สมาธิเพื่อการบำบัดรักษาโรค “สมาธิตั้งอยู่”

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 16 พฤษภาคม 2016.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="94%"><tbody><tr><td class="postbody" valign="top"> %BE%C3%D0%CD%D2%A8%D2%C3%C2%EC%C3%D1%B5%B9%EC%20%C3%B5%B9%AD%D2%E2%B3%203.jpg

    “สมาธิตั้งอยู่”
    สมาธิเพื่อการบำบัดรักษาโรค
    โดย พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ



    หลักการ

    การฝึกวิธีนี้เป็นการฝึกปล่อยวาง ซึ่งเป็นอุบายสำคัญในการศึกษาเรื่องของ “จิต” หรือ “วิปัสสนา” มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ฝึก ผู้ป่วย เห็นว่าทุกข์เกิดจากขันธ์ 5 (รูป, เวทนา, สัญญา, สังขารและวิญญาณ) โดยเฉพาะทุกข์จากตัวรูป คือร่างกาย และเวทนา คือความเจ็บปวด ความทรมานร่างกายที่เกิดขึ้นจากโรคที่ตนเองกำลังเป็นอยู่ว่าแท้จริงแล้ว เป็นของไม่เที่ยง (อนิจจัง) สามารถตั้งอยู่หรือดำรงอยู่ไม่นาน (ทุกขัง) ต้องสลายไปเป็นความว่างเพราะไม่มีตัวตนที่ถาวร (อนัตตา) ดังนั้นถ้าผู้ฝึก ผู้ป่วยสามารถเข้าไปสัมผัสได้ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงจัง ได้รับรู้ความเจ็บปวดทรมานได้จริง เห็นอาการของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ สลายได้ชัดเจนนับได้ว่าบุคคลผู้นั้นได้พบ วิชา หรือ ตัวยาที่ประเสริฐเลิศกว่ายาทั้งปวง


    วิธีปฏิบัติ

    หลังจากผู้ฝึก ผู้ป่วย ได้คลายอารมณ์ปล่อยวาง ความนึก ความคิดที่เป็นอนาคตเป็นอดีตออกไปได้พอสมควรแล้ว ความรู้สึกหรือจิตของผู้ฝึกจะถูกดึงไปยังอาการของร่างกายที่เกิดขึ้นเด่นชัด ในขณะนั้น เช่นอาการปวดศีรษะ เจ็บเข่า เจ็บขา เจ็บหน้าอกด้านขวาเนื่องจากเป็นมะเร็งทรวงอด ฯลฯ ให้ผู้ฝึก ผู้ป่วย กำหนดความรู้สึก หรือจิตใจให้นิ่งอยู่กับจุดบกพร่องนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นศีรษะ เข่า ขา หรือหน้าอกด้านขวา ไม่แส่ส่ายหรือส่งความรู้สึกไปยังที่อื่นๆ จิตตั้งมั่นอยู่กับจุดที่มีปัญหาที่เดียวพร้อมกับกำหนดหรือจี้ลงไปว่า ตั้งอยู่ๆๆ จนกระทั่ง ความเจ็บ ความปวด (ทุกขัง) ค่อยๆ คลายลงและละลายกลายเป็นความว่าง (อนัตตา) ได้ในที่สุด

    ถ้าความเจ็บ ความปวด หรือความทรมานร่างกาย (ทุกขัง) มีมากจนรู้สึกได้ว่าเป็นก้อนใหญ่ หนักมาก ผู้ฝึก ผู้ป่วยจะต้องมีความเพียรกำหนดตั้งอยู่ๆๆ จี้ลงไปที่จุดนั้นไปเรื่อยๆ อาจจะใช้เวลานานเป็น 1 วัน 2 วัน หรืออาจจะเป็นเดือน ไม่สร้างตัณหาคือความอยากหาย จิตตั้งมั่นอยู่ ณ จุดเดียวที่กำหนดอยู่ จนกระทั่งความเจ็บ ความปวด (ทุกขัง) ที่มีเป็นก้อนใหญ่ จะค่อยๆ ละลายเล็กลงๆ จนหมดไปกลายเป็นสภาพว่างเปล่า (อนัตตา)

    ในกรณีที่ความเจ็บความปวด มีเพิ่มมากขึ้นจน ผู้ฝึก ผู้ป่วยไม่สามารถกำหนดตั้งอยู่ๆๆ ได้อีกต่อไปให้ ผู้ฝึกเปลี่ยนอุบายเพียงเล็กน้อย โดยการกำหนดจี้ลงไปยังจุดของความเจ็บปวดนั้นว่าตายๆๆ พร้อมทั้ง สร้างความรู้สึกว่า ยอมตาย ไม่หนี ทำไปเรื่อยๆ และไม่ใส่ตัณหา คือความอยากหายเจ็บ หายปวด กำหนดตายๆๆ จนกระทั่งผู้ฝึก มีความรู้สึกว่าลมหายใจเบาลงๆ มีอาการอึดอัด เหมือนไม่มีลมหายใจจริงๆ ผู้ฝึกไม่ต้องกลัว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น คืออาการของการดับ ไม่ใช่การตาย เป็นเพียงการดับของเวทนาที่ได้เกิดขึ้น ปล่อยให้ร่างกายดับลงไป ความเจ็บ ความปวดจะหมดสิ้นไปด้วยเช่นกัน จากนั้นผู้ฝึก ผู้ป่วย จะรู้สึกตัวคืนกลับมาเป็นปกติดังเดิม


    คุณประโยชน์

    1. ผู้ฝึก ผู้ป่วย จะเห็นลำดับขั้นตอนของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ สลายของขันธ์ได้อย่างละเอียดชัดเจน และจะตระหนักได้ด้วยตนเองว่า การแก้ปัญหา หรือการหาวิธีการเพื่อเอาชนะความเจ็บ ความปวดที่เกิดขึ้นกับรูปหรือร่างกายนั้น เป็นการแก้ที่ไม่ตรงกับเหตุ สามารถแก้ไขได้เพียงชั่วคราว คือแค่ชาติเดียวเท่านั้น การแก้ไขที่ถูกต้องและได้ผลอย่างถาวรและเป็นการแก้ที่เหตุ คือทำอย่างไรกิเลสจึงจะหมด ไม่เป็นเหตุให้กลับไปเวียนว่ายตายแล้วเกิดอยู่เนืองๆ

    2. เป็นการละลายอุปทานความคิด ความยึดติดต่างๆ ถ้าผู้ฝึกได้ปฏิบัติ อย่างต่อเนื่อง จะทำให้เกิดปัญญาได้ดวงตาเห็นธรรมถึงความหลุดพ้นในที่สุด


    ข้อแนะนำ

    การฝึกสมาธิวิธีนี้ อาจจะใช้เวลานานเป็นวัน เดือน ว่าตัวทุกข์จะละลายหรือดับลงไปได้ ผู้ฝึก ผู้ป่วย ต้องมีความอดทน และความเพียรให้มาก ความเจ็บปวดของร่างกายที่มีอยู่เปรียบเสมือนปมเชือกที่ถูกผูกจนแน่นมีอยู่ เต็มทั่วร่างกาย ผู้ฝึก ผู้ป่วยจะต้องมีความเพียรในการแก้หรือคลายปมเชือกเหล่านั้นทีละปมๆ จนกระทั่งสามารถคลายหรือแก้ได้หมดทุกปม


    อุปสรรค

    ถ้าผู้ฝึก ผู้ป่วย มีความเจ็บปวดมากเท่าๆ กันในหลายๆ ส่วนของร่างกาย จะทำให้ความรู้สึก (จิต) ตั้งมั่นอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่งได้ยากให้พยายามกดหรือจี้ความรู้สึก (จิต) ลงยังจุที่ต้องการให้ได้


    http://www.geocities.com/healthmeditation/healthmeditation/health.html
    </td> </tr> <tr> <td> </td> </tr> <tr> <td class="postdetails" height="40" valign="bottom">
    </td></tr></tbody></table>
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,618
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    sadhu a lot.jpg เวปที่ท่านลิ้งค์ใช้ไม่ได้เสียแล้วค่ะเสียดายจัง
    อ่านดูแล้วคล้ายๆ"คิรีมานนทสูตร"เลยค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...