สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ทรงขอบคุณผู้เข้าร่วมกิจกรรม Bike For Mom

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ทรงขอบคุณผู้เข้าร่วมกิจกรรม Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน







หนุ่มเขมรร่วมปั่น‘ไบค์ ฟอร์ มัม’ ซาบซึ้ง‘ราชินี’ให้ชีวิตใหม่พ้นภัยสงคราม
ด้วยพระเมตตาของ “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ” ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรไปทั่วทุกสารทิศ ด้วยน้ำพระราชหฤทัยที่สุดจะเปรียบเปรยยังแผ่ขจรไกลไปถึงผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยมิได้ทรงคำนึงว่า “คนเหล่านั้นจะเป็นชนชาติใด”

แม้เวลาจะผ่านเนิ่นนานเพียงใด น้ำพระราชหฤทัยของพระองค์ไม่เคยเสื่อมคลายไปจากหัวใจของ “ดนัย ดีนา คมคาย เคือน” ​ นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ชาวกัมพูชาที่ประสบความสำเร็จสู่จุดสูงสุดของชีวิตอันเป็นผลมาจากพระมหากรุณาธิคุณของ “สมเด็จพระบรมราชินีนาถ” เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมศูนย์ผู้ลี้ภัยเขาล้าน จ.ตราด เมื่อปี พ.ศ. 2522

นั่นคือจุดเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเด็กน้อยชาวกัมพูชาวัย 2 ขวบ ผู้บอบช้ำจากภัยสงครามหลบหนีมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร สู่การเข้าร่วมกิจกรรม “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่” ในวันที่ 16 สิงหาคม เพื่อถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ

ปัจจุบัน ดนัยดำรงตำแหน่งประธานบริษัท English3Siam แต่ใครจะรู้ว่าชีวิตที่เหมือนตายแล้วเกิดใหม่เป็นเพราะเขาได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระแม่แห่งแผ่นดินไทย ตั้งวัยเยาว์จนเติบใหญ่ ทั้งชีวิตความเป็นอยู่ในวันที่ประเทศบ้านเกิดแตกระส่ำ ตลอดจนการร่ำเรียนสูงสุดจากทุนพระราชทาน

ดนัย เล่าย้อนเหตุการณ์ที่ผ่านไปกว่า 40 ปีได้อย่างแม่นยำว่า เหตุการณ์ความวุ่นวายภายในประเทศกัมพูชาเมื่อปี พ.ศ. 2518 สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวกัมพูชาไปทั่ว ตอนนั้นเป็นเพียงเด็กชายวัย 2 ขวบกว่าๆ และด้วยภัยสงคราม ทำให้ต้องพลัดพรากจากบ้านเกิด และพ่อ แม่ จำได้ว่าตอนนั้นต้องเข้าไปอยู่ในแคมป์ทหาร ถูกจับขึ้นรถ และปล่อยให้เดินเข้าป่า เพื่อหาทางรอดให้แก่ตัวเอง แต่ด้วยพรหมลิขิตทำให้ได้เจอแม่ที่พลัดพรากกันมาเป็นปีในผืนป่าแห่งนั้น จึงกัดฟันสู้แม้ชีวิตจะยากเข็ญเพียงใด พวกเราต้องหาของกินจากขยะ และเก็บผลไม้กินในป่าทึบ

จวบจนปี พ.ศ. 2522 เป็นปีที่น่าจดจำอย่างยิ่ง ถือเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิต ตอนนั้นได้มาอยู่ในศูนย์สภากาชาดไทยพร้อมกับแม่ จำได้ว่าเป็นเวลาประมาณตีสามกำลังนอนซมด้วยพิษไข้จากการกินเห็ดพิษเข้าไป แม่ดูแลอยู่ข้างๆ เมื่อลืมตาขึ้นครั้งแรกเหมือนอยู่ในความมืด แต่ที่นั้นมีแสงสว่างเพียงพอที่ทำให้เห็นหน้าผู้คนที่อยู่รอบตัว เราอยู่ภายใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ล้อมรอบไปด้วยผู้ชายในค่าย โดยทหารไทยพยายามป้อนข้าวผัดให้กิน ตอนนั้นรู้สึกเพียงว่า รสชาติของข้าวเหมือนสวรรค์ เป็นอาหารดีที่สุดในชีวิต ขณะที่นอนป่วยได้รับการรักษาเป็นอย่างดี โดยมีทหารไทยและเจ้าหน้าที่แพทย์คอยดูแลให้น้ำและยา ตอนนั้นจำได้ว่ามีผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชาประมาณหนึ่งหมื่นคนลงมาจากภูเขา ทหารไทยดูแลผู้ลี้ภัยเป็นอย่างดีแม้จะต้องใช้ความอุตสาหะในการจัดการมาก

“วันหนึ่งพระราชินีเสด็จฯ มาที่แคมป์ของพวกเรา ตอนนั้นมีเฮลิคอปเตอร์อยู่ทุกที่ ทหารจากกองทัพบก และกองทัพเรือไทยอยู่ที่นั่นด้วย ในความคิดตอนนั้นพวกเราคิดว่าสงครามเกิดขึ้นอีกครั้ง พวกเราไม่คิดว่า สมเด็จพระราชินีเสด็จฯ มาเยี่ยม ในเวลานั้นยอมรับว่าไม่มีความรู้เกี่ยวกับพระราชา และพระราชินี ไม่เข้าใจว่าบุคคลสำคัญจะต้องมาสถานที่แห่งนี้เพื่อมาเจอพวกเรา เพราะมันเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้บาดเจ็บจำนวนมากในแคมป์ บางคนไม่มีแขนขา อีกทั้งในแคมป์มีกลิ่นคลุ้งคล้ายกับกลิ่นปลา เป็นกลิ่นบาดแผลของร่างกาย บางคนดูไม่เป็นมิตร แต่พระราชินีทรงแสดงความกล้าหาญอย่างมาก เดินเข้ามาในแคมป์พวกเราทั้งที่รู้ว่ามันเป็นเขตสงคราม"

ดนัย กล่าวด้วยความซาบซึ้งว่า พระองค์ทรงเสี่ยงอันตรายด้วยชีวิตของพระองค์ เพราะในสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยพวกเขมรแดงที่ซุ่มตัวอยู่ภายในแคมป์ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรพระราชินียังคงเสี่ยงพระองค์เพื่อมาช่วยเหลือผู้ลี้ภัย พระราชินีทรงนำธงสภากาชาดขึ้นสู่เสา เพื่อให้ทุกคนในแคมป์สามารถเห็นได้ พร้อมรับสั่งว่า ธงจะช่วยป้องกันพวกเราจากการถูกฆ่า จากนั้นพระองค์ทรงพระดำเนินไปรอบๆ แคมป์ ทรงแจกนม น้ำสะอาด และอาหารให้ ทุกคนมองที่พระองค์และรู้สึกได้ว่าพระองค์เป็นสตรีที่มีพระบารมี งามสง่าน่าเคารพนับถือ พระองค์ทรงมาเยี่ยมพวกเราสามรอบ ทรงใช้เวลาในตอนกลางคืนอยู่กับพวกเรา ตอนนั้นได้แต่นึกว่า จะมีใครไหมที่สามารถทำอย่างพระองค์ได้ พระราชินีทรงทำให้ผู้ลี้ภัยแน่ใจว่า จะอยู่อย่างปลอดภัย โดยได้รับยา อาหาร เสื้อผ้า และที่หลบภัย

“นับแต่นั้นมาผมก็สรรเสริญพระองค์ เพราะทรงมีความกล้าหาญ ระหว่างที่พระองค์ทรงใช้เวลาอยู่ในแคมป์ผู้ลี้ภัยที่เขาล้าน ชีวิตของผมได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก หลังจากที่พระราชินีเสด็จฯ มาในครั้งนั้นทุกอย่างดีขึ้นในปีนั้นทันที”

ดนัย เล่าว่า หลังจากสมเด็จพระบรมราชินีนาถเสด็จฯ กลับไปไม่นาน ตนเองป่วยมากเป็นเวลาหลายเดือน วันหนึ่งพระองค์เสด็จฯ มาเพื่อเยี่ยมเยียนอีกครั้ง แม่เป็นคนพาไปเข้าเฝ้าฯ พระราชินี และแพทย์ส่วนพระองค์ ในที่สุดก็ได้รับยาช่วยรักษาอาการ ทั้งวิตามิน และอาหาร จากนั้นอีกไม่นานอาการก็ดีขึ้น สามารถวิ่งเล่นและยิ้มอย่างมีความสุข

“นี่เป็นครั้งที่สองที่พระราชินีทรงช่วยชีวิตผม และเป็นอีกครั้งที่ทรงช่วยชีวิตคือการให้สถานที่พักอาศัยเมื่อแคมป์ถูกปิดลงในปี พ.ศ. 2525 ผมได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ลี้ภัยไปในประเทศสหรัฐอเมริกาพร้อมกับแม่ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ผมประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะพระองค์พระราชทานทุนทรัพย์จนสำเร็จการศึกษา มีชีวิตที่ดีขึ้นมาก จึงสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และหวังจะทดแทนคุณให้แก่ประเทศไทย แทนคุณพระราชินี จึงตั้งมั่นที่จะมาร่วมงานปั่นเพื่อแม่ในวันที่ 16 สิงหาคมนี้”

ดนัย บอกถึงความตั้งใจว่า ได้รวบรวมกลุ่มนักปั่นจักรยานชาวกัมพูชาจำนวนประมาณ 50 คน เพื่อร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ โดยใช้เส้นทางกรุงพนมเปญ-ตราด-กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 11-21 สิงหาคม 2558 โดยจะเริ่มปั่นจักรยานจากกรุงพนมเปญไปยัง จ.ตราด ในระหว่างวันที่ 11-15 สิงหาคม 2558 และจะร่วมงาน Bike For Mom ของ จ.ตราด ในวันที่ 16 สิงหาคม 2558 จากนั้นจะปั่นจักรยานต่อจาก จ.ตราด ไปยังกรุงเทพฯ ในวันที่ 17-21 สิงหาคม 2558 เพื่อไปร่วมลงนามถวายพระพรสมเด็จพระบรมราชินีนาถที่โรงพยาบาลศิริราช

“เดิมทีผมมีความตั้งใจและได้เสนอไปที่สำนักพระราชวังว่าจะปั่นจักรยานจากศูนย์เขาล้าน จ.ตราด เพื่อไปถวายพระพรพระราชินีที่พระบรมมหาราชวัง แต่บังเอิญทราบว่ามีโครงการปั่นเฉลิมพระเกียรติฯ ปั่นเพื่อแม่ จึงอยากจะทำให้ดีที่สุด และได้รวมตัวกับนักปั่นชาวกัมพูชา 50 คน มีนักปั่นทีมชาติ 7 คน ตั้งใจปั่นจากกรุงพนมเปญบ้านเกิดไปยังพระบรมมหาราชวัง โดยจะออกจากกรุงพนมเปญในวันที่ 11 สิงหาคม เวลา 06.00 น. มุ่งหน้าไป จ.ตราดระยะทาง 400 กิโลเมตร แต่จะแวะพักทุกๆ 120 กิโลเมตร คาดว่าจะถึงจุดหมายในวันที่ 15 สิงหาคม 2558 และจะร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อแม่กับพี่น้องชาวไทยในวันที่ 16 สิงหาคม จากนั้นในวันที่ 17 สิงหาคม เวลา 08.00 น. จะปั่นออกจาก จ.ตราด เข้าสู่กรุงเทพฯ โดยแวะพักทุกๆ 130 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 วัน โดยมีจุดหมายที่พระบรมมหาราชวัง เพื่อลงนามถวายพระพร ในวันที่ 20 สิงหาคม 2558 ที่จะถึงนี้”

สุดท้าย ดนัย กล่าวถึงความตั้งใจร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ “Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่” ว่า กิจกรรมปั่นเพื่อแม่ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณที่ี่ทรงช่วยชีวิตตัวเองและครอบครัว รวมถึงชาวกัมพูชาอีก 195 คน ซึ่งขณะนี้ทุกคนอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนจะย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ถ้ามีโอกาส ชาวกัมพูชาคนนี้พร้อมที่จะมอบชีวิตแด่พระองค์ท่าน และจากการติดตามข่าวทำให้ทราบว่าทรงพระประชวรก็อยากอวยพรให้พระองค์ท่านมีอายุยืน ลุกขึ้นมาดูแลลูกหลานอีกต่อไปนานๆ"

เกี่ยวกับกิจกรรม Bike For Mom ที่ดนัยตั้งใจนำเพื่อนชาวกัมพูชาร่วมปั่นจักรยานเทิดพระเกียรติ “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ”

“ณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร” เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ เปิดเผยว่า ดนัย เป็นชาวกัมพูชา อพยพลี้ภัยสงครามภายในประเทศมายังประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2522 และได้รับพระราชทานความช่วยเหลือและทุนการศึกษาจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในระหว่างที่ลี้ภัยอยู่ที่ จ.ตราด ทำให้มีความซาบซึ้งในพระมหากรุณธิคุณ จึงมีความประสงค์ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ Bike For Mom ที่จะจัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา ในวันที่ 16 สิงหาคม 2558 ที่ จ.ตราด

ขณะเดียวกันทางสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้สอบถาม ดร.วีระชัย ณ นคร ซึ่งนายดนัยแจ้งว่ารู้จักกับตัวเอง และเป็นหนึ่งในคณะทำงานของท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เพื่อตรวจสอบรายละเอียดประวัติของนายดนัย ที่จะเข้าร่วมโครงการ Bike For Mom


ขอขอบคุณ คมชัดลึก........ �Һ���觑�ҪԹՒ˹�������������蹑交� ���� ����

 

​

ปั่นเพื่อแม่พร้อมกันทั้งประเทศ อาทิตย์ที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๘....
ติดตามที่นี่ค่ะ...https://www.bikeformom2015.com/home.php

 

​

บทความโดย ดร.พญ.ประกายทิพ สุศิลปรัตน์
กลุ่มภารกิจด้านบริการปฐมภูมิ
โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา


ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วสำหรับ Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่ ในวันที่ 16 สิงหาคม 2558 หลายคนคงกำลังเตรียมตัว ฟิตซ้อมปั่นจักรยานกันอยู่ มีคำแนะนำเพื่อการเตรียมตัวสำหรับนักปั่นทุกคนที่จะเข้าร่วมงาน ลองมาเช็คดูว่าเตรียมสิ่งต่างๆ กันพร้อมหรือยัง

การเตรียมตัวก่อนปั่น

1.เตรียมตัวเอง
ช่วงนี้ควรรักษาสุขภาพร่างกายให้ดี หมั่นฝึกซ้อมให้ได้ระยะทางมากกว่าหรือเท่ากับที่ตั้งใจว่าจะปั่นในวันจริง หลีกเลี่ยงการโดนฝน กินอาหารที่มีประโยชน์ทุกวัน

2.เตรียมเพื่อนและคนที่จะไปด้วย
ซ้อมปั่นร่วมกับกลุ่มที่จะไปปั่นด้วยกัน จะได้รู้จังหวะของแต่ละคน ไม่เกี่ยวกันล้มหรือพากันล้มไปโดนผู้อื่นจนเป็นอันตราย ถ้ามีเด็กๆ ต้องซักซ้อมเด็กๆ ที่อยู่ในความดูแลเกี่ยวกับการปั่น การระมัดระวังตัวเอง และไม่กีดขวางนักปั่นคนอื่น

3.เตรียมของต่างๆ

แน่นอนว่า ไปปั่นจักรยานต้องเตรียมจักรยาน เช็คสภาพให้เรียบร้อย ทั้งสภาพทั่วไป ลมยาง โซ่ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดอยู่กับจักรยานต้องใช้งานได้ดี และยังมีอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับนักปั่นอีก ดังนี้

3.1 อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย


- หมวกกันน้อค ในความเห็นของบุคลากรทางการแพทย์เป็นอุปกรณ์ป้องกันชีวิตนักปั่นที่สำคัญสุดแล้ว

- ไฟหน้า ไฟท้าย และ/หรือแถบสะท้อนแสง แม้ตามกำหนดการเป็นช่วงเวลาประมาณบ่ายสามโมงถึงช่วงเย็น แต่ก็ควรเตรียมให้มีไว้ เพราะอาจใช้เวลาปั่นยาวนานถึงช่วงโพล้เพล้หรือหัวค่ำ และฤดูนี้เป็นฤดูฝน เผื่อฝนตก ฟ้ามืด

- อุปกรณ์ป้องกันอื่นๆ ได้แก่ ถุงมือ (ป้องกันการกดทับและเหน็บชาบริเวณมือ) ผ้าบัฟ/ผ้าปิดจมูก (กันแดด กันฝุ่น กันเหงื่อ) แว่น (กันแดด กันฝุ่น กันลม กันแมลงเข้าตา) เสื้อกันฝนแบบพกพา (ที่เป็นพลาสติกเล็กๆเบาๆใช้แล้วทิ้งเผื่อฝนตกหนัก ควรเลือกแบบตัวสั้น หากต้องปั่นอยู่กลางฝนชายเสื้อกันฝนจะได้ไม่ปลิวเข้าไปในซี่ล้อจักรยาน)

3.2 เสื้อผ้า

- เสื้อจักรยานโดยเฉพาะ มีข้อดีตรงที่การระบายอากาศดี มีชายแขนและชายเสื้อกันลมเข้า มีช่องใส่ของด้านหลังติดตัว แต่ก็มีข้อเสียตรงราคาแพง หากไม่มีเสื้อจักรยานก็เลือกเสื้อยืดที่ใส่สบาย ไม่หนาเกินไป งานนี้คนส่วนใหญ่ใส่เสื้อสีฟ้าจึงควรเลือกเสื้อโทนสีฟ้าเพื่อความสวยงามและดูเป็นการรวมพลังอย่างพร้อมเพรียง

- กางเกงจักรยานโดยเฉพาะ มีข้อดีตรงที่มีฟองน้ำหรือเจลบุตรงเป้าเป็นรูปร่างคล้ายอานจักรยาน ช่วยลดอาการปวดบริเวณก้น ลดโอกาสเกิดแผลจากการกดทับเสียดสีเป็นเวลานาน แต่มีข้อเสียตรงราคาแพง อีกทางเลือกคือสวมกางเกงกีฬาร่วมกับใช้อานเสริมที่เป็นเจล ราคาถูกกว่ากางเกงจักรยาน แต่ต้องดูแลดีๆระหว่างปั่นมีโอกาสหลุดเลื่อนได้ ถ้าไม่มีทั้งกางเกงจักรยานและอานเจล ก็ต้องใช้วิธียกก้นหนีการกระแทกขณะปั่นในที่ทีขรุขระ ปั่นแล้วหยุดพักเพื่อลงจากอานบ้าง และปั่นไปเท่าที่เริ่มเจ็บก้นมากก็ควรจะหยุดปั่น

- ปลอกแขน กันแขนดำ สำหรับคนที่ใส่เสื้อแขนสั้น

- รองเท้า/ถุงเท้า เลือกรองเท้าที่เหมาะสมกับชนิดของจักรยาน หากไม่มีควรเลือกใส่รองเท้าผ้าใบ เพื่อความกระชับคล่องตัว และห่อหุ้มเท้าป้องกันอุบัติเหตุ

3.3 อุปกรณ์อื่นๆ

- กระติกน้ำ บรรจุน้ำเปล่า หรือพกสปอร์ตดริ๊งค์ (เครื่องดื่มเกลือแร่สำหรับผู้ที่เสียเหงื่อจากการออกกำลังกาย) อาจพกไปเบื้องต้น 1 กระติกถ้ากลัวหนัก แล้วค่อยไปซื้อเพิ่มเติมที่จุดแวะพักหรือร้านค้าระหว่างทาง

- กระเป๋าบรรจุสัมภาระที่จำเป็น ไม่แนะนำให้ใช้กระเป๋าใบใหญ่หรือพกพาสิ่งของมากมาย ยิ่งถ้าจะปั่นไกลก็จะเป็นภาระสมชื่อกระเป๋า สิ่งที่เน้นๆ ก็เช่น ยาประจำตัว โทรศัพท์มือถือ เงินติดตัวไม่ต้องมาก

- อุปกรณ์เพื่อการซ่อมบำรุงจักรยาน เช่น ที่สูบลมพกพา อุปกรณ์ปะยาง ส่วนใหญ่เป็นนักปั่นมืออาชีพที่พกไป หากจำเป็นต้องใช้ลองถามขอยืมจากนักปั่นใจดีที่ร่วมทาง

3.4 ยา

- ยาแรกที่ควรมีคือ ยาดม พกง่าย เบา ช่วยตัวเองและคนอื่นที่มีอาการเป็นลมได้
- ยาทาแก้ปวดหรือสเปรย์พ่นแก้ปวด
- ยาประจำตัว (ถ้ามี) เช่น คนเป็นโรคหอบอย่าลืมยาพ่นชนิดพกพา คนเป็นโรคหัวใจอย่าลืมยาอมใต้ลิ้น ยาประจำที่ต้องรับประทานตามเวลา

- เบ็ดเตล็ด ได้แก่ พลาสเตอร์ยา อุปกรณ์ทำแผล ชุดปฐมพยาบาล

- ข้อสุดท้าย ไม่เชิงเป็นยา แต่สาวๆ ห้ามลืม คือ ครีมกันแดด

3.5 กระดาษบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเรา หรือเด็กที่พาไปด้วย ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋าที่อยู่แนบลำตัว ควรมีรายละเอียดง่ายๆ 3 บรรทัด ดังนี้




หมอแนะนำเพื่อเตรียมความพร้อม ร่วมกิจกรรม “Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่”

- และหากเกิดอุบัติเหตุ เจ็บป่วยฉุกเฉิน ต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์ ไม่ว่าจะอยู่ที่จังหวัดใด ให้โทร.1669 โดยแจ้งเหตุ สถานที่เกิดเหตุ จำนวนผู้ที่ประสบอุบัติเหตุ/ผู้ป่วย และอาการ จะมีรถพยาบาลฉุกเฉิน พร้อมบุคลากรทางการแพทย์มารับ

4.เตรียมศึกษาข้อมูล

- แผนที่ เส้นทางต้องรู้คร่าวๆ เพื่อจะได้ไม่หลง ดูแผนที่ก่อนแล้ววางแผนไว้ล่วงหน้าว่าจะปั่นระยะทางเท่าใด จะปั่นตามระยะทางที่กำหนดไว้ (แต่ละจังหวัดไม่เท่ากัน เช่น กทม. 43 กิโลเมตร พระนครศรีอยุธยา 26.5 กิโลเมตร) หรือจะปั่นช่วยประเทศชาติทำสถิติขบวนปั่นจักรยานบันทึกลงกินเน็สส์บุ๊ค ซึ่งต้องปั่นอย่างน้อย 4 กิโลเมตรโดยไม่หยุดพัก หากเป็นเส้นทางที่คุ้นเคยลองนึกภาพไว้ว่ามีร้านซ่อมจักรยาน ร้านขายน้ำและเครื่องดื่มต่างๆ ร้านขายยา ร้านสะดวกซื้อ และห้องน้ำอยู่ตรงที่ใดที่จะผ่านไปบ้าง เผื่อจำเป็นต้องใช้บริการ

- กฎจราจรและสัญญาณมือสำหรับผู้ปั่นจักรยาน รู้ไว้จะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุ

- วิธีการปั่น นักปั่นควรมีความรู้เรื่องรอบขาที่เหมาะสมและความเร็ว ใครที่มีไมล์วัดความเร็วติดที่จักรยานหรือใช้แอพพลิเคชั่นในมือถือคงเข้าใจได้ดี Bike For Mom ปั่นกันที่ความเร็ว 15-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนนักปั่นมือสมัครเล่น มือใหม่ หรือผู้ที่ปั่นช้าๆไปเรื่อยๆ ให้เกาะกลุ่มกันค่อยๆ ตามไป

5.เตรียมตัวก่อนเวลาในวันจริง

ควรไปถึงก่อนเวลา หาที่จอดรถ รายงานตัวและแจ้งระยะทางที่จะปั่น วอร์มร่างกาย ยืดเส้นยืดสายก่อน กินอะไรนิดหน่อย (ส่วนใหญ่แนะนำให้กิน ขนมปัง หรือกล้วย ที่อิ่มพอดีและให้พลังงานเหมาะแก่การปั่น) ไม่ควรกินมื้อหนักเกินไป อาจจุกแน่นท้องได้

การปฏิบัติตัวขณะปั่น

- ดื่มน้ำมากๆ แม้การปั่นจักรยานจะทำให้ลมโชยมาปะทะร่างกายเย็นสบาย แต่เหงื่อที่ระเหยไปในอากาศนั้นไม่น้อย ควรดื่มน้ำเรื่อยๆ อย่าปล่อยให้คอแห้ง โดยเฉพาะคนที่เริ่มปั่นตั้งแต่ช่วงบ่าย

- หมั่นสังเกตอาการของตนเอง หากมีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรง แขนขาอ่อนแรงเฉียบพลัน ชักเกร็ง ตัวเย็น ซีด หายใจเหนื่อยหอบ หน้ามืด จะเป็นลม ควรขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน รวมถึงหากพบคนที่มีอาการดังกล่าวขณะปั่น ควรรีบให้ความช่วยเหลือฉุกเฉิน

อาการไม่สบายหลังปั่น

- ปวดเข่า ควรพัก ประคบเย็นก่อน ถ้าปวดมากต้องหยุดปั่น หลังปั่นอาจรับประทานยาแก้ปวด ทายาหรือพ่นสเปรย์บรรเทาปวด หากไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์

- ปวดก้น อาการปวดก้นเกิดขึ้นได้ ในการปั่นจักรยาน หากมีการเสียดสีหรือการกดทับที่มากขึ้น ถัดจากอาการเจ็บปวดก็จะเป็นแผลกดทับจากอานจักรยาน (Saddle sore) เริ่มแรกอาจเป็นรอยแดงถลอกก่อน ต่อมาอาจเป็นตุ่มนูนเล็กๆ หรือตุ่มคล้ายสิว หากลุกลามต่อไปอีกอาจจะเป็นแผลอักเสบติดเชื้อหรือเป็นหนองได้

วิธีป้องกันทำได้ตั้งแต่เตรียมตัว ปั่นด้วยท่าทางที่เหมาะสม เลือกขนาดอานและปรับระดับอานให้ ใช้กางเกงจักรยานหรืออานที่เป็นเจล ร้านจักรยานบางที่มีเจลหล่อลื่นลดการเสียดสีในจุดบอบบางขาย มีข้อแนะนำให้ใช้ในคนที่ปั่นไกลมากๆ หากใครไม่มีเจลหล่อลื่นเฉพาะ แต่รู้สึกว่าตัวเองมีจุดบอบบางที่อยากปกป้อง มีข้อแนะนำให้ใช้ Petroleum jelly (วาสลีน 100% Petroleum jelly ที่เป็นกระปุก) หรือ Lubricating gel (เค-วาย เจล) ก็ได้

และแม้จะป้องกันเต็มที่แล้ว หลังปั่นยังเป็น Saddle sore จนได้ แนะนำให้หยุดปั่นก่อน แล้วมาพบแพทย์ พร้อมกับให้ประวัติว่าไปปั่นจักรยานมา จะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง รวดเร็ว

ขอให้ทุกคนสนุกสนานและปลอดภัยกับการเข้าร่วมกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ ในวันที่ 16 สิงหาคม 2558 ซึ่งเป็นการแสดงความกตัญญูต่อแม่ของเรา และรวมตัวกันเพื่อถวายความจงรักภักดีแด่แม่ของแผ่นดิน แต่หากใครไม่ถนัดปั่นจักรยานในช่วงกิจกรรมนี้ ก็ช่วยติดตามเป็นแรงเชียร์แรงใจให้แก่ผู้ที่มาปั่นจักรยานได้ สามารถเลือกออกกำลังกายเพื่อสุขภาพดีวิธีอื่นตามถนัด และแสดงความกตัญญูต่อแม่ในทางอื่นได้อีกหลายรูปแบบ ..


รักแม่ รักได้ทุกวัน
ทำดีเพื่อแม่ ทำได้ทุกวัน ^^



ที่มา �����й��������������������� �����Ԩ���� �Bike For Mom ������������� - Good Health - Manager Online

 

แชร์ภาพประทับใจตอบรับกับกิจกรรม Bike for mom ปั่นเพื่อแม่

ขอเชิญพสกนิกรชาวไทย ร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

 

​

https://www.bikeformom2015.com/home.php

 

MV "เพลง ปั่นจักรยาน" | "ปั่นเพื่อแม่ Bikeformom2015"

<iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/SVqSVfO9D28" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​

 

​

http://www.thairath.co.th/home

​

http://manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9580000092638

 

​

ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

“สมเด็จพระบรมฯ” สร้างประวัติศาสตร์ “bike for MOM ปั่นเพื่อแม่” ครบ 43 กม. - “ทรงพระเจริญ” กึกก้อง






สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงจักรยานนำขบวนพสกนิกรจากลานพระราชวังดุสิต ไป - กลับ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เข้าสู่เส้นชัยเมื่อเวลา 19.09 น. สำเร็จลุล่วงตามพระราชปณิธานครบ 43 กิโลเมตร พสกนิกรเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” กึกก้อง ทรงรับสั่งไม่เหนื่อย ปลาบปลื้มพระทัยประชาชนร่วมกิจกรรม - เฝ้าฯ รับเสด็จฯพร้อมเพรียง



​

http://manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9580000092638

 

​

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงจักรยานนำขบวน "Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่” ระยะทาง 43 กิโลเมตร พสกนิกรกว่า 3 แสนคนทั่วประเทศร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สุดยิ่งใหญ่ "กินเนสส์บุ๊ก" บันทึกเป็นสถิติโลก มีผู้เข้าร่วม 146,266 คัน มากกว่าแชมป์เก่าไต้หวันกว่า 70,000 คัน

กิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหาคม 2558 "Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่” ตลอดทั้งวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม 2558 ทุกพื้นที่ทั้งกรุงเทพมหานครและ 76 จังหวัดทั่วประเทศ ต่างพร้อมใจกันร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมทั่วประเทศ 294,863 คน แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 40,000 คน และต่างจังหวัด 254,863 คน

ที่บริเวณหน้าพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระลานพระราชวังดุสิต เวลา 15.00 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงเป็นประธานเปิดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่” โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะกรรมการจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ และผู้เข้าร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ เฝ้าฯ รับเสด็จ

จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงวางพานพุ่ม ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ พร้อมทั้งกราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯ เปิดกิจกรรมและทรงจักรยานนำขบวนพสกนิกรผู้เข้าร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ ตามลำดับ

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงกดแตรสัญญาณเริ่มขบวนจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ และทรงจักรยานพระที่นั่งนำขบวนพสกนิกรผู้เข้าร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ ออกจากจุดเริ่มต้นจากพระลานพระราชวังดุสิต ไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตดินแดง ระยะทาง 7 กม. โดยขบวนเสด็จฯ ผ่านถนนศรีอยุธยา เลี้ยวซ้ายแยกพญาไท ผ่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เลี้ยวขวาไปสามเหลี่ยมดินแดง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนวิภาวดีรังสิต แวะพักจุดแรกที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์

โดยมี พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก, นายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา, นายนุรักษ์ มาประณีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ, นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจําสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมขบวนเสด็จฯ ด้วย
ทรงนำขบวนปั่นเพื่อแม่

ขณะที่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงจักรยานนำขบวนบี โดยมีข้าราชการ หัวหน้าส่วนราชการระดับอธิบดีหรือเทียบเท่า และตัวแทนจากเอกชน ฯลฯ โดยตลอดเส้นทางขบวนจักรยานฯ ถนนทั้งสองฝั่งทางมีประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จตลอดทาง จากนั้นเป็นขบวน C ซึ่งเป็นขบวนปั่นจักรยานประชาชน ปิดท้ายขบวน

เมื่อทรงปั่นมาถึงจุดพัก กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ประทับพระอิริยาบถที่พลับพลาพระที่นั่ง จากนั้นทรงปั่นนำขบวนออกจากกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ไปตามถนนวิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าเข้าสู่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

โดยที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขณะที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงนำขบวนจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ เคลื่อนขบวนปั่นจักรยานออกจากมหาวิทยาลัย นิสิตชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทุกวิทยาเขต จำนวน 8,000 คน เเละประชาชน พร้อมใจสวมใส่เสื้อสีฟ้าเฝ้ารอรับขบวนจักรยานทั่วเส้นทางที่จะทรงจักรยานผ่าน เมื่อพระองค์ทรงจักรยานผ่าน ต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง พร้อมทั้งโบกธงสัญลักษณ์กิจกรรม Bike For Mom พร้อมเพรียงกันอย่างสวยงาม ก่อนที่ขบวนจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ เคลื่อนผ่านพ้นไป

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงนำขบวนจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ ออกประตูมหาวิทยาลัยด้านถนนพหลโยธินเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาเข้ากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ และทรงถึงกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ซึ่งเป็นจุดพักและเป็นจุดสุดท้ายของกิจกรรม เวลา 16.44 น. โดยเมื่อขบวนมาถึง ประชาชนทั้งสองฝั่งถนนพหลโยธินที่มานั่งเฝ้ารอรับเสด็จต่างเปล่งเสียง ‘ทรงพระเจริญ’ ดังอย่างกึกก้อง พร้อมโบกธงที่มีตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ตลอดทั้งเส้นทางที่เสด็จฯ ซึ่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงโบกพระหัตถ์ให้ประชาชนที่เฝ้าฯ รับเสด็จตลอดเส้นทาง

จุดกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์นี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ประทับพระราชอิริยาบถที่พลับพลาพระที่นั่ง และทรงวางพานพุ่ม จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชากาลที่ 6) ก่อนที่จะเสด็จฯ ปั่นย้อนกลับเส้นทางเดิม โดยทรงเข้าจุดพักกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ถนนวิภาวดีรังสิต อีกครั้ง ก่อนทรงนำขบวนนักปั่นมุ่งหน้ากลับไปยังบริเวณพระลานพระราชวังดุสิตตามเส้นทางเดิม โดยเป็นระยะทางทั้งหมด 43 กิโลเมตร

ต่อมาเวลา 19.09 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ถึงพระลานพระราชวังดุสิต เสด็จฯ เข้าสู่พลับพลาพิธีเพื่อประทับพระราชอิริยาบถตามพระราชอัธยาศัย ต่อมาพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จฯ ถึงพระลานพระราชวังดุสิต เสด็จประทับพระอิริยาบถ ณ พลับพลาพิธี

จากนั้นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะกรรมการจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ เข้าเฝ้าฯ มีพระราชปฏิสันถารกับนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการจัดงานกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ตามพระราชอัธยาศัย ทรงฉายพระรูปร่วมกับนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการจัดงานฯ

นายกรัฐมนตรีกราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการจักรยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ณ บริเวณสนามเสือป่า โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จฯ ออกจากพระลานพระราชวังดุสิตไปยังสนามเสือป่า เพื่อทอดพระเนตรนิทรรศการจักรยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ณ บริเวณสนามเสือป่า และทอดพระเนตรคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติ (คอนเสิร์ตบทเพลงเพื่อแม่) โดยวงออร์เคสตรา 3 เหล่าทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมศิลปากร และการแสดงดนตรีและขับร้องเพลงโดยศิลปินนักร้องและศิลปินรับเชิญจากค่ายจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ อาร์เอส เดอะวอยซ์ ไทยแลนด์ ทรู อะคาเดมี่ แฟนเทเซีย
ปชช.ร่วมกิจกรรมทั่ว ปท.

นายสัญญา ชีนิมิตร ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงการจัดกิจกรรม “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่” ว่า สำหรับกิจกรรมในวันนี้ ถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยในทุกๆ ด้าน ประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก อีกทั้งยังมีประชาชนมารอเฝ้าฯ รับเสด็จสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ตลอดเส้นทางปั่นอย่างมากมาย โดยประชาชนส่วนใหญ่ต่างมารอเฝ้าฯ รับเสด็จตั้งแต่เวลา 12.00 น.

นายสัญญากล่าวว่า ด้วยสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนในช่วงกลางวัน ประกอบกับการดำเนินกิจกรรมเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ทำให้มีประชาชนบางส่วนเกิดอาการป่วย เป็นลมแดด แต่เจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาลที่ประจำตามจุดต่างๆ สามารถช่วยเหลือปฐมพยาบาลและดูแลประชาชนได้เป็นอย่างดี ส่วนในขบวนจักรยานก็เกิดอุบัติเหตุจักรยานล้มบางส่วน แต่ประชาชนผู้ปั่นก็ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว

"กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมประวัติศาสตร์ ที่แสดงให้เห็นถึงความรัก ความสามัคคีของประชาชนต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์อย่างมาก ซึ่งประชาชนทุกฝ่ายต่างก็ให้ความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมส่วนต่างๆ จนเกิดผลสำเร็จอย่างดียิ่ง" ปลัด กทม.กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเข้าร่วมกิจกรรม "Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่" นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์แล้วรัฐมนตรี อาทิ นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์, พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม และภริยา เข้าร่วมแล้ว ยังมีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.), สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.), คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และข้าราชการรัฐสภา รวมทั้งผู้นำเหล่าทัพ ต่างสวมใส่เสื้อสีฟ้าเข้าร่วมกิจกรรม

ส่วนบรรดานักการเมืองได้ ทั้งพรรคเพื่อไทย มีอดีต ส.ส.และสมาชิกพรรค อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรค พร้อมครอบครัว ได้นำทีมของ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และอดีต ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เช่น นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ และนายการุณ โหสกุล สมาชิกพรรคเพื่อไทย เป็นต้น รวมตัวกันที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อร่วมปั่นจักรยานในงานนี้ ด้านพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นัดรวมอดีต ส.ส.และสมาชิกพรรค ที่วัดปรินายกวรวิหาร ถนนราชดำเนิน ใกล้เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีคณะทูตต่างประเทศที่ประจำการในประเทศไทยมาร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติดังกล่าว อาทิ นายแพทริก เมอร์ฟี อุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย เข้าร่วมการปั่นจักรยานครั้งนี้ด้วย

เช่นเดียวกับในพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วทุกจังหวัด ต่างก็พร้อมใจกันร่วมกิจกรรม "Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่” อย่างคึกคัก อาทิ จังหวัดเชียงใหม่ แม้จะมีฝนตกลงมาตั้งแต่เช้า จนกระทั่งฝนได้หยุดตกเวลา 14.00 น. ก่อนเริ่มงานเพียง 1 ชั่วโมง จากนั้นนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ นำนักปั่นลงทะเบียนไว้กว่า 7,000 คน และที่ไม่ได้ลงทะเบียนอีกจำนวนมาก ออกจากศูนย์ประชุมฯ เลียบถนนคลองชลประทานไปจนถึงวงเวียนอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ระยะทางไป-กลับ 32 กิโลเมตร

จังหวัดลำปาง บริเวณศาลากลางจังหวัด ประชาชนชาวลำปางเริ่มทยอยมาลงทะเบียนเพื่อรับเข็มกลัดและบาร์โค้ด หลังจากที่ทางจังหวัดลำปางได้กำหนดเปิดให้ลงทะเบียนในเวลา 10.00 น. โดยได้มีการปิดป้ายประกาศรายชื่อและตั้งเต็นท์เพื่อให้ผู้ที่ได้ลงทะเบียนไว้ล่วงหน้าและได้รับหมายเลขแล้วมาลงทะเบียนตามจุดที่กำหนด ก่อนที่ขบวนจะเริ่มออกจากจุดเริ่มต้นหลังจากส่วนกลางกรุงเทพฯ เริ่มต้นไปแล้ว 9 นาที
กินเนสส์บุ๊กบันทึกสถิติโลก

จังหวัดพิจิตร เวลา 15.39 น. นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าฯ พิจิตร ได้เป็นประธานในพิธีปล่อยตัวนักปั่นจักรยานที่ร่วมลงทะเบียนในโครงการ “Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่” จำนวน 3,149 คน หลังจากที่ขบวนของ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงจักรยานไปแล้ว 9 นาที ใช้เส้นทางจากหน้าศาลากลางจังหวัดพิจิตร มุ่งหน้าไปตามเส้นทางต่างๆ เป็นระยะทาง 27 กม.

จังหวัดตราด นายณรงค์ ธีรจันทรางกรู ผู้ว่าฯ ตราด นายพยัคพันธ์ โพธ์แก้ว นายประธาน สุรกิจบวร รองผู้ว่าราชการ จ.ตราด นำชาวตราดกว่า 1,700 คน ร่วมปั่นเพื่อแม่ ซึ่งในจำนวนนี้ มีนายดนัย คมคาย ชาวกัมพูชา อายุ 40 ปี ที่เมื่อ 37 ปีที่ผ่านมาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงช่วยเหลือไว้จากการหนีภัยสงครามในประเทศร่วมปั่นด้วย

จังหวัดสุรินทร์ หลังจากมีสัญญาณปล่อยขบวนปั่นจักรยานจากกรุงเทพฯ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าฯสุรินทร์ ได้ทำการเปิดกรวยหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และเป่าแตรให้สัญญาณปล่อยขบวนปั่นจักรยานออกไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มระยะทาง 8 กิโลเมตร และตามด้วยกลุ่มระยะทาง 26 กิโลเมตร ซึ่งการจัดระเบียบการปล่อยตัวเป็นไปอย่างเรียบร้อยและสวยงาม พร้อมกันนี้จังหวัดสุรินทร์มีการกำหนดจุดปล่อยพันธุ์ปลาจำนวน 100,000 ตัว ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง

การจัดกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ที่ จ.สุรินทร์ ในครั้งนี้ พบคุณตาทา สิงคเวหน อายุ 79 ปี เกิดวันที่ 1 มกราคม 2479 เหลืออีก 4 เดือน อายุคุณตาก็จะครบ 80 ปี ได้เดินทางตั้งแต่เช้าเพื่อเข้าร่วมลงทะเบียนรอปั่นเพื่อแม่ด้วย

ที่จังหวัดบุรีรัมย์ นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ นำหัวหน้าส่วนราชการ คณะผู้บริหารจากจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา รวมถึงข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน และนักปั่นจักรยานจากชมรมต่างๆ ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ทั้งที่ลงทะเบียนและไม่ได้ลงทะเบียนรวมกว่า 6,000 คน ร่วมขบวนปั่นจักรยานในโครงการ “bike for MOM ปั่นเพื่อแม่” ระยะทางทั้งหมด 25.3 กิโลเมตร

จังหวัดตรัง นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ ผู้ว่าฯ ตรัง พร้อมด้วยนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นำประชาชนชาวตรัง นักปั่นจักรยาน ประมาณ 3,500 คน พร้อมใจรวมตัวเพื่อร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานฯ ระยะทาง 26 กิโลเมตร

จังหวัดนครศรีธรรมราช พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 นำกำลังพลกว่า 1,000 นาย ตั้งขบวนแปรอักษร Bike for MOM ที่สนามบินกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ อ.เมืองฯ จ.นครศรีธรรมราช โดยใช้อากาศยานขึ้นบันทึกภาพแห่งความสวยงามและความประทับใจ ก่อนร่วมขบวนปั่นเพื่อแม่พร้อมกันทั่วประเทศ ระยะทาง 33 กิโลเมตร

จังหวัดนราธิวาส นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าฯนราธิวาส และพสกนิกรชาวจังหวัดนราธิวาสกว่า 2,000 คน พร้อมใจใส่เสื้อสีฟ้า เข้าร่วมกิจกรรม Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่ กิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหาคม 2558 ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะมีการบันทึกสถิติโลก กินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด ที่มีการปั่นจักรยานพร้อมกันมากที่สุด ในระยะทาง 4 กิโลเมตร ซึ่งตลอดช่วงของการจัดกิจกรรม ฉก.นราธิวาสได้จัดเฮลิคอปเตอร์บินดูแลความปลอดภัยตลอดระยะทาง

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กินเนสส์บุ๊กเวิลด์เรคคอร์ด ได้บันทึกสถิติกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ "Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่" ในครั้งนี้แล้ว โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั่วประเทศ 146,266 คัน ชนะประเทศไต้หวัน แชมป์เก่า (กว่า 70,000 คัน)


ไทยโพสต์ปั่นเพื่อแม่ก้องโลก

 

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ทรงขอบคุณผู้เข้าร่วมกิจกรรม Bike For Mom ปั่นเพื่อแม่ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน​