สนใจเื่รื่องพญานาคมากๆเลยค่ะ

มีใครสนใจเรื่องเกี่ยวกับพญานาคบ้างคะ หรือรู้เกี่ยวกับพญานาค มาแลกเปลี่ยนกันนะคะ ^^

 

อัญเชิญเหล่าพญานาค มาให้ชม (ของจริงมีรูปกายเป็นทิพย์ มันก็พูดยาก ปรากฎกายได้หลายแบบแล้วแต่จะเนรมิต ไม่จำเป็นต้องอยู่ในน้ำ เป็นสิ่งที่มีอยุ่ทุกที่)

 

<!-- google_ad_section_start(name=default) -->วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551

การเสด็จ ของวองค์ประธานลูกแก้ว




ลูกแก้วองค์นี้มีขนาดเท่าตุ่มนำขนาดย่อมๆ คุณแม่จันทา ฤกษ์ยามได้พบเห็นในนิมิตรมาได้เป็นเวลานานแล้วโดยลอยอยู่ที่กลางนำโขง ในเมืองบาดาล

ครั้งที่พบทางนิมิตรครั้งแรกนั้นคุณแม่พยายามที่จะใช้พลังจิตดึงขึ้นมาแต่ไม่สามารถเอามาได้ แล้วก็มีเทวดามาบอกทางนิติรว่าลูกแก้วนั้นจะได้อยู่ดอก ที่นี้คุณแม่ก็คิดว่าหากได้ก็คงจะได้ก่อนเข้าพรรษาปี51 นี้ จากนั้นเมื่อถึงวันที่13 กรกฏาคม 2551 ได้มีพระอาจารย์จากโคราชได้โทรมาหาคุณแม่จันทา ว่าลูกแก้วได้เสร้จมาเล่นนำอยู่ที่แม่นำโขงอ.โขงเจียมพอถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2551 คุณแม่จันทา จึงได้ชวนคุณพ่อบุญเหลือ ขับรถไปส่งที่อ.โขงเจียม ขณะนั้นชาวบ้านก็ได้พบเห็นกันเป็นจำนวนมาก และพยายามที่จะทำพิธีต่างๆเชิญลูกแก้วทั้งเอาเรือออกจากฝั่งเพื่อไปเอาลูกแก้วแต่ไม่ได้พอจับโดนลูกแก้วก็จมลงไปในนำ และคนในงานก็ได้ประกาศว่าหากใครเอาได้อย่าเพิ่งเอาไปหนให้เอามาทำพิธีก่อน ได้ยินดังนั้นคุณแม่กับพ่อบุณเหลือจึงพากันเดินห่างออกไปจากฝูงชนที่มาดูลูกแก้วลอยนำประมาณ 500 เมตร และคุณแม่ได้ลงไปในนำประมาณหัวเข่าและอธิษฐานจิตและเอามือแตะๆนำสามครั้ง ปรากฏว่ามีวัตถุชนิดหนึ่งมาสัมผัสที่เท้าจึงเรียกพ่อบุญเหลือมาช่วยดู ปรากฏว่าเป็นลูกแก้วขนาดใหญ่ดังที่เห็นในนิมิต จึงได้ให้พ่อบุญเหลือไปหากล่องกระดาษมาใส่ และอุ้มไปใส่รถปรากฏว่าเบามาก แต่พอมาถึงที่วัด ปรากฏว่าต้องใช้คน 5คนอุ้งลงมา ขณะนี้ลูกแก้วประดิษฐานที่สำนักปฏิบัติธรรมภูริทัตตะ ต.ดูกอึง อ.หนองฮี จ.ร้อยเอ็ด

หากใครจะไปกราบคุณแม่ และขอพรจากองค์ประธานลูกแก้ว ก็เชิญได้เลยนะครับ

 

ลูกแก้วพญานาคของหลวงปู่คำคะนิง จุลมณี <!-- google_ad_section_end -->

 

พระโมคคัลลานะ เผิ่นมาปราบนาคอยู่บ่อพันขัน

บ่อพันขัน หรือน้ำสร่างครก น้ำสร่างโอนี้เกิดขึ้นมาหลายพันปี คงจะสมัยพุทธกาลที่พระพุทธเจ้ายังไม่ปรินิพพาน เพราะมีตำนานเกี่ยวกับพระองค์มีบัญชาให้พระมหาโมคคัลลานะ อัครสาวกเบื้องซ้ายมาปราบพญานาค ที่ขึ้นมาพ่นพิษทำร้ายมนุษย์บริเวณ นครจำปาขัน หรือบ่อพันขันตามตำนานเล่าขานกันว่า พระมหาโมคคัลลานะมาปราบนกอินทรีย์เทศนาชี้ผิดชี้ถูกให้พญานาคนกอินทรีย์สำนึกผิดละอายต่อบาปที่กินมนุษย์ไปมากจนกลั้นใจตาย หลังจากนั้นพระเถระก็ชี้ผิดชี้ถูกให้พวกพญานาคที่ขึ้นมาเพ่นพ่านพ่นพิษให้ประชาชนล้มตายจำนวนมากขอให้กลับลงไปเมืองบาดาลอย่าได้หวลกลับขึ้นมาทำลายมนุษย์อีกเลย

พระเถระจึงอฐิษฐาน ผ้าจีวรให้เป็นผืนใหญ่ปกคลุมบริเวณบ่อพันขันอันกว้างใหญ่ไม่ให้พญานาคนขึ้นมาพ่นพิษอีก
พระเถระจึงชีนิ้วลงที่ตรงกลางผ้าจีวรอธิษฐานให้เป็นน้ำจืดเกิดขึ้นมา และศักดิ์สิทธิ์ชำระล้างพิษพญานาคให้หมดพิษภัย และให้ประชาชนได้อาศัยดื่มกินมาแต่สมัยนั้น สองพันกว่าปีมาแล้ว <!--MsgFile=0-->


<CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top bgColor=#000000 rowSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#204080 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>ตามประวัติแล้วพระโมคคัลลาน์เผิ่นเข้านิพพานอยู่กาฬศิลาประเทศ คือ กาฬสินธุ์ ในปัจจุบันนี้ พากันไปเบิ่งเด้อ อยู่วัดพุทธนิมิตภูค่าว อ.สหัสขันธ์ (พันขัน) ไปเบิ่ง ไปกราบฮูปสลักเผิ่นอยู่เงื้อมหิน

 

มีคนบอกว่าผมเคยเป็นนาคมาก่อน อิอิ รู้แล้วก็อืม เราไม่ได้ระลึกชาติได้ก็เลย นึกอะไรไม่ได้ต่อ

 

ตำนานเมืองหนองหาร

ตำนานเมืองหนองหารครั้งหนึ่งยังมีเมืองอยู่เมืองหนึ่งชื่อ นครเอกชะทีตา
มีพระยาขอมเป็นกษัตริย์ปกครองเมืองด้วยความร่มเย็น
พระยาขอมมีพระธิดาสาวสวยนามว่า "นางไอ่คำ" ซึ่งเป็นที่รักและหวงแหนมาก
จึงสร้างปราสาท 7 ชั้น ให้อยู่พร้อมเหล่าสนมนางกำนัล คอยดูแลอย่างดี
ขณะเดียวกันยังมีเมืองอีกเมืองหนึ่งชื่อ เมืองผาโพง
มีเจ้าชายนามว่าท้าวผาแดง เป็นกษัตริย์ ปกครองอยู่
ได้ยิน กิตติศัพท์ความงามของธิดาไอ่คำมาก่อนแล้ว ใคร่อยากจะเห็นหน้า
จึงปลอมตัวเป็นพ่อค้าพเนจรถึงนครเอกชะทีตาและติดสินบนนางสนมกำนัล
ให้นำของขวัญลอบ เข้าไป ให้นางไอ่คำด้วยผลกรรมที่ผูกพันมาแต่ชาติปางก่อน
นางไอ่คำและท้าวผาแดงจึงได้มีใจปฏิพัทธ์ต่อกัน จนในที่สุดทั้งสองก็อภิรมย์สมรักกัน
ก่อนท้าวผาแดงจะจากไป เพื่อจัดขบวนขันหมากมาสู่ขอนางไอ่คำ
ทั้งสองได้คร่ำครวญต่อกัน ด้วยความอาลัยยิ่ง
วันเวลาผ่านไปถึงเดือน 6
เป็นประเพณีแต่โบราณของเมืองเอกชะทีตา จะต้องมีการทำบุญบั้งไฟบูชาพญาแถน
พระยาขอมจึงได้ประกาศบอกไปตามหัวเมืองต่างๆ
ว่าบุญบั้งไฟปีนี้จะเป็นการหาผู้ที่จะมาเป็นลูกเขยอีกด้วย
ขอให้เจ้าชายหัวเมืองต่างๆ จัดทำบั้งไฟ มาจุดแข่งขันกัน
ผู้ใดชนะก็จะได้อภิเษกกับพระธิดาไอ่คำด้วย
ข่าวนี้ได้ร่ำลือไปทั่วสารทิศ ทุกเมืองในขอบเขตแว่นแคว้นต่างๆ
ก็ส่งบั้งไฟเข้ามาแข่งขัน เช่น เมืองฟ้าแดดสูงยาง เมืองเชียงเหียน เชียงทอง
แม้กระทั่งพญานาคใต้เมืองบาดาล ก็ได้ยินร่ำลือจนสิ้น
จนท้าวพังคีเจ้าชายพญานาคเมืองบาดาลก็อดใจไม่ไหว
ปลอมตัวเป็น กระรอกเผือก มาดูโฉมงามนางไอ่คำด้วยในวันงานบุญบั้งไฟ
เมื่อถึงวัน แข่งขัน จุดบั้งไฟ ปรากฏว่า
บั้งไฟท้าวผาแดงจุดไม่ขึ้นพ่นควันดำอยู่ 3 วัน 3 คืน จึงระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
ทำให้ความหวังท้าวผาแดงหมดสิ้นลง
ขณะเดียวกันท้าวพังคีพญานาคที่ปลอมเป็นกระรอกเผือก
มีกระดิ่งผูกคอน่ารักมาไต่เต้นอยู่บนยอดไม้ข้าง ปราสาท นางไอ่คำ
ก็ปรากฏร่าง ให้นางไอ่คำเห็นนางจึงคิดอยากได้มาเลี้ยง
แต่แล้วก็จับไม่ได้ จึงบอกให้นายพรานยิงเอาตัวตายมา
ในที่สุดกระรอกเผือกพังคี ก็ถูกยิง ด้วยลูกดอก จนตาย
ก่อนตายท้าวพังคีได้อธิษฐานไว้ว่า "ขอให้เนื้อของข้าได้ แปดพันเกวียนคนทั้งเมืองอย่าได้กินหมดเกลี้ยง"
จากนั้นร่างของกระรอกเผือกก็ใหญ่ขึ้น
จนผู้คนแตกตื่นมาดูกันและจัดการแล่เนื้อนั้นแบ่งกัน ไปกินทั่วเมืองด้วยว่าเป็นอาหารทิพย์
ยกเว้นแต่พวก แม่ม่ายที่ชาวเมืองรังเกียจ ไม่แบ่งเนื้อกระรอกให้
พญานาคแห่งเมืองบาดาล ทราบข่าว ท้าวพังคีถูกมนุษย์ฆ่าตายแล่เนื้อไปกินกัน ทั้งเมือง
จึงโกรธแค้นยิ่งนัก ดึกสงัดของคืนนั้นเอง ขณะที่ชาวเมืองเอกชะทีตากำลังหลับไหล
เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
ท้องฟ้าอื้ออึงไปด้วยพายุฝน ฟ้ากระหน่ำลงมาอย่างหนักอยู่ มิได้ขาด
แผ่นดินเริ่มถล่มตัวยุบตัวลงไปทีละน้อย
ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของผู้คนที่วิ่งหนีตาย
เหล่าพญานาคผุด ขึ้นมา นับหมื่นนับแสนตัว ถล่มเมืองชะทีตาจมลบงใต้บาดาลทันที
คงเหลือไว้เป็นดอน 3-4 แห่ง ซึ่งเป็นที่อยู่ของพวกแม่ม่าย ที่ไม่ได้กินเนื้อกระรอกเผือกจึงรอดตาย
ฝ่ายท้าวผาแดงได้โอกาสรีบควบม้าหนีออกจากเมือง
โดยไม่ลืมแวะรับพระธิดาไอ่คำไปด้วย
แต่แม้จะเร่งฝีเท้าม้าเท่าใดก็หนีไม่พ้นทัพพญานาคที่ ทำให้แผ่นดินถล่มตามมาติดๆ
ในที่สุดก็กลืนท้าวผาแดงและพระธิดาไอ่คำ
พร้อมม้าแสนรู้ชื่อ "บักสาม" จมหายไปใต้พื้นดิน
รุ่งเช้าภาพของเมืองเอกชะทีตาที่เคยรุ่งเรืองโอฬาร ก็อันตธานหายไปสิ้น
คงเห็นแต่พื้นน้ำ กว้างยาว สุดตา
ทุกชีวิตในเมืองเอกชะทีตาจมสู่ใต้บาดาลจนหมดสิ้น
เหลือไว้แต่แม่ม่ายบนเกาะร้าง 3-4 แห่ง ในผืนน้ำอันกว้างนี้
ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นหนองหารหลวงดังปรากฏในปัจจุบัน
​

 

ที่วัดป่าถ้ำอริยสัจจสี่ ( ปัจจุบัน ชื่อ วัดสุวรรณคูหา ) อ . พัฒนานิคม จ. ลพบุรี ทางไปเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีถ้ำใหญ่อยู่บนเขา ในถ้า เคยมีคนพบพญานาค อยู่บ่อย ๆ พระ และ โยม ใจกล้า มักเข้าไปนั่งปฏิบัติธรรมนั้น ยิ่งเป็นผู้ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับ พวก นาค มักจะออกอาการให้เห็น วันเสาร์ อาทิตย์ คนมักเข้าไปปฏิบัติธรรมในถ้ำกัน โดยมี มีพระนำไป หรือ ตาปะขาว ถ้าขึ้นไปเองโดยไม่ได้รับอนุญาต อาจเจอกับ เจ้าถิ่น ตัวเท่าต้นตาล ขวางทาง ไม่ให้ไป ใครสนใจลองไปดูได้ครับไม่ไกลจาก กรุงเทพ

 

ลองฟังดูครับ
รวมเสียงอ่าน "หลวงปู่ชอบ และ พญานาค" - Buddhism Audio

 

ขอแชร์เรื่องนี้ครับ
ตอนที่ผมบวชอยู่อาจารย์ของผมเล่าเรื่องพญานาคไว้ดังนี้ พญานาคคือเทวดาที่ทำบุญเจือด้วยราคะครับ เมืองของพญานาคอาจาร์ยผมเล่าให้ฟังว่า จะมีอาถรรพ์คือถ้าผู้ใดเข้าไปแล้วถ้าเลยจากที่เมืองบาดาลกำหนดจะกลับมาไม่ได้ ไม่ว่าคนนั้นจะเก่งขนาดไหนก็ตามครับเพราะฉะนั้นจะเข้าไปได้เฉพาะส่วนที่เขากำหนดไว้ครับ และทุกๆพันปีจะมีพญานาคผู้ทรงศลีจะคายของวิเศษอย่างหนึ่งออกมา แล้วชาวเมืองพญานาคเหล่านั้นจะทำการเฉลิมฉลองกันครับ ผมก็ทราบจากพระอาจาร์ยผมเพียงเท่านี้ครับ

 

อื้อหือเป็นเรื่อง...ที่ลึกลับดีครับ ถ้าใครพอจะรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างช่วยดูให้หน่อยครับว่าที่ผมฝันคืออะไรคือ...เรื่องมันมีอยู่ว่าก่อนที่ผมจะมาสนใจเรื่องราวธรรมะต่างๆก่อนผมจะสวดมนต์...มีอยุ่คืนหนึ่งผมฝันว่าผมไปอยู่บ้านยายของผมแล้วทุกคนออกไปเที่ยวกันหมด<-[อันนี้ในฝันมันรู้เองครับ]อ้อลืมบอกแล้วบ้านยายของผมในฝันตั้งอยู่กลางน้ำโดดๆเลย แล้วผมก็ไม่รู้คิดไงว่ายน้ำตามไป แล้วอยู่ๆผมรู้สึกหมดแรง แล้วอยู่พอผมจะจมก้อมีพญานาคมาเอาหลังมาเกยท้องผมเหมือนให้ขึ้นหลังผมก้อเลยอยู่บนหลังของเค้า - -* แล้วรอบข้างที่ผมเห็นนะเห็นเป็นสิ่งของต่างๆรถเอยอะไรเอยลอยเหนือน้ำหมด แล้วก้อมีพวกจระเข้ ไล่ตามหลังผมเหมือนจะกัดแต่หนีทันก็เลยไม่โดนพอมาถึงที่เปนเหมือนท่าเรือแล้วพญานาคตนนั้นไม่รู้หายไปไหนแล้วผมก็มาเจอญาติๆที่ท่าเรือนั้นพวกเค้าเรียกชื่อผมแล้วบอกว่ามาได้ไงแล้วผมก็โล่งใจ - -ว่าตามทันแล้ว พลันนั้นผมก็หันไปพอดีเห็นชายหาดเห็นพญานาคกำลังว่ายลงไปในน้ำเป็นทางยาวบนหาดทรายเป็นลายเลย ผมก็ไปยืนดู แล้วอยู่ๆกลางน้ำนั้นผมเห็น น้ำเปิดเป็นวงกว้างแล้วก็มีดอกบัวขนาดใหญ่ลอยขึ้นมาแล้วผมก็เห็นพระสงฆ์4องค์นั่งอยู่บนดอกบัวนั้น4ทิศ[ไม่ทราบว่าท่านใดนะครับเพราะอยู่กลางน้ำเห็นหน้าท่านไม่ชัด]ลอยขึ้นมาเหมือนให้เห็นแล้วก็มีอักขระที่อ่านไม่ออกก็ปรากฏขึ้นมาแล้วท่านก็ลอยลงกลับไปใต้วงน้ำนั้นเช่นเดิม --->คืออยากทรายว่านี้คือผมคิดไปเองหรืออะไรกันแน่ หากผมล่วงเกินท่านใดหรือใช้คำไม่ถูกต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

เกิดมาชาตินี้ ผมต้องมีที่อยู่ที่ใกล้น้ำเสมอ จะย้ายไปอยู่ถาวรหรือชั่วคราวก็ตามแต่ เพราะเราเคยมีน้ำเป็นบ้าน แต่โลกมนุษย์เขาอยู่บนบกกัน เราเลยต้องอยู่ใกล้น้ำแทน

แต่แปลก เพราะไม่ชอบเล่นน้ำ ไม่ถึงกับกลัวน้ำนะ แต่กลัวว่าจะได้ลงไปอยู่ในน้ำอีก กว่าจะขึ้นมาเป็นมนุษย์ได้ บำเพ็ญเท่าชีวิต เท่าลมหายใจเลยทีเดียว

เจริญธรรม

 

เป็นลูกแก้วทีสวยงามมากค่ะ แปลกดี

 

เราเคารพปู่ศรีสุทโธ ทั้งๆที่ไม่เคยไปคำชะโนด และแผ่เมตตาให้นาคา นาคี นาคทั้งหลาย บ่อยๆครั้งทั้งๆที่ไม่ค่อยรู้เรื่อง หรือมีจิตสัมผัสใดๆ แต่เคารพความดีของท่านที่ปกป้องพระศาสนาครับผม

 

ลูกแก้วงดงามมากครับ
มีโอกาสคงได้ไปชมเป็นบุญตา

 

สวัสดีค่ะสวัสดี ทุกๆท่าน
ดิฉันเคยจำความได้ว่าตอนเด็กๆ อายุประมาณ2-4ขวบ เคยคว้าบนอากาศ อยู่บนหัวใหญ่เท่ากำมือเด็กเหมือนรู้สึกว่าลูกแก้ว2ครั้งอยากคว้ามาดูให้เห็นกับตาแต่ตอนเป็นเด็กต้องปล่อยมือออกก่อนทุกที อยากรู้มาตลอดว่าคืออะไรใครพอจะทราบบ้างค่ะช่วยบอกมาด้วยค่ะ ขอบคุณคะ

 

ก็เชื่อนะคะเพราะในพุทธศาสนาเราแม้แต่วัดเกือบทุกแห่งจะมีรูปพญานาคให้เห็นมาแต่เล็กแต่น้อยแล้ว อีกทั้งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเองก็ยังตรัสให้มีการขานนาคก่อนที่จะมีการบรรพชาเป็นภิกษุสงฆ์อันเนื่องมาแต่มีนาคซึ่งศรัททาในพุทธศาสนามากอยากบวชแต่ด้วยนาคสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ก็จริงแต่จะกลายร่างเดิม ที่จำได้นะคะ ตอนนอนหลับ และตอนตาย นาคเผลอหลับไปพอดีมีพระภิกษุมาพบเข้าได้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าให้ทรงทราบ นาคจึงผิดหวังกลับไปยังภพภูมิเดิม แต่ด้วยความมีศรัททาแรงกล้านี้เป็นบุญกุศล พระผู้มีพระภาคจึงตรัสอนุญาติให้มีคำว่านาคในพีิธีการบวชพระ

ดิฉันสนใจเรื่องนี้มาตลอดพยายามอ่านหนังสือทุกเล่มดูทุกอย่างที่ เก่ี่ีียวข้องกับเรื่องนี้แต่บอกก่อนนะคะดิฉันกลัวมากเลยไม่อยากเห็นละคะแต่ได้ยินได้ฟังคนที่เขาเคยพบเห็นมาก่อนเล่าแม้กระทั่งน้องสาวตัวเองเล่าแบบ โห.....ยิ่งกว่าดูหนังอีกอันนี้ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่ไม่เชื่อแต่หากคนที่ไม่เชื่อนี่รับรองได้จะหาว่าคิดมาก นิยาย ฯลฯ ทีนี้มาเข้าเรื่องนะคะเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมานี้เอง 23 ธันวาคม 2555 ดิฉันพร้อมสามีได้เดินทางไปสำนักสงฆ์ถ้ำภังคนีธรรมานุสรณ์ (ถ้ำเขากะจี) เพื่อนำปัจจัยของตัวเองเป็นหลักและครอบครัวพ่อแม่พี่น้องและเพื่อน ๆ จากการไฟฟ้าฯ ไปถวายเพื่อซื้อสีทองคำทาองค์พระสมเด็จองค์ปฐม สิขีที่1 ที่ดิฉันเคารพรักและศรัททา เพื่อให้ทาองค์ท่านให้สำเร็จเลย 1 องค์ต้องใช้ปัจจัยราว 9000.พันบาท ดิฉันก็ถวายปัจจัยไปและถวายเพิ่มอีก ราว 12,600.- พร้อมทั้งซื้อ แก้วเพ็ชรพญานาค 1 ลูก ราคา 1500. บาท เพื่อติดที่พระนลาฏ (หน้่าผาก)องค์สมเด็จองค์ปฐมฯ พร้อมทางสำนักสงฆ์จะติดคริสตัล สวารอฟสกี้ให้รอบ เพ็ชรพญานาคซิงเ้ป็นรูปหยดน้ำ ให้รอบ ดิฉันสุขใจมากอยากทำมานานแล้วที่ติดพระนลาฏแบบนี้ เผอิญหลวงพี่ พระณัฐวุธ อติชาคโรท่านมีคนญาติโยมส่งมาเพื่อทำบุญ โดยเงินปัจจัยที่ได้ก็บูรณะสำนักสงฆ์ต่อไป ตอนที่ดิฉันได้รับเพ็ชรพญานาคมาไม่มีอะไรเลยภายในลูกแก้ว สาบานได้ เป็นแก้วใส ๆ มีแต่เหลือบ ๆ เงินๆ สวยงามมาก ดิฉันยังหยิบมาอธิฐานด้วยความปลื้มใจ และให้สามีถ่ายภาพไ้ว้จะได้นำไปบอกกล่าว พ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อน ๆ โมทนา ก็มาเปิดดูใน Computer ที่บ้านและภาพที่ได้เห็นก็เป็นดังที่ได้ แนบ file ให้ดู ขอบอก หากสิ่งที่อยู่ในลูกแก้วนี้ตายแล้วก็ไม่น่าจะดู ใสแบบนี้ และสามารถเห็นลูกนัยตาได้เลย แต่ไม่ทราบว่าเข้าไปอยู่ในแก้วทึบ ๆ แบบนี้ได้อย่างไร ? ได้โทรกลับไปถามท่านอาจารย์ว่าท่านทราบใช่หรือไม่ ก่อนที่จะให้โยม อธิษฐานนะคะ ว่ามี บางสิ่งอยู่ในเพ็ชรพญานาคนี้ พระอาจารย์ตอบว่า ไม่เลยไม่เห็นอะไร เห็นเหมือนโยมนั่นแหละ ว่าใส ๆ แต่อาจารย์บอกว่าคงมีสิ่งศักสิทธิ์อยากสำแดงให้รู้ว่า เรื่องเหนือธรรมชาติมีอยู่จริง เพราะธรรมดามนุษย์นั้นกว่าจะเชื่ออันใดแล้ว หลาย ๆ ท่านต้องการพิสูจน์เป็นสิ่งที่เห็นได้ด้วยตาและจับต้องได้ แต่สำหรับดิฉันแม้ไม่มีรูปเหล่านี้ดิฉันก็เชื่อมาตลอดว่ามีอยู่จริง ธรรมใดทีี่พระพุทธองค์สำเร็จ หรือแจ้งแล้ว ขอธรรมนั้นจงแจ้งแก่ใจข้าพระพุทธเจ้าได้เข้าใจไม่ยากและที่สุดขอให้ได้ดวงตาเห็นธรรมสู่พระนิพพานด้วยเทอญ

 

ชอบเหมือนกันค่ะเรื่องพญานาค อยากทราบประวัติความเป็นมา ใครพอจะรู้เรื่องราวพยานาค อย่าลืมมาแบ่งปัน เล่าสู่กันฟังน่ะค่ะ

 

กำเนิดนาค

๑. สุทธกสูตร
ว่าด้วยกำเนิดนาค ๔ จำพวก
[๕๑๙] พระนครสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายกำเนิดของนาค ๔ จำพวกนี้. ๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ นาคที่เป็นอันฑชะ เกิดในไข่ ๑ นาคที่เป็นชลาพุชะ เกิดในครรภ์ ๑ นาคที่เป็นสังเสทชะ เกิดในเถ้าไคล ๑ นาคที่เป็นอุปปาติกะ เกิด
ผุดขึ้น ๑. ดูกรภิกษุทั้งหลาย กำเนิดของนาค ๔ จำพวกนี้แล.
จบ สูตรที่ ๑.
๒. ปณีตตรสูตร
ว่าด้วยความประณีตของกำเนิดนาคแต่ละจำพวก
[๕๒๐] พระนครสาวัตถี. ดูกรภิกษุทั้งหลาย กำเนิดของนาค ๔ จำพวกนี้. ๔ จำพวกเป็นไฉน? คือ นาคเป็นอัณฑชะ ๑ นาคที่เป็นชลาพุชะ ๑ นาคที่เป็นสังเสทชะ ๑ นาคที่เป็นอุปปาติกะ ๑. ในนาค ๔ จำพวกนั้น นาคที่เป็นชลาพุชะ สังเสทชะ และอุปปาติกะ ประณีต
กว่านาคที่เป็นอัณฑชะ. นาคที่เป็นสังเสทชะและอุปปาติกะ ประณีตกว่านาคที่เป็นอัณฑชะและชลาพุชะ. นาคที่เป็นอุปปาติกะ ประณีตกว่านาคที่เป็นอัณฑชะ ชลาพุชะและสังเสทชะ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย กำเนิดของนาค ๔ จำพวกนี้แล.

ข้อควรทราบอีกอย่างหนึ่ง นาคเป็นสัตว์ดิรัจฉาน ไม่ได้วิเศษวิโสอะไร มนุษย์มีจิตใจสูงกว่านาค ทำไมต้องไปกราบไหว้นาคด้วย พระพุทธเจ้า ตรัสไว้ว่า นาคเป็นสัตว์ดิรัจฉาน บรรลุธรรมไม่ได้ แต่มนุษย์บรรลุธรรมได้ ใครจะประเสริฐกว่ากัน โสดาบันประเสริฐกว่ามนุษย์ธรรมดา ถ้าเราเป็นโสดาบัน เราจะต้องไหว้สัตว์เดรัจฉาน เปรต เทวดา พรหม ไหม หรือ สัตว์ดิรัจฉาน เปรต เทวดา พรหมจะต้องมาไหว้เรา เคารพเรา โสดาบันเป็นผู้อันมีธรรมไม่เสื่อมเป็นธรรมดา พร้อมจะตรัสรู้ธรรมในภายภาคหน้า เป็นผู้พ้นแล้วจากนรก กำเนิดดิรัจฉาน เปรตวิสัย แต่ผู้ที่ต่ำกว่าโสดาบัน เท้าของเขาก็ยังไม่พ้นไปจากนรก กำเนิดดิรัจฉาน เปรตวิสัย ลองพิจารณาดูครับ

 

ขอร่วมอนุโมทนาในกุศลและบุญที่ คุณ siwatcha และครอบครัวได้ทำด้วย

นะคะ ลูกแก้วสวยมากเลยค่ะ ตรงกลางลูกแก้วเหมือนมีลายเกร็ดพญานาคอยู่ด้วย


ดิฉันเองก็ไม่ทราบเป็นอะไรมีความรู้สึกชอบและเหมือนจะผูกพันเกี่ยวกับเรื่อง

ของพญานาคมากๆ บางครั้งไปทำบุญที่วัดใดที่มีพญานาคเป็นราวบันได หรือพญานาค

ที่อยู่บมขอบรั้วของวัดแล้วนั้น ( จะมีความรู้สึกเหมือนได้เจอเพื่อนเก่าที่จากกันไปนาน

มีอาการขนลุก ปิติน้ำตาไหล ) ก็จะเป็นอยู่บ่อยๆค่ะ


ส่วนตอนเด็กๆที่จิตยังบริสุทธิอยู่นั้น...เคยมีอาจารย์ท่านนึงสอนให้นั่งสมาธิ

และพาดิฉันลงไปที่ถ้ำๆนึง มีงูตัวใหญ่มากๆเลื้อยพาดิฉันและอาจรย์ ไปชมถ้ำซึ่ง มีความ

วิจิตรงดงามมาก งูก็เลื้อยพาไปชมห้องนั้นห้องนี้ มีห้องนึง เก็บสร้อยแหวน เพรชนิลจินดา

มากมายมหาศาส และงูก็พาเลื้อยมาจนถึงลำธารนึงพองูเลื้อยผ่านลำธารไปแล้วก็กลาย

ร่างเป็น ชายหนุ่มรูปงามมาก ( ดิฉันกำลังจะเดินข้ามลำธารตามไป " ในสมาธิ " แต่อาจารย์

ห้ามไว้ว่าไปไม่ได้แล้ว และให้ถอนจิตออกจากสมาธิ ) อาจารย์บอกว่าข้ามไปไม่ได้

แล้วเพราะนั่นเป็นเขตของพญานาค ซึ่งอันตรายมากถ้ามนุษย์จะเข้าไป " ก็เป็นประสบการณ์

ครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตที่นั่งสมาธิแล้วเห็นแบบนั้น




ก็จะมีฝันถึงบ้างค่ะ แต่ก็ไม่บ่อยมาก เคยฝันเห็นพญานาคสีทอง คาบลูกแก้ว

มาให้ ( ช่วงนั้นก็จะได้เงินมาก้อนนึงแสนกว่าบาท ) และก็ฝันอีกครั้งค่ะ ว่าตัวดิฉันเป็น

พญานาค แล้วก็มีพญานาคอีกตัวนึงเข้ามากอดรัดดิฉันจน เป็นเกลียวเลย ( พอไม่นานก็เจอ

แฟนคนปัจจุบันค่ะ แต่ดิฉันไม่ได้เกิดปีมะโรงนะคะ ดิฉันกับแฟนเกิดปีมะเส็ง )


มีอยู่ช่วงนึงดิฉัน ท้อแท้เบื่อหน่ายกับการต่อสู้ดิ้นรนในชีวิตมากจนอยาก ฆ่าตัว

ตาย ดิฉันฝันค่ะว่า ตัวดิฉันเองนั้นได้ไหว้พระอยู่ที่ศาลาริมน้ำแห่งนึง และอธิษฐานจิตว่า

ลูกไม่อยากเกิดเป็นมนุษย์อีกแล้ว ขอให้ลูกได้เกิดเป็นพญานาคด้วยเถิด " พลันก็มีพญา

นาคสีทองสวยงามมากๆค่ะ ( บรรยายไม่ถูก ) โผ่ลขึ้นมาจากสระน้ำ พร้อมทั้งเอ่ยว่า เจ้าจะ

ได้สมความปารถนา ตามคำอธิษฐาน



ส่วนมากก็จะฝันว่าไปว่ายน้ำบ้าง ตัวดิฉันกำลังจะจมน้ำบ้างแต่ก็มีใครมาช่วย

ไว้ได้ไม่ให้จม " ในชีวิตจริงดิฉันจะชอบน้ำมาก ชอบไปเล่นน้ำ และก็เกือบตายเพราะน้ำจริง

ๆ แต่เหมือนมีตัวอะไรไม่รู้ มาดันดิฉันให้ลอยขึ้นบนผิวน้ำ เลยรอดชีวิตมาจนทุกวันนี้ "




ดิฉันก็ไม่ทราบนะคะว่า อดีตเคยมความผูกพันธกับพญานาคหรือเป่ลา


แชร์ประสบการณ์กันนะคะ.......... ดิฉันเกิดวันเสาร์ค่ะ