เรื่องเด่น "ศีลเท่านั้น เป็นเลิศในโลก" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย วิริยะ13, 21 กันยายน 2020.

  1. วิริยะ13

    วิริยะ13 สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,826
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,489
    ค่าพลัง:
    +12,351
    558000014133201.JPEG

    .
    "ศีลเท่านั้น เป็นเลิศในโลก"

    พุทธภาษิตบทหนึ่งกล่าวไว้แปลความว่า "ศีลเท่านั้นเป็นเลิศในโลก ส่วนผู้มีปัญญาเป็นผู้สูงสุด ความชนะในหมู่มนุษย์และเทวดา ย่อมมีเพราะศีลและปัญญา" หมายถึง ในบรรดาคุณทั้งปวงในโลก ศีลเป็นคุณวิเศษ แต่มิได้กล่าวว่าผู้มีศีลเป็นผู้สูงสุด หากกล่าวว่าผู้มีปัญญาเป็นผู้สูงสุด จึงเปรียบศีลเป็นรากฐานที่มั่นคงและแข็งแรงที่สุด

    "ศีลเป็นฐานที่เลิศของปัญญา"

    ปัญญาเป็นสิ่งที่ก่อตั้งขึ้นมาบนฐานคือศีล ศีลเป็นฐานที่เลิศของปัญญา ไม่มีฐานอื่นของปัญญาที่เลิศกว่าศีล ขณะเดียวกันก็ไม่มีอะไรอื่นที่ก่อตั้งบนฐานคือศีล ที่สูงยิ่งกว่าปัญญา "ปัญญาเป็นยอด สูงสุดที่เกิดแต่ฐานคือศีล" ของทุกอย่างต้องมีฐาน จึงจะมียอดตั้งอยู่ได้ ฐานมั่นคงแน่นหนาและมีความสูงเพียงใด ก็จะส่งยอดให้สูงส่งมั่นคงได้เพียงนั้น การก่อสร้างที่สำคัญทั้งหลาย ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งแก่รากฐาน อาคารมากชั้นเพียงไร ฐานก็ยิ่งต้องมั่นคงแข็งแรงเพียงนั้น

    นี้เป็นความสำคัญจริง ฐานมั่นคงแข็งแรงเพียงพอสำหรับอาคาร ๓ ชั้น ไปสร้างเป็น ๕ ชั้น ๗ ชั้น ย่อมเป็นไปด้วยดีไม่ได้ ข่าวการพังทลายของอาคารที่นั่นที่นี่ระหว่างการก่อสร้างบ้าง เมื่อการก่อสร้างสำเร็จแล้วบ้าง ล้วนมีเหตุมาแต่ความไม่มั่นคงแข็งแรงเพียงพอของฐานทั้งสิ้น

    "สิ่งดีงามทั้งหลายทั้งปวง มีศีลเป็นฐาน"

    "ศีลเป็นฐาน ปัญญาเป็นยอด" ผู้มีศีลคือผู้มีฐานที่จะรองรับสิ่งดีงามทั้งหลายทั้งปวงได้ และในบรรดาสิ่งดีงามทั้งหลายทั้งปวงนั้นมีปัญญาเป็นสิ่งสูงสุด สิ่งดีงามทั้งหลายทั้งปวงมีศีลเป็นฐาน เกิดแต่ศีลเป็นต้น ศีล ๕ ศีลแม้เพียงศีล ๕

    - ย่อมเป็นฐานให้เว้นการเบียดเบียนทำลายชีวิต
    - เว้นจากการเบียดเบียนถือเอาทรัพย์สินสิ่งของของผู้อื่น
    - เว้นจากการผิดประเวณี
    - เว้นจากการเจรจาให้เกิดความเข้าใจผิดจากความจริง
    - เว้นจากเหตุแห่งความมั่วเมาคือสุราเมรัยเครื่องดองของเมาทั้งหลาย

    "สิ่งที่ศีลทำให้เว้นได้ทั้งปวง ล้วนเป็นความไม่ดีไม่งาม" การเว้นสิ่งไม่ดีไม่งามก็คือความดีงาม


    "พรหมวิหารธรรม"
    สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร

    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=5040
     

แชร์หน้านี้

Loading...