ศิษย์อาลัยพระราชธรรมโสภณ วัดพระเชตุพน ละสังขาร

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย Catt Bewer, 5 กุมภาพันธ์ 2007.

  1. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    ศิษย์อาลัย'พระราชธรรมโสภณ' วัดพระเชตุพน ละสังขาร

    ปี 2550 วงการสงฆ์ไทยได้สูญเสียพระปฏิบัติดีหลายรูปและล่าสุด "พระราชธรรมโสภณ (บรรจง ปญฺญาวุฑฺโฒ)" ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เจ้าคณะแขวงพระบรมราชวัง ซึ่งถึงแก่มรณภาพด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ที่ร.พ.โรงพยาบาลมิชชั่น เมื่อเวลา 02.00 น. คืนวันที่ 25 ม.ค.2549 สิริอายุ 69 พรรษา

    ขณะนี้ตั้งศพสวดพระอภิธรรมทุกวันจนกว่าจะครบ 50 วัน โดยจะมีการพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 24 มี.ค. 2550 ณ วัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพฯ

    สำหรับชีวประวัติและผลงานของท่านนับว่าควรค่าจดจำอย่างยิ่ง เพราะท่านเป็นพระที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนร่วมมากมาย อุทิศกายใจเพื่อพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง

    พระราชธรรมโสภณ (บรรจง ปญฺญาวุฑฺโฒ) มีนามเดิมว่า บรรจง นวนหอม เกิดวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2480 บิดาชื่อ "นายเริ่ม" มารดาชื่อ "นางเจียน" เกิดที่หมู่บ้านบางเค็ม หมู่ที่ 4 ต. บางเค็ม อ. เขาย้อย จ.เพชรบุรี

    อุปสมบท วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2501 ณ วัดกุฏิ์ ต. บางเค็ม อ. เขาย้อย จ. เพชรบุรี

    วิทยฐานะ
    พ.ศ.2493 สำเร็จประโยคชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดกุฏิ์ ต. บางเค็ม อ. เขาย้อย จ. เพชรบุรี พ.ศ.2505 สอบได้นักธรรมชั้นเอก สำหรับนักเรียนวัดพระเชตุพนฯ กรุงเทพฯ พ.ศ.2510 สอบได้นักธรรมเปรียญธรรม 3 ประโยค สำหรับนักเรียนพระเชตุพนฯ กรุงเทพฯ การศึกษาพิเศษ ได้ศึกษาสมถวิปัสสนากัมมฐาน จากสำนักวัดต่างๆ ความชำนาญการ คือ นวกรรม การก่อสร้าง ควบคุมการบูรณปฏิสังขรณ์ โบราณสถานวัดพระเชตุพน และสวดพระปาฏิโมกข์


    งานปกครอง
    พ.ศ. 2517 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอารามหลวง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พ.ศ. 2518 เป็นเจ้าคณะปกครองกุฏิคณะกลาง ก.38 วัดพระเชตุพนฯ พ.ศ. 2521 เป็นผู้ปฏิบัติเจ้าหน้าที่แทนเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ เรื่องทะเบียน บ้านเลขที่ 2 โดยเป็นผู้ลง นามรับรองการย้ายเข้า-ออก อยู่อาศัยของพระ-ภิกษุสามเณร และศิษย์วัดพระเชตุพนฯ พ.ศ. 2527 เป็นผู้ช่วยเจ้าคณะกลาง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พ.ศ. 2529 เป็นรองเจ้าคณะกลาง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พ.ศ 2530 เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าคณะกลาง วัดพระเชตุพลวิมลมังคลาราม

    งานการศึกษา
    พ.ศ. 2502 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดหนองส้ม ตำบลสระพัง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี พ.ศ. 2517 เป็นกรรมการตรวจข้อสอบธรรมสนามหลวง แผนกนักธรรม พ.ศ. 2529 เป็นกรรมการอนุจร นำปัญหาบาลีสนามหลวง ไปเปิดสอนสนามหลวงที่วัดเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนนทบุรี พ.ศ. 2530 เป็นผู้ให้การอุปถัมภ์โรงเรียนประชาบาลชุมชนประชารังสรรค์ ตำบลบางเค็ม อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี โดยเป็นประธานจัดหาเงินตั้งเป็นทุนมูลนิธิบำรุงการศึกษา เพื่อเป็นทุนช่วยเหลือแก่นักเรียน และเป็นค่าอุปกรณ์การศึกษาต่างๆ ได้ตั้งเป็นกองทุนเป็นเงินทั้งสิ้น 300,000 บาท และได้จัดหาทุนเพิ่มเติมตลอดมา พ.ศ. 2531 ได้บริจาคเงินส่วนตัวเพิ่ม ตั้งเป็นมูลนิธิบำรุงการศึกษา โรงเรียนราชวินิตวิทยาลัย กรุงเทพฯ เพื่อเป็นทุนช่วยเหลือการศึกษาและเป็นค่าอุปกรณ์การศึกษาต่างๆ ของโรงเรียน จนได้รับใบประกาศเกียรติคุณ ฉบับกระทรวงศึกษาธิการ และได้รับโล่เกียรติคุณ จากอธิบดีกรมสามัญศึกษา โดยบริจาคเป็นเงิน 22,700 บาท พ.ศ. 2531 บริจาคเงินส่วนตัว ตั้งเป็นทุนการศึกษา ของมูลนิธิการศึกษาวัดพระเชตุพนฯ เพื่อมอบเป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจนตั้งแต่ต้นถึงปัจจุบัน เป็นเงิน 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) บริจาคเงินเป็นทุนการศึกษาในมูลนิธิสมเจพระสังฆราช องค์ที่ 17 (ปุ่น ปุณฺณสิริ) จำนวนปีละ 1 ทุน ๆ ละ 1,000 บาท ทุกปีตลอดมาเพื่อมอบให้นักเรียนที่ยากจนแต่เรียนดี รวมเป็นเงิน 10,000 บาท พ.ศ. 2532 ได้บริจาคเงิน เป็นทุนการศึกษาในมูลนิธิการศึกษาของสมเด็จพระพุทธ โฆษาจารย์ วัดสามพระยา เป็นเงิน 30,000 บาท พ.ศ. 2535 ได้ก่อตั้งสหภูมิเพชรบุรีวัดพระเชตุพน และได้รับเป็นประธานสหภูมิเพชรบุรีวัดพระเชตุพน ที่สอบได้นักธรรมและบาลีสนามหลวง ทุกปีตลอดมา เป็นเงินปีละประมาณ 10,000 บาท

    งานเผยแพร่
    เป็นพระธรรมกถึก ประจำสภาพระธรรมกถึกวัดพระเชตุพน เป็นผู้นำนักเรียนทัศนศึกษาชมโบราณสถานและโบราณวัตถุวัดพระเชตุพน เป็นผู้อบรมศีลธรรมแก่ทหาร ในกรมและกองต่างๆ ตลอดมา เป็นผู้แสดงธรรมทางสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ เป็นผู้แสดงธรรมในพระอุโบสถวัดพระเชตุพน ประจำตลอดมา เป็นกรรมการอบรมศิษย์และผู้อาศัยวัดพระเชตุพน และรับหน้าที่เป็นพระวิทยากรให้การอบรมศิษย์และผู้อาศัยวัด ตลอดมา เป็นกรรมการอบรมสามเณรวัดพระเชตุพน ตลอดมา พ.ศ.2536 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองพระธรรมทูตสายที่ 1 พ.ศ.2537 ได้รับบัญชากพระธรรมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ให้เป็นประธานเปิดอบรมพระธรรมทูต ที่ จ.สุพรรณบุรี จ.สมุทรปราการ จ.กาญจนบุรี จ.ปทุมธานี และเป็นวิทยากรอบรมพระภิกษุสามเณรบวชใหม่ ใน จ.สมุทรปราการ ทุกปี

    ตลอดระยะเวลาอันยาวนานแห่งการบำเพ็ญศาสนกิจ อันเป็นประโยชน์แก่สังคม ประเทศชาติและพระพุทธศาสนา จึงได้รับพระราชทานสมณศักดิ์และเลื่อนสมณศักดิ์มาเป็นลำดับ ดังนี้

    พ.ศ. 2510 เป็นพระครูฐานานุกรม ในพระอัฐิ์สมเด็จฯกรมพระปรมานุชิตชิโนรส ที่ พระวินัยธร พ.ศ. 2516 เป็นพระครูฐานานุกรม ในสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณณสิริมหาเถร) ที่พระครู ญาณวิสุทธิ์ พ.ศ. 2517 เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอารามหลวง ชั้น เอก ที่ พระครูวิสุทธิกิจจารักษ์ พ.ศ. 2524 เป็นพระครูสัญญาบัตร ผู้ช่วยพระอารามหลวง ชั้นพิเศษที่ พระครูวิสุทธิกิจจารักษ์ พ.ศ. 2530 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระทักษิณคณิสสร พระราชาคณะปลัดขวา ในพระอัฐิสมเด็จมหาสมณเจ้า กรม พระปรมานุชิตโนรส พ.ศ. 2549 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่พระราชธรรมโสภณ



    http://www.siamrath.co.th/Religion.asp?ReviewID=164157
     

แชร์หน้านี้

Loading...