เรื่องเด่น สธ.ชวนพุทธศาสนิกชนถวายหน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 23 ธันวาคม 2019.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,297
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,273
    ค่าพลัง:
    +9,528
    e0b8b8e0b897e0b898e0b8a8e0b8b2e0b8aae0b899e0b8b4e0b881e0b88ae0b899e0b896e0b8a7e0b8b2e0b8a2e0b8ab.jpg
    กระทรวงสาธารณสุข ห่วงสุขภาพพระสงฆ์ ช่วงฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน แนะสวมหน้ากากอนามัยขณะบิณฑบาต พร้อมชวนพุทธศาสนิกชนถวายหน้ากากอนามัย เพื่อเป็นการทำบุญและร่วมส่งเสริมสุขภาพพระสงฆ์

    วันนี้ (23 ธ.ค.2562) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการเพิ่มขึ้นของค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เกินเกณฑ์มาตรฐานตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนเป็นต้นมา ซึ่งเริ่มมาจากผลของไฟป่าในประเทศอินโดนีเซีย ประกอบกับฝนทิ้งช่วงและต่อเนื่อง รวมทั้งมีภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง เข้าสู่ฤดูหนาวและอากาศนิ่ง ทำให้ค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองขนาดเล็กที่กรมควบคุมมลพิษวัดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

    พระสงฆ์อาพาธเพิ่ม

    ข้อมูลของโรงพยาบาลสงฆ์พบว่า มีพระภิกษุได้รับผลกระทบต่อสุขภาพมีอาการอาพาธเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ อาการหอบกำเริบในโรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรังและหอบหืด หลอดลมอักเสบติดเชื้อ และภาวะปอดอับเสบ ส่งผลให้จำนวนพระสงฆ์อาพาธต้องนอนโรงพยาบาลเพิ่มสูงขึ้นเท่าตัว คือ จากเดิมเฉลี่ย 5 รายต่อเดือน (เมษายน-กันยายน 2562) มาเป็น 11 รายต่อเดือน (ตุลาคม-ธันวาคม 2562) และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลง

    ขณะที่ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า สาเหตุส่วนใหญ่ของการหอบกำเริบในโรคหลอดลมอุดตันเรื้อรังและหอบหืด เนื่องจากการสูดควันและฝุ่น PM2.5 ในช่วงบิณฑบาตตามท้องถนน ชุมชนตลาด โรงงานต่าง ๆ ทุกวัน รวมถึงการนั่งยานพาหนะที่เปิดโล่ง เช่น การนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ รถตุ๊กตุ๊ก รถไฟ

    นอกจากนี้ ยังพบว่าพระภิกษุมีอาการหอบกำเริบภายหลังการประกอบกิจสงฆ์ และงานต่าง ๆ ภายในวัด เช่น การจุดธูป การกวาดขยะมูลสัตว์ที่มีจำนวนมากในวัด การเผาขยะมูลฝอย การเผาศพ การก่อสร้างในวัด และไม่ได้ใส่เครื่องป้องกัน เช่น หน้ากากอนามัย ซึ่งพระภิกษุสามเณรเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจยังไม่ได้การรณรงค์และดูแลให้ความสำคัญในภาพรวมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

    ชวนถวายหน้ากากป้องกันฝุ่น

    ทั้งนี้ โรงพยาบาลสงฆ์รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้คำแนะนำทุกครั้งที่ผู้ป่วยมารับบริการผ่านสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับการป้องกันและการดูแลสุขภาพในพระภิกษุอาพาธโรคปอดเรื้อรัง รวมทั้งมีการแจกหน้ากากอนามัย บริการส่งยาโรค ประจำตัวไปทางไปรษณีย์ การออกหน่วยเยี่ยมตามวัดต่าง ๆ ในช่วงที่มีสถานการณ์ค่าฝุ่นเกินเกณฑ์ พร้อมแนะนำให้พระสงฆ์ที่บิณฑบาต รวมทั้งพุทธศาสนิกชนที่ตักบาตรตอนเช้าสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน ฝุ่น PM2.5 และขอเชิญชวนประชาชนทำบุญด้วยการถวายหน้ากากอนามัยแด่พระสงฆ์ เพื่อเป็นการร่วมส่งเสริมสุขภาพพระสงฆ์อีกทาง

    ขอขอบคุณที่มา
    https://news.thaipbs.or.th/content/287307
     
  2. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,297
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,273
    ค่าพลัง:
    +9,528
    ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการเพิ่มขึ้นของค่าฝุ่นละออง PM2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐานตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนเป็นต้นมา ซึ่งเริ่มมาจากผลของไฟป่าในประเทศอินโดนีเซีย ประกอบกับฝนทิ้งช่วงและต่อเนื่อง รวมทั้งมีภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง เข้าสู่ฤดูหนาว และอากาศนิ่ง ทำให้ค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองขนาดเล็กที่กรมควบคุมมลพิษวัดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

    จากข้อมูลของโรงพยาบาลสงฆ์พบว่ามีพระภิกษุได้รับผลกระทบต่อสุขภาพมีอาการอาพาธเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ อาการหอบกำเริบในโรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรังและหอบหืด หลอดลมอักเสบติดเชื้อ และภาวะปอดอับเสบ ส่งผลให้ผู้พระสงฆ์อาพาธต้องนอนโรงพยาบาลมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นเท่าตัว คือ จากเดิมเฉลี่ย 5 รายต่อเดือน (เมษายน- กันยายน 2562) มาเป็น 11 รายต่อเดือน (ตุลาคม-ธันวาคม 2562) โดยยังไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลง

    นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า สาเหตุส่วนใหญ่ของการหอบกำเริบในโรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรังและหอบหืด เนื่องจากการสูดควัน และฝุ่น PM 2.5 ในช่วงบิณฑบาตตามท้องถนน ชุมชนตลาด โรงงานต่างๆ ทุกวัน รวมถึงการนั่งยานพาหนะที่เปิดโล่ง เช่น การนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ รถตุ๊กตุ๊ก รถไฟ

    และนอกจากนี้ยังพบว่าพระภิกษุมีอาการหอบกำเริบ ภายหลังการประกอบกิจสงฆ์ และงานต่างๆ ภายในวัด เช่น การจุดธูป การกวาดขยะมูลสัตว์ที่มีจำนวนมากในวัด การเผาขยะมูลฝอย การเผาศพ การก่อสร้างในวัด และไม่ได้ใส่เครื่องป้องกันเช่นหน้ากากอนามัย จึงนับได้ว่าพระภิกษุสามเณรเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจยังไม่ได้การรณรงค์ และดูแลให้ความสำคัญในภาพรวมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

    ซึ่งโรงพยาบาลสงฆ์มีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้คำแนะนำทุกครั้ง ที่ผู้ป่วยมารับบริการผ่านสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับการป้องกันและการดูแลสุขภาพในพระภิกษุอาพาธ โรคปอดเรื้อรัง รวมทั้งมีการแจกหน้ากากอนามัย บริการส่งยาโรค ประจำตัวไปทางไปรษณีย์ การออกหน่วยเยี่ยมตามวัดต่าง ๆ ในช่วงที่มีสถานการณ์ค่าฝุ่นเกินเกณฑ์

    ทั้งนี้ ขอแนะนำให้พระสงฆ์ที่บิณฑบาต รวมทั้งพุทธศาสนิกชนที่ตักบาตรตอนเช้าสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน ฝุ่น PM 2.5 และขอเชิญชวนประชาชนทำบุญด้วยการถวายหน้ากากอนามัยแด่พระสงฆ์ เพื่อเป็นการร่วมส่งเสริมสุขภาพพระสงฆ์อีกทาง

    หากมีข้อสงสัยหรืออาการผิดปกติจากการได้รับควันฝุ่น PM2.5 สามารถปรึกษาได้ที่โทร. 0-2354-4305 ต่อ 5213 ในวันจันทร์- ศุกร์ เวลา 08.00- 12.00 น. หรือโทร 0-2354-4305 ต่อ 5121 ในวันเสาร์-อาทิตย์ ตลอด 24 ชั่วโมง

    e0b988e0b8a7e0b887e0b983e0b8a2e0b8aae0b8b8e0b882e0b8a0e0b8b2e0b89ee0b89ee0b8a3e0b8b0e0b8a0e0b8b4.jpg

    เรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย Nation TV

    ขอขอบคุณที่มา
    https://www.nationtv.tv/main/content/378755526/
     
  3. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,297
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,273
    ค่าพลัง:
    +9,528
    7e0b89ee0b8a3e0b8b0e0b8aae0b8b9e0b894e0b89de0b8b8e0b988e0b899e0b89ee0b8b4e0b8a9-2-5-e0b981e0b899.jpg

    ระบุข้อมูลรพ.สงฆ์ พระอาพาธเพิ่มจากระบบทางเดินหายใจ ชวนญาติโยมร่วมถวายหน้ากากอนามัย เพื่อร่วมดูแลสุขภาพพระ

    ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ค่าฝุ่นละออง PM2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐานตั้งแต่ปลายเดือนก.ย.เป็นต้นมา ซึ่งเริ่มมาจากผลของไฟป่าในประเทศอินโดนีเซีย ประกอบกับฝนทิ้งช่วงและต่อเนื่อง รวมทั้งมีภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง เข้าสู่ฤดูหนาว และอากาศนิ่ง ทำให้ค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองขนาดเล็กที่กรมควบคุมมลพิษวัดในเขต กทม.และปริมณฑลเพิ่มสงูขึ้นเรื่อยๆ จากข้อมูลของโรงพยาบาลสงฆ์พบว่ามีพระภิกษุได้รับผลกระทบต่อสุขภาพมีอาการอาพาธเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ อาการหอบกำเริบในโรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรังและหอบหืด หลอดลมอักเสบติดเชื้อ และภาวะปอดอักเสบ ส่งผลให้ผู้พระสงฆ์อาพาธต้องนอนโรงพยาบาลมีเพิ่มสูงขึ้นเท่าตัว คือ จากเดิมเฉลี่ย 5 รายต่อเดือน (เม.ย.- ก.ย.62) มาเป็น 11 รายต่อเดือน (ต.ค.-ธ.ค.62) โดยยังไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลง

    นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า สาเหตุส่วนใหญ่ของการหอบกำเริบในโรคหลอดลมอดุกั้นเรื้อรังและหอบหืด เนื่องจากสูดควัน และฝุ่น PM 2.5 ในช่วงบิณฑบาตตามท้องถนน ชุมชนตลาด โรงงานต่างๆ ทุกวัน รวมถึงการนั่งยานพาหนะที่เปิดโล่ง เช่น นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ รถตุ๊กตุ๊ก รถไฟ นอกจากนี้ ยังพบว่าพระภิกษุมีอาการหอบกำเริบ ภายหลังการประกอบกิจสงฆ์ และงานต่างๆ ภายในวัด เช่น จุดธูป กวาดขยะมูลสัตว์ที่มีจำนวนมากในวัด การเผาขยะมูลฝอย การเผาศพ การก่อสร้างในวัด และไม่ได้ใส่เครื่องป้องกันเช่นหน้ากากอนามัย จึงนับได้ว่าพระภิกษุสามเณรเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจยังไม่ได้มีการรณรงค์ และดูแลให้ความสำคัญในภาพรวมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

    ทั้งนี้ โรงพยาบาลสงฆ์มีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้คำแนะนำทุกครั้ง ที่ผู้ป่วยมารับบริการผ่านสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับการป้องกันและการดูแลสุขภาพในพระภิกษุอาพาธ โรคปอดเรื้อรัง รวมทั้งมีการแจกหน้ากากอนามัย บริการส่งยาโรค ประจำตัวไปทางไปรษณีย์ การออกหน่วยเยี่ยมตามวัดต่าง ๆ ในช่วงที่มีสถานการณ์ค่าฝุ่นเกินเกณฑ์

    นพ.สมศักดิ์กล่าวว่า ขอแนะนำให้พระสงฆ์ที่บิณฑบาต รวมทั้งพุทธศาสนิกชนที่ตักบาตรตอนเช้าสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน ฝุ่น PM 2.5 และขอเชิญชวนประชาชนทำบุญด้วยการถวายหน้ากากอนามัยแด่พระสงฆ์ เพื่อร่วมส่งเสริมสุขภาพพระสงฆ์อีกทาง

    ขอขอบคุณที่มา
    https://siamrath.co.th/n/122692
     

แชร์หน้านี้

Loading...