรียวแบบเดียวกับ ต.ย ที่ 6-7
    นอกจากจะพบในคนเอเชียตะวันออกแล้ว
    ก็ยังพบในคนอัฟริกันพื้นเมืองเผ่าคอยซานที่กล่าวว่าเป็นมนุษย์
    กลุ่มแรกของโลกก่อนจะเดินทางย้ายไปยังภูมิภาคต่างๆ








    [​IMG]



    เมื่อรู้แล้วว่าตาของใครเป็นชนิดไหนการดูแล บำรุงดวงตา
    ให้สวยงามก็แตกต่างกันไปด้วย สำหรับตาประเภทตั้งแต่
    ถึง1- 6 มักจะประสบกับปัญหาขอบตาหมีแพนด้า
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งตา ข้อ 1-2 มักจะชอบมีปัญหาตา
    ขาวมีเส้นเลือด แดง และระคายเคืองง่ายอีกด้วย
    ซึ่งซานาซ ฮุซเซน เจ้าของสปาร์อายุรเวทในอินเดีย
    ได้แนะนำให้ปั่นแตงกว่าและมะเขื่อเทศกับมะนาวสัก
    เล็กน้อย กรองเอาแต่น้ำและพอกไว้ที่ใต้ตา
    น้ำจากมะเขื่อเทศจะทำให้ใต้ตาหายช้ำและใสขึ้นให้
    ทำอย่างนี้บ่อยๆ ส่วน พวกข้อ 7-8พวกนี้จะไม่มีปัญหา
    แบบเดียวกับพวกกลุ่มแรก แต่จะมีปัญหาเรื่องขนตาสั้น
    ไม่ค่อยมีขนตา กับขนคิ้ว ตามตำหรับอินเดียโบราณ
    เขาก็จะใช้น้ำมันมะพร้าวมาลูกที่ขนตากับคิ้ว กระตุ้น
    ให้มันหนาและแข็งแรงยาวขึ้น อีกวิธีการอาศัยอยู่
    ในที่ที่อากาศหนาวจัด หรือ มีลมแรง นานๆเข้า
    ขนตาก็จะดกแะยาวขึ้นไม่มากก็น้อย
    อีกสูตรหนึ่งเขาว่าให้ใช้วาสลีนทาที่ขนตาก่อน
    นอนแต่ต้องระวังอย่าให้เข้าตาเป็นอันขาด




    [​IMG]




    ....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2013
  5. ดอกข้าว

    ดอกข้าว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2012
    โพสต์:
    394
    ค่าพลัง:
    +1,462
    เยี่ยมเลยค่ะ คุณดัชเชส คุณให้ความสุขครบทุกรสเลยนะคะ สยอง ตลอดจนความงาม ติดตามทุกชาแนลค่ะ มาให้กำลังใจค่ะ ติดตามตลอดค่ะ อืม.. เทียนหอมที่ว่า คือ เทียนของ Rain affrican .ใช่มั๊ยคะ อยากได้มากเลยค่ะ กำลังหาโอกาสสักช่องทางต้องหาซื้อให้ได้ อิอิ
     
  6. Pubeth

    Pubeth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +605
    เป็นความรู้ใหม่สำหรับผมเลยเรื่องน้ำมันสะเดาเป็นประโยชน์มากขอบคุณมากครับ
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    คือถ้ามองในมุมของเรื่องธาตุนะที่เราอาจจะเทียบเคียงประเด็นไปในเรื่อง
    ศาสตร์ลึกลับเกี่ยวความงามหรือเสน่ห์นะครับ..สังเกตุไหมว่าหลักๆจะมี
    ประเด็นคือเรื่องของ กลิ่น และเรื่องของเครื่องสำอาง.โดยที่เรื่องกลิ่น
    เราจะต้องได้กลิ่นก่อนแล้วเสน่ห์ถึงจะตามมา..ส่วนเรื่องเครื่องสำอางเรา
    จะต้องเห็นก่อน.แต่เหมือนมีมนต์สะกดให้เราต้องชงักหรือหลงไหล..

    แล้วที่นี้มันไปเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร.ถ้าเราพูดเรื่องธาตุหลักๆนะจะมีอยู่ ธาตุ
    คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และอากาศ แต่จะแยกย่อยมาเด่นๆ มีเหลือแค่ ธาตุคือ
    ดิน น้ำ ลม และ ไฟ เนื่องจาก อาการกับลมค่อนข้างแยกกันยาก.ใครที่เคยฝึก
    เกี่ยวกับทางด้านนี้จะเข้าใจได้ดี


    ..ที่นี้แต่ละธาตุจะส่งผลแตกต่างกันออกไป เช่น
    น้ำจะส่งผลทางด้านเสน่ห์ ดินจะส่งผลทางด้านฤิทธิ์และอำนาจ ส่วนไฟก็จะไป
    ทางด้านการทำลายล้าง..และลมก็จะส่งผลไปทางด้านการแอบแฝงซ่อนกาย..

    ..ที่นี้ในส่วนผสมแต่ละอย่าง.เรายกกรณีเรื่องกลิ่นนะ..จะใช้ธาตุน้ำเป็นหลัก.และ
    ก็จะมีธาตุน้ำที่เป็นธาตุพี่เลี้ยงช่วยอีกแรง ความหมายคือ ต้องใช้อย่างน้อย ส่วน
    ประกอบกันเป็นอย่างน้อยผลถึงจะออกมาได้ตามที่่ต้องการ.

    ส่วนมากธาตุน้ำพี่เลี้ยงนี่หละครับที่จะเป็นสูตรลับเฉพาะที่ทราบเฉพาะคนที่คิดค้นได้.
    ..และถ้าจะให้ดีที่สุดด้วยแล้วก็จะต้องมี..ธาตุน้ำอีกธาตุที่เป็นส่วนหนุนที่มีพลังในตัวเอง.
    ในที่นี้ก็คือผลิตภัณฑ์บรรจุนั่นหละก็จะครบองค์ประกอบ ทางพุทธเค้าจะเรียกว่าพลังของแก้ววิเศษต่างๆนั่นเอง


    ที่นี้พอได้ธาตุน้ำทั้ง คือ ธาตุน้ำหลัก(ส่วนผสมหลักที่บอกได้)
    ธาตุน้ำพี่เลี้ยง(ส่วนผสมปกปิดเป็นสุตรลับเฉพาะ)
    และธาตุน้ำหนุน(ผลิตภัณฑ์บรรจุที่มีพลังในตัวเอง).ผลก็จะออกทางด้านเสน่ห์หา


    แก่ผู้ได้กลิ่นและธาตุไฟจะถูกทำให้ให้มีน้อยที่สุดเลยไม่รู้สึกถึงการทำลายและก็
    เพราะมีธาตุลมเป็นตัวหนุนส่งสุดท้ายเนื่องจากเด่นทางด้านกำบังซ่อนเร้น
    .แม้ยังไม่พบเจอก็ส่งผลให้ต้องเสน่ห์ได้..พอเข้าใจนะที่อธิบาย...


    ส่วนในกรณีที่เป็นเครื่องสำอางเช่นแป้งแต่งหน้าหรืออะไรไม่รู้นะเรียกไม่ถูก
    ของทางโน่น สังเกตุว่าจะใช้ธาตุดินเป็นหลัก.และหลักการณ์คล้ายๆกับธาตุน้ำ
    เนื่องจากธาตุดินเด่นไปทางฤิทธิ์และอำนาจ
    .
    .เมื่อครบองค์ประกอบทั้ง ธาตุหลักธาตุพี่เลี้ยงและธาตุหนุนแล้วจึงมีผลทำให้ผู้พบเห็น
    เหมือนต้องมนต์สะกดแต่ว่าจะยังคงธาตุไฟไว้ด้วยเป็นผลให้ต้องมีสี
    .แต่ไม่ถึงขั้นที่จะทำลายแค่อยากจะ
    เข้ามาลองเสี่ยงดูเพื่อทำร้ายเล็กน้อย คริ คริ .และธาตุลมแอบส่งท้ายตามเคย

    และผลก็เป็นไปตามแต่ที่ผู้ใช้ปรารถนา
    เพราะเน้นไปทางอำนาจและฤิทธ์เลยเป็นไปตามความคิดตอนที่กำลัง
    ใช้งานซึ่งส่วนมากน่าจะให้คนมองเพื่อให้เห็นว่าสวยหรือน่ารัก ตั้งแต่เริ่มตกแต่งแล้ว....
    ผลที่ออกมาเวลามีคนพบเห็นก็เลยออกไปตามที่ตั้งใจไว้ในตอนแรกไงครับ;)
     
  8. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    .... นับถือ ๆ ลึกซึ้งมากเลยคะ .. แต่คำว่า เสน่หา นั้นมันเป้นสิ่งที่ชนะได้ยากจริง ๆ
     
  9. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เครื่องสำอางค์อินเดียโบราณ

    [​IMG]


    วิทยาศาสตร์ของความงามในโลกโบราณเป็นที่เชื่อกันว่ามีต้นกำเนิด
    ในประเทศอียิปต์และอินเดีย มีการใช้ Kohl
    เขียนอายลน์เนอร์ บันทึกที่เก่าแก่ที่สุด
    ของเครื่องสำอางและการประยุกต์ใช้ของย้อนกลับ
    ไปประมาณ 2,500 และ 1,550 BC ก่อนคริตสกาล
    ณ. อารยธรรมริมฝั่งสินธุ. มีหลักฐานของแนวคิดขั้นสูง
    ด้านความงาม เครื่องสำอางค์ เครื่องประทินผิวนั้นจัด
    อยู่ในส่วนหนึ่งของพิธีกรรมโบราณซึ่งใช้กันทั้งชายและ
    หญิงในอินเดียโบราณ การปฏิบัติเหล่านี้ถูกผสมผสาน
    ให้เข้ากับฤดูกาล (สันสกฤต: Rutus) และพิธีกรรม
    บวงสรวงเทพในชีวิตประจำวัน(สันสกฤต: Dinacharyā)
    อย่างมีนัยสำคัญของการใช้
    คคหสต ดิฉันชอบการแต่งกายของผู้หญิงอินเดียสาวๆ
    ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ที่เรียกว่าชุด Suit Churidar
    ชูริดาร์ จะปิดหมดถึงคอ แขนยาวหรือแขนตุ๊กตา
    โดยมากจะอินเดียมุสลิมจะใส่ อย่างกระโปรง
    สีเหลืองด้านบนนี้ ดูเรียบร้อยดีนะคะ จัดเป็นชุด ชูริดาร์
    แต่ถ้า Anarkali อนากาลี่ จะเปิดหลังมีโบว์ผูกแบบนั้นไม่ชอบ




    [​IMG]


    เครื่องสำอางไม่เพียงมีส่วนสำคัญ
    ในการสร้างการพัฒนาบุคลิกภาพภายนอกที่น่า
    พอใจและน่าสนใจ แต่ในอินเดียโบราณยังเชื่อว่าส่งผลต่อ
    ด้านบุญกุศลที่จะเกิดในการทำให้เทพเจ้าพึงพอใจอีกด้วย
    เช่นการทาสีที่ปากให้แดง
    สวยงาม เวลาแสดงระบำต่อหน้าทวยเทพ
    (สันสกฤต: ปัญญา) คุณภาพชีวิตที่ดี
    (สันสกฤต: Aayush และ Aarogyam)
    สร้างความสุข (สันสกฤต: Anandam) ในบริบทนี้
    มีบันทึกการอ้างอิงที่เก่าแก่ที่สุดเกี่ยวกับช่างเสริมสวย
    ครั้งแรกใน มหากาพย์มหาภารตะที่ยิ่งใหญ่ เล่าว่า
    แพนดาวาส หรือ ปาณฑพ(เป็นกลุ่มพี่น้อง 5 คน
    ที่สืบเชื้อสายจากท้าวปาณฑุ ประสูติจากพระนางกุนตี
    และพระนางมาทรี ที่ร่ายเวทมนตร์อัญเชิญเทพมา
    ประทานโอรส ถูกเนรเทศ......... (Draupadi)
    พระนางเทราปตี พระมเหสี ของ ปานฑพคนโตซึ่ง
    นามว่ายุธิษฐิระ นั้นทำงานให้กับพระราชินีแห่งVirata
    (อำเภอเหนือของอินเดีย) เธอเรียกตัวเองว่า
    Sairandhri (หญิงผู้ดูแลในส่วนของผู้หญิงของ
    พระราชวัง) มีการอ้างอิงในตามตำนานอ้างอิงว่า
    นางคอยดูแลถือกล่องโต๊ะเครื่องแป้งของราชินี
    (PrasādhanaPetikā ) ซึ่งจะบรรจุไปด้วย
    อุปกรณ์ อาบน้ำ หวี แปรง กระจก และเครื่อง
    สำอางค์แบบต่างๆ


    [​IMG]



    เครื่องสำอางหมายถึง "สารต้นกำเนิดของความ
    หลากหลายผสมทางวิทยาศาสตร์และไว้ใช้
    ทำความสะอาด บรรเทาปัญหาผิว การปกปิดข้อ
    บกพร่องและ สวยงาม" (สารานุกรม Britannica, 1970)
    ที่ใช้ในบทความนี้ใน ความรวมถึงสุขอนามัย
    ในช่องปากเช่นกัน


    [​IMG]

    (มาสก์พอกหน้า) มีการใช้สำหรับฤดูกาลที่แตก
    ต่างกันmสำหรับการตกแต่งร่างกาย ส่วนผสมที่
    ใช้ในช่วงฤดู​​หนาวค่อนข้างแตกต่างจากที่เคยใช้
    ในฤดูกาลที่อบอุ่น ในความเป็นจริง
    Ashtanga Hridaya เป็นชื่อคำภีร์ อายุรเวท
    ที่เก่าแก่ถึง 1500 ปี มีหกสูตรที่แตกต่างไป


    [​IMG]



    จะใช้สำหรับ 6ฤดูกาลของปี เครื่องสำอางค์
    ชนิดพิเศษ คือ Tailams (น้ำมัน) และ
    Ghritas (เนยหรือไขมันเปลวเป็นก้อน)
    ถูกนำมาใช้สำหรับการตกแต่งใบหน้า ยากำจัดขน
    และมียาสระผมที่กำจัดมันบนหนังศีรษะ ส่วนผสม
    พิเศษถูกนำมาใช้สำหรับล้างผม และมักผสมสูตร
    ยาที่เร่งการทำให้ผมยาวเร็วเข้าไปด้วย ป้องกัน
    ผมร่วงและ ผมหงอกก่อนวัยอันควร สีย้อมผม
    ก็เริ่มมีใช้ในสมัยนั้น ทั้งในอินเดีย และกรุงโรม
    คือการใช้เฮนน่า โดยจะแบ่งโทนสีออกเป็น
    สามแบบ คือถ้าต้องการผมสีดำจะใช้สีน้ำเงิน
    เขมจากลูกครามย้อม ถ้าสีเหลืองทองก็จะใช้ผง
    กำมะถัน และสีแดงใช้เฮนน่า




    [​IMG]


    ผมมีกลิ่นหอม ผงอาบน้ำกลิ่นหอมและดับกลิ่นของร่างกาย
    นอกจากนี้ยังพบว่าการมีการกล่าวถึง ในศาสตร์
    อายุรเวทของอินเดียมีสมุนไพรจำนวน314 ชนิด
    ที่ได้ถูกศึกษาในศาสตร์อายุรเวทของอินเดีย
    โบราณ 151 สูตรสมุนไพรไม่ได้ระบุชื่ออย่าง
    เป็นทางการและอีก 38 ชนิดยังไม่ได้ศึกษา
    อย่างชัดเจน ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของพันธุ์พืช
    ตามด้วยการอ้างอิงชื่อภาษาสันสกฤต / Prakrit
    หรือคำพ้องความหมายและการอ้างอิงที่กำหนด
    ความสัมพันธ์กับชื่อทางวิทยาศาสตร์



    พระราชาผู้ให้ความสนใจในเครื่องสำอางค์ และ สมุนไพร


    [​IMG]



    ราชา Serfoji ราชา เซอโฟจี ที่ 2 ขึ้นครอง
    บัลลังก์ของ(Thanjavur ในรัฐทมิฬนาฑูของอินเดียใต้)
    ใน 1788 AD และปกครองจนถึง 1832 AD
    ทรงเป็นสถาปนิกของห้องสมุดที่ยิ่งใหญ่ที่เรียกว่า
    "เซอโฟจี สรัสวดี มาฮาล " พระองค์ทรงให้ความ
    สนใจมากในการเตรียมการด้านการแพทย์และการ
    วิจัยสมุนไพร พระองค์ทรงทดสอบหลากหลายสูตร
    ยาสมุไพรกับผู้ป่วยโรคต่างๆ
    โดยการทำงานร่วมมือกับแพทย์อังกฤษ
    ในการจดบันทึกอาการป่วยและการปรับใช้ยาให้
    เหมาะสม พระองค์ทรง เป็นที่ยอมรับของแพทย์อังกฤษ
    และทรงก่อตั้งสถาบันวิจัยทางการแพทย์ของอินเดียชื่อ
    "Dhanvantari Mahal" ซึ่งดำเนินการทดลอง
    ทางการแพทย์และพระองค์ก็เลือกไม่กี่สูตรยาวิจัย
    ที่ีมีประสิทธิภาพจริงๆกับคนไข้ สูตรเหล่านั้นได้
    ถักทอเป็นบทกวีและเขียนลงบนใบลานหรือ
    กระดาษให้แก่ชาวทมิฬรุ่นต่อไป และถูกในทาง
    กลับกันการแปลเป็นภาษามราฐี
    (ที่รู้จักกัน "Bakhar ฐี" หรือการพูดและภาษา
    เขียนเก่าในช่วงศตวรรษที่ 18-19) เพื่อประโยชน์
    ของประชาชนที่พูดภาษามราฐี สูตรเหล่านี้จะ
    ถูกเรียกว่า Anubhoga Vaidya Bhaga
    ซึ่งหมายความว่าสูตรที่ผ่านการทดสอบจาก
    ประสบการณ์ หลายต้นฉบับเหล่านี้ได้ถูกตี
    พิมพ์พร้อมกับร้อยแก้ว


    [​IMG]

    ครอบครัวโบราณหลายครอบครัว ยังคงมี
    การใช้ยาสูตรโบราณของ
    ราชา เซอโฟจี เพื่ออำนวยความสะดวกการจัด
    เตรียมยาราชา พระราชาทรงมีแปลงปลูกสมุนไพร
    ขนาดใหญ่ในวังของพระองค์ และทรงสั่งให้ศิลปินส์
    วาดภาพพืชแต่ละชิดด้วยสีน้ำเก็บสะสมไว้ในหนังสือ
    ตำราไว้ค้นคว้า



    สูตรลับแก้ริมฝีปากแตกของราชาเซอโฟจี




    [​IMG]



    ปากที่แตกแห้งนอกจากจะเจ็บแล้วยังทำให้ใบหน้า
    ดูไม่น้ามองอีกด้วย ราชาแห่ทมิฬนาฑู
    มีสูตรลับดังนี้คือนำเนื้อมะตูมมาตากแห้งและ
    ฝนให้เป็นผงเสร็จแล้วนำมาผสมกับน้ำนมของ
    ผู้หญิงทีกำลังมีนมให้นมบุตร
    แล้วเอามาทางริมฝีปากเป็นเวลา 10
    วันปากจะหายแตกอย่างสมบูรณ์



    เคล็ดลับการทำให้หลังงามแบบสาวแขกที่ใส่ส่าหรี่โชว์หลัง
    ผิวกายขาวผุดผ่องขึ้นมาได้1-2 เชด ของ
    ชาวอินเดียใต้



    [​IMG]



    ผิวสีอ่อนเปร่งประกายนั้นเป็นสิ่งที่นิยมชมชอบมาก
    ของชาวอินเดียใต้ที่มักจะมีสีผิวคล่ำกว่าอินเดียในทุกๆ
    ภาค การที่จะทำให้ขาวขึ้นมาได้สัก 1-2-3 เชด จาก
    สีผิวเดิมก็เป็นเรื่องน่ายินดีวิธีการก็คือ นำรากของเอื้อง
    หมายนามาบดผสมกับ บัวหิมะฮิมาลัย, เมล็ดงา,
    ใบของจ๊าขาม/ ตุ๊ด/ มะรุมป่า/ พญากะบุก :จะเป็น
    ต้นไม้ชนิดเดียวกันแต่ละท้องที่เรียกคนละชื่อ ใบของ
    ดอกหยีน้ำ, เปลือกของไม้ เดฟดาร์บนเขาฮิมาลัย
    และเปลือกของไม้ซาลาลี ฮาเลด นำส่วนผสมทั้งหมด
    มาเผาระหว่างขี้ควายแห้ง นำออกมาบดจนเป็นเนื้อแป้ง
    และพอกตามตัวบ่อยๆผิวจะขาวขึ้นถึง 2-3 เชด จากเชดเดิม





    วิธีแก้รังแคบนศีรษะแบบราชา แห่ง ทมิฬนาฑู


    [​IMG]





    เมล็ดฝิ่นที่ตากแห้งแล้ว ในทางการค้าเรียก
    poppy seed หรือ maw seed
    นำมาผสมกับนมสดและหมักผมจะทำให้หาย
    จากรังแคได้อย่างปริดทิ้ง



    รักษารอยแผลแตกลายของสตรีมีครรภ์ สูตรพระฤษีอินเดีย


    [​IMG]



    จริงๆแล้วพริกสีแดงนั้นเป็นพืชชนิดใหม่ที่เข้าไปใน
    อินเดียในปีคศ 17 แต่ก็มีการนำมาใช้ทางอายุรเวท
    ในส่วนผสมสบู่แก้ผิวแตกลายสูตรนี้คิดค้นโดยฤษีใน
    สมัยโบราณของอินเดียใช้
    ได้ทั้งหญิงและชายที่มีรอยแตกคือการนำพริกสีแดง
    ที่กินเผ็ดๆนั้นแหละมาเป็นส่วนผสมในสบู่ที่มีเมล็ด
    พืชแข็งผสมอยู่ด้วยและใช้ขัดถูไปตาม รอยแตกลาย
    บนผิว ความจริงแล้วมีหลากหลายสูตรมาก หรือจะ
    เอายางจากว่านหางจระเข้ผสมน้ำมันดอกคาโมมายด์
    พอกไว้สองชั่วโมง



    ประโยชน์ของพริก


    [​IMG]

    ถือว่าพริกเป็นสมุนไพรอย่างแพร่หลายที่แพร่หลายใช้กระตุ้นให้เกิด
    ธาตุร้อนในร่างกายกรณีที่ผู้ป่วยเป็นคนธาตุเย็น
    พริกยังลดปริมาณคอเรสเตอรอลได้ด้วย
    แต่ก็มีการประยุกต์ใช้กว้างที่ใดก็ตามที่มีอาการ
    ของธาตุเย็นมากเกิน ให้ผสมน้ำกับผงพริกป่นที่
    , ไม่ควรใช้ Cayenne หรือ พริก ในอาการไข้
    หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ช่องปากและลิ้น
    แห้ง ในทำนองเดียวกันในกรณีของอาการอาหาร
    ไม่ย่อยท้องอืดท้องผูกและ พริก ส่งเสริมการหลั่ง
    ย่อยอาหารและช่วยกระตุ้น peristalsis
    พริก นำมาใช้เพื่อบรรเทาอาการกระตุกของลำไส้
    และหยุดเลือด นอกจากนี้ พริกยังถูกนำมาทำ
    เป็นเจลใช้ทารักษาผิวหนังอักเสบ เข่าอักเสบ
    แก้ปวดข้อ ปวดเมื่อยตามตัว เริม หรืองูสวัดอีกด้วย




    [​IMG]





    ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  10. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    สูตรเคล็ดลับสเน่หาแบบอินเดียนี้ก็มีนะคะ อยู่ในส่วน พะเวทย์เช่นกันคือ กามาสูตร แต่ไม่แน่ใจว่าจะเอามาลงในเวปนี้ดีไหม เพราะเนื้อหาติดเรท เอาเป็นว่าจะหามาเล่าแบบรวมๆและกัน rabbit_scary
     
  11. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ศาสตร์ความงามของอินเดีย

    [​IMG]


    การกำจัดขนให้เรียบเนียนแบบนางในฮาเล็ม



    [​IMG]



    ตำนานเล่ากันว่าฮาเล็มหรือราชสำนักฝ่ายหญิงที่มีแต่
    บรรดานางสนมของกษัตริย์นั้นจะสามารถเข้าไปได้ก็
    แต่กษัตริย์องค์เดียวเท่านั้น เพราะภายในนั้นจะมีแต่
    บรรดาสาวๆนับร้อยที่เป็นมเหษีนางบำเรอตำแหน่งต่างๆ
    ของ สุรต่าน กาหริบ มหาราชา ทางเมืองแขก ซึ่งสาวๆ
    เหล่านี้ล้วนได้รับการเลือกเฟ้นมาแล้วว่าสวยงามและมี
    คุณสมบัติถูกต้องตามประเพณีนิยม ของสมัยนั้นที่ผู้หญิง
    ไม่ว่าจะประเทศไหนก็ล้วนเป็นช้างเท้าหลังของผู้ชาย
    สตรีที่จะมาเป็นนางๆในฮาเล็มจำต้องมีคุณสมบัติเหมาะ
    สมในทุกเรื่องตั้งแต่การบ้านการเรือน รูปร่างหน้าตา
    ดังนั้นราชสำนักจึงเป็นศูนย์รวมแห่ง ศาสตร์แปลกๆลึกลับ
    ทั้งหลายตั้งเรื่องความงามไปจนถึงเรื่องกามาสูตร



    [​IMG]

    การมีผิวกายเกลี้ยงเนียนไร้ขนจึงเป็นสิ่งที่บรรดาสาว
    งามในฮาเล็มต้องค้นคิดวิธีขึ้นมาให้ ผิวพรรณเกลี้ยงเนียน
    ปราศจากขนบนร่างกาย ในทุกตำแหน่งที่ไม่พึงประสงค์
    เขาก็จะนำมะขามป้อมและดีปลีมาทำให้แห้งเอามาผสม
    กับยางของต้นกระบองเพชรอินเดียชนิดนึงที่คล้ายๆต้น
    โป้ยเซียน (Nivadunga) หรือชื่อวิทยาศาสตร์ คือ
    Euphorbia nivulia Ham เมื่อส่วนผสมเข้ากันดี
    แล้วก็เอาไปทาบริเวณที่มีขนไม่พึงประสงค์ ขนก็จะ
    หลุดร่วงออกมา ถ้าสูตรของตุรกีเขาก็จะใช้น้ำผึ้งผสม
    ปูนชนิดนึงแล้วลอกออกมาแบบแว็กซ์ มีบันทึกว่าเจ็บ
    อยู่เหมือนกันแต่บรรดานางๆทั้งหลายก็ยอมทนทุกอย่าง
    เพื่อความงามในการมัดใจสุรต่าน



    ปทุมมาแบบนางในภาพวาดฝาผนังของอินเดีย


    [​IMG]




    สมัยโบราณนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางเอเชียอย่าง
    อินเดีย จีน และญี่ปุ่น ผู้หญิงที่ได้รับการยกย่องว่า
    เป็นนางพญาผู้มีบุญบารมีก็คือ บรรดาสตรีที่ได้เป็นแม่คน
    และสามารถให้กำเนิดลูกชายได้เพราะในสมัยก่อนนั้น
    ยังมีความป่าเถื่อนและสงครามฆ่าฟันกันบ่อยครั้ง
    มีพวกผู้ชายล้มตายลงเป็นจำนวนมาก สังคมจึงปรารถนา
    ที่จะให้ประชาชนให้กำเนิดลูกชายเยอะๆเพราะผู้าย
    นั้นทนงานหนักและทำอะไรที่รำบากได้มากกว่าผู้หญิง
    สตรีที่ดีในสมัยนั้นจึงเป็นค่านิยมว่าต้องมีบุตรสืบวงค์
    ตระกูลครั้นพอสตรีมีบุตรมากๆเข้าร่างกายก็เริ่มขยาย
    ขนาดและหย่อนคล้อยไปเป็นธรรมดาโดยเฉพาะสตรี
    ที่ให้นมบุตร คับก็มักจะใหญ่และยานไม่เล็กแบบสาวๆ
    .....หญิงอินเดียโบราณจึงต้องคิดค้นสูตรการรักษา
    ปทุมมาของเหล่านางๆให้เข้าที่เข้าทาง


    [​IMG]

    พวกนางก็จะใช้ รากของต้น ashwagandha
    หรือที่เรียกว่าโสมอินเดีย และก็ผล คายา ปิมปาลี
    Gaja Pimpali และ เหง้าของโกฐกระดูก
    (Saussurea lappa Clarke) และว่านน้ำ
    นำมาทำเป็นแป้งผสมกับเนยที่ทำจากนมกะบือ
    นำมานวดปะคบที่อก ก็จะทำให้หายหย่อนจาก
    การมีบุตรหลายคน


    มาร์กพอกหน้าใสแบบสาวอินเดียฮิมาลัย



    [​IMG]


    วิธีการคือให้นำน้ำกรองถั่วแดงมาผสมกับน้ำผึ้งและพอกที่ใบหน้า
    เป็นเวลาเจ็ดคืนใบหน้าก็จะสาวสดใสมี
    สุขภาพดีแบบสาวอินเดียในฮิลายันประเทศ




    วิธีการรักษาสิวชั้นสูง



    [​IMG]



    ให้นำเอาลูกผักชีป่นผสมกับว่านน้ำและต้นเหมือด
    หอม หรือ อีกชื่อท้องถิ่นคือ อีอัก หรือ อีกชื่อดังนี้
    คือ กฤษณา/ ตะลุมนก/ หว้า/ เหมียดหล้า/
    เหมือดเหล้า/ เหมือดน้อย เหมือดโลด และ
    เหง้าของโกฐกระดูก นวดจนเป็นครีมเหลวกับน้ำ
    ใช้พอกหน้ารักษาอาการสิวรุนแรงของวัยรุ่น





    น้ำยาสร้างสเน่ห์แก่วจนะ


    [​IMG]





    วิธีการคือใช้สุปารีหรือหมากผสมกับเหง้าของ
    โกฐกระดูก ผสมกับส่วนผสมของต้น วัลเรอเลียน่า
    ซึ่งเป็นไม้กลิ่นหอมทางปากีสถานหรือตะวันตก
    เฉียงเหนือของอินเดีย มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า
    ทันการ่า Tangara ผสมจันทร์เทศ ผสม
    กานพลูผสมกระวานเทศแล้วอมไว้ในปาก
    จะช่วยให้หอมสดชื่น





    กายหอมเหมือนนางยจนากานดา


    [​IMG]



    ผงจากเปลือกของ Sahakara Aam หรือ
    มะม่วงผสมเข้ากับน้ำ ทับทิม & ผสมกับผง
    หอยสังข์หอม Shankha นำไปใช้กับส่วน
    ที่เกี่ยวข้องของร่างกาย ขจัดกลิ่นเหม็น
    ผงที่ทำจาก มะขาม และ ผสม เมล็ด
    สะเดาบด ใช้ขจัดกลิ่นเหม็น


    [​IMG]

    ตัวอย่างของสูตรดังกล่าวข้างต้นพัฒนาโดย
    นักวิจัยชาวอินเดียโบราณซึ่งได้กลายเป็น
    ตำนานวิวัฒนาการทางการแพทย์อินเดีย
    ที่ผสมผสานเข้ากับศาสตร์ความงาม

    งานวิจัยที่เกี่ยวข้องในงานนี้คือการรวบรวม
    สูตรเครื่องสำอางจากแหล่งต่างๆแล้วจะหา
    ที่เหมาะสมชื่อพฤกษศาสตร์เทียบเท่าคำ
    ศัพท์ภาษาสันสกฤตและ Prakrit
    (สำหรับส่วนผสมที่ใช้ในสูตร)
    นี้ทำด้วยความช่วยเหลือของคนพื้นเมืองและ
    vaidyas แพทย์อายุรเวท ที่มีประสบการณ์ใน
    ภาคใต้อินเดียและราษฏระ โดยการศึกษาคุณ
    สมบัติของพืชเหล่านี้เป็นส่วนผสมที่ใช้ได้จริง
    สูตรบางส่วนยังคงใช้กันอยู่โดยผู้หญิงตามชนบท
    ของอินเดียในการทำให้มีกายหอม



    [​IMG]



    แม้ชนชาติที่อาศัยอยู่ในดินแดนต่างๆ จะมีภาษา
    วัฒนธรรม และองค์ความรู้ แตกต่างหลากหลาย
    แต่มีอยู่ศาสตร์หนึ่งที่สามารถ แหกกฎความแตก
    ต่างนี้ได้ นั่นก็คือ “ศาสตร์แห่งความงาม” ที่ทุกชน
    ชาติล้วนให้ความสำคัญและมีการถ่ายทอดองค์
    ความรู้นี้จากรุ่นหนึ่ง ไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง



    ขนตางอนงามเหมือนตุ๊กตาแบบสาวแขก


    [​IMG]




    อินเดีย แหล่งอารยะธรรมโบราณที่เป็นแหล่งกำเนิด
    ศาสตร์ต่างๆ มากมาย ศาสตร์แขนงหนึ่งของอินเดีย
    ที่ถึงแม้ว่า จะเกิดมานับพันปีแล้ว แต่ก็ยังคงใช้กัน
    มาถึงปัจจุบัน นั่นก็คือ “อายุรเวท” ที่ถือเป็นศาสตร์
    แห่งการ ดูแล รักษา บำบัด ให้ร่างกายมีสุขภาพ
    แข็งแรง และศาสตร์แห่งความงามนี้ก็ถือเป็นแขนงหนึ่งของอายุรเวท

    ด้วยเหตุนี้ สาวอินเดียทุกคนจะได้รับการอบรมให้รู้
    จักคุณค่าของสมุนไพร คุณประโยชน์ของผลไม้นานา
    ชนิด เพื่อใช้ในการถนอมผิวพรรณ อบร่ำกลิ่นหอม
    ให้กับเรือนผม ระงับกลิ่นปาก และยังเรียนรู้ที่จะใช้
    ประโยชน์จากน้ำมัน สกัดจากเมล็ดพืชและผลไม้
    เพื่อมาใช้เสริมความงามอีกด้วย

    หลายคนคงเคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่นิยามความ
    งามของหญิงสาวเอาไว้ว่าต้องมี “ผิวพม่า นัยน์ตาแขก”
    นี่อาจถือเป็นคำยืนยันความงามของนัยน์ตา “สาวแขก”
    ได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับการดูแลความ
    งามของดวงตาสาวแขกมาฝากกัน

    ขนตา แน่นอนว่า ขนตาที่งอนงาม เรียงเส้น
    อย่างเป็นระเบียบ และมีความหนาเป็นเผงพอ
    งาม ล้วนเป็นยอดปรารถนาของหญิงสาวทุกคน
    ตำรับอายุรเวทบอกไว้ว่า สมุนไพรที่จะช่วยให้
    ขนตางอน งาม และหนา ก็คือ “น้ำมันละหุ่ง”
    ซึ่งเรื่องนี้สาวอินเดียต่างก็รู้กันดี


    [​IMG]

    ดังนั้น เคล็ดลับที่สาวอินเดียเขาใช้กันเป็นประจำ
    ก็คือใช้น้ำมันละหุ่งแตะบริเวณขอบตาก่อนนอน
    ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหนาของขนตาและยังทำให้
    ขนตาแข็งแรง นอกจากนี้ คุณแม่ชาวอินเดียทั้ง
    หลายต่าง ก็ใช้วิธีนี้กับลูกสาวและลูกชายของตน
    จึงไม่ต้องแปลกใจเมื่อเห็นเด็กๆ ชาวอินเดียเขา
    มีขนตาหนา ยาว และงอนกันถ้วนหน้า


    [​IMG]

    รอยคล้ำรอบดวงตา ก่อนอื่นควรเข้าใจก่อนว่า
    รอยคล้ำรอบดวงตาที่เกิดขึ้นกับเรานั้น เกิด
    ได้จากหลายสาเหตุ บางคนก็รับถ่ายทอดมา
    ทางพันธุกรรม บางคนเกิดจากความเจ็บป่วย
    เช่นโรคโลหิตจาง บางครั้งเกิดเพราะนอนน้อย
    เกินไป บางครั้งการมีประจำเดือนมากผิดปกติ
    ก็เป็นสาเหตุของรอยคล้ำรอบดวงตาเช่นกัน



    [​IMG]


    มีอีกสูตรคือฝานมันฝรั่งต้มบดและเอามาพอกใต้ตา





    ....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  12. ดอกข้าว

    ดอกข้าว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2012
    โพสต์:
    394
    ค่าพลัง:
    +1,462
    คุณดัชเชสคะ ภาพที่ลงเนี่ยคือผู้หญิงอินเดียสมัยปัจจุบันใช่มั๊ยคะ หน้าตาสะสวยแบบสมัยใหม่และเสื้อผ้าแพรพรรณชุดสาหรี่ สวยงามมากเลยค่ะ ชาวอินเดียเนี่ยเรื่องยุรเวทศาสตร์ เครื่องประทินผิว ดูแลรักษาบำรุงเรื่องเครื่องหอม เขาเลิศล้ำกว่าเรามาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วใช่มั๊ยคะ
     
  13. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301


    ส่วนตัวชอบ ซัลวา คามิซ กับชุด ชูริดาร์ มากที่สุดดูมันน่ารักดีกระโปรงพองๆ เดี๋ยวคราวหลังจะเอาชุดแฟชั่นสาวอินเดียมาาให้ดูคะ ปกติถ้าสารี่จะคนมีอายุใส่ ถ้าสาวๆจะใส่ชุดกระโปรบานๆแบบรูปชุดชูริดาร์สีเหลืองในกระทู้ก่อนหน้านี้คะ ยิ่งสีฟ้ายิ่งสวย......อย่างรูปสาวบางคนในกระทู้ที่หน้าตาดูเป็นแขกหวานโดยมากจะแขกปาทานหรือปากีสถานคะถ้าอินเดียก็เป็นอินเดียตะวันตกทางตักศิลา เคยเจอคนหนึ่งสาว ปาทาน ยังกับ ลีอา ดิซอน แต่ตาลึกกว่าหน่อย สวยกว่า แต่รูปร่างสีผิวประมาณนั้น



    ผู้หญิงอินเดียสมัยก่อนที่สวยๆ
    ก็มีหลายคนนะคะอย่างรูปนี้ นีล่า ไนดู นี้อินเดียสมัยก่อนติด
    อันดับงามที่สุดในโลกโดยนิตยาสาร Vouge




    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]


    ปรียา ราชวัณศ์


    [​IMG]


    ปาวีน บาบี

    [​IMG]


    อย่างคนนี้ นีแลม โคธาวารี ตอนสาวๆสวยมากคะ สวยแบบเก๋ๆเหมือนคล้ายๆ
    ฝรั่งผมเค้าจะทองๆหน่อย มีลักยิ้ม ตาเค้าจะออก
    แนวตาลึกไม่โตเป็นกุหลาบมากแบบอินเดียทั่วไป



    [​IMG]


    [​IMG]



    และก็มหารานี กยาตรีเทวี


    [​IMG]



    แต่ถ้าชอบสายแนว Traditional อินเดียน หรือคลาสสิก
    อินเดียก็คนนี้คะ ชื่อ ศรีเทวี สมัยก่อน ตาเด้งมาก



    ภาพดาราอินเดียแบบอินเดียแท้ๆชื่อ ศรีเทวี


    [​IMG]


    แต่หนังอินเดียเดี๋ยวนี้พัฒนาสีสันฉากชุดไปไกลจนระดับหนังฝรั่ง
    ส่วนตัวเอกถ้าสวยก็สวยแนวทันสมัย หน้าอินเตอร์ไปเลย

    ส่วนตัวชอบดาราอินเดียสมัยก่อนมากกว่าสมัยนี้ สมัยตอนดัชเชส
    อยู่ประถมคุณยายของดิฉันชอบดูหนังอินเดียมาก....น่น วรนุช
    แสดงละครเรื่องแรกตอนดัชเชสอยู่มัธยมต้น จำได้ว่ามีเสียงวิพาก
    วิจารณ์เรื่องนางเอกหน้าธรรมดาเกิน สมัยนั้นดาราไทยที่สวยๆก็ต้อง
    ตาเด่นนำมาเลย ของอินเดียก็เหมือนกัน จะนิยมผู้หญิงหน้ารูปไข่
    มีแก้ม หรือหน้ามีมิติ ตาใหญ่ๆ ผมหยักศกพองๆเหมือนตุ๊กตา แบบ
    มนฤดี ยมาภัย ที่แสดงเรื่องนางทิพย์......ส่วนดาราอินเดียสมัยก่อน
    จะเน้นเหมือนแขกขาว ตาคม ผิวขาว หน้ารูปไข่ เดี๋ยวนี้ที่ดัชเชสดู
    ในหนัง รู้สึกจะเอานางเอกอินเดียใต้ แบบผิวคล้ำๆหรือ อินเดีย
    ตะวันออกที่หน้าเหมือนคนไทยทางใต้อย่าง เบนพรชิตา มาเล่น
    กันเยอะ ......คนขาวๆเหมือนแขกขาวก็มีแต่อินเดียเค้าเป็นประเทศ
    อนุรักษค์นิยม พวกดาราอินเดียขาวๆออกฝรั่งๆก็ได้เล่นแต่โดยมาก
    จะเป็นนางรอง หรือผู้ช่วยพระเอก .......หรือถ้าได้เล่นเป็นตัวเอก
    ก็จะไม่บ่อยนักและไม่ดังเท่าดาราอินเดียที่ผิวคล้ำ อย่างดาราอินเดีย
    ที่ขาวนี้ก็มี การิชมา กาปูร์นี้ สวยมากคะหวาน ผิวขาว ผอมเล็ก
    ตาสีฟ้าเขียว เป็นคุณหนู ๆ ดัชเชสลุ้นอยากให้นางแสดงบ่อยๆ
    เพราะสวยมาก แต่นางแสดงไม่ค่อยบ่อย อีกคนก็ อัมริตตา ลาว
    เพราะคาแร็คเตอร์นางตรงกับบทประพันธ์อินเดียมีไม่มาก ออก
    เป็นนางเอกกี่ทีก็บทเจ้าหญิง
    คุณหนูไร้เดียงสา โดนแกล้ง ซึ่งมีไม่มาก



    อินเดียนี้มีหลายชนชาติมากคะ
    ถ้าอินเดียที่ขาวจะเป็นพวกปัญจาบี พวกเดียวกับปากีสถาน
    ถ้าสนใจเรื่องอินเดียลองเข้าไปอ่านในลิงค์นี้ของดัชเชสได้คะ
    จะมีภาพคนอินเดียสวยๆแต่ละภูมิภาค สวยมากๆเลยคะ



    http://palungjit.org/threads/ชมพูทว...มเรื่องวัฒนธรรมและเรื่องดังในชมพูทวีป.415489/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  14. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เคล็ดลับอายุรเวท

    [​IMG]



    มือที่สวยงามของสตรีนั้นช่วยสร้างบุคิกภาพที่ดีต่อ
    หน้าที่การงาน นอกจากนี้ยังสร้างเสน่ห์ได้ง่ายๆ
    โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย ผู้ชายบางคนก็หลงรัก
    ผู้หญิงได้ง่ายๆเพียงแค่การสัมผัส เช็คแฮนน์
    ถ้าเจ้าของมือนั้นมีมือที่อ่อนนุ่มคล้ายผิวของเด็ก
    ทารกซ้ำยังหอมเหมือนดอกไม้ ในบริบทนี้เรา
    นำศาสตร์อายุรเวทด้ามืองามมาพูดกัน




    [​IMG]



    เคล็ดลับมืองามดุจนางรำแขก


    ตั้งแต่โบราณกาลมามักจะมีคำกล่าวทีว่ามือ
    เรียวยาวดุจลำเทียนเล็บงามแบนชานอ้อยหรือ
    ก้นหอย ถ้าชานอ้อยก็จะเป็นรูปเล็บที่เป็นแท่ง
    เรียวยาวเสมอกัน ถ้าก้นหอยก็จะเป็นรูปเล็บออก
    กลมๆสั้นแต่กระจุ๋มกระจิ็มน่าเอ็นดูเคล็ดลับของ
    นางรำอินเดีโบราณกจะมีดังนี้ ถ้าเจ้าเรือนมีเล็บ
    ที่แข็งระด้างดุจชายที่กรำงานหนักเขาก็จะทำ
    การเตรียมน้ำอุ่นค่อนข้างร้อนใส่กะถังเล็กๆเอา
    ไว้และเต็มน้ำมันมะกอกลงไปสักครึ่งหนึ่ง
    เสร็จล้วก็เอามือลงแช่จับบิดไปมาคล้ายการ
    ดัดมือแบบนางรำถ้าเล็บแข็งมากเค้าก็จะผสม
    หญ้าหางม้าลงไปด้วย และแช่มือไว้ 20นาที




    [​IMG]



    สำหรับกรณีที่มีเล็บดำสกปรก ให้แช่มือลงในน้ำวน
    หรือน้ำก็อกที่มีแรงน้ำไหนผ่านในขณะ
    หยดน้ำมะนาวไปในนั้นสองสามช้อน ถ้าสกปรก
    มากก็ให้ทาน้ำมะนาวที่เล็บและแช่ในน้ำ




    อาบน้ำให้งามแบบมหารานี


    [​IMG]



    บางท่านชอบอาบน้ำอุ่นแก้หนาว ในกรณีเช่นนี้
    อุณหภูมิของน้ำอุ่นไม่ควรมากกว่าอุณหภูมิของ
    ร่างกายเกินสององศาฟาเรนไฮด์ มิฉะนั้นจะทำให้
    ผิวแห้งเกิดอาการคัน การอาบน้ำ ไม่ว่าเป็นน้ำร้อน
    หรือน้ำเย็นควรอาบน้ำก่อนรับประทานอาหารหนึ่ง
    ชั่วโมง และหลังอาหารอย่างน้อยสองสามชั่วโมง
    การแช่ตัวในน้ำอุ่นจัดก่อนนอน นับว่าช่วยให้ท่าน
    นอนหลับสนิท เพราะน้ำอุ่นจัดช่วยเพิ่มอุณหภูมิ
    ภายในร่างกาย หลังจากนั้นเมื่อร่างกายเย็นลง
    จะเป็นการช่วยให้ท่านหลับสนิท
    สำหรับกรณีผู้ที่มีโรคป่วยไข้อย่างมะเร็งที่ต้อง
    การกระตุ้นเซลล์ให้ผลิตภูมิคุ้มกันก็ให้แช่เท้า
    ในน้ำเย็นจัดสลับน้ำอุ่นค้อนข้าร้อนจัด
    ถ้าให้ดีควรจะอาบทั้งตัวก็จะดีมาก




    แนะนำ
    skincare & เครื่องหอมอายุรเวท



    [​IMG]



    เล่าเรื่องที่อ่านเจอ แปลมาบ้าง มานาน ก็มาเล่า
    เรื่องของตัวเองบ้างปกติเป็นคนที่ไม่ใช่อะไรเลย
    และมีนิสัยมักง่ายชุ่ยสุดๆ แต่ทั้งหมดทั้งมวลอะไร
    ท็ตามที่ทำให้ดัชเชสพอมีความสุขผ่อนคลายขึ้นบ้าง
    จากการสูญเสียคนที่เรารักไปกับความตายก็เห็นจะ
    ไม่มีทางไหนคะ นอกจากบำบัดจิตมาจากภายในใจ
    ของตัวเอง และสิ่งที่ใช้รักษาจิตตัวเองก็คือ
    การนั่งสมาธิ และการใช้ เครื่องหอมในการดึงจิต
    ให้หายจากความเศร้า ซึ่งอยากจะบอกว่า เครื่องหอม
    บางอย่างมีอานุภาพชนิดที่ว่า ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น
    ได้ราวกับยาเสพติดทีเดียว
    ในขณะที่เครื่องประทินผิวที่มีกลิ่นหอมก็สามารถ
    ดึงจิตให้เราหายเศร้าและทำให้เป็นที่พอใจต่อ
    ผู้พบเห็น ชนิดว่าทั้ง คนใช้ทั้งคนอยู่ใกล้ถ้าได้
    กลิ่นก็มีความสุขกันทุกคน



    [​IMG]


    ตัวแรกที่จะแนะนำคือ เซต เครื่องหอม
    Indian Hick ของ Crabtree evelyn ซึ่งเป็น
    ของอังกฤษ แต่ เซตนี้ จะเป็นเซตอายุรเวท
    เน้นกลิ่น เน้นความรู้สึกที่ทำให้นึกถึงสมัยที่
    แหม่มสาวสมัยวิคตอเรียเดินทางตามผู้ปกครอง
    ไปล่าอาณานิคมในดินแดนทาง West Indies
    เป็นกลิ่นที่ผสมผสานกันระหว่างยุโรปและความ
    แปลกลึกลับแบบดอกไม้พื้นเมือง ในเซต
    นี้จะมีกลิ่นผสมผสานกันหลักๆคือ กลิ่นน้ำอ้อย
    ดอกพรับพรึงบาฮามาสสีชมพู

    skin care India Hicks ผลิตภายใต้
    เรื่องราวการเดินทางของ มาดาม อินเดีย
    อมันด้า แคร์โลไลน์ ฮิกต์ ลูกสาวบุญธรรมและ
    หลานลุงของ เจ้าฟ้าชายชาล์ลส์แห่งอังกฤษ ที่ชอบเดินทาง
    ไปท่องเที่ยวในประเทศอาณานิคมตะวันตก
    กลิ่นและส่วนผสมหลักๆของ อินเดีย ฮิกค์ ก็ได้แก่
    ผลิตภัณฑ์ในเซตนี้ก็ได้แก่ ครัปขัดผิวที่ผสมเปลือกไม้
    และเมล็ดองุ่น, ว่านหางจระเข้ และ กลิ่นอโรมาของ
    น้ำอ้อย และ ดอกพรับพรึงบาฮามาส
    นอกจากนี้ก็ยังมีเกลือใส่อ่างน้ำ ที่เป็นกลิ่น
    เดียวกัน ตามด้วยเจลอาบน้ำสูตรเดียวกัน และครีมทาผิว
    , Eau de toilette
    และก็มีเทียนสปาร์ ใส่ให้บ้านหอมตามด้วย diffusers
    และก็ น้ำยาล้างมือ และโลชั่นน้ำหอม
    แค่ตัวหลักๆ สามตัว คือ เจลอาบน้ำ, ครีมทาผิว
    ต่อด้วย eau de toilette เท่านี้ก็หอมมหากาลแล้วคะ หอมชนิดว่า
    ตัวเองเวลาเคลียด เศร้า หรืออะไรก็ตามแต่
    ได้กลิ่นดังกล่าวก็ยิ้มออกคะ อานุภาพร้ายแรง
    มากราวกับยาเสพติด
    ทั้งนี้ทั้งนั้น Crabtree-Evelynn เป็น skincare ชั้นหรูหรา ผลิตโดย
    Partner ราชนิกูลอังกฤษ ธิดาของ เลดี้ พาเมล่า ฮิกค์ ผู้ซึ่ง
    เป็นหลานสาวลุงของเจ้าฟ้าชายชาล์ลส์แห่งอังกฤษ

    P.S ถ้าจะใช้น้ำหอมออแกนิคพวกนี้
    แนะนำให้ใช้ครบเซต ได้แก่ เจลอาบน้ำ
    ครีมทาผิว และ Eau de toilette ถึงจะหอมมหาสเน่ห์เลยคะ
    แต่ถ้าใช้ไม่ครบเซตนี้ กลิ่นมันจะไม่ทนอยู่ไม่นาน




    เทียนสปาร์ กับ แว็กซ์หอม



    [​IMG]


    อันนี้ของยี้ห้อ Rain Africa อันนี้อานุภาพถล่มทลายเช่นกันทำจากไขมันพืชแท้กลิ่น
    แตงกวาอัฟริกา โดยเฉพาะ
    อยู่เมืองหนาว ตั้งไว้ตรงหัวนอนไม่ต้องจุดเทียนแค่นี้
    ลมเย็นพัดมาแต่ละที ก็หอมไปทั่วห้อง หอมแบบ
    เย็นสบายมี Hint คล้ายคล้าย ดอกบัว ผสม Hint
    เย็นๆสดชื่นออกเขียวๆแบบแตงกวา เวลาดัชเชส
    จิตตกเศร้าหรือเคลียด ก็ดีขึ้น เวลานอนแล้วเอาเทียน
    สปาร์วางไว้ข้างหมอน





    ดอกไม้พระจันทร์ จากประทศไอซ์แลนด์



    [​IMG]


    ดอกไม้พระจันทร์ จากประทศไอซ์แลนด์
    Icelandic Moonflower อันนี้เขาก็เป็นสปาร์
    อีกยี้ห้อ ครีมสกัดจากดอกไม้พระจันทร์
    ที่ชื่อเช่นนี้ก็เพาะว่าดอกไม้
    ชนิดนี้จะบานเฉพาะตอนกลางคืน
    มีกลิ่นหอมหวานลึกลับแบบแปลกๆ
    เวลาบานแลดูคล้ายดวงจันทร์ในยาวรัตติกาล
    จะเป็นดอกไม้คนละชนิดกับราชินีรัตติกาลนะคะ
    ในเซตนี้ก็จะมี ก็มีการนำมาทำโลชั่นสปาร์
    เทียนสปาร์ และ diffuser
    ของยี้ห้อ Red Flower




    น้ำหอม Organic, Botanical



    [​IMG]



    น้ำหอม หรือ ที่ทำสกัดจากดอกไม้ ผลไม้ หรือ พืชแท้
    น้ำหอมพวกนี้จะทำมาจากน้ำมันที่สกัดจากพืชหรือดอก
    ไม้ที่มีกลิ่นหอม Essentiual oil โดยไม่มีการปรุงแต่งกลิ่นด้วยสารเคมี
    หรือ ใส่แอลคอฮอร์ เช่นน้ำหอมทั่วไปที่ดังๆอยู่ขณะนี้
    น้ำหอมธรรมชาติจึงมีกลิ่นหอมหวานมากเหมือนกลิ่นที่
    ได้จากดอกไม้ ผลไม้ สมุนไพร หรือเปลือกไม้แท้ๆ
    แต่ด้วยความที่มันไม่มีใส่แอลคอฮอร์ทำให้เวลาใส่ ต้องใส่เยอะและ
    กลิ่นหอมอยู่ไม่ทน แต่เวลาใส่จะหอมรัญจวนราวกับยก
    สวนดอกไม้มาไว้รอบตัว





    [​IMG]



    สำหรับน้ำหอมที่สกัดจาก
    กลิ่นในธรรมชาตินี้ ดัชเชส
    จะชอบ กลิ่น ดอกพับพรึงบาฮามาส ผสมน้ำอ้อย
    กลิ่นไม้จันอินเดีย หรือกลิ่น ดอกบัวอินเดีย หรือกลิ่น
    กุหลาบโมร็อกคัน และก็ กลิ่นสัปปะรดมากที่สุด
    กลิ่นดอกบัวอินเดียจะออกแนวเย็นสบาย ผ่อนคลาย
    และลึกลับดี ส่วนกุหลาบโมร็อกคันจะออกแนวหอมหรู
    แบบยุโรปโบราณ อันนี้ก็ชอบมาก ให้ความรู้สึกเจ้าหญิงๆ
    ดี ถ้าผู้ชายส่วนใหญ่น่าจะชอบกลิ่นกุหลาบโมร็อกคัน
    เวลาผู้หญิงใส่ เท่าที่สังเกต เพราะกลิ่นมันหวานออก
    ผู้หญิงๆ ส่วน กลิ่นสัปปะรสก็หอมแนวน่ารักๆ ส่วนไม้
    จันอินเดียจะหอมแบบไทยโบราณ




    Skin Care บำรุงรักษาผิวหน้า



    [​IMG]



    ถ้าเป็น ที่บำรุงรักษาผิวหน้าด้วยสูตรอายุรเวทดั้งเดิม
    ผสานเทคโนโลยีสกินแคร์สมัยปัจจุบันที่ดีๆก็มีของ Sundari สุนทรี
    ซึ่งทำโดยสองMakup Artists Hollywood ชื่อดังชาวอเมลิกัน
    และเพื่อนสาวชาวอินเดียที่ช่วยนำสูตรอายุรเวทเข้าสู้ตลาดเครื่องสำอางค์ชั้นนำ
    มีทั้งในไลน์ ป้องกันรอยเหี่ยวย้น ทำให้ผิวกระจ่างใสและสำหรับรักษา
    ปัญหาผิวแบบต่างๆดดวยการใช้พืชสมุนไพรในสูตรอายุรเวทย์โดย
    เฉพาะตัวหลักๆ เช่น น้ำมันสะเดา น้ำมันมาล่า น้ำมันดอกบัว
    อะโวคาโด้สาหร่ายเอิลเกรย์ ว่านหางจระเข้ กุหลาบ และสมุนไพร
    อินเดียต่างๆซึ่งนอกจากจะรักษาผิวแล้วยังมีกลิ่นแนวหอมแบบไพรๆ
    แนวรุนแรง ไม่ค่อยหวานแต่ก็สดชื่นได้เหมือนกัน โดยเน้นบำรุงผิว
    หลักๆ แต่ก็มีตัวที่หอมเช่นน้ำมันกุหลาบ และน้ำมันศักดิ์สิทธิ์เก้าชนิด
    ราคาก็แพงอยู่แต่คุ้มทั้งในด้าน บำรุงผิว สุขภาพ
    และบำรุงจิตใด้วยกลิ่นสมุนไพร
    [​IMG]



    [​IMG]




    .....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2013
  15. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    เนื้อหาและรายละเอียด บ่งบอกถึงตัวตนของ คุณดัชเชส ว่า เป็นคนที่มีสุนทรียภาพทางอารมณ์ที่ยอดเยี่ยม...
    มีรสนิยมที่ยอดเยี่ยม...
    และเป็นคนที่โรแมนติค มากๆ...

    เรื่องเครื่องหอมของประทินโฉม และเครื่องประดับอัญมณี เนี่ย...บ่องตง..ไม่มีความรู้เลย..ย...
    ที่ตะวันออกกลาง เวลาจะทำตัวให้หอม สมัยนี้ก็กระหน่ำน้ำหอมลงไป...
    แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่เลือกใช้การรมด้วยควันของ ยาง จากต้น แฟรงกีเซนต์ หรือ ต้นรูบัล..
    บ้างก็มีการนำเอายางจากต้นรูบัล มาผสมกับ น้ำมันกฤษณา ปรุงด้วยไม้อะไรก็ไม่รู้...และผงอะไรอีกบ้างก็ไม่รู้...(ไม่รู้แล้วจะพูดทำไมใช่มะ...) เมื่อผสมเสร็จแล้ว จะเรียกว่า เบอร์เค่อร์ ภาษาอังกฤษเรียกอะไรก็ไม่รู้อีก เวลาออกเสียงเค่อร์ ก็ต้องเอาลิ้นแตะเพดานปากไว้แล้ว กระแทกเสียงออกจากในอก...ทำครบ 3 ทีจะเป็นลม หายใจไม่ทัน...ก็เลยช่างมันเหอะ...สูตรการทำเบอร์เค่อร์นี้ คนปากีจะเก่งมาก สูตรไหนที่นิยมก็จะปกปิดกันเป็นสูตรลับประจำตระกูลเลยทีเดียว...เวลาเอามารมก็วางลงบนถ่านแดงๆ เมื่อมีควันขึ้นมาก็ยืนคร่อมเอาไว้ ให้ควันนั้นอบตัว หรือ เอาไว้อบผ้าในหีบก็ได้ ผ้าจะหอมนาน หอมทน และหอมเย็นๆชื่นใจดีเหมือนกัน...
    ถ้าว่างหาเจอภาพที่เคยถ่ายไว้ จะเอามาลงให้ดูนะ...
     
  16. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301



    ใครๆก็ว่างั้นคะเพราะดิฉันเกิด ราศี เทวี วีนัส เลยมีอารมย์ศิลปินส์

    เครื่องหอมสำหรับดัชเชสมันเปรียบเหมือนกับเครื่องดื่ม เหมือนเวลาเราเหนื่อย แล้วดื่มน้ำเย็นๆหรือน้ำส้มคั้นเข้าไปก็ชื่นใจ คะ เดี๋ยวจะหาเรื่องเครื่องหอมมาลงต่อ มีเพื่อนๆหลายคน P.M มาว่าสนใจ

    ทั้งนี้ทั้งนั้นสำหรับผู้จะเป็นอนาคามี จะหวังอรหันต์ เรื่องความงามไม่ใช่สิ่งสำคัญคะ แต่เรามาเน้นด้วยการดูแลรักษา สุขภพ กาย ใจจิตให้มันดีจากภาย

    ไม่สนับสนุนเรื่องศัลยกรรม แต่สนับสนุน สุนทรียภาพจากตัวเราเป็นสร้างเองจะดีกว่า ;aa30
    เดี๋ยวจะหาวิธีอบร่ำผ้าแบบไทยโบราณมาลงด้วยคะ[
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2014
  17. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825
    ขอบคุณมากนะคะคุณ Duchess ที่นำเคล็ดลับดีๆมาบอกกล่าวให้ได้รับรู้


    จะลองนำไปทดลองดูค่ะ :cool: :cool: :cool: :cool: :cool:
     
  18. shevvy

    shevvy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2007
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +300
    หลงเข้ามาคับ แต่ก็สุดยอดมากๆคับดูเพลินเลย:cool:
     
  19. ดอกข้าว

    ดอกข้าว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2012
    โพสต์:
    394
    ค่าพลัง:
    +1,462
    ภาพเครื่องของหอมที่คุณดัชเชสนำมาลง รูปไม่ขึ้นค่ะ ไม่ทราบคนอื่นเป็นแบบนี้ด้วยรึป่าว อยากเห็นมากเลย อิอิ แต่ภาพอื่นก็ขึ้นรูปได้ตามปรกติค่ะ ยกเว้นเรื่องเครื่องหอมๆ ของคุณดัช และเป็นอะไรที่อยากเห็นค่ะ
     
  20. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ตั้งแต่เวปเปลี่ยน .org ทุกกระทู้เก่าๆที่เคยโพสต์ไว้ รูปดิฉันมองไม่เห็นสักรูปคะ ก็คงจะไปปล่อยตามบุญตามกรรมไม่ตามแก้เพราะมันเยอะคะ...... ต้องเป็นหน้าที่ของเวปมาสเตอร์ ........ดัชเชสเคยบริจากให้เวปนี้ไปไปแล้ว 700บาท เวปมาสเตอร์ไม่มีการแจ้งเวปใหม่ให้ในอีเมลล์ด้วยซ้ำ....... เวลาถามก็ไม่ตอบ ก็เลยปล่อยมันไปแบบนั้นนะคะ และจะไม่บริจาคเงินกับเวปนี้อีกแล้วด้วย.......ทั้งกระทู้เก่าๆ ดิฉันมองไม่เห็นแม้แต่รูปเดียว รวมทั้งกระทู้นี้ด้วย......
     

แชร์หน้านี้

Loading...