สมาธิมีอันตรายอะไรหรือเปล่านอกจากตกใจกับหวาดกลัว

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย กีตาร์ศีล, 31 มีนาคม 2010.

  1. กีตาร์ศีล

    กีตาร์ศีล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    431
    ค่าพลัง:
    +41
    รบกวนผู้รู้ครับ
     
  2. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    สมาธิ หมายถึง จิตตั้งมั่น

    หากจะแยกออกมา ก็จะเป็น สัมมาสมาธิ มิจฉาสมาธิ

    สัมมาสมาธิ เป็น สมาธิ ที่ประกอบไปด้วยปัญญา

    มิจฉาสมาธิ แบ่งได้เป็น สมาธิ ที่ประกอบ ด้วยกุศล และ สมาธิ ที่ประกอบด้วย อกุศล

    สมาธิที่ประกอบด้วยกุศล จะดับ สมาธิ ที่เป็น อกุศล คงสมาธิ ที่เป็นกุศล เพื่อ เข้าถึง สมาธิ ที่ประกอบไปด้วยปัญญา

    การเรียนรู้ วิธีการ เพื่อเข้าถึง สมาธินั้น เป็นสิ่งที่ควรอย่างยิ่ง

    หากเราเรียนรู้วิธีการ ที่ผิด มีความเข้าใจผิด จึง เป็นสิ่ง ที่อันตราย อย่างยิ่ง
     
  3. ผู้เตือน warn

    ผู้เตือน warn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +688
    จากเรากูรู คำว่าสมาธิมันจะตกใจได้ไงล่ะขอรับ

    คนที่ใจลอยคิดอะไรเพลินๆ พอมีอะไรกระทบ ก็ตกใจ อย่างงี้เรียกว่าไม่มีสมาธิ หรือใจไม่อยู่กับเนื้อ กับตัว ถูกไม่หรือไม่ถูก

    อ่านหนัองสือรู้เรื่อง ก็มีสมาธิแล้วไช่ไหม ถ้าไม่มีจะอ่านรู้เรื่องได้ไงไช่ไหมครับ

    แล้วมีใครอ่านหนังแล้วตกใจกลัวไหม มันมีซะที่ไหนล่ะ ไช่ไหม ที่กลัว ตกใจ

    เพราะสมาธิมันขาดไป ขาดการพิจรณา

    สมาธิ ก็ไล่ ไปเป็นรำดับ จากธรรมดา ก็ไปสู่สมาธิที่ลุ่มลึกกว่า

    ถ้าถือศีล ภาวนา ไม่คิดเบียดเบียน ทำร้ายใครก็เป็นสัมมาสมาธิ

    ถ้าศีลไมี มีแต่สมาธิ แบบนี้ก็เรียกว่า มิฉราสมาธิ

    ต่างกัน ถ้าคิดเบียด ทั้งตนเอง และผู้อื่น อันนี้ เป็นมิฉราทิฐิ

    ถ้าไม่คิดเบียดเบียน ทั้งตนเอง และผู็อื่น อันนี้ เป็นสัมมาสมาธิ

    ศีล สมาธิ ปัญาญา เป็นหนทางหลุดพ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2010
  4. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ไม่มีอันตรายใดๆทั้งสิ้นครับ ขอให้สำคัญว่า รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ทั้งหลายนั้น นั้นรู้เพราะมีอายตนะหรือประสาทสัมผัสของร่างกายครับ เมื่อทราบแล้วก็ภาวนาตามที่ตนชอบถ้าเอาแบบสบายๆก็กำหนดลมหายใจเข้าพร้อมนึกคำบริกรรม พุท กำหนดลมหายใจออกพร้อมนึกบริกรรม โธ ทำไปเรื่อยๆหาจุดที่ลมกับความรู้สึกที่ระลึกนั้นมันสมดุลย์กันไม่อึดอัดไม่ลำบาก สบายๆแต่ได้ความชัดเจนของความรู้สึกนั้นๆ พร้อมกับคำบริกรรมภาวนา ทำไปเรื่อยๆ เสียงก็คือเสียง กลิ่นก็คือกลิ่น ไม่เกี่ยวกับเราไม่เกี่ยวกับการภาวนา ต้องค่อยๆฝึกครับ แต่ไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่คิดครับ ให้จิตหรือใจจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ว่าลมหายใจก็ดี คำบริกรรมก็ดี ถือว่า จิตเป็นสมาธิครับ สิ่งกระทบภายนอกจะไม่มีผล เพราะไม่สนใจเนื่องจากรู้ว่า เสียงก็คือเสียง ไม่ใช่สิ่งที่กำลังทำนั่นคือการทำให้จิตจดจ่อกับลมและคำบริกรรม ลองปฏิบัติดูครับ
    ที่ถามนี่น่าจะกำลังเริ่มปฏิบัติใช่ไหมครับ ถ้ากำลังเริ่มก็ไม่ต้องกังวลเลยครับ ลงมือได้เลยทำที่บ้านนั่นแหละครับ
    ปล.แต่ไม่ได้หมายความว่านั่งไปนั่งมาไฟไหม้แล้วก็ยังไม่รู้นะครับ หรือเกิดเรื่องขึ้นในบ้านก็ไม่รู้นะครับ หมายถึงเมื่อเสียงกระทบก็รู้แต่ไม่สนเพราะไม่ใช่เสียงอันเป็นภัย กลิ่นก็เช่นกันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2010
  5. ผู้เตือน warn

    ผู้เตือน warn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +688
    ไม่เห็นมาตอบกระทู้เลยนะครับ เงียบเลย..................
     
  6. กีตาร์ศีล

    กีตาร์ศีล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    431
    ค่าพลัง:
    +41
    โทษทีครับเข้ามาอ่านแต่ไม่ได้ตอบอ่ะ ขอบคุณมากนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...