ศาสนาเป็นเพียงประตูมิติ

ศาสนาเป็นเพียงประตูมิติ
ให้วิญญาณเลือกที่จะเดินทางข้ามผ่าน
หรืออีกนัยหนึ่งคือ
เป็นวิธีจำแนกความบริสุทธิ์ของวิญญาณวิธีหนึ่ง
เช่น เวลาดวงจิตออกจากร่าง จะคัดสรรวิญญาณว่าอยู่ในศาสนาใด หรือมีความเชื่อตามกรอบลัทธิใด ก็จะผ่านประตูมิติของความเชื่อหรือลัทธินั้น เพื่อไปอยู่กับฝูงวิญญาณที่มีแนวความเชื่อเหมือนๆกัน
แต่กระนั้น ศาสนาก็ยังจัดว่าเป็นระบบทาสอยู่นั่นเอง

 

ศาสนา จัดเป็นระบบควบคุมทาสวิธีหนึ่ง เพื่อให้ทาสอยู่อย่างสงบ มีความเรียบร้อย และไม่ระส่ำระสาย
ศาสนามีหลายลัทธิ แล้วแต่ผู้แต่งจะแต่งขึ้นมาเพื่อให้คนเชื่อถือ
หลายศาสนาที่สอดคล้องกันเพื่อให้สมเหตุสมผล
แต่ศาสนาก็ยังคงมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ การควบคุมฝูงชนและการครอบครองดวงจิต นั่นเอง

 

หลายๆคน เข้าสู่ระบบทาสของศาสนาด้วยความงมงายโดยที่ไม่รู้ตัว
บ้างก็ถูกบดบังด้วยระบบหลักการและเหตุผลที่ดูสมจริงสมจังเกินพรรณนา
หากแต่ศาสนาพุทธที่ดูเหมือนจะดูมีเหตุผลที่สุดยังกล่าวว่า การจะบรรลุเป็นพระอริยบุคคลได้นั้นต้องเชื่อในพระพุทธศาสนาอย่างไม่มีวิจิกิจฉา
นั่นทำให้ผู้เขียนกระทู้เกิดความลังเลสงสัยในการตั้งกระทู้นี้เช่นกัน

 

การคัดแยกขยะนั้น ต้องทำการแยกขยะดีและขยะเสียออกจากกัน
ฉันใดก็ฉันนั้น การจะจำแนกดวงจิตต้องมีการจำแนกขยะออกจากกัน
การกลั่นกรองทำได้ด้วยวิธีการทางศาสนา
ทั้งนี้ เพื่อเหตุผลในการคงอยู่ของสสารและอะตอม ตามแต่จะนำไปใช้
พลังงานดีและพลังงานชั่ว ต้องควบคุมให้เกิดความสมดุลอันเป็นกฎของจักรวาล
ผู้เขียนยังไปไม่ถึงขั้นที่จะเข้าใจว่าชำระล้างดวงจิตไปเพื่อเหตุใด จึงไม่สามารถเล่าให้ฟังได้ว่า ระบบศาสนา ร่อนทอง (กรองดวงจิต) ไปเพื่ออะไร
ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้

 

ท้ายสุด ผู้เขียนหวังว่า กระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ปฏิบัติธรรมอย่างสุดโต่งมาแล้ว
เพื่อให้เข้าใจว่า ระบบศาสนามีไว้ทำไม
ทำไมเราต้องทำงาน ต้องส่งลูกไปโรงเรียนวันละ 8 ชั่วโมง มีวันหยุดแค่เสาร์-อาทิตย์ ต้องมีวัยเกษียณ เป็นต้น
หากท่านใดเข้าใจว่าพวกเรายังอยู่ในระบบทาส ก็ช่วยคอมเม้นให้ผู้เขียนด้วยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการโพสต์ข้อความต่อไปค่ะ

 

ปล. ทางเดียวที่จะออกจากระบบทาส คือ ศาสนา นอกนั้นเราไม่รู้ ฉะนั้น เราจึงตั้งชื่อกระทู้นี้ว่า ศาสนาคือประตูมิติ นั่นเอง