ศาสตร์ล่วงรู้แนวบุญกรรม รวย รุ่งโรจน์

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย RA_CHIN, 18 ตุลาคม 2007.

  1. RA_CHIN

    RA_CHIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +427
    โปรดอดใจรออีกสักระยะหนึ่งครับ คุณ ayamoto เราจะเปิดโอกาสให้ดูดวงและตอบคำถาม ที่ถามเข้ามาครับ...

    ขอบคุณมากที่ให้ความสนใจครับ...
     
  2. RA_CHIN

    RA_CHIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +427
    ( ต่อ )

    เมื่อปฏิบัติตามกฎนี้แล้ว ยิ่งใช้วิชาก็จะยิ่งมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ไม่มีทางตกต่ำทำชั่ว และจะไม่มีจุดจบที่น่าอเน็จอนาถ...

    ขอศิษย์ และผู้ศึกษาคัมภีร์สุวรรณโคมคำทุกคน จงใช้วิชาอย่างถูกต้อง ปกป้องประเทศชาติและพระพุทธศาสนา รักษาคุณธรรม นำความรุ่งเรืองมาสู่ตนและส่วนรวมตลอดกาลนาน...

    ............................................................
     
  3. RA_CHIN

    RA_CHIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +427
    บทที่ ๑

    กำเนิดสุวรรณโคมคำ

    สุวรรณโคมคำ เป็นชื่อดินแดนในอดีต มีมาตั้งแต่สมัยพระกกุสันธพุทธเจ้า ในสมัยนั้นเรียกว่า "ถ้ำกุมภ์" เป็นสถานอันพระกกุสันธพุทธเจ้าเสด็จมาฉันบิณฑบาต และทรงมีพุทธทำนายไว้ว่า...
     
  4. RA_CHIN

    RA_CHIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +427
    ( ต่อ )

    พระพุทธเจ้าที่เหลืออีก ๔ พระองค์ ในอนาคตจะมาฉันบิณฑบาตที่ถ้ำนี้เหมือนเช่นกับพระองค์ เพราะเป็นที่ที่จะทรงประดิษฐานพระพุทธศาสนาไว้อย่างมั่นคงในอนาคต ภายหลังสถานที่แห่งนี้ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น สุวรรณโคมคำ แปลว่า โคมทอง เป็นเมืองที่รักษาคุ้มครองโดยพญาศรีสัตตนาค ( ดูในตำนานเมืองสุวรรณโคมคำ ) มีอาณาบริเวณสุดลูกหูลูกตา กว้างใหญ่ไพศาล
     
  5. RA_CHIN

    RA_CHIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +427
    ( ต่อ )

    และจัดเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นทั้ง ๗ อันมีพระพุทธศาสนาเป็นศูนย์รวมใจ จึงถือว่าเป็นบ้านพี่เมืองน้องกัน เป็นไทไม่คิดรุกรานแก่กัน

    คัมภีร์สุวรรณโคมคำได้เกิดขึ้น ณ ดินแดนแห่งนี้ คาดว่า ท่านผู้มีฤทธิ์ฌานและบรรลุธรรมขั้นสูงในพุทธศาสนาได้รจนาไว้ เพื่อกิจของสงฆ์ และอาจเพราะเห็นว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมก็จริงอยู่ แต่จะรู้ได้เฉพาะผู้ที่มีบารมีธรรมและฤทธิ์ฌานแก่กล้า จึงสามารถล่วงรู้กฎนี้ได้ด้วยญาณวิถี แต่สำหรับปุถุชนผู้ยังหนาด้วยกิเลสไม่อาจจะรู้ได้ จึงดำเนินชีวิตด้วยความประมาท อย่างไม่รู้โลก จึงได้รจนาคัมภีร์สุวรรณโคมคำขึ้น เพื่อใช้คำนวณบุญกรรมให้เห็นเป็นรูปธรรม คัมภีร์สุวรรณโคมคำจึงถืออุบัติขึ้นในพุทธศาสนานับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
     
  6. RA_CHIN

    RA_CHIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +427
    ( ต่อ )

    และเพราะเหตุว่า คัมภีร์นี้เกิดขึ้นในแผ่นดินสุวรรณโคมคำจึงได้ชื่อว่า "คัมภีร์สุวรรณโคมคำ"

    คัมภีร์นี้แสดงสูตรคำนวณบุญบาปที่ให้ผลตามกาลเวลาไว้ และยังรวมเอาศาสตร์อื่น ๆ ที่มีหลักการเดียวกันผนวกไว้ด้วย อย่างครอบคลุม รวมทั้งหมด ๑๖ ส่วน...
     
  7. RA_CHIN

    RA_CHIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +427
    ( ต่อ )

    ได้แก่...

    ๑. ลคฺนา ว่าด้วย สภาพชีวิต ความเป็นอยู่ รูปร่าง บุคลิก
    ๒. โหรา ว่าด้วย ความเจริญ ความเสื่อม ฐานะ
    ๓. ตรียางฺค ว่าด้วย ความสุข ทุกข์ทั้งหลาย
    ๔. จตุรทฺสํส ว่าด้วย ความรุ่งโรจน์สูงสุด
    ๕. ตมสํส ว่าด้วย อนาคตอันใกล้ ( แบ่งออกเป็น ๗ ปกรณ์ )
    ๖. นวางฺค ว่าด้วย อุบัติกาลคู่
    ๗. ทสมสํส ว่าด้วย ตำแหน่ง อำนาจ อิทธิพล บารมี ( แบ่งออกเป็น ๑๐ ปกรณ์ )
    ๘. ทวาทสํส ว่าด้วย ผู้อุปถัมภ์ บุพพการี วงศ์สกุล ( แบ่งออกเป็น ๒๐ ปกรณ์ )
    ๙. โสทสํส ว่าด้วย ทรัพย์อันเป็นมรดก ดินแดน การยึดครอง
    ๑๐. วิมสํส ว่าด้วย กรรมเก่า ( แบ่งออกเป็น ๒๐ ปกรณ์ )
    ๑๑. จตุรวมสํส ว่าด้วย ความสำเร็จในการศึกษาวิทยาการ ( แบ่งออกเป็น ๒๐ ปกรณ์ )
    ๑๒. ภงฺส ว่าด้วย ธาตุ ปราณ และ สมุนไพร ( แบ่งออกเป็น ๒๗ ปกรณ์ )
    ๑๓. ตริมสํส ว่าด้วย ข้าศึก ศัตรู อุบาทว์ และอุปสรรค ( แบ่งออกเป็น ๓๐ ปกรณ์ )
    ๑๔. อคฺคเวทสํส ว่าด้วย พฤติแห่งอาชีวะ ( แบ่งออกเป็น ๑๕ ปกรณ์ )
    ๑๕. ขวทสํส ว่าด้วย การห้ามฤกษ์ และการวางฤกษ์ตามกลุ่มนักษัตร
    ๑๖. ฉฎฺฐองฺส ว่าด้วย อรรถย่อยทั้งหลาย


    ทั้ง ๑๖ ส่วนนี้ รวมเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "โสฬส"
     
  8. RA_CHIN

    RA_CHIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +427
    ( ต่อ )

    ได้แก่...

    ๑. ลคฺนา ว่าด้วย สภาพชีวิต ความเป็นอยู่ รูปร่าง บุคลิก
    ๒. โหรา ว่าด้วย ความเจริญ ความเสื่อม ฐานะ
    ๓. ตรียางฺค ว่าด้วย ความสุข ทุกข์ทั้งหลาย
    ๔. จตุรทฺสํส ว่าด้วย ความรุ่งโรจน์สูงสุด
    ๕. ตมสํส ว่าด้วย อนาคตอันใกล้ ( แบ่งออกเป็น ๗ ปกรณ์ )
    ๖. นวางฺค ว่าด้วย อุบัติกาลคู่
    ๗. ทสมสํส ว่าด้วย ตำแหน่ง อำนาจ อิทธิพล บารมี ( แบ่งออกเป็น ๑๐ ปกรณ์ )
    ๘. ทวาทสํส ว่าด้วย ผู้อุปถัมภ์ บุพพการี วงศ์สกุล ( แบ่งออกเป็น ๒๐ ปกรณ์ )
    ๙. โสทสํส ว่าด้วย ทรัพย์อันเป็นมรดก ดินแดน การยึดครอง
    ๑๐. วิมสํส ว่าด้วย กรรมเก่า ( แบ่งออกเป็น ๒๐ ปกรณ์ )
    ๑๑. จตุรวมสํส ว่าด้วย ความสำเร็จในการศึกษาวิทยาการ ( แบ่งออกเป็น ๒๐ ปกรณ์ )
    ๑๒. ภงฺส ว่าด้วย ธาตุ ปราณ และ สมุนไพร ( แบ่งออกเป็น ๒๗ ปกรณ์ )
    ๑๓. ตริมสํส ว่าด้วย ข้าศึก ศัตรู อุบาทว์ และอุปสรรค ( แบ่งออกเป็น ๓๐ ปกรณ์ )
    ๑๔. อคฺคเวทสํส ว่าด้วย พฤติแห่งอาชีวะ ( แบ่งออกเป็น ๑๕ ปกรณ์ )
    ๑๕. ขวทสํส ว่าด้วย การห้ามฤกษ์ และการวางฤกษ์ตามกลุ่มนักษัตร
    ๑๖. ฉฎฺฐองฺส ว่าด้วย อรรถย่อยทั้งหลาย


    ทั้ง ๑๖ ส่วนนี้ รวมเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "โสฬส"
     
  9. visa2505

    visa2505 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,095
    ไม่เปิดทางไปรษณีย์บ้างหรือครับ อยากเรียน แต่อยู่ไกล (ภาคเหนือ)
     
  10. RA_CHIN

    RA_CHIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +427
    ขอบคุณครับ คุณ visa2505 ที่ให้ความสนใจ ถ้าสนใจที่จะศึกษา มีอีกสถานที่หนึ่งที่อยู่ใกล้เข้ามาอีก คือที่ ธรรมสถานสุวรรณาภา ต. หินลาด อ. วัดโบสถ์ จ. พิษณุโลก ประมาณวันที่ 9 หรือ 10 ธันวาคม 50 จะมีคณะทอดผ้าป่าจาก กรุงเทพ เดินทางไปที่นั่น ในระหว่างนั้นก็จะมีพิธีไหว้ครูบาอาจารย์ด้วย ( กฎของที่นี่ ก่อนเรียนต้องไหว้ครูก่อน และก็ขอขึ้นกรรมฐาน แล้วครูบาอาจารย์ก็จะประสิทธิ์ประสาทวิชาให้ครับ )

    นอกจากฆราวาสผู้สนใจแล้ว พระภิกษุสามเณรเถรชี ก็เล่าเรียนจากที่นั่นได้ครับ เพราะที่นั่นมีบริเวณสถานที่กว้างใหญ่ ร่มรื่น และเป็นสัปปายะ เหมาะสำหรับปฏิบัติธรรมมาก ๆ ครับ เรียนรู้การใช้สมุนไพรต่าง ๆ ฝึกสมาธิแนวกสิณ โดยเฉพาะปฐวีกสิณ อันเป็นพื้นฐานของกสิณไปสู่กสิณกองอื่นๆ ถ้าฝึกได้กสิณกองนี้แล้วกองอื่นๆ ก็จะฝึกต่อได้ง่ายครับ
    ........................................................................
     
  11. peaceful

    peaceful เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +175
    สนใจอยากจะเรียนมากเลยค่ะ แต่คงมีกรรมกับสามี เพราะสามีไม่ยอมอนุญาติแน่นอนค่ะ เหมือนลิ้นกับฟันกันมาตลอด จนไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหมดกรรมกัน จนมีอิสระที่อยากจะทำอะไรได้ตามที่ปรารถนา
    ไม่ทราบว่ามีวิธีแก้ไขมั้ยคะ
    จริงๆแล้วตัวเองเป็นคนที่ชอบทำบุญกุศล ปีนี้ก็ทำบ่อยค่ะ แต่ปีนี้การเงิน การงาน การลงทุน ติดขัดไปหมด
    ยังเคยตั้งจิตบ่อยๆเลยค่ะว่า ถ้าพบอิสระภาพทางการเงินแล้ว จะพยายามช่วยเหลือศาสนา และผู้ที่ทุกข์ยากให้มากที่สุด เพราะปกติตัวเองเป็นคนไม่ฟุ้งเฟ้อ ชอบความสงบเงียบ เรียบง่าย ไม่ชอบสังคมที่วุ่นวาย บอกกับตัวเองเสมอว่า ถ้าเรามีฐานะดี เราจะไม่ทำตัวแบบคนรวยบางประเภท ที่ชอบใช้อำนาจ โอ้อวด กดขี่ข่มเหง และดูถูกผู้อื่น และหลงแต่ความสุขชั่วคราวบนโลกมนุษย์
    แต่บุญกุศลที่เราทำมาคงยังไม่ถึงเวลา หรือกรรมชั่วคงมีมาก จึงทำให้เราติดขัดไปหมด

    ไม่ทราบจะมีวิธีแก้ไขยังไงบ้างคะ ขอบคุณค่ะ
     
  12. RA_CHIN

    RA_CHIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +427
    สวัสดีครับคุณ peaceful

    ขอบคุณมากที่สนใจที่จะศึกษาครับ แค่มีความคิดก็ได้บุญแล้วครับ ขออนุโมทนาครับ

    ทุกคนเกิดมาบนโลกมนุษย์นี้ ก็ต้องประสบกับปัญหากันทั้งนั้นละครับ จะมากหรือน้อย แต่ยังไงก็มีทางแก้ไข หรือมีทางออกเสมอ ถ้าเรายังมีสติ กับปัญญา กำกับอยู่

    วิธีที่แก้ไขได้ดีที่สุด ก็คือ ต้องแก้ที่ใจครับ ใจต้องสู้อย่าท้อแท้ หรือหมดอาลัยตายอยาก ถ้าใจไม่สู้ ซึ่งนั่นก็คือเราแพ้ซะแล้ว


    ถ้าบ้านคุณ peaceful อยู่ใน กทม. ก็ลองติดต่อไปที่ชมรมศิษย์สุวรรณโคมคำ ตามที่อยู่ในหน้าแรกครับ
     
  13. RA_CHIN

    RA_CHIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +427
    ( ต่อ )

    "โสฬส" เป็นการแบ่งวิชาเท่ากับจำนวนส่วนทั้ง ๑๖ ของดวงจันทร์ตามคัมภีร์สุวรรณโคมคำนั้นเอง ผู้เรียนเจนจบครบสูตรทั้งหมดนี้เรียกว่า "สำเร็จโสฬส" กลายเป็นยอดคน ครบถ้วนกระบวนยุทธ์ คัมภีร์สุวรรณโคมคำได้สืบต่อเรื่อยมารุ่นแล้วรุ่นเล่าโดยเหล่าศิษย์ผู้ได้รับการถ่ายทอด...
     
  14. RA_CHIN

    RA_CHIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +427
    ( ต่อ )

    ด้วยศักดานุภาพของคัมภีร์ที่มากล้นนี้ จึงล้วนเป็นที่หมายปองของผู้แสวงหาวิชายิ่งนัก ( คล้าย ๆ คัมภีร์กลยุทธ์ ซุ่นจื่อ ที่ได้รับการสืบทอดโดยซุนปิง ) แม้นเสี่ยงชีวิต ถึงกับยกทัพจับศึกแย่งชิงก็หาได้หวั่นไหวไม่...

    เล่ากันมาว่า พระยาศรีโคตรตะบอง ผู้คงกระพันชาตรี เพราะกินไม้งิ้วดำ จึงฟันแทงไม่เข้า ( เว้นแต่ปิดทวารทั้ง ๙ จึงจะตาย ) ได้รู้ว่า มีคัมภีร์วิเศษอยู่ในพุทธศาสนา จึงใช้กำลังบีบบังคับผู้ที่ตนสงสัยว่า
    ครอบครองคัมภีร์นี้เอาไว้ ให้นำมามอบแก่ตน ถ้าผู้ใดเมืองใดไม่ยอมมอบคัมภีร์นี้ให้ ก็จะเข้าตีเมืองนั้นทันที เพราะตนมีพลังฤทธิ์มหาศาล ยากที้ใครจะต่อกรได้...
     
  15. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,173
    '
     
  16. Oldest

    Oldest Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +48
    ขอบคุณที่มอบสิ่งดีๆให้ได้เรียนรู้ค่ะ
     
  17. RA_CHIN

    RA_CHIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +427
    ( ต่อ )

    ...ภายหลังได้เข้าทำลายจุฬณีนครอันเป็นเมืองหลวงของแคว้นสุวรรณโคมคำในสมัยนั้น รวมถึงได้ทำลายพระธาตุพนมด้วย เพราะเชื่อว่า เจ้าผู้ครองแคว้นได้ซ่อนคัมภีร์นี้เอาไว้ แต่ด้วยบุญไม่ถึง จึงไม่ได้คัมภีร์นี้ไป พญานาคผู้คุ้มครองโกรธแค้นที่พระยาศรีโคตรตะบองมาทำลายพระธาตุพนม ( ที่บรรจุพระอุรังคธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ) จึงบันดาลให้ธรณีถล่มทับพระยาศรีโคตรตะบองสิ้นพระชนม์ หลังจากนั้น เมืองสุวรรณโคมคำที่เคยเสื่อมจึงกลับเจริญขึ้นอีกครั้งหนึ่ง และได้รับการตั้งชื่อใหม่ว่า " เมืองศรีสัตตนาคณหุต " อันเป็นเมืองพญานาคที่คุ้มครองโดยพญาศรีสัตตนาคราช...
     
  18. RA_CHIN

    RA_CHIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +427
    ( ต่อ )

    คัมภีร์สุวรรณโคมคำ บางสมัยตกอยู่ในมือคนดี บางสมัยตกอยู่ในมือโจร จึงถูกนำไปใช้ในทางที่ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ต่อมาคัมภีร์นี้ได้ตกทอดมาถึงเจ้าศรีสัทธา หรือ พระมหาเถรศรีสัทธาจุฬามุนีลงกาทีป พระนามเดิมชื่อ เจ้าศรีสัทธา ทรงเป็นราชโอรสของกมรเตงอัญรามกำแหง ประสูติ ณ เมืองสรวงแคว ( พิษณุโลก )

    เมื่อทรงเจริญชันษาได้ทรงศึกษาศิลปวิทยาการ และเจนจบคัมภีร์สุวรรณโคมคำ สำเร็จโสฬสแต่ครั้งเยาว์วัย นอกจากนี้ยังทรงเชี่ยวชาญในวิชาคชศาสตร์ และอัศวศาสตร์ เมื่อทรงมีพระชนมายุ ๒๙ ( ตอนยังไม่อุปสมบท ) ทรงนำทัพออกทำศึก และได้ทรงทำยุทธหัตถีกับขุนจัง ทรงได้รับชัยชนะ ทรงมีพระธิดา ๒ พระองค์ ต่อมาท่านศรีสัทธาเห็นภัยในการครองเรือนจึงได้ออกบวชเป็นพระภิกษุ แล้วจาริกไปแสวงบุญที่เกาะลังกา หลังจากที่กลับจากการแสวงบุญที่เกาะลังกา เล่ากันว่า ท่านได้ผนวกวิชาสุวรรณโคมคำเข้ากับพระอภิธรรมอย่างสมบูรณ์อีกครั้ง เพราะเห็นชัดว่า ผู้ที่จะเรียนวิชานี้ต้องมีคุณธรรมควบคู่กันไปด้วย และหากไม่มีพื้นฐานธรรมะเพียงพอก็ไม่อาจไขเคล็ดในวิชานี้ได้สมบูรณ์ เชื่อกันว่า แม้พญาลิไท ก็ได้รับถ่ายทอดคัมภีร์นี้จากท่านศรีสัทธาฯ ด้วย ต่อมาสมัยหลัง พระนเรศวรมหาราช ก็ได้มีโอกาสศึกษาคัมภีร์นี้เช่นกัน เล่ากันว่า ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้พระองค์ท่านสามารถกอบกู้เอกราชได้อย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาอันสั้น จะเรียกว่า "สุวรรณโคมคำ คือ วิชากู้ชาติก็คงไม่ผิด " ก่อนสิ้นพระชนม์ทรงให้นำคัมภีร์นี้ไปไว้ที่เมืองเชียงดงเชียงทอง อันเป็นถิ่นสุวรรณโคมคำเดิม...
     
  19. RA_CHIN

    RA_CHIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +427
    บทที่ ๒

    รัตตัญญุศาสตร์
    ( โหราศาสตร์แนวพุทธ )
    กำเนิดโหราและรัตตัญญู

    โหราศาสตร์ มาจากศัพท์ อโห + ราตรี ตัด หน้า โห ออกไปเสีย แล้วตัดคำว่า ตรี หลัง รา จากนั้นนำมาต่อกันเป็น โหรา แปลว่า วันและคืน* สอดคล้องกับคำที่มาในพระไตรปิฎกว่า " อโหรตฺต " อ่านว่า อโหรัตตะ แปลว่า วันและคืน ส่วนคำว่า " รัตตัญญู " แปลว่า ผู้รู้ราตรีนาน คือรู้ในเรื่องของ วงศ์ของพระพุทธเจ้า พระองค์โน้น รู้วงศ์ของพระราชาองค์โน้น รู้วงศ์ของชนบทโน้น รู้วงศ์บ้านโน้น รู้การกำหนดกลางวันและกลางคืน รู้การประกอบฤกษ์และการทำนาย..." ** ส่วนคำว่า " ศาสตร์ " แปลว่า ศึกษา ตรงกับภาษาอังกฤษว่า " study of " ( ศึกษาเกี่นวกับ... ) ดังนั้น รัตตัญญุศาสตร์ จึงแปลง่าย ๆ ว่า " การศึกษาเกี่ยวกับรัตตัญญู "

    ดังนั้น รัตตัญญุศาสตร์ก็ดี โหราศาสตร์ก็ดี คือศาสตร์แห่งการคำนวณเรื่องกาละ ( เวลา ) ที่กรรมส่งผลว่า ดีร้ายอย่างไร แล้วจะแก้ไขอย่างไร ผู้ที่รู้โหรา จึงเรียกว่า " รัตตัญญู " ผู้ที่รู้รัตตัญญู จึงเรียกว่า โหราจารย์ มี พระอัญญาโกญทัญญะ เป็นต้น ( ในสมัยพุทธกาล )...
     
  20. RA_CHIN

    RA_CHIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +427
    ( ต่อ )

    พอกล่าวถึง คำว่า " โหราจารย์ " ที่เราท่านคุ้นเคยกัน จึงแปลว่า อาจารย์ผู้ล่วงรู้วันและคืน เรียกให้กระชับว่า รู้เวลา นั่นเอง คำว่า "เวลา" ที่กล่างถึงนี้ หมายถึง ช่วงที่กุศลและอกุศลแสดงผล ดังนั้นการคำนวณในทัศนะของโหราศาสตร์แนวพุทธ จึงมีจุดเน้นอยู่ที่กาละที่บุญและบาปแสดงผล มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สรรพสัตว์ไม่ประมาทในชีวิตอันน้อยนิด ดังพุทธพจน์ว่า " อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ ไม่พึงประมาท "


    เหตุที่โหราศาสตร์ถือกำเนิดขึ้น เข้าใจว่า เป็นเพราะผู้มีฤทธิ์ฌานในพุทธศาสนาสมัยพระกกุสันธพุทธเจ้า ได้พิจารณาความเป็นไปของสรรพสิ่งในจักรวาล พบว่าทุกอย่างล้วนเป็นเครื่องหมายบ่งบอกกรรมได้ทั้งสิ้น ในบรรดาสิ่งทั้งหลาย ดวงดาวเป็นนิมิตสะท้อนกรรมที่จะแสดงผลชัดเจนที่สุดซึ่งมนุษย์สามารถสังเกตได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง ๕ จึงได้บัญญัติทฤษฏีทางด้านโหราขึ้น ( ภายหลังกลับเชื่อกันว่า เป็นของศาสนาพราหมณ์ ทั้งนี้เพราะพราหมณ์แอบเข้ามาปลอมบวชคัดลอกเอาไป แล้วดัดแปลงใหม่เพื่อกลืนเข้าไปเป็นของตน ) ผู้ที่บัญญัติหรือเป็นต้นคิดเรื่องดังกล่าวนี้เป็นสัมมาทิฏฐิ เพราะมีความเข้าใจในกฎแห่งกรรมเป็นทุนเดิม ดังพุทธพจน์ว่า ผู้ที่เชื่อว่า ชาตินี้มี ชาติหน้ามี บาปมี บุญมี เรียกว่าเป็นสัมมาทิฏฐิบุคคล
     

แชร์หน้านี้

Loading...