พระขรรค์ท้าวเวสสุวรรณ รุ่นเจริญลาภปราบไพรี- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

ผ้ายันต์ ที่ออกอย่างเป็นทางการ ตามนี้เลยครับ
ผ้า ยันต์เกราะเพชร รุ่นแรก หลวงปู่พิศดู
- ผ้ายันต์นี้ สร้างปี พ.ศ.2545 โดยศิษย์สายหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค มีทั้งแบบสีขาว และสีเหลือง จำนวนสร้างไม่มากนัก มีทั้งขนาด..ใหญ่ และขนาดเล็ก โดยแบ่งเป็น
# ขนาดใหญ่
สีขาว 250 ผืน
สีเหลือง 250 ผืน
# ขนาดเล็ก
สีขาว 250 ผืน
สีเหลือง 250 ผืน

ผ้า ยันต์พระอุปคุต รุ่นแรก
- ผ้ายันต์นี้สร้างในปี พ.ศ.2549 โดยลูกศิษย์ชุดอุปัฏฐากดูแลองค์หลวงปู่ สร้างเป็นที่ระลึกเมื่อคราว สร้างพระมหาเจดีย์ ธัมมะจารีสุขังเสติ ผ้ายันต์รุ่นนี้หลวงปู่ท่านบอกเองเลยว่า " ผ้ายันต์นี้ ท่านพ่ออุปคุตท่านมาเสกให้เลยนะ.." มีสีเขียวอย่างเดียว สร้างจำนวนทั้งหมด 1,000 ผืนครับ

ผ้า ยันต์พระอุปคุต รุ่น2
- ผ้ายันต์นี้สร้างในปี พ.ศ.2551 โดยลูกศิษย์ชุดอุปัฏฐากดูแลองค์หลวงปู่ สร้างเป็นที่ระลึก แจกในงานตักบาตรส่งพระมหาอุปคุต ตอนเที่ยงคืน โดยพระคาถาในยันต์ต่างๆนี้หลวงปู่ท่านเป็นผู้บอกเองว่าจะให้ใส่อะไร บอกได้เพียงคร่าวๆครับว่า มี คาถาพระไตรสรณคม , คาถามงกุฏพระพุทธเจ้า , คาถาบารมี 30 ทัศน์ , พระนามพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ , คาถาพระมหาอุปคุต , คาถาพระปัจเจกโพธิ , คาถาวันโลกดับ.....ฯลฯ สร้างจำนวนทั้งหมด2,000 ผืน

ผ้า ยันต์พระมหาอุปคุตมหาลาภ
- ผ้ายันต์นี้สร้างในปี พ.ศ.2552 โดยท่านครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน เพื่อบูชาองค์พระมหาอุปคุต และ หลวงปู่พิศดู สร้างแจกเป็นทานบารมีไว้สืบพระศาสนา นับเป็นวัตถุมงคลชุดแรก ที่ท่านครูบาได้สร้างถวายองค์หลวงปู่พิศดู ด้วยความตั้งใจและเคารพเลื่อมใสอย่างยิ่ง ยันต์นี้ได้ออกแบบให้เป็นรูปพระมหาอุปคุตอยู่ในย่านปราสาท ที่ออกแบบร้อยเรียงด้วย อักขระภาษาตัวเมืองล้านนาโบราณแท้ๆ สวยงามมาก ถ้าผมจำไม่ผิดสร้างจำนวนทั้งหมดไม่เกิน 1,000 ผืน

ผ้า ยันต์พระสิวลี มหาโชคลาภ
- ผ้ายันต์นี้สร้างในปี พ.ศ.2552 โดยท่านครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน เพื่อบูชาองค์พระสิวลี และ หลวงปู่พิศดู สร้างแจกเป็นทานบารมีไว้สืบพระศาสนา นับเป็นวัตถุมงคลชุดแรก ที่ท่านครูบาได้สร้างถวายองค์หลวงปู่พิศดู ด้วยความตั้งใจและเคารพเลื่อมใสอย่างยิ่ง ยันต์นี้ได้ออกแบบให้เป็นรูปพระสิวลีอยู่ในย่านปราสาท ที่ออกแบบร้อยเรียงด้วย อักขระภาษาตัวเมืองล้านนาโบราณ แท้ๆ สวยงามมาก ถ้าผมจำไม่ผิดสร้างจำนวนทั้งหมดไม่เกิน1,000 ผืน

 

https://www.facebook.com/groups/Luangbhoopitsadoo/announcements

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

ของหลวงปู่เดินทางไปต่างประเทศอีกแล้ว

 

สวัสดียามเย็นครับป๋า

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

#หลวงปู่ละมัยกับหลวงปู่พิศดู
เรื่องหลวงปู่ละมัยท่านรู้จักกับหลวงปู่พิศดู ได้ทราบจากพระอาจารย์อ้วน และลูกศิษย์หลวงปู่ละมัยบางท่าน และทราบอีกว่า หลวงปู่ละมัยท่านเคยมาอยู่ที่ จ.จันทบุรี เป็นเวลาถึง 20 ปี ท่านรู้เรื่องของเมืองจันท์ดีที่สุด พระอริยสงฆ์ของเมืองจันท์ หลวงปู่ละมัยท่านก็รู้จักหมด แต่ที่หลวงปู่ละมัยท่านเคยกล่าวถึงให้ลูกศิษย์ได้ยินได้ฟังก็มีอยู่ 3 องค์ นั่นก็คือ
1. หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง
2. หลวงปู่สมชาย วัดเขาสุกิม
3. หลวงปู่วิชัย วัดไผ่ล้อม (พระอารามหลวง)
ใครๆก็ทราบกันเป็นอย่างดีว่าหลวงปู่ละมัยท่านเป็นพระอริยระดับสูง อย่างที่เรียกกันว่าพระอจินไตยเหนือโลก ผมเข้าใจว่าในอดีตเมื่อหลายสิบปีก่อนหลวงปู่ละมัยท่านเคยมาจำพรรษาอยู่แถวๆพื้นที่ ต.เขาวัว ต.เขาพลอยแหวน บ้านคลองน้ำใส ฯลฯ ใน จ.จันทบุรี เป็นเวลาถึง 20 ปี หากที่เมืองจันท์นี้มีพระอริยสงฆ์อยู่ ถึงท่านจะไม่ได้พบกันด้วยกายสังขาร ก็น่าจะพบหรือสื่อสารกันโดยทางข่ายญาณเป็นปกติ ยิ่งหลวงปู่พิศดู กับหลวงปู่ละมัยแล้ว ท่านทั้งสองยิ่งมีความคล้ายคลึงกันมาก ทั้งอุปนิสัยส่วนตัว และภูมิธรรมเดิม(ที่ได้ปรารถนาเป็นพระปัจเจกพุทธภูมิ) อีกทั้งทางสายธรรมท่านทั้งสองยังมีบุญสัมพันธ์กับหลวงปู่เทพโลกอุดร และหลวงปู่พระมหาอุปคุต และครูบาอาจารย์ลึกลับในแดนทิพย์อีกหลายองค์ด้วยเช่นกัน
ผู้เล่าเคยอยู่รับใช้หลวงปู่พิศดูก็เคยสังเกตุเห็นครั้งหนึ่ง มีลูกศิษย์นำพระเครื่องของหลวงปู่ละมัยมาถวายหลวงปู่พิศดู หลวงปู่ท่านจับอยู่สักอึดใจเดียวท่านก็บอกว่า
" ของดีนะ.."
แล้วท่านก็เอาพระนั้นคล้องคอเลย โดยไม่ได้ถามไถ่ว่าเป็นพระของใครวัดไหนสร้าง ซึ่งผู้เขียนก็คิดว่าท่านคงจะทราบอยู่แล้ว เพราะถ้าว่ากันเรื่องญาณทัศนะของพระอริยะดับสูงแบบนี้ท่านจะรู้กัน เพียงแค่เห็นรูป หรือจับของที่อธิษฐานไว้ กระบวนการจิตก็ทำงานโดยอัตโนมัติ ก็คงจะพบกันทางจิตถึงจิตนั่นเอง และถ้าของไม่ดีจริงหลวงปู่คงไม่เอาไปคล้องคอแน่ๆ (เห็นท่านคล้องอยู่หลายวัน) พระที่หลวงปู่พิศดูท่านเคยเอาไปคล้องก็เห็นจะมีอยู่ไม่กี่องค์ เท่าที่ผมเคยเห็นก็จะมี
1. เหรียญพระอุปคุต(ของท่านเอง)
2. พระผงหลวงปู่เทพโลกอุดร
3. ล็อกเก็ตหลวงปู่มั่น ของวัดป่าสุทธาวาส
4. พระของท่านพ่อลี(พระอาจารย์องค์แรกของหลวงปู่)
5. พระผงอายุยืนหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค
6. พระของหลวงปู่ละมัย ฐิตมโน
#หมายเหตุ
ขอท่านผู้อ่านโปรดอ่านด้วยใจที่เป็นกลาง ผู้เล่าอาจจะเล่าอะไรบางอย่างที่เป็นเรื่องเหนือความคิดของปุถุชนไปบ้าง ขอทุกท่านโปรดใช้วิจารณญาณ เพราะแท้จริงสิ่งเหล่านี้เป็นวิสัยที่มีอยู่ในพระอริยเจ้า ขอให้มองว่าเป็นความศรัทธาและความเชื่อเฉพาะบุคคล.
ขอขอบคุณ
คุณทุเรียนทอด (เจ้าของเรื่อง)

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

ed689696630th สระบุรี

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

#หลวงปู่พิศดูกับหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (พระมหาวีระ ถาวโร ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
อย่างที่เคยเล่าให้ฟังฮ่ะ หลังจากหลวงพ่อนิพพาน คณะเราได้อธิษฐานจิตถึงท่าน ขอให้เจอครูบาอาจารย์ผู้เป็นที่สุดและเมตตาสงเคาระห์เรา มีอยู่วันผมมีเพื่อนอยู่แถวปากน้ำ เค้าเล่าให้ผมฟังว่า มีอาจารย์องค์หนึ่งชื่อหลวงปู่พิศดู ให้หวยแม่นมาก ? ลองไปกราบดูซิ ผมก็เลยเดินทางไปกราบท่านฮ่ะ ก็ปรากฏว่าท่านคงรู้ว่าผมต้องรับกรรมหนัก(โดนรถชนทับแขน) ท่านจึงเมตตาผมเป็นพิเศษ ท่านจะเรียกผมว่า "ไอ้ขาว" และท่านจะรู้วาระจิตเรา สงเคราะห์เกี่ยวกับเลขบ้าง หลวงปู่พิศนี่ท่านเป็นพระที่แปลกคือ ท่านไม่เคยมาบ้านผมแต่รู้ว่าบ้านผมมีอะไรบ้าง วกมาเข้าเรื่องต่อ...
หลวงปู่พิศท่านให้ความเคารพหลวงพ่อเจ้าคุณมาก ท่านบอกผมว่า
" หลวงพ่อฤาษี นี่แปลกน่ะ เข้านิพพานแล้ว ยังลงมาช่วยเหลือลูกหลานได้"
"หลวงพ่อฤาษีก็มาหาเราน่ะ"
หลังจากนั้นผมได้แนะนำ คณะกองทุน คือ ป้าชอ ป้าเชิญ ศิษย์หลวงพ่อฤาษีอาวุโส ไปกราบท่าน ยังไม่ลงจากรถ หลวงปู่พิศตะโกนออกมาว่า "ลูกศิษย์พระใหญ่มาหาเรา" หลังจากนั้นก็ทราบว่า หลวงพี่อนันต์ วัดท่าซุงก็มากราบท่าน
ถ้าสังเกตุกุฏิท่านครูบากฤษดาจะมีรูปภาพหลวงพ่อฤาษีติดอยู่ด้วย ท่านบอกผมว่า "เป็นครูบาอาจารย์ของเรา" สรุปคือเป็นสายเดียวกัน
: ขอขอบพระคุณบทความดีๆของคุณ NOP BOM ศิษย์ท่านครูบากฤษดา สุเมโธ วัดวันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน มา ณ โอกาสนี้ครับ
......................................................................................................
#หลวงพ่อฤาษีกับหลวงปู่พิศดูท่านก็สนิทกันดีครับ
หลวงปู่ท่านเคยเล่าให้ฟัง ว่า" หลวงพ่อฤาษีฯ มาหาท่านบ่อยๆ ตอนหลวงพ่อฤาษีฯ ยังอยู่ไม่เคยมานะ แต่พอตายแล้วมาบ่อย "
หลวงปู่ ท่านบอกว่า " หลวงพ่อฤาษีฯตลก คุยสนุก กับ หลวงพ่อฤาษีฯนี่ ถูกกันดี.. โฮ่ะๆๆๆ "
หลวงปู่บอกว่า " คำสอนของหลวงพ่อฤาษี ทำให้ดูว่า นิพพานเป็นเรื่องง่ายขึ้น จากคนที่เคยคิดว่าเป็นเรื่องยาก แต่พอได้ฟัง หลวงพ่อฤาษีฯท่านเทศน์คนที่ฟังก็จะเห็นว่าเป็นเรื่องง่ายขึ้น แล้วจะพากันสนในปฏิบัติ "
หลวงปู่ท่านถึงชอบให้ลูกศิษย์อ่านหนังสือของหลวงพ่อฤาษีเป็นประจำ ไม่เพียงได้อ่านให้ท่านฟังเท่านั้นแต่ว่าหลวงปู่ท่านมีอุบายแยบยลกว่านั้น คือคนที่อ่าน หรือคนที่นั่งอยู่ก็จะได้ฟังคำสอนไปด้วย หลวงปู่พิศท่านเป็นพระที่รู้อารมณ์ใจแบบละเอียดสุดๆ ใครมาหา ท่านก็จะทราบว่าคนนั้น คนนี้ ติดขัดเรื่องไหน และหลวงปู่ท่านรู้ถึงขนาดว่า หนังสือที่วางซ้อนกันอยู่ เล่มไหน หน้าไหน เหมาะกับใคร หลวงปู่ท่านจะเป็นผู้สั่งให้อ่านเอง บางครั้งจะกำชับว่า เปิดไปหน้านั้น บรรทัดที่นั้นๆ อ่านไปเรื่อยๆ และทุกครั้งที่คนได้อ่าน หรือได้ฟังคนอ่าน ก็จะทำให้ความสงสัย หรือสิ่งที่ติดค้างในจิตในใจ ไม่ว่าเรื่องการปฏิบัติก็ดี เรื่องชีวิตต่างๆก็ดี ทั้งทางโลกและทางธรรม ก็จะได้รับความกระจ่างแจ้งไปโดยอัตโนมัติ โดยที่หลวงปู่ไม่ต้องมาเป็นผู้นั่งอธิบายเองเลย เพราะจริตของหลวงปู่ท่านไม่ชอบตามสอนใคร คล้ายๆพระปัจเจกครับ ท่านจึงใช้หนังสือคำสอนของครูบาอาจารย์ โดยเฉพาะคำสอนของหลวงพ่อฤาษีฯสอนแทน เพราะหลวงพ่อฤาษีท่านมีอัจฉริยภาพในเรื่องการสอนมากๆเลยครับ..
: ขอขอบพระคุณบทความดีๆของพี่สิระ ศิษย์หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง จ.จันทบุรี มา ณ โอกาสนี้ครับ

 

#ผู้เขียนเคยเรียนถามหลวงปู่พิศดูเกี่ยวกับหลวงปู่มั่นว่า..
ผม : สมัยที่หลวงปู่มั่นยังทรงขันธ์อยู่ หลวงปู่ได้เคยเดินทางไปกราบนมัสการ หรือฟังธรรมจากท่านบ้างไหมครับ..?
หลวงปู่ : พระองค์อื่นเขาไปกันนะ แต่เราไม่เคยไป..
ผม : หลวงปู่ไม่เคยพบหลวงปู่มั่นเลยหรือครับ ?
หลวงปู่ : จะว่าเคยก็ไม่เคย แต่จะว่าไม่เคยก็เคย..
ผม : ...??? หมายความว่าอย่างไรหรือครับ ?
หลวงปู่ : ตัวจริง(สังขารธรรม) เราไม่เคยพบท่าน แต่สมัยเราอยู่เขาสระบาปจิตท่านมาหาเรา..
หลวงปู่ : ท่านพ่อมั่นมาหาเรา 3 วันติดกัน ท่านพาเราเดินจงกรมรอบเขาสระบาป 3 วัน เดินได้ 4 รอบ..
(เข้าใจว่าท่านน่าจะใช้ฤทธิ์ย่นระยะทาง เพราะเทือกเขาสระบาปมีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลมาก)
ผม : หลวงปู่มั่นนี่ท่านเป็นพระอรหันต์ใช่ไหมครับ ?
หลวงปู่ : ต้องเรียกว่าจอม "จอมอรหันต์" (อรหันต์พิเศษ)
Suwat Wat

 

สวัสดียามบเย็นครับป๋า

 

Sira Pop
วัดเทพธารทอง หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี
17 กุมภาพันธ์ 2019
#ญาณทัศนะอันละเอียด..
เทศกาลนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง บนยอดเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ในทุกปีจะเริ่มจัดขึ้นช่วงในวันตรุษจีนเรื่อยไปเป็นเวลา 2 เดือน แต่ละปีก็จะมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมากราบนมัสการเป็นจำนวนมาก
ในปี 2551 ผมและเพื่อนๆก็ได้มีโอกาสขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทเช่นกัน คณะเราออกเดินทางไปขึ้นคิวรถที่วัดพลวงในเวลาประมาณตี 3 เมื่อเดินทางขึ้นไปกราบนมัสการและทำบุญต่างๆบนยอดเขาเรียบร้อยแล้ว ก็กำลังจะเดินทางลงจากเขา เพื่อนของผมชื่อคุณแอ๋มได้พูดว่า.. " เช้าแล้วหิวข้าว เราจะไปกินข้าวที่ไหนกันดี "
ผมก็บอกว่า.. " เราไปกินข้าวเสกที่วัดหลวงปู่(วัดเทพธารทอง)กันไหม ได้ข่าววันนี้จะมีลูกศิษย์ที่ระยองมาทำข้าวต้มทะเลถวายหลวงปู่ เราจะได้ไปกราบหลวงปู่กันด้วย.. เดี๋ยวเราบอกหลวงปู่ก่อนนะ "
#จากนั้นผมก็ได้หลับตาอธิษฐานถึงหลวงปู่ว่า..
" หลวงปู่ครับ วันนี้พวกผมขึ้นมานมัสการรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาคิชฌกูฏ กำลังจะลงจากเขากันแล้ว และตั้งใจจะไปกินข้าวที่วัดนะครับ.."
คุณแอ๋มก็ได้แซวว่า " แล้วหลวงปู่จะรู้จริงเหรอ.."
" อืม..เดี๋ยวก็คอยดูสิ่ว่าหลวงปู่จะรู้ไหม.."
เมื่อคณะเรานั่งรถลงจากเขามาถึงวัดพลวงก็เป็นเวลาประมาณ 8.00 น. จริงๆที่วัดพลวงก็มีอาหารขายเยอะ แต่ผมตั้งใจจะพาเพื่อนๆไปกินข้าวที่วัดเพราะอยากรับอาหารเสกของหลวงปู่ จึงออกเดินทางไปยังวัดเทพธารทองทันที..
เมื่อไปถึงที่วัดเทพธารทองก็เป็นเวลาประมาณ 8.30 น. ผมก็ได้พาคณะขึ้นไปกราบนมัสการหลวงปู่บนกุฏิริมลำธาร ซึ่งหลวงปู่ได้ออกจากห้องมานั่งบนเก้าอี้หวายที่ระเบียงกุฏิอยู่ก่อนแล้ว พอคณะของผมกราบนมัสการหลวงปู่แล้ว ยังมิทันพูดอะไร หลวงปู่ก็ได้ทักขึ้นมาก่อนว่า..
" เพิ่งลงจากเขาคิชฌกูฏกันมา.. หิวข้าวก็ลงไปกินข้าวต้ม(เสก)กันก่อน อิ่มแล้วค่อยขึ้นมาคุยกัน วันนี้โยมม่วยมาทำข้าวต้มเลี้ยง.."
ทำเอาเพื่อนผมทุกคนอึ้ง..!! และหันมามองหน้าผมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย เมื่อลงมาทานข้าวต้มกันแล้ว คุณแอ๋มก็ได้ถามผมว่า " หลวงปู่รู้ได้ไงอ่ะ ทีแรกที่เห็นเอ็กส์อธิษฐานบอกหลวงปู่บนยอดเขา เราก็นึกว่าเอ็กส์ทำเล่นๆ ไม่คิดว่าหลวงปู่จะรับรู้ถึงการอธิษฐานได้ละเอียดแบบนี้ ท่านรู้แม้กระทั่งว่าเราหิวข้าวยังไม่ได้กินอะไรมา ตั้งแต่เกิดมาเราเพิ่งเคยเจอนี่แหละ สุดยอดเลยอ่ะ.."
" หลวงปู่ท่านต้องรู้สิ่ ท่านเป็นพระที่มีญาณทัศนะละเอียดสูงมาก เราเจอจนเป็นเรื่องปกติแล้วละ " (ได้ทีเลยคุยเลย อิอิ)
เมื่อกินข้าวต้มจนอิ่มหนำสำราญแล้ว ก็ได้ขึ้นไปกราบหลวงปู่อีกรอบ ท่านก็ได้ชวนคุยหลายเรื่อง และท่านได้บอกว่า..
" จริงๆถ้าคิดจะกราบพระพุทธบาท ไม่ต้องขึ้นเขาก็ได้ วัดเราก็มีรอยพระบาทอยู่ กราบที่นี่ก็เหมือนกัน.."
พระพุทธบาทดังที่หลวงปู่กล่าวนี้ เป็นรอยพระพุทธบาทจำลอง หล่อด้วยเนื้อทองเหลือง ประดิษฐานอยู่ในวิหารพระพุทธไสยาสน์ หลวงปู่ท่านได้อธิษฐานอัญเชิญบารมีของพระพุทธเจ้ามาประดิษฐานไว้ที่รอยพระพุทธบาทองค์นี้อย่างเต็มกำลัง เพราะฉะนั้นรอยพระพุทธบาทที่วัดเทพธารทองจึงมีความศักดิ์สิทธิ์มาก หากท่านใดเดินทางไปวัดเทพธารทอง ก็ขอเชิญกราบนมัสการ และปิดทองรอยพระพุทธบาทถวายเป็นพุทธบูชา ซึ่งอยู่ในวิหารพระพุทธไสยาสน์ (ตรงข้ามกับพระเจดีย์ใหญ่) เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต.. — ที่
วัดเทพธารทอง

 

สวัสดียามเที่ยงครับป๋า