สติปัฏฐานสี่ แบบพระพุทธเจ้า คือ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย khajonsak9999, 8 กันยายน 2014.

  1. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ครับ การฝึกสติปัฏฐานสี่ ที่พระพุทธเจ้าท่าน ชี้เอาไว้

    กับสติปัฏฐานสี่ แบบ สุญญตา
    หรือสติปัฏฐานสี่แบบ มโนมยิทธิ
    หรือสติปัฏฐานสี่แบบ ธรรมกาย

    สามแบบเลย ที่กล่าวมา มันทำไมต้อง บัญญัติขึ้นมาใหม่ เพื่อสิ่งใดครับ
     
  2. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    มีบ้างมั้ยครับ ที่สาวกไม่ แต่งเติม หรือบัญญัติขึ้นมาเอง
    แล้วสติปัฏฐานสี่ แบบไหน คือของแท้จริง ที่พระพุทธเจ้าท่านชี้เอาไว้ครับ

    ใครพอมีความเข้าใจ ก็เอามา เปิดเผยได้นะครับ
     
  3. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
  4. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    คงแตกรายละเอียดตามจริต กระมัง

    ส่องอันไหนแล้วโปร่ง ก็อันนั้นแหละ ลุยเลย รีบๆเข้า เวลามีน้อย
     
  5. ิ์Fist of the North Star

    ิ์Fist of the North Star เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +385
    คุณ khajonsak9999 ครับ สติปัฏฐานแบบที่พระพุทธเจ้า บอกสอน ก็คือ อานาปานสติ ครับ ทั้ง 16 ลำดับนั่นแหละครับ คุณ khajonsak9999 เข้าใจสติปัฏฐานยังไงรบกวน อธิบายด้วยครับ ขอบคุณครับ
     
  6. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    กายตยคติ ตามที่คุณเข้าใจนั่นแหล่ะครับ ถูกแล้ว แต่เวลาปฏิบัติคุณจะปฏิบัติถูก ตามแบบที่ท่านชี้เอาไว้หรือเปล่า อีกเรื่องหนึ่งครับ:cool:
     
  7. ิ์Fist of the North Star

    ิ์Fist of the North Star เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +385
    แล้ววิธีที่ถูกต้อง ทำกันอย่างไร ชวนคุยครับ แบบที่คุณkhajonsak9999 ทำอยู่นะครับ
     
  8. ิ์Fist of the North Star

    ิ์Fist of the North Star เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +385
    เห็นด้วยครับ คุณ ตั้งฉาก เวลามันน้อยจริงๆ คิดเป็นวันนี่ 2หมื่นกว่าวันเองนะ แล้วไม่รู้จะอยู่ถึงด้วยหรือเปล่าด้วยซ้ำ ส่วนคนที่ไม่เพียรปฏิบัติแล้วไม่ได้มรรคผลที่ ไม่น่าสงสารนะ แต่ผมเห็นบางคนนี่เพียรแบบสุดยอด แล้วไม่ถึงซะที อันนี้น่าสงสาร ถามว่าเป็นเพราะอะไร คำตอบคือ เพียรผิด ไม่รู้ว่าว่าที่ตนทำอยู่นะถูกทางอะเปล่า บางคนนี่ได้แต่สักแต่ทำ มันง่ายต่อการที่จะแป๋ คนสมัยนี้ไม่เห็นภาพรวม เลยไปลงลึกในส่วนท่าทาง แบบที่ควรลงลึกไม่ลง อันไหนไม่ควรลงลึกก็ลงลึก แต่เอาแบบตรงๆนะ เร็วที่สุด ไม่มีไซด์เอฟเฟ็ค ด้วยก็ อานาปานสติของพระพุทธเจ้านี่แหละ เป็นสติปัฏฐานทั้ง4เลยครับ คุณ ตั้งฉาก เห็นด้วยไหมครับ
     
  9. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ที่ถูกต้องคือ เอาสติดู ดูทั้งกายรวมจะเห็นทั้งกายเห็นทั้งเวทนาเห็นทั้งจิต ถ้าอานาปาณสติก็สติอยู่กับลมแต่รู้ทั้งกาย(รู้ตัวตลอดเวลา) ไม่เอาสติไปอยู่ที่เฉพาะกายหรือเฉพาะความคิด แต่ให้สติอยู่กับลมแต่รู้ทั้งลมทั้งกายทั้งเวทนาทั้งจิตพร้อมกันเลยทีเดียว เริ่มแรกฝึกอาจต้องนั่งนิ่งๆ จนสติสามารถอยู่กับลมได้และรู้กายพร้อมได้ ก็พัฒนาเป็นดูกายได้ทุกอิริยาบทนั่นเอง

    การดูกายโดยรวม ให้ทำแค่ดูทั้งกายโดยรู้เห็นทั้งกายทั้งเวทนาทั้งจิต ให้ทำแค่นี้คือดู ส่วนต่อไปถ้าสงบได้จริง ก็จะเกิดปัญญารู้ เห็น จากการดู
     
  10. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    คือถ้าอยากฝึกจริง ก็ต้องมาเรียนรู้จริงครับ เพราะแค่ถามเอาคำตอบ คุณก็จะไม่ได้ฝึก
     
  11. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    มีคนที่ฝึกตามผม เขาถามผมว่า ทำไมมันยากจัง แค่ให้ดูเฉยๆ ทำไมมันยากจังก็ในเมื่อเขาดูกายทั้งกายได้แล้ว เห็นเวทนาแล้ว เห็นจิตแล้ว รู้กายแล้ว รู้เวทนาแล้ว รู้จิตแล้ว จนรู้เห็นครบทั้งสามส่วนคือ กาย เวทนา จิต แล้ว ยังไม่พออีกหรือ ผมก็ตอบว่ายังไม่พอหรอก นั่นมันแค่เห็น การตั้งอยู่และการดับไป แต่ยังไม่เห็นการเกิดขึ้นและก่อนที่จะเกิดขึ้น มันต้องเห็นก่อนการเกด และเห็นการเกิดด้วยเสียก่อน ซึ่งมันก็ยังไม่พอ เพราะนี่แค่เห็นสิ่งที่เป็น สิ่งที่ถูกรู้ถูกเห็น แต่ยังไม่เห็นตัวที่รู้ตัวที่เห็นเลย(ยังไม่เห็นว่าตนเองคืออะไร)

    และซึ่งเมื่อฝึกจนเห็นตัวที่รู้ตัวที่เห็น (อัตตาตัวตนของตนเอง) มันก็ยังไม่พอ อีกนั่นแหล่ะ
     
  12. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    การดูกาย คือให้ดู ห้ามคิด
    การดูกายคือให้มีสติรู้ตัวทั้งตัวทั้งกายให้ครบทุกส่วนให้ได้ ห้ามขาดบางส่วน
    การดูกาย ตามแบบพระพุทธเจ้า ท่านกล่าวว่า เมื่อเสร็จกิจฉันอาหาร ทำความสะอาด หมดกิจ ให้มานั่งตัวตรงขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับมือซ้าย วางจิตให้เป็นกลางคือวางสติที่ลม สติก็จะไม่จับที่กายหรือที่ความคิด แต่สติจับที่ลมแต่รู้ทั้งกาย และการนั่งหลังเสร็จกิจนี่เอง คือ อิ่มแล้วกายอิ่ม กระเพระมันกำลังทำงาน ความหิวไม่มาเป็นนิวรณ์ ความอิ่มคือปีติสุข และเมื่อสงบกายสงบจิต สติที่ดูกาย จะรู้เห็นอาการกาย ที่กายกำลังย่อมอาหาร กายทำงานเห็นเวทนาต่างๆ ทั้งกาย ดูกายเห็นกายเห็นเวทนาเห็นจิต(ความคิด) ซึ่งอันนี้คือดูเพื่อเห็นความจริงของกายและเวทนากาย ส่วนของความคิดก็จะได้เข้าใจว่า ความคิดมันเกิดจากกายรับรู้กายทำงาน ได้ยังไง
     
  13. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    คนที่ฝึก เมื่อเขาสงบได้ เขาจะเกิดปัญญารู้เห็น แล้วค่อยเอามาถามว่า ต่อไป นี่คืออะไร นั่นคืออะไร มันคืออะไร ผมก็จะได้อธิบาย ต่อได้ครับ ซึ่งใครไม่ฝึก ก็จะไม่เข้าใจ หรอกครับ
     
  14. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    การนั่งสมาธิ เอาฌาณน่ะ มันไม่ยากหรอกครับ

    แต่การนั่งเอาปัญญา นี่สิครับ มันยากกว่า เพราะต้องถอยฌาณสี่มาฌาณสองเพื่อรับรู้การทำงานของกาย เป็น กายตยคติ แต่ก็มีการสอนไปอีกว่า ให้แยกย่อย อวัยวะเป็น ชิ้นๆ ส่วนๆ อันนี้ สำหรับคนที่ ติดในกามรูป เท่านั้น(วัยรุ่นหรือคนที่ไม่มีสามีภรรยาเป็นของตนเอง)
     
  15. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ผมว่า ต้องมีคนสงสัยอยู่เป็นแน่แท้ว่า การดูเฉยๆ จะเกิดปัญญาได้อย่างไร นี่ไง คำถามที่ผมเจอมาบ่อยๆ นั่นเพราะมีแต่ถาม แต่ไม่เคยฝึกจริงจัง

    มีคนถามผมว่า ต้องฝึกสติปัฏฐานแบบที่ผมเข้าใจนี้ด้วยหรือ ผมก็ตอบว่า ทุกคนนั่นแหล่ะ ต้องมาฝึกและรู้ไตรลักษณ์ให้ได้เสียก่อน มันถึงจะหมดสงสัยเรื่องโลกเรื่องจักรวาลได้ แล้วมันถึงจะกลับมาสงสัยตนเองได้จริงๆ ไม่งั้น ไม่ต้องพูดเลยเรื่องอรูป เอาเรื่องรูป(โลกและสรรพสิ่งให้จบได้ก่อน) ถึงจะมาที่อรูป(ขันธ์ของตนเอง) ได้
     
  16. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    [​IMG]



    ** มาตรา 32 ทับ 23 ***


    ---------------------------------------------------------
    ปลลิง : เป็นข้อความหน่าคร้าบ ไม่ใช่ แปะรูป ท่านปราทานของจันทโครพ
     
  17. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ยอมรับ ผิดทุกกฏ หมดความเป็นพระนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป นะนิวรณ์
    หวังเฉา หม่าฮั้น เปิดประตู เอามันออกไป ปล่อยไว้ที่โลก ดังเดิม เอวัง

    ปิดดดดดดดดดสานส์
     
  18. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ทุกวันโกน 14 ค่ำ คือวันสารภาพบาป วันเข้าศีลอุโบสถ วันสารภาพบาป ชำระบาป

    แต่ถ้า หมดจากความเป็นพระ เพราะผิดทุกกฏ หรือ ขอลาสิกขา อันเดียวกัน คือ การขอออกจาก การเป็นสมมุติสงฆ์ จงจำเอาไว้ว่า ทางเข้าก็คือทางออก ทางเดียวกัน
     
  19. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ใครที่สาพภาพบาป เพื่ออยู่ทำบาปต่อ ก็คือคนที่ ยอมอภัยให้กับตนเองโดยอภัยให้กับตนเองน่ะ เป็น แต่อภัยให้กับคนอื่น อีก อารมณ์ มันไม่เหมือนกัน

    หรือ ต่างฝ่ายหรือทั้งสองฝ่าย ต่างอภัยกันและกันเพื่อสร้างบาปต่อไป ถือว่า สมรู้ร่วมคิด ที่จะ เอามาเป็นเพื่อประโยชน์ในการสร้างบาปต่อไป ถือว่า ผิดโดยเจตนา
     
  20. Piagk3

    Piagk3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +1,222
    สติปัฏฐานสี่ ที่พระศาสดา ตรัสจากพระโอษฐ์ ของพระองค์เองและสอนสาวกไว้ในครั้งพุทธกาล คืออานาปานสติ เท่านั้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...