สมเด็จท่านปทุมมุตตระ...เสด็จเทศน์

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย klu, 23 พฤษภาคม 2007.

  1. klu

    klu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,320
            "อันบุคคลผู้ประพฤติธรรมหรือมุ่งหวังในธรรมนั้นย่อมจะมุ่งหวังรู้ในธรรมให้เกิดแตกฉานและหวังผลปฏิบัติในทางสูงสุดของธรรมเป็นที่หมายจึงใคร่ขอน้อมเอาใจมีสาระมาสอนกายที่ยังมีราคีอยู่อีกมากโข ให้กระจ่างในการประพฤติปฏิบัติในธรรม รู้ธรรม การปฏิบัติให้รู้ในธรรมต้องเริ่มปฏิบัติที่วาระของใจเป็นเรื่องแรก แรกนั้นผู้หวังธรรมเป็นที่หมายต้องระลึก เข้าใจถึงภาระ ภาระก่อเกิดขึ้นเป็นหน้าที่เป็นกิจวัตรของแต่ละบุคคลเป็นที่ตั้ง ภาระเมื่อก่อเกิดกำเนิดขึ้นย่อมมีวันหมดสิ้นสุดลง แต่ถ้าบุคคลยังยึดยังถือว่าภาระนั้นเป็นของเรา หรือลืมไป ถือว่าภาระนั้นคือเรา เมื่อนั้นบุคคลนั้นจะไม่ยอมรับรู้วันสิ้นสุดของภาระนั้น ๆ ซึ่งเป็นของธรรมดา ของโลกวิสัย จะต้องแจ้งแสดงอยู่ในจิตในใจอยู่ตลอดนิจกาล ว่าของทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีวันสิ้นสุดหยุดอยู่ ไม่ว่าจะเป็นวันใดเวลาใด หรือแม้กระทั่งนิจกาลว่า ของทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีวันสิ้นสุดหยุดอยู่ ไม่ว่าจะเป็นวันใด เวลาใดหรือแม้กระทั่งเดี๋ยวนี้ก็ตาม เราเอาเสียภาระทั้งหมดทั้งสิ้นไป โดยฉับพลันและถ้าบุคคลที่ประมาทก็ยังมิอาจเตือนจิตเตือนใจให้ระงับอาลัยเสียดายในภาระนั้นได้โดยขาดสติ ขอให้ระลึกถึงวันเวลาที่ผ่านไปตามวาระโอกาสของแต่ละคนที่ลงมาเพื่อบำเพ็ญเพียร และขอให้ได้ความเพียรนั้นเป็นรางวัลกลับไปสู่ภาวะเดิมแห่งตน

             เวลาแห่งการสิ้นสุดมีอยู่ทุกวินาที จงตั้งตนตั้งสติ ตั้งความเพียรแก่ตนให้เข้มข้นทุกวินาทีนับแต่นี้ไป

             ระหว่างที่แต่ละบุคคลได้มุ่งหวังธรรม แม้ว่าจะเป็นการเพียรด้วยใจมากกว่าเพียรด้วยกายก็ตามสิ่งหนึ่งที่ยังเกาะกินในใจในจิตอยู่มากมายนั้นคืออารมณ์ อารมณ์ในรสธรรมนั้นมีน้อยในรสโลกนั้นยังมากโขสิ่งนี้แหละที่ทำให้ตนปฏิเสธไม่ได้ว่า ฉันดี ของฉันดี ฉันและตัวฉันนำมาซึ่งราคะต่าง ๆ ราคะอันนี้จะเป็นตัวเชื่อมให้ความมีเมตตา กรุณา อุเบกขา มุทิตา หายไป เมื่อหายไป จะได้ชื่อว่าผู้ปฏิบัติธรรมอยู่อีกหรือ สิ่งนี้แหละที่บุคคลทั้งหลายประพฤติเพื่อขายชื่อผู้มีอุดมพรเป็นยิ่งแล้ว จงหมั่นจงมุ่งสู่ผลที่จะพึงหมายปฏิบัติให้เป็นเลิศ"


    เชื่อ มิเชื่อ แล้วแต่ศรัทธา...
     

แชร์หน้านี้

Loading...