สมุยตุนเสบียงเตือนอีก28ธ.ค.คลื่นแรงอินโดนีเซียสังเวย60ศพ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 25 ธันวาคม 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,487
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>สมุยตุนเสบียงเตือนอีก28ธ.ค.คลื่นแรงอินโดนีเซียสังเวย60ศพ</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] กรมอุตุฯ เตือน 28 ธ.ค.คลื่นแรงอีก "สมุย-พะงัน" ตุนเสบียงรับท่องเที่ยว สลดอุทกภัยกระหน่ำเกาะสุมาตราคร่า 60 ศพ ส่วนมาเลย์อพยพ 9 หมื่นชีวิต


    แม้ว่ามรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยจะอ่อนกำลังลงแล้ว ส่งผลให้คลื่นลมในอ่าวไทยลดความแรงลง สถานการณ์เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ บางพื้นที่ชาวประมงเริ่มออกจับสัตว์น้ำแล้ว แต่กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังคลื่นจะกลับมาอีกครั้งในเร็วๆ นี้
    ระวัง 28 ธ.ค.คลื่นแรงขึ้น
    กรมอุตุนิยมวิทยาออกเตือนภัยลักษณะอากาศ อากาศหนาวจัดและคลื่นลมแรง ฉบับที่ 17 ว่า ความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน เริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังคงมีอากาศหนาวจัดบางพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน และเลย อุณหภูมิต่ำสุด 7-8 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดเขาอุณหภูมิต่ำสุด 2-4 องศาเซลเซียส มีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากความหนาวเย็น มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน มีกำลังอ่อนลง คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และจะมีกำลังแรงขึ้นอีกประมาณวันที่ 28 ธันวาคม ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ
    ส่งถุงยังชีพช่วยชาวเกาะพิทักษ์
    เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 24 ธันวาคม นายฉัตรชัย พะลัง รองนายก อบจ.ชุมพร นำถุงยังชีพไปช่วยชาวเกาะพิทักษ์ ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จำนวน 100 ถุง หลังจากได้รับการประสานทางโทรศัพท์มือถือจาก นายอำพล ธานีครุฑ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 บ้านเกาะพิทักษ์ ว่า ช่วงเวลา 10.00-10.30 น.จะเป็นช่วงที่คลื่นสงบ ขอให้รีบนำถุงยังชีพไปช่วยผู้ประสบภัย โดยชาวบ้านจะนำเรือมาช่วยกันขนเอง คาดว่าคงพอแบ่งกัน 500 คน และจะใช้ให้ถึงวันที่ 30 ธันวาคมนี้
    ด้าน นายนิพันธ์ ศิริธร นายอำเภอหลังสวน จ.ชุมพร กล่าวถึงสถานการณ์ในพื้นที่ว่า มีพื้นที่เสียหายหนัก 3 ตำบล คือ ต.บางมะพร้าว ต.บางน้ำจืด และ ต.ปากน้ำหลังสวน คาดว่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งการชดเชยบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายทั้งหลังไม่เกิน 3 หมื่นบาท และเสียหายเพียงบางส่วนหลังละไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท
    แห่ดูความเสียหาย"ตะลุมพุก"
    ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศทั่วไปดีขึ้นกว่าหลายวันที่ผ่านมา ท้องฟ้าเปิด เริ่มมีแสงแดดปกติ ทะเลสงบเงียบแทบจะไม่มีคลื่นลมพัดเข้าฝั่ง ประมงชายฝั่งขนาดเล็กจำนวนมากเริ่มออกหาปลาในระยะใกล้ฝั่ง หลังจากหยุดจับสัตว์น้ำหลายวัน เนื่องจากคลื่นลมแรง
    นายประยุทธ แก้วประสิทธิ์ นายก อบต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า พื้นที่ ต.แหลมตะลุมพุก เสียหายมาก โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวปลายแหลมตะลุมพุก ถนนสุดปลายแหลมขาด นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางไปหอชมวิวปลายได้ ต้นสนขนาดใหญ่โค่นล้มจำนวนมาก ส่วนที่หมู่ 1 หลังคลื่นลมสงบมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาดูความเสียหายและร่องรอยของกระแสคลื่นจำนวนมาก
    ชาวดอนสักไม่หนี
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านปากน้ำท่ากระจาย หมู่ 7 ต.ท่าชนะ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่น้ำทะเลหนุนสูงที่สุด ชาวบ้านเริ่มทยอยอพยพออกจากพื้นที่ไปอาศัยตามบ้านญาติมากขึ้น ซึ่ง อบต.ท่าชนะ ได้ประสานขอความช่วยเหลือจากตำรวจ สภ.อ.ท่าชนะ ให้ช่วยดูแลทรัพย์สินผู้ประสบภัย ส่วนที่บ้านพอด หมู่ 1 ต.ชลคราม อ.ดอนสัก ซึ่งคลื่นระลอกแรกซัดถนนเลียบชายหาดเสียหายหลายจุด ตลอดความยาว 300-500 เมตร และบ้านเรือนราษฎรเสียหายเป็นบางส่วนจำนวนมาก ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่ยอมย้ายออก อ้างว่าสภาพอากาศเป็นเช่นนี้ทุกปีเมื่อถึงช่วงมีมรสุม
    ผนึกกำลังรับมรสุมระลอกใหม่
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหลายแห่งที่อาศัยอยู่ริมทะเลและแม่น้ำตาปี เร่งนำกระสอบทรายไปกั้นบริเวณบ้านกันน้ำทะเลหนุนรับมือมรสุมระลอกใหม่ โดยเฉพาะบ้านแหลมโพธิ์ หมู่ 5 ต.พุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งได้รับความเสียหายมากจากคลื่นซัดและน้ำทะเลหนุนเข้าบ้านรอบแรก ล่าสุดชาวบ้านร่วมกับ อบต.พุมเรียง ร่วมกันนำกระสอบทรายจำนวนมากไปกั้นน้ำไว้ล่วงหน้า
    แม้ว่ากรมอุตุนิยมวิทยาจะประกาศเตือนห้ามเรือประมงขนาดเล็กออกจากฝั่งแล้ว แต่เนื่องจากสภาพอากาศในวันที่ 24 ธันวาคม ปลอดโปร่ง คลื่นลมสงบ ชาวประมงพื้นบ้านบางส่วนนำเรือออกไปหาปลาตามแนวชายฝั่ง โดยอ้างว่าคลื่นลมสงบและไม่มีรายได้ จึงจำเป็นต้องออกเรือ แต่ไม่ประมาท และขณะนี้อาหารทะเลมีราคาแพงขึ้น
    "สมุย-พะงัน" ตุนเสบียงรับท่องเที่ยว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่เกาะสมุย และเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากที่คลื่นลมสงบเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและชาวบ้านต่างทยอยกักตุนสินค้า เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ เนื่องจากเรือเฟอร์รี่สามารถเดินทางข้ามฟากได้ตามปกติ ประกอบกับมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทยอยเดินทางเข้ามาเรื่อยๆ โดยสายการบินบางกอก แอร์เวย์ส ซึ่งนักท่องเที่ยวบางส่วนพักบนเกาะสมุย และอีก 4,000-5,000 คน ข้ามฟากไปเกาะเต่า เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน เตรียมฉลองเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ โดยไม่หวาดหวั่นเรื่องคลื่นลมแรง
    บ้านกว่า 50 หลังพังยับ สรุปความเสียหายในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวประมงนับพันครัวเรือนไม่สามารถออกไปจับปลากลางทะเลได้ ล่าสุด เมื่อคืนวันที่ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมา ลมมรสุมที่มีกำลังแรงได้พัดกระหน่ำโหมเข้าหาฝั่ง ส่งผลให้คลื่นทะเลที่มีความสูง 3-4 เมตร กัดเซาะริมชายหาดเป็นเวิ้งกว้างเข้าหาฝั่งตลอดระยะทางยาวกว่า 40 กิโลเมตร เสียพื้นที่ชายฝั่งไปโดยภาพรวมเฉลี่ยจุดละประมาณ 30 เมตร บ้านเรือนประชาชนตามแนวชายหาดในพื้นที่ 5 หมู่บ้านของ 3 ตำบลในพื้นที่ อ.ตากใบ คือ บ้านกูบู หมู่ 6 บ้านสะปอม หมู่ 8 ต.ไพรวัน บ้านศาลาใหม่ หมู่ 3 บ้านปูลาเจ๊ะมูดอ หมู่ 5 ต.ศาลาใหม่ และบ้านเกาะยาว หมู่ 8 ต.เจ๊ะเห เสียหายกว่า 50 หลังคาเรือน ซึ่ง อบต.ทั้งสามแห่ง มอบเงินซื้ออุปกรณ์ซ่อมแซมแล้ว

    อาหารทะเลแพงขึ้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือประมงประมาณ 2,000 ลำ ไม่สามารถออกทะเลไปจับสัตว์น้ำได้ ต้องนำเรือมาจอดเทียบท่าบริเวณริมสองฝั่งแม่น้ำปัตตานี ส่งผลให้มีจำนวนสัตว์น้ำขึ้นท่าน้อยลง และราคาสัตว์น้ำมีราคาสูงขึ้น ขณะเดียวกัน เรือที่อยู่กลางทะเลจะต้องรีบกลับเข้าฝั่งในเร็ววันด้วย
    "สุมาตรา" ตาย 60-มาเลย์อพยพ 9 หมื่น ส่วนสถานการณ์อุทกภัยที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้สูญหายหลายร้อยคน และประชาชนอีกหลายพันคนอพยพหนีแล้ว ขณะที่พื้นที่กาโย ลูเยส และอีสต์ อาเจะห์ ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก อย่างไรก็ตาม ภัยธรรมชาติครั้งนี้ทำให้เกิดฝนตกหนักไปถึงภาคใต้ของประเทศมาเลเซีย กระทบต่อประชาชนเกือบ 9 หมื่นคน ที่ต้องทิ้งบ้านเรือนไปอาศัยยังที่ปลอดภัย สาเหตุจากการลักลอบตัดไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติ เมื่อฝนตกจึงไม่มีป่าไม้ดูดซับน้ำ ส่งผลให้ในบางพื้นที่จมอยู่ใต้น้ำถึง 3 เมตร

    -->
    กรมอุตุฯ เตือน 28 ธ.ค.คลื่นแรงอีก "สมุย-พะงัน" ตุนเสบียงรับท่องเที่ยว สลดอุทกภัยกระหน่ำเกาะสุมาตราคร่า 60 ศพ ส่วนมาเลย์อพยพ 9 หมื่นชีวิต
    แม้ว่ามรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยจะอ่อนกำลังลงแล้ว ส่งผลให้คลื่นลมในอ่าวไทยลดความแรงลง สถานการณ์เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ บางพื้นที่ชาวประมงเริ่มออกจับสัตว์น้ำแล้ว แต่กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังคลื่นจะกลับมาอีกครั้งในเร็วๆ นี้

    ระวัง 28 ธ.ค.คลื่นแรงขึ้น
    กรมอุตุนิยมวิทยาออกเตือนภัยลักษณะอากาศ อากาศหนาวจัดและคลื่นลมแรง ฉบับที่ 17 ว่า ความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน เริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังคงมีอากาศหนาวจัดบางพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน และเลย อุณหภูมิต่ำสุด 7-8 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดเขาอุณหภูมิต่ำสุด 2-4 องศาเซลเซียส มีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากความหนาวเย็น มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน มีกำลังอ่อนลง คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และจะมีกำลังแรงขึ้นอีกประมาณวันที่ 28 ธันวาคม ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ

    ส่งถุงยังชีพช่วยชาวเกาะพิทักษ์
    เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 24 ธันวาคม นายฉัตรชัย พะลัง รองนายก อบจ.ชุมพร นำถุงยังชีพไปช่วยชาวเกาะพิทักษ์ ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จำนวน 100 ถุง หลังจากได้รับการประสานทางโทรศัพท์มือถือจาก นายอำพล ธานีครุฑ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 บ้านเกาะพิทักษ์ ว่า ช่วงเวลา 10.00-10.30 น.จะเป็นช่วงที่คลื่นสงบ ขอให้รีบนำถุงยังชีพไปช่วยผู้ประสบภัย โดยชาวบ้านจะนำเรือมาช่วยกันขนเอง คาดว่าคงพอแบ่งกัน 500 คน และจะใช้ให้ถึงวันที่ 30 ธันวาคมนี้
    ด้าน นายนิพันธ์ ศิริธร นายอำเภอหลังสวน จ.ชุมพร กล่าวถึงสถานการณ์ในพื้นที่ว่า มีพื้นที่เสียหายหนัก 3 ตำบล คือ ต.บางมะพร้าว ต.บางน้ำจืด และ ต.ปากน้ำหลังสวน คาดว่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งการชดเชยบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายทั้งหลังไม่เกิน 3 หมื่นบาท และเสียหายเพียงบางส่วนหลังละไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท


    แห่ดูความเสียหาย"ตะลุมพุก"
    ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศทั่วไปดีขึ้นกว่าหลายวันที่ผ่านมา ท้องฟ้าเปิด เริ่มมีแสงแดดปกติ ทะเลสงบเงียบแทบจะไม่มีคลื่นลมพัดเข้าฝั่ง ประมงชายฝั่งขนาดเล็กจำนวนมากเริ่มออกหาปลาในระยะใกล้ฝั่ง หลังจากหยุดจับสัตว์น้ำหลายวัน เนื่องจากคลื่นลมแรง
    นายประยุทธ แก้วประสิทธิ์ นายก อบต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า พื้นที่ ต.แหลมตะลุมพุก เสียหายมาก โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวปลายแหลมตะลุมพุก ถนนสุดปลายแหลมขาด นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางไปหอชมวิวปลายได้ ต้นสนขนาดใหญ่โค่นล้มจำนวนมาก ส่วนที่หมู่ 1 หลังคลื่นลมสงบมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาดูความเสียหายและร่องรอยของกระแสคลื่นจำนวนมาก


    ชาวดอนสักไม่หนี
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านปากน้ำท่ากระจาย หมู่ 7 ต.ท่าชนะ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่น้ำทะเลหนุนสูงที่สุด ชาวบ้านเริ่มทยอยอพยพออกจากพื้นที่ไปอาศัยตามบ้านญาติมากขึ้น ซึ่ง อบต.ท่าชนะ ได้ประสานขอความช่วยเหลือจากตำรวจ สภ.อ.ท่าชนะ ให้ช่วยดูแลทรัพย์สินผู้ประสบภัย ส่วนที่บ้านพอด หมู่ 1 ต.ชลคราม อ.ดอนสัก ซึ่งคลื่นระลอกแรกซัดถนนเลียบชายหาดเสียหายหลายจุด ตลอดความยาว 300-500 เมตร และบ้านเรือนราษฎรเสียหายเป็นบางส่วนจำนวนมาก ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่ยอมย้ายออก อ้างว่าสภาพอากาศเป็นเช่นนี้ทุกปีเมื่อถึงช่วงมีมรสุม


    ผนึกกำลังรับมรสุมระลอกใหม่
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหลายแห่งที่อาศัยอยู่ริมทะเลและแม่น้ำตาปี เร่งนำกระสอบทรายไปกั้นบริเวณบ้านกันน้ำทะเลหนุนรับมือมรสุมระลอกใหม่ โดยเฉพาะบ้านแหลมโพธิ์ หมู่ 5 ต.พุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งได้รับความเสียหายมากจากคลื่นซัดและน้ำทะเลหนุนเข้าบ้านรอบแรก ล่าสุดชาวบ้านร่วมกับ อบต.พุมเรียง ร่วมกันนำกระสอบทรายจำนวนมากไปกั้นน้ำไว้ล่วงหน้า
    แม้ว่ากรมอุตุนิยมวิทยาจะประกาศเตือนห้ามเรือประมงขนาดเล็กออกจากฝั่งแล้ว แต่เนื่องจากสภาพอากาศในวันที่ 24 ธันวาคม ปลอดโปร่ง คลื่นลมสงบ ชาวประมงพื้นบ้านบางส่วนนำเรือออกไปหาปลาตามแนวชายฝั่ง โดยอ้างว่าคลื่นลมสงบและไม่มีรายได้ จึงจำเป็นต้องออกเรือ แต่ไม่ประมาท และขณะนี้อาหารทะเลมีราคาแพงขึ้น


    "สมุย-พะงัน" ตุนเสบียงรับท่องเที่ยว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่เกาะสมุย และเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากที่คลื่นลมสงบเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและชาวบ้านต่างทยอยกักตุนสินค้า เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ เนื่องจากเรือเฟอร์รี่สามารถเดินทางข้ามฟากได้ตามปกติ ประกอบกับมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทยอยเดินทางเข้ามาเรื่อยๆ โดยสายการบินบางกอก แอร์เวย์ส ซึ่งนักท่องเที่ยวบางส่วนพักบนเกาะสมุย และอีก 4,000-5,000 คน ข้ามฟากไปเกาะเต่า เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน เตรียมฉลองเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ โดยไม่หวาดหวั่นเรื่องคลื่นลมแรง


    บ้านกว่า 50 หลังพังยับ
    สรุปความเสียหายในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวประมงนับพันครัวเรือนไม่สามารถออกไปจับปลากลางทะเลได้ ล่าสุด เมื่อคืนวันที่ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมา ลมมรสุมที่มีกำลังแรงได้พัดกระหน่ำโหมเข้าหาฝั่ง ส่งผลให้คลื่นทะเลที่มีความสูง 3-4 เมตร กัดเซาะริมชายหาดเป็นเวิ้งกว้างเข้าหาฝั่งตลอดระยะทางยาวกว่า 40 กิโลเมตร เสียพื้นที่ชายฝั่งไปโดยภาพรวมเฉลี่ยจุดละประมาณ 30 เมตร บ้านเรือนประชาชนตามแนวชายหาดในพื้นที่ 5 หมู่บ้านของ 3 ตำบลในพื้นที่ อ.ตากใบ คือ บ้านกูบู หมู่ 6 บ้านสะปอม หมู่ 8 ต.ไพรวัน บ้านศาลาใหม่ หมู่ 3 บ้านปูลาเจ๊ะมูดอ หมู่ 5 ต.ศาลาใหม่ และบ้านเกาะยาว หมู่ 8 ต.เจ๊ะเห เสียหายกว่า 50 หลังคาเรือน ซึ่ง อบต.ทั้งสามแห่ง มอบเงินซื้ออุปกรณ์ซ่อมแซมแล้ว


    อาหารทะเลแพงขึ้น
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือประมงประมาณ 2,000 ลำ ไม่สามารถออกทะเลไปจับสัตว์น้ำได้ ต้องนำเรือมาจอดเทียบท่าบริเวณริมสองฝั่งแม่น้ำปัตตานี ส่งผลให้มีจำนวนสัตว์น้ำขึ้นท่าน้อยลง และราคาสัตว์น้ำมีราคาสูงขึ้น ขณะเดียวกัน เรือที่อยู่กลางทะเลจะต้องรีบกลับเข้าฝั่งในเร็ววันด้วย

    "สุมาตรา" ตาย 60-มาเลย์อพยพ 9 หมื่น

    ส่วนสถานการณ์อุทกภัยที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้สูญหายหลายร้อยคน และประชาชนอีกหลายพันคนอพยพหนีแล้ว ขณะที่พื้นที่กาโย ลูเยส และอีสต์ อาเจะห์ ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก อย่างไรก็ตาม ภัยธรรมชาติครั้งนี้ทำให้เกิดฝนตกหนักไปถึงภาคใต้ของประเทศมาเลเซีย กระทบต่อประชาชนเกือบ 9 หมื่นคน ที่ต้องทิ้งบ้านเรือนไปอาศัยยังที่ปลอดภัย สาเหตุจากการลักลอบตัดไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติ เมื่อฝนตกจึงไม่มีป่าไม้ดูดซับน้ำ ส่งผลให้ในบางพื้นที่จมอยู่ใต้น้ำถึง 3 เมตร


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    --------------------------

    ที่มา: คมชัดลึก
    http://www.komchadluek.net/2006/12/2...?news_id=77390
     

แชร์หน้านี้

Loading...