สนทนาสบายๆ ตามประสา

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย ธณต, 8 พฤศจิกายน 2011.

  1. นํ้าข้าว

    นํ้าข้าว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,435
    ค่าพลัง:
    +10,351
    อะไรที่โดนน้ำ.ก็มีการเปลี่ยนแปลงหมดนะครับตามความคิดผม..

    ส่วนพระจะเเท้.นั้น..การดูต้องดูที่ส่วนประกอบในองค์พระทั้งหมด.มารวมกัน..ไม่ว่าพระอะไรนะผมว่า..เหรียญ.ดิน.ชิน.ผง..
     
  2. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    สมเป็นอาเฮียใหญ่ร้านข้าวต้มจริงๆครับ
     
  3. นํ้าข้าว

    นํ้าข้าว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,435
    ค่าพลัง:
    +10,351
    ขอบคุณพี่ธณต.มากครับ..
     
  4. liverpool_Rak

    liverpool_Rak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    2,482
    ค่าพลัง:
    +3,153
    การสนทนาระหว่างเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งซึ่งเพิ่งจะหัดเล่นพระได้ 2-3ปีกับคุณลุงขายพระ ของเช้าวันหนึ่งในสนามพระที่ไหนซักแห่ง.....

    เด็กวัยรุ่น... : ลุงๆ วันนี้มีสมเด็จมั้ย ถ้ามี เอามาดูหน่อยซิ..

    คุณลุง...: อ๋อ นี่งัยละ เพิ่งได้มา สดๆร้อนๆ ของตกทอดกันมาเลยนะเนี่ย ข้าเห็นเลยรีบจับมา 5พัน..

    เด็กวัยรุ่น... : สวยดี นะลุง แต่เนื้อมันยังดูใหม่อยู่เลยนะ

    คุณลุง...: เฮ้ยๆ เอ็งนี่ไม่รู้อะไร พระไม่ได้ใช้ เก็บไว้อย่างดีเลย ข้าเพิ่งแกะกรอบพลาสติกออกทิ้ง เมื่อตะกี้นี้เอง อยู่ในกรอบมองไม่เห็นพระเลย ต้องแกะออกดู เห็นตอนแรกข้านี่ขนลุกเลย

    เด็กวัยรุ่น... : เนื้อมันยังดูแน่นอยู่เลยนี่ลุง

    คุณลุง...: เอางี้ ถ้าอยากรู้ เอ็งเอาไปใส่กรอบสแตนเลส ห้อยคอไว้ตลอดซัก ปี 2 ปี ละเอ็งดูเอามาดูใหม่ ถ้าไม่ดีเอามาคืนได้ ข้าถูกใจเอ็งวะ

    เด็กวัยรุ่น... : งั้น 2พันได้มั้ย ลุง

    คุณลุง...: เออๆ เห็นแกเอ็งนะเนี่ย นึกว่าให้ลูกให้หลาน ....... (การเช่าขายพระก็เสร็จสิ้นสมบูรณ์)

    วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก..... ปี กว่าๆหลังจากนั้น....

    เด็กวัยรุ่น... : ลุงๆ ดูสิ เนื้อพระ อย่างกับขนมตุบตั๊บเลย

    คุณลุง...: เห็นมั้ย เนื้ยหละสมเด็จวัดระฆังละ เนื้อต้องอย่างนี้

    เด็กวัยรุ่น... : ลุงๆ ดูสิ มีคราบขาวๆ ขึ้นเต็มเลย

    คุณลุง...: นั้นหละ คราบแป้งงัยละ สมเด็จวัดระฆังก่อนกดพิมพ์ต้องโรยแป้งก่อนและ
    แป้งซึมเข้าไปในเนื้อ โดนเหงื่อก็จะออกมาเอง

    เด็กวัยรุ่น... : ลุงๆ มีจุดดำๆ ขึ้นที่องค์พระด้วย

    คุณลุง...: นั้นหละ ราดำ สมเด็จวัดระฆัง ต้องมี....

    เด็กวัยรุ่น... : ลุงๆ และไอ้เศษเขียวๆ นี้คืออะไร
    คุณลุง...: อ้อ ตะใคร้ใบเสมา งัยหละ เล่นสมเด็จไม่รู้ได้งัยวะ (เริ่มชักสีหน้า ..ไอ้นี่แม่ง..ถามเยอะ ตรูเริ่มจะหมดมุขแล้วนะ). และอื่นๆอีกมากมายที่เจอในองค์พระ พร้อมกับคำตอบที่เริ่มจะอ้อม ๆแอ่มๆ หลังจากนั้น เด็กวัยรุ่นคนนั้นก็กลับไปพร้อมพระ ด้วยความสุขสำราญใจ มุ่งตรงไปที่ร้านทองเพื่อจะเลี่ยมพระสมเด็จองค์นี้ขึ้นคอ ดั่งสมใจอยาก..

    คนขายพระที่นั่งแผงข้างๆ : พระสมเด็จแท้ๆ แกปล่อยไปทำไมวะ เป็นล้านนะมึง เสียดายวะ...
    คุณลุง... : แหะๆ มึงจำไม่ได้เหรอ วันนั้นกูเอาของมึงมา ห้าองค์ ร้อยเดียว เอง หะๆ วันนี้อารมณ์ดี เดี๋ยวเลี้ยงกว๋ยเตี๋ยว.. ว่าแล้วก็เอาพระที่เหลือออกมาวาง ต่อไป...........ก็สุดแต่ใครจะไขว่คว้าไป..... เอวัง... :)

    ขำๆนะคับ เดี๋ยวสาระในเรื่องเล่นเหงื่อค่อยต่อตอนเย็นๆ :)
     
  5. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    เอาละหว่ามีนักเล่านิทานมาเพิ่มแล้ว

    สนุกกันใหญ่ละคราวนี้

    เปลี่ยนชื่อเป็นสนทนากับนิทานดีมั้ย

    ผมชอบครับผมเล่ามั้งนะครับ เรื่องคล้ายของน้ารักเหมือนกัน

    เรื่องเกิดในร้านข้าต้มที่อร่อยที่สุดในขอนแก่นครับ

    หลังจากดูแลลูกค้าในร้านเรียบร้อยอาเฮียเจ้าของร้านผู้หลงใหลพระสมเด็จก็มานั้งส่องพระเหมื่อนเคยแต่คราวนี้เป็นที่สนใจของลูกค้าคนหนึ่ง
    "เฮียๆช่วยดูพระสมเด็จให้องค์ดิ๊ "ลูกค้าหนุ่มเข้ามาคุยพร้อมยื่นพระให้
    ด้วยความชอบสมเด็จอยู่เเล้วจึงรับพระมาส่องสัครู่เเกก็พูดขึ้นว่า
    "พิมพ์ดีนะเเต่เนื้อดูกระด้างๆไงๆอยู่น่าจะบวชใหม่นะน้อง"
    "เอยังไงไม่รู้นะเฮีย เพื่อนมันจิ๊กพ่อตามาให้ผมไปขายผมก็ดูไม่ค่อยเป็นด้วย"
    "เท่าไรละ" เฮียถาม
    "1500แล้วกันเฮีย" ชายหนุ่มตอบ
    เฮียทำท่าวางพระ ชายหนุ่มรีบเอ่ยต่อ. " เอางี้เเล้วกันเฮีย ผมไม่เอาค่านายหน้า ช่วยเพื่อนเอาพันเดียวแต่เฮียเลี้ยงข้าวผมกับเพื่อนแล้วกัน"
    ด้วยความที่เห็นว่าพระถูกพิมพ์ แล้วสงสัยว่าพระอาจล้างมา แกจึงตกลงตามข้อเสนอแอบจ่ายตังค์ที่เม้มภรรยามา หลังจากนั้นแกก็เอาพระไปเช็คตามที่ต่างๆไม่ว่าในเวปหรือคนรู้จักทั่วทั้งขอนแก่นผลที่ได้คือพระเเกเกือบใช่ ระหว่างที่แกเช็คอยู่แกก็แขวนองค์นี้ขายข้าวต้มหน้าเตาแกไปเรื่อยเผื่อว่ามีคนดูพระเข้าร้านจะได้ให้ดูเลย เวลาผ่านไปไม่กี่เดือนแกมีธุระที่ต้องไปจังหวัดข้างเคียงด้วยความที่เเกชอบพระเมื่อเสร็จกิจแกก็เดินสนามพระก่อนกลับ แล้วแกก็ได้ยินเสียง
    "มีพระอะไรชมครับ" แกหันไปตามเสียงแล้วเเกก็จำไอ้หมอนี้ที่เอาพระมาขายตูนี้หว่าแกก็เดินเข้าไปหากะว่าจะต่อว่าสักนิด แต่ได้ยินชายหนุ่มเอ่ยก่อน
    "พระสมเด็จในคอสวยนะพี่ขอชมหน่อยครับ"
    แล้วความคิดนึงก็เล่นเข้ามา แกถอดพระส่งให้ดู
    "ปล่อยมั้ยเฮีย พระเก่าไม่รู้ที่"
    "อยากได้สักสามพันสอง" เฮียแอบยิ้ม
    "โอ้ยไม่ไหวพี่ลดหน่อย พันห้าแล้วกัน" ตาลุกวาว
    "สองพันไม่เอาก็ไปละ "แล้วแบมือขอพระคืน
    ก็ได้ ก็ได้ แล้วควักเงินส่งให้ในใจก็คิดว่าวันนี้ละคงกำไรอื่อละ

    เรื่องราวต่อไปจะเป็นยังไงไม่ทราบแต่อีตาเฮียกลับบ้านเอาเงินที่ได้มาเม้มภรรยาเหมือนเดิมพร้อมรอยยิ้มสบายใจ
     
  6. นํ้าข้าว

    นํ้าข้าว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,435
    ค่าพลัง:
    +10,351

    ตาเฮียแกคุ้นๆนะครับ.อิอิ
     
  7. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    ก๊. คนกันเองแถวๆนี้ละครับ
    รอน้ารักมาเป็นงานเป็นการก่อนนะครับแล้วผมจะเล่าสิ่งที่ผมรู้มาให้ฟังต่อไป
     
  8. liverpool_Rak

    liverpool_Rak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    2,482
    ค่าพลัง:
    +3,153
    555+ เอ้า เอาสาระ ตามท่านธนตบอกก็ได้ แต่ยาวหน่อยนะคับและบอกก่อนนะคับว่า เรื่องนี้มันเป็นเรื่องประสพการณ์ส่วนตัวมาเล่าสู่กันฟังนะคับ อย่ายึดจะเอามาเป็นเรื่องเป็นราว คิดเสียว่าขับรถอยู่แล้วหยิบกระดาษห่อกล้วยแขกมาอ่านเล่นแก้เซ็งตอนรถติดก็แล้วกันคับ :)

    สำหรับส่วนตัวผมนั้นว่าเรื่อง นำพระมาใส่เล่นเหงื่อนั้นเป็นความเชื่อที่ผิดๆที่เชื่อต่อๆกันมานานแล้ว ตอนที่ผมเด็กๆนั้นมักจะมีเซียนพระรุ่นเก๋าๆนั้นนำเอาพระมาใส่ตลับ2-3องค์ร้อยเชือกเอามาให้ห้อยคอเพื่อให้วิ่งเล่นไล่จับกันเป็นประจำ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นพระกรุ เนื้อดิน เช่นพระรอด พระคง พระเลี่ยง พระลบ พระลือ เป็นต้น ให้ห้อยคอไว้ นานเหมือนกัน บางทีก็นานจนลืม นึกขึ้นมาได้ทีก็เอาออกมา ลูบๆคลำๆ ด้วยใบตองแห้งๆ เสร็จแล้วก็นั่งส่อง ส่องไปส่องมาก็ใส่ตลับให้พวกผมห้อยคอใหม่ สลับกันอย่างนี้เรื่อยๆก็เป็นปีหละคับ แต่ส่วนใหญ่จะได้คืนไม่ครบ 5555+ ถ้าไม่หาย ก็โดนผู้ใหญ่ถิ่นอื่นหรือคนต่างถิ่นเอาขนมหรือเอาแบ๊งค์เขียวๆมาล่อ พวกผมก็เอา (แล้วมาโกหกว่าหายอีกที) แต่เท่าที่ผมสังเกตุ(ตามที่พ่อผมสอนนั้น)เปรียบเทียบกันระหว่าง
    (เนื้อดิน)พระเก๊กับพระแท้ - หลังจากใส่เล่นเหงื่อยังงัยก็ไม่สวยเท่าพระแท้ แต่สภาพของพระเก๊จะเปลี่ยนไปจากเดิมแต่ไม่มากนักดูนุ่ม มัน หนึกขึ้น แต่เหมือน”ธรรมชาติไม่ทั่วถึง” ทั้งองค์ อันเกิดจากการพยายามแต่งนั้นเอง

    (เนื้อดิน)พระแท้กับพระแท้ - หลังจากใส่เล่นเหงื่อแล้ว(แต่ไม่แต่ง ไม่ถู ไม่สัมผัส) ธรรมชาติของพระจะเปลี่ยนไปจากเดิมเนื้อดูจัดขึ้นเล็กน้อยคืออยู่ในสภาพใช้แล้ว มีคราบไคล แต่ถ้ามาวางส่องคู่กัน ก็ยังดูสวยสู้พระที่ไม่ได้เล่นเหงื่อแบบอยู่ธรรมชาติเดิมๆไม่ได้เลย

    ทีนี้นานๆเข้าวิถีสมเด็จฯเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ มักจะได้ยินกันเสมอว่า สมเด็จต้องดู”หนึก นุ่ม”ทีนี้ก็มีการตีความหมายกันไปต่างๆนาๆ ”หนึก” ตรูไม่รู้ เอา”นุ่ม”ไว้ก่อน เดี๋ยวนานๆ “หนึก”คงจะมาเองมั้ง :) (อันนี้ผมคิดเอง เออเองนะ) ก็มักจะมีเซียนพระมาเดินหาสมเด็จ ส่องดูเอาเนื้อ(ผง)สวยๆไว้ก่อน พิมพ์เอาไว้ทีหลัง (ใครถาม ก็บอกว่าพิมพ์นี้มีอยู่แล้ว แต่เซียนไม่ค่อยเล่นกัน เพราะหายาก ถ้าถามหนักๆเข้า จะเจอตอบว่า “กรูจะเล่นนอกพิมพ์” โว๊ย :)) ละก้อนำมาห้อยคอเพื่อใส่เล่นเหงื่อ บางทีใส่โดดลงน้ำบ้าง อาบน้ำบ้าง และปล่อยให้แห้งเองก็มี สลับกันอย่างนี้จนกลายเป็นพระประจำตัวไปเลย..

    ลองคิดดูนะคับ พระสมเด็จประกอบด้วยผง ไม่ว่าจะผงอะไรก็แล้วแต่มักจะมีส่วนประกอบผงธูป ดอกไม้ หรืออะไรก็ได้ที่ใส่จะลงไป ตามแต่คิดจะทำ แต่พระไม่ได้ทำด้วยปูนซีเมนส์จะได้แข็งแกร่งอะไรขนาดนั้น เมื่อโดนน้ำ โดนเหงื่อ แห้งเอง ยังงัยก็ดูนุ่มขึ้นคับ แต่นุ่ม จนบวม หรือออกฟ่ามจนจะปริออกมาเลยทีเดียว ถ้าอย่างนี้เราจะว่าพระชำรุดหรือว่าพระสวยขึ้นกันดีหละคับ :)

    2-3 ปีก่อนไปเดินเล่นในสนามพระแถวมีนบุรี ยังเคยเห็นบางแผงพระเอาใบตองแห้งๆมาถูพระแหยงๆอยู่เลยเพื่อให้พระดูมัน ดูหนึกขึ้น เห็นแล้วก็ขำๆปนสังเวชใจ อะไรจะทำไปได้ถึงขนาดนั้น พระถ้าจะดูหนึกมันก็เกิดจากส่วนผสมที่สร้างอย่างนึง ความเก่าอย่างนึง เกิดจากการสัมผัสนานๆก็อย่างนึง ลองเปรียบเทียบกับ ถนนดินโคลน ดินเหนียว ถ้าถนนเส้นนั้นไม่มีคนย่ำ คนเดิน ปล่อยให้แห้งเองตามธรรมชาติ กับ ถนนที่คนเดินย่ำ เดินเหยียบทุกวัน พอเรามาเจอเราก็พอจะแยกออกว่าถนนเส้นไหนที่คนใช้ คนเดินเป็นประจำ นั้นเอง

    สำหรับส่วนตัวผมนั้น การใส่พระเล่นเหงื่อนั้นเป็นแค่เทคนิคการแต่งพระอย่างหนึ่ง เท่านั้น ไม่ได้ ทำให้พระดูดี หรือเป็นพระแท้ขึ้นมาได้เลย ทองเหลืองจะขัดให้เหลืองอร่ามยังงัยก็ได้แต่มันก็เป็นทองเหลืองวันยังค่ำมันจะกลายเป็นทองคำไปได้ยังงัย...

    พระสมเด็จฯนั้น ธรรมชาติต่างหากที่ทำให้สวยขึ้น ความคมชัดที่เกิดจากการ”หดตัว”ตามอายุ ความ”หนึก นุ่ม”ที่เกิดจากการผสมผสานของความละเอียดของมวลสารโดยมีเวลาอายุของพระเป็นตัวหล่อหลอมให้เกิดเป็นธรรมชาติอย่างลงตัว นั้นหละคับ เป็นสิ่งที่ส่วนตัวผมยึดมั่นถือมั่นมาตลอด. ขออภัยนะคับ ยาวหน่อย และขอบคุณที่ตามอ่านนะคับ เดี๋ยวท่านธนต คงจะมาฝอยต่อ 5555+ :)
     
  9. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    เป็นงานเป็นการนิดนึงเดี๋ยวจะหาว่าเป็นแต่เล่านิทาน

    ในเหงื่อคนเรามันก็มีส่วนประกอบหลายๆอย่างแต่ที่จะพูดถึงก็คือ น้ำ เกลือ ไขมัน ไอ้สองตัวหลังใครจะออกมามากน้อยก็แล้วแต่คน ทึนึ้พระที่แห้ง จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ ก็จะมีความหนาแน่นไม่เท่าพระใหม่เมื่อถูกน้ำเข้าไปก็ดูดซึมเข้าไปในตัว เหมือนอิฐมอญ เมื่อนานเข้ามากเข้าก็เกิดความฉ่ำตัว แล้วพวกไขมันกับเกลือละมันไม่สามารถซึมเข้าไปได้ลึก จึงเกาะตามผิวพระ ทำให้เกิดความมันและคราบติดทีผิวพระ

    พระเนื้อดินโดยธรรมชาติของดินเมื่อโดนขัดโดรถูด้วยของมันย่อมขึ้นมันอยู่แล้วแบบ น้ารัก ว่าเอาใบตองเอามือถูมันก็ขึ้นเงามัน

    สรุปคือโดยเท่าที่ทราบมาไม่ได้เป็นหลักการอะไร ไม่ว่าพระจะแท้ปลอมถ้าเป็นพระที่แห้งๆเอาไปเล่นเงื่อก็ขึ้นเงามันทั้งนั้นครับ
     
  10. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
  11. liverpool_Rak

    liverpool_Rak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    2,482
    ค่าพลัง:
    +3,153
    แฮะๆ มีเรื่องเล่าเล่นๆให้อ่านพอแก้เซ็ง พอดีนึกขึ้นได้ว่าเมื่อหลายวันก่อน มีเสี่ยใหญ่จากเมืองจันทบุรีเอาพระมาให้ดู นัยว่าเพิ่งจะได้จากพระผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง จากวัดแถวๆฝั่งธน ซึ่งแกก็เทียวไป เทียวมาแวะเวียน มาหาท่านเรื่อยๆ เอาปัจจัยมาถวายบ้าง ผลม้ง ผลไม้ นมเปรี้ยว จนถึงคาราบาวแดง :) ทุกๆขากลับบ้าน ก็จะแวะมาหาผมที่บ้านเรื่อย แต่ไม่มีอะไรติดมือเหลือมาเลย เพราะถวายพระหมดแล้ว มีแต่น้ำใจ มาแลกน้ำเย็น (ถ้าไม่ติดเข้าพรรษา ผมคงโดนไฮนาเก้น อีกครึ่งลังเป็นอย่างน้อย...) จริงๆแล้วที่แกเพียรพยายามมาเป็นปีเนี่ย ไม่ไช่อะไร ก็เพราะหวังสมเด็จบางขุนพรหมในย่ามของท่านนั้นหละ 5555+ แกก็มาเล่าให้ผมฟังเรี่อยหละ จนกระทั่งแกได้มาจริงๆ แต่แกบอกพระท่านให้มาเอง แล้วแกก็ถวายปัจจัยไปหลายปึก เท่านั้นเอง ไม่ได้ซื้อขายกันเลยจริ๊งๆๆ(เสียงสูง)... แล้วแกก็รีบขับBMสีแดงแปร๊ด(แกบอกเป็นของคนงานสาวอายุ18ที่ชอบมานวดคลายเอ็น เอ๊ย คลายเส้นให้แกบ่อยๆ)มาให้ผมดู ก็เกือบ 4 ทุ่มแล้วหละ ผมก็ดูให้แก และผมก็ไม่ว่าอะไร บอกว่า"สวยดีคับเฮีย"แล้วก็เปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น แกก็มองหน้าผมสลับกับมองพระแกในมือ ไปมาอย่างนี้ซัก 5 นาทีได้ แล้วแกก็ถามผมตรงๆว่า "ไม่ดีเหรอจารย์" ผมก็บอกเหมือนเดิมว่า"สวยดีคับเฮีย" แล้วก็ทำเป็นปิดปากหาวยาวๆ ดูแกส่องพระต่อไปซักพัก แล้วผมก็โล่งอกเมื่อแกขอตัวกลับ..

    คืออย่างงี้คับ... พระของแกเป็นพระพิมพ์สังฆาฎิ แต่เป็นพระเก๊เก่าที่ตอนนี้เล่นเป็นพระแท้กัน เป็นพระเนื้อแก่ปูน แกร่ง มันส์มาก แต่จะหนามากกว่าของแท้ไปมิลกว่า จับดูจะรู้ว่าหนาเลย ดูเผินๆนะแท้ปาดคอเลยคับ คราบกรุไม่ต้องห่วงคับ เพราะรุ่นนี้ไม่มีคราบให้ดูว่าเป็นของเก๊เลย เกลี้ยงเกลาไปหมด ดูพิมพ์อย่างเดียวพอ แต่ก็ไม่รู้จะอธิบายยังงัยเหมือนกัน แต่ใจเรารู้ว่าเก๊ก็แล้วกัน ไม่มีเหตุผลอะ ว่าง่ายๆ 5555+ :)

    ต่อนะคับ...ยางม่ายจบ...

    รุ่งเช้าเก้าโมงแก้วหน้าม้ายังไม่จบ เดินถือแก้วกาแฟออกมาเดินเล่น คุณพระช่วย เสี่ยสุดเลิฟคนเดิม มายืนดูหนังสือพิมพ์(ของผม)รอผมอยู่หน้าบ้านกำลังคิดในใจว่า"นี่เมรงไม่หลับไม่นอนกันเลยหรองัยวะ" แต่โดนคำถามแทรกมาก่อนว่า "ตกลงไม่ดีไช่มั้ยคับจารย์" ได้ยินคำนี้อยากถามท่านธนต พี่หมอ ท่านน้ำข้าว หรือใครก็ได้ ว่าเป็นคุณ คุณจะตอบยังงัย ผมเกือบจะบอกว่าปวดขี้ และขอเข้าส้วมไปเลย มานึกอีกทีว่าพี่แกคงยืนเฝ้าผมหน้าห้องน้ำแน่ๆเลยไม่เอาดีกว่า 5555+ ผมก็เลยบอกไปว่า"ผมยังไม่ชอบคับเฮีย".เฮียแกเลยบอกผมว่างั้นไปกับผมหน่อยละกัน.. เลี่ยงไม่ได้แล้วก็ต้องไปหละคับ ไม่งั้นแกคงตื้ออยู่นั้นหละ... ก็ไปถึงวัดที่ว่านั้นหละ..ไปเจอหลวงพ่อ(แต่ไม่ท่านยังดูไม่แก่เท่าไหร่นะ) คุยกันพอไหว้ครู เสี่ยใหญ่เพื่อนรักต่างวัยของผม ก็วกเข้าเรื่องทันทีว่า

    ท่านคับ"พระองค์นี้ มีคนบอกว่าเก๊คับ" (เอาแล้วสิกรูงานเข้าละ แม่งฆ่ากันเห็นๆ)...

    ท่านก็ยิ้มเงียบๆ...

    ท่านคับ "พอมีองค์อื่นให้ผมอีกมั้ยคับ ผมพาเซียนมาด้วยจะได้เลือกให้ผมเลย (เหงื่อผมเริ่มออก มือควานหาบุหรี่ในกระเป๋า)...

    ท่านก็ยิ้มเงียบๆ... (เหมือนเดิม แต่มองหน้าผม พยักหน้ายิ้มๆ)..

    ท่านคับ. ผมไม่ได้หลับ ไม่ได้นอนเลย คิดถึงเรื่องนี้ทั้งคืน เลยรีบขับรถมาหาท่านเนี่ย..

    คราวนี้ท่าน หันมาทางผม แล้วถามเบา "โยมไช่มั้ย เซียนที่เขาว่านั้นนะ..."

    ผม(กลืนน้ำลายเอิ๊อก..) ขะ ขะ คร๊าบ....

    แล้วท่านก็หันไปคุยกับเฮียชนิดที่ผมฟังแล้วแทบไม่เชื่อหู...

    "พระที่ให้โยมไปนั้น เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเก๊หรือแท้ เพราะไม่รู้ว่าแท้เป็นอย่างไร เก๊เป็นอย่างไร เราก็ดูไม่เป็น รู้แต่เพียงว่าโยมนั้นอยากได้และที่ทำทุกอย่างให้เรานั้นก็เพื่อสิ่งนี้ไม่ไช่หรือ เราจึงให้ พระองค์นี้เขาให้ต่อๆกันมาจนถึงเรานี่หละ ที่เราให้ เพราะถ้าได้ไปแล้วสมหวัง ก็มีความสุข เราให้ไปเราก็มีความสุข แต่เราไม่ยึดติดอะไร......."

    ถ้าผมได้ฟังคำนี้มาอีกที ผมคงเฉยๆนะ และก็คงบอกว่า "โลกสวย" อะไรประมาณนั้นตามสันดานเดิม.. แต่พอมาได้ยินกับหู ดูกับตา ด้วยตัวเองแล้วรู้สึกว่าท่านกล่าวออกมาจากใจจริงๆ จากนั้นซักพักผมกับไอ้เสี่ยหน้ามืดก็ขอตัวกลับ...

    คงจะมีคำถามว่า ได้คืนพระ คืนเงิน หรือได้พระองค์ใหม่มั้ย ... คำตอบคือ"ไม่"คับได้องค์เดิมกลับเมืองจันทร์ไป ผมพลิกลิ้นเป่าหู ชนิดที่พี่แกเคลิ้มตัวลอย แถมแวะคลองเตยเลี้ยงหูฉลามผมอีก...

    ที่เล่ามามีหลายสิ่งที่ผมได้บทเรียนก็คือ.....

    "บางครั้งโกหกบ้างก็ได้ อย่าจริงจังอะไรกันมากนัก มันมีอะไรอีกมากที่เราอาจจะคิดผิดก็ได้ และเป็นไปได้เสมอ...."

    "บางครั้งคนให้พระกับเรา จะแท้ จะเก๊ ให้ดูที่เจตนา เขาอาจจะรักเรา เขาถึงให้เรา เพราะเขาคิดว่าดี...เขาถึงให้เรา..."

    "บางครั้งพระเก๊ จากคนดีที่จริงใจ มีค่ามากกว่าพระแท้ ที่ได้จากมือโจร...."

    "อย่ามองว่าคนให้พระเก๊ กับเราเป็นคนไม่ดีเสมอไป ถ้าคิดอย่างนั้นจงคิดว่าตัวเราเองนะหละที่ไม่ดีเองและจงละอายใจ"

    "ความโลภ ความอยากได้ ปิดบังตาเราเสมอ อย่าให้เพราะเราอยากได้ จงให้เพราะเราอยากให้"

    เฮ้อ... จบซ้าที :)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2015
  12. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    เสริมน้ารักนิดเดียวครับ

    จะดูพระให้ใครพยายามรู้ที่มาก่อนก็ดีนะครับ ถ้าที่มาดีเจ้าของมั่นใจ
    บางที่เขาไม่ได้ต้องการคำตอบ เพียงแต่ต้องการคำชมเพื่อความสบายใจ

    ที่น้ารักถามผม ผมเลิกดูพระคนอื่นเก๊แท้นานแล้วครับ ถ้าสนิทกันหรือเลี่ยงไม่ได้ก็จะตอบแบบไปคิดเอาเองครับ
     
  13. นํ้าข้าว

    นํ้าข้าว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,435
    ค่าพลัง:
    +10,351
    ท่านรัก.ถามผม..ถ้าเป็นผม..คำตอบคล้ายๆท่านรักแหล่ะครับ.สวยครับ.เเค่นั้น.เพราะเราไม่ใช่เซียนชี้เป็นชี้แท้.เก้ได้..แต่ถ้าเลือกได้ส่วนมากผมไม่อยากตอบครับ..ตัวเอง.ยังแย่เลยครับ..55555...

    แต่ผมถือคติอย่างเดียวครับ...ถ้าจะขาย..เก้แท้อยุ่ที่คนจะเช่า.ชอบหรือไม่..แต่ถ้าศึกษาก็ตามตำราที่เชื่อถือได้..ไม่ใช่ตำรากะโหลกกะลา..

    เอวังด้วยประการละฉะนี้...
     
  14. นํ้าข้าว

    นํ้าข้าว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,435
    ค่าพลัง:
    +10,351
    ผมเล่าบ้างนะ...ขออนุญาติ.น้องรักธนพลด้วยละกัน...

    เรื่องมีอยู่ว่า..ไปท่องเที่ยวเวปดัง..ไปเจอสมเด็จปิลันทร์ฐานแซมอยู่องค์..เราดูว่าถูกพิมพ์ส่วนบน.ติดฐานล่าง.เล็กกว่าองค์ครูจากหนังสือยอดนิยมของ อ.ประจำ อูอรุณ

    และมีตัวอย่างให้เปรียบเทียบแค่องค์เดียว..ส่วนตัวชอบ..ติดปัญหาตรงที่ว่าไอ้เราโดนหวยกินชะด้วยจิ.ตังหมดถ้าจิ๊กเมียก็ต้องใช้เวลา.แล้วพระที่ลงประมูลตอนนั้นก็1800แล้ว.การเข่าพระในเวปเราต้องพร้อม.เลยคิดว่าเสียดายพระแห่ถ้าดีขึ้มา.หายากนะเนี้ยพิมพ์นี้..เอาไงดี..

    เลยบอกน้องๆที่รุ้จักในพลังจิตนี้แหล่ะ.2-3คน..แต่บอกว่า50/50นะเราดูอะส่วนบนโอ.แต่ฐานล่างแลดูเก็กกว่าให้พิจารณาเอา...

    ตอนเย็นวันนี้ไปดูหนังสือพระท่าพระจันทร์หลังคล้ายองค์ที่ลงประมูลเลย..บางสิ่งบางอย่างการดูพระก็ต้องอาศัยความชำนาญและเคยผ่านตาจึงจะรุ้ว่าจิงเท็จเป็นเช่นใร..

    องค์นี้เลยอะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. นํ้าข้าว

    นํ้าข้าว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,435
    ค่าพลัง:
    +10,351
    ด้านหลังครับ..

    รุ้สึกเสียดายแทน.น้อง.รัก.2คน.ที่พี่บอกไม่ให้เอา..

    แต่รุ้สึกดีใจกะ.น้องรักอีกคนที่แอบไปประมูลและได้ครอบครอง.ธนพล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 ตุลาคม 2015
  16. liverpool_Rak

    liverpool_Rak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    2,482
    ค่าพลัง:
    +3,153
    แฮะๆ ผมดูเป็นหลวงปู่นาค
     
  17. hiddenbhume

    hiddenbhume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,513
    ค่าพลัง:
    +7,067
    ฝากเพื่อศึกษาครับ
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  18. liverpool_Rak

    liverpool_Rak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    2,482
    ค่าพลัง:
    +3,153
    5555 มาพร้อมกับสายฝนเลยนะคับท่านภูมิ สบายดีนะคับ
     
  19. hiddenbhume

    hiddenbhume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    2,513
    ค่าพลัง:
    +7,067
    สบายดครับพี่ เบื่อๆอยากๆ ช่วงนี้เบื่อมากกว่าอยากครับผม
     
  20. liverpool_Rak

    liverpool_Rak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    2,482
    ค่าพลัง:
    +3,153
    อย่างเพิ่งเบื่อสิท่านภูมิ ใช้ชีวิตแบบขำๆบ้าง หนุกดีออก... ดูดิ ท่านธนต แกทิ้งกระทู้ไปไหนก็ไม่รู้ เดี๋ยวก็มีเรื่องเล่าสนุกมาฝาก ละคับ 5555+
     

แชร์หน้านี้

Loading...