สมถะและวิปัสสนาในชีวิตประจำวัน (พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตถิผโล)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 17 เมษายน 2011.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    [​IMG]

    สมถะและวิปัสสนาในชีวิตประจำวัน

    พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล
    เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี


    ส่วนหนึ่งของธรรมบรรยาย ณ อาคารอัมรินทร์ พลาซา
    ย่านราชประสงค์ กรุงเทพฯ (กิจกรรมชมรมคนรู้ใจ)



    “สมถะ” กับ “วิปัสสนา” จริงๆ แล้วทั้งสองคำเป็นลำดับขั้นตอนที่เกื้อหนุนกัน

    คือ “สมถะ” เป็นการอบรมใจให้สงบ (มีสมาธิ) ให้หยุดนิ่ง เป็นอารมณ์เดียว ใจจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น การกำหนดลมหายใจเข้า-ออก คำบริกรรมคาถา เป็นต้น ส่วนการ “วิปัสสนา” หมายถึงการอบรมปัญญาให้เกิด โดยการปฏิบัติธรรมแล้วใช้ปัญญาพิจารณาสภาวธรรม ทำให้เกิดการรู้แจ้งเห็นจริง จนมี “จิต” ที่เป็นอิสระ ไม่ถูกครอบงำด้วยกิเลสและความทุกข์

    หากปฏิบัติทั้งสองอย่างควบคู่กันไปจะเกื้อหนุนกัน คือ ผล ของสมถะจะทำให้เกิดวิปัสสนาปัญญาได้ง่ายขึ้น และผลของวิปัสสนา (ความปล่อยวาง, ความไม่ยึดมั่น) ก็ทำให้นิวรณ์ (สิ่งขวางกั้นสมาธิ) เกิดน้อยลง ทำให้สมาธิเกิดได้ง่ายขึ้น

    หลายคนมองว่าภาวะปัจจุบันนั้นยากในการจะปฏิบัติสิ่งเหล่านี้ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย ขอเพียงมีกายมีจิตอยู่ตลอดเวลา หากใครเคยศึกษาพุทธศาสนามาบ้าง อาจเคยได้ยินเรื่อง “ม้ากระจอก” กับ “ม้าอาชาไนย” ที่พระพุทธเจ้าเคยตรัสเปรียบเปรยไว้

    “ม้า กระจอก” ผูกไว้ใกล้รางข้าวเหนียว ก็จะมองเห็นแต่ข้าวเหนียวว่าเป็นข้าวเหนียว เพราะเพ่งเพียงรูปลักษณ์ภายนอก ไม่ได้เพ่งอย่างลึกซึ้งเเละไม่ได้ใช้ปัญญาในการคิดต่อถึงเหตุการณ์ที่จะเกิด ขึ้น แตกต่างกับ “ม้าอาชาไนย” ถูกผูกไว้ใกล้รางข้าวเหนียวเหมือนกัน แต่จะไม่คิดว่าข้าวเหนียวเป็นเพียงข้าวเหนียว แต่จะคิดว่าวันนี้เจ้าของจะให้ทำอะไร เราจะทำสิ่งใดเป็นการตอบแทน

    “เรื่อง นี้ก็คล้ายกันกับคนเรา ไม่ว่ามนุษย์จะอยู่สถานที่ใด จะเป็นอยู่ที่ป่าก็ดี อยู่ที่โคนต้นไม้ก็ดี หรืออยู่เรือนว่างเปล่าก็ดี ไม่มีจิตอันกามราคะรุมเร้าแล้ว ย่อมรู้ถึงวิธีสลัดกามราคะที่เกิดขึ้นแล้วตามความเป็นจริง ย่อมไม่มีจิตอันพยาบาท ซึ่งคล้ายกับเป็นการบอกว่าไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ที่ใด ก็สามารถทำสมถะ-วิปัสสนาได้”

    ในชีวิตประจำวันเราสามารถปฏิบัติสมาธิ วิปัสสนาที่ไหนก็ได้ ขอเพียงมีกายมีจิตตลอดเวลา มีวิธีง่ายๆ อยู่หลายวิธี เช่น เมื่อมีเวลาว่างให้ลองคิดทบทวนถึงการดำเนินชีวิตที่ผ่านมา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

    “ทบทวนช้าๆ ไม่ต้องรีบร้อน แล้วพยายามทบทวนถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นในแต่ละเหตุการณ์ ให้มองให้ชัดเจนว่าความสุขที่ได้รับจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา กับความทุกข์ที่ต้องเผชิญมันคุ้มกันหรือไม่ การกระทำของเราในขณะนั้น เป็นไปตามความปรารถนาของเราอย่างแท้จริง หรือว่าเราควบคุมมันไม่ได้ ความสุขความทุกข์นั้นอยู่กับเราได้นานเพียงใด ที่สำคัญคือต้องทำจิตใจให้เป็นกลาง และต้องมองให้ลึกทุกแง่มุม

    ความ สำเร็จ ความภาคภูมิใจในอดีต ถ้าภายหลังทำไม่ได้ หรือมีใครมาพูดให้กระทบกระเทือนจนสูญเสียความมั่นใจ ก็อาจทำให้เราเป็นทุกข์อย่างมากมายก็ได้ แต่อย่ามองแง่เดียว เพราะสิ่งที่มีคุณอนันต์ก็มักจะมีโทษมหันต์เช่นกัน ในการดำเนินชีวิตในแต่ละวันลองคอยสังเกตความรู้สึกที่เกิดขึ้นในขณะนั้นๆ ให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ ถ้าเผลอไปก็ไม่เป็นไร พยายามสังเกตให้ได้มากที่สุด จนเคยชินเป็นนิสัย มีสติรู้ทันความรู้สึกตลอดเวลา

    การสังเกตนั้นเพื่อศึกษาธรรมชาติของ ร่างกายของจิตใจของเราเองว่า มีสุขมีทุกข์มากน้อยเพียงใด เกิดความแปรปรวนเพราะอะไรบ้าง บังคับได้หรือไม่ได้ ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน จนกระทั่งหลับไปในที่สุด คือรู้ตัวเมื่อไหร่ก็สังเกตเมื่อนั้น แล้วสิ่งที่ท่านคิดว่า คือ ‘เรา’ นั้น ก็จะแสดงธรรมชาติที่แท้จริงให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ”

    อย่าลืมว่า “พระพุทธศาสนาสอนให้เรากล้าเผชิญหน้ากับปัญหาและความเป็นจริง แทนที่จะหลบลี้ไปจากความจริง ทรงพบว่าเพียงการหันเหจิตใจจากความทุกข์เฉพาะหน้าไปสู่สิ่งอื่น ใน ส่วนลึกของจิตนั้นเรายังคงรู้สึกถึงความทุกข์อยู่ และยังสร้างสังขารหรือความคิดปรุงแต่งของจิต ให้เกิดโลภะ (ความโลภ) โทสะ (ความโกรธ) หรือโมหะ (ความหลง) ขึ้นมาอีก ทำให้ต้องทนทุกข์ทรมานมากขึ้น

    ‘การปฏิบัติสมถะวิปัสสนา’ จะช่วยให้เราเพ่งเพียรในอารมณ์ เพราะเราจะรู้สิ่งใดอย่างแท้จริง เราก็ต้องเฝ้าดู เพ่งดูซึ่งสิ่งนั้น” เจ้าอาวาสวัดนาป่าพงย้ำถึงหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา

    หลาย คนเวลามีความทุกข์เกิดขึ้นในชีวิต มีความเดือดเนื้อร้อนใจ จนไม่อาจจะทนทุกข์อยู่ต่อไปได้ ก็อยากจะหนีความทุกข์นั้นไปให้พ้น อาจจะไปดูหนัง ดูละคร หรือไปสถานบันเทิงต่างๆ แต่สิ่งเหล่านี้ก็ช่วยให้หลบไปจากความทุกข์ได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่า นั้น เป็นเพียงการหันเหความสนใจไปจากความทุกข์เป็นการชั่วคราว แล้วก็นึกเองว่าได้พ้นจากความทุกข์นั้นแล้ว แต่ความเป็นจริงนั้นไม่ได้หลุดพ้นจากความทุกข์

    ในทางตรงกันข้าม ความทุกข์กลับจะเพิ่มพูนขึ้น การหนีไปจากความทุกข์จึงมิใช่เป็นการแก้ปัญหา

    คำ บรรยายของพระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล ซึ่งมีเนื้อหาที่ใกล้เคียงกับชีวิตประจำวันของคนเรา เรื่องของทุกข์-สุข เรื่องของจิตใจ เป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองว่า ความสุขที่แท้จริงนั้น ไม่ต้องหาสิ่งใดมาปรุงแต่ง ไม่ต้องใช้ตัวช่วยที่แลกมาด้วยความสิ้นเปลือง

    และพระพุทธศาสนานี่เองที่สอนให้รู้ว่า “ขอ เพียงสร้างความรู้เท่าทันให้เกิดขึ้นในจิตใจด้วยตัวเอง ไม่ให้ถูกครอบงำด้วยความมืดดำแห่งกิเลสแล้ว ชีวิตก็นับว่าได้สัมผัสกับความสุขที่แท้จริง”

    ที่มาลานธรรมจักร • แสดงกระทู้ - สมถะและวิปัสสนาในชีวิตประจำวัน (พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตถิผโล)
     
  2. นางสาวอยู่จ้ะ

    นางสาวอยู่จ้ะ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +3,865
    ขอบคุณค่ะ มีประโยชน์จริงๆ
     
  3. Tom & Jerry

    Tom & Jerry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +536
    อยากไปฟังเทศน์ ปฏิบัติธรรมที่วัดนาป่าพงมาตั้งนานแล้ว
    วันที่ ๑๖ เมษา นัดกันกับพี่สาวว่าจะไปวัดด้วยกัน (เราไปไม่ถูก แต่พี่สาวเคยไปมาแล้ว)
    พอถึงวันนัด พี่สาวเกิดไม่สบายกระทันหัน เราเลยอดไปเลย
    ช่างไม่มีบุญเลยจริงจิ๊ง ตัวเราน้อ...
     
  4. nanajitang

    nanajitang สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +19
    “ทบทวนช้าๆ ไม่ต้องรีบร้อน แล้วพยายามทบทวนถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นในแต่ละเหตุการณ์ ให้มองให้ชัดเจนว่าความสุขที่ได้รับจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา กับความทุกข์ที่ต้องเผชิญมันคุ้มกันหรือไม่ การกระทำของเราในขณะนั้น เป็นไปตามความปรารถนาของเราอย่างแท้จริง หรือว่าเราควบคุมมันไม่ได้ ความสุขความทุกข์นั้นอยู่กับเราได้นานเพียงใด ที่สำคัญคือต้องทำจิตใจให้เป็นกลาง และต้องมองให้ลึกทุกแง่มุม......... อนุโมทนาค่ะ
     
  5. ไม่เน้นขาย

    ไม่เน้นขาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +61
    ชอบมากเลยครับนับถือจากใจจริง

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    ขอให้เจริญธรรมในเร็ววันนะครับ สาธุ....
     

แชร์หน้านี้

Loading...