พระขรรค์ท้าวเวสสุวรรณ รุ่นเจริญลาภปราบไพรี- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

#ประเพณีตักบาตรพระอุปคุต เป็นประเพณีที่ชาวล้านนาถือปฏิบัติกันมานานนับร้อยๆปีแล้ว วัดเทพธารทองของเราก็ถือปฏิบัติตามๆกันมา เนื่องจากหลวงปู่พิศดูท่านเป็นลูกศิษย์พระมหาเถรอุปคุต และท่านก็ได้นำพาลูกศิษย์จัดบุญพิธีตักบาตรพระมหาอุปคุตต่อเนื่องกันมาหลายปี จุดประสงค์ก็เพื่อการบูชาคุณของพระมหาอุปคุต และเป็นอุบายให้ลูกศิษย์ได้เข้าวัดทำบุญ และร่วมกิจกรรมสมัครสมานสามัคคี และเป็นมงคลแก่ชีวิต..

แต่ถ้าจะกล่าวกันตามจริง ถึงเรื่องพระวินัยแล้ว #การรับบิณฑบาตรโภชนาหารในยามวิกาลถือเป็นอาบัติของพระภิกษุ แต่การใส่บาตรพระอุปคุตนี้จัดเป็นการใส่บาตรเพื่อบูชาพระคุณของท่านมากกว่าสิ่งอื่นใด (แต่บางวัดก็ได้จัดให้มีพระภิกษุออกเดินรับบาตรแทน อันเป็นการสมมุติว่าเป็นตัวแทนของพระอุปคุต ก็ต้องดูที่เจตนาเป็นที่ตั้ง) แต่สำหรับของวัดเทพธารทอง หลวงปู่พิศดูกำหนดให้ตักบาตรกับรูปหล่อแทนองค์พระอุปคุต มิได้ให้พระภิกษุสงฆ์รับบิณฑบาตรโดยตรง เพื่อรักษาพระวินัยบัญญัติอันดีงามเอาไว้..

สำหรับเรื่องการตักบาตรพระมหาเถรยามวิกาล มีตำนานโบราณเล่าขานไว้ว่า มีชาวบ้านผู้ตกยากผู้หนึ่งได้ใส่บาตรพระมหาเถรที่มายืนอยู่หน้าบ้านของตนในเวลาหลังเที่ยงคืนวันอังคาร เข้าสู่เช้าวันพุธ นับตามจันทรคติเป็นช่วงย่างเข้าสู่วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เมื่อชาวบ้านผู้นั้นได้ใส่บาตรพระมหาเถรแล้ว ก็ได้ถามพระมหาเถรผู้นั้นว่า พระคุณเจ้าคือใคร..? พระนิรนามได้เอ่ยนามของท่านว่า " เราคือ พระอุปคุต.. " ต่อมาไม่นานวันด้วยอานิสงส์ของการใส่บาตรพระมหาเถรที่ออกจากนิโรธสมาบัติ ชาวบ้านผู้นั้นก็ได้พบสมบัติอันมีค่ามากมาย จนกลายเป็นมหาเศรษฐี จึงนำเรื่องนี้ไปบอกเล่าแก่เพื่อนบ้าน ทุกคนจึงเฝ้ารอวันสำคัญนี้เพื่อใส่บาตรในวันเพ็ญพุธ เพื่อบูชาคุณของพระมหาเถร และหวังอานิสงส์แห่งลาภผลอันจะพึงมีแก่ตน และต่อมาจากประเพณีของชาวบ้านกลุ่มเล็กๆ ก็ได้กลายเป็นมหาประเพณี ที่ชาวล้านนา ไทใหญ่ พม่า มอญ และผู้ศรัทธาในท้องถิ่นอื่นๆได้ปฏิบัติสืบทอดกันมาตราบทุกวันนี้..

#ซึ่งในปัจจุบันยังมีความเชื่อกันว่า.. พระมหาอุปคุตผู้ปราบพญามาร ยังทรงสังขารธรรมอยู่ เพื่อปกป้องดูแลพระศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังไม่ได้ละสังขารเข้านิพพานแต่อย่างใด เนื่องจากท่านเข้าฌานสมาบัติจำพรรษาอยู่ในกุฏิแก้ว ใต้สะดือทะเล และทุกวันเพ็ญที่ตรงกับวันพุธท่านจะออกจากฌาน ขึ้นมาบิณฑบาตรเพื่อโปรดเวไนยสัตว์..

หากเรายังไม่ได้มีวาสนาที่จะใส่บาตรกับพระมหาอุปคุตองค์จริง ก็สามารถน้อมใส่บาตรพระภิกษุสงฆ์ในช่วงเช้า หรือใส่บาตรรูปจำลองของพระมหาอุปคุตก็ได้ เชื่อว่าอานิสงส์แห่งบุญนี้จะส่งผลให้ทุกท่านได้รับความสุข ความเจริญ มั่งคั่งร่ำรวย และสมความปรารถนาในสิ่งที่ตั้งใจไว้เช่นกันแล..

วันเพ็ญพุธปีนี้ ทางวัดเทพธารทองงดจัดงานพิธี ตักบาตรพระอุปคุต แต่เรายังสามารถ ใส่บาตรพระภิกษุ ที่เดินบิณฑบาตรตามปกติแทน เพื่อถวายบูชาพระอุปคุตได้นะครับ
(สิระภพ)

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

ทำไมวัดขององค์หลวงปู่พิศดูจึงเป็นสีเขียว เรื่องนี้มีผู้ถามองค์หลวงปู่บ่อยมากๆ เท่าที่ผมที่ทราบมา และเคยได้ยินองค์หลวงปู่ท่านกล่าวนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายเหตุผลครับอาทิ..

" #สีเขียวเป็นสีแม่ " .. หมายความว่า สถานที่ตั้งวัดแต่เดิมนั้นเป็นป่าธรรมชาติ เพราะธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งที่ให้กำเนิดสรรพชีวิตทั้งหลาย

" #ที่นี่เป็นที่ของพระอินทร์ " หมายความว่า สถานที่ตั้งของวัดเทพธารทองแห่งนี้ น่าจะเป็นสถานที่ที่พระอินทร์ หรือเทวราชา(ราชาแห่งทวยเทพ) ให้การปกปักรักษาดูแล ซึ่งถ้าดูจากชื่อของวัดก็อาจจะเดาได้เป็นนัยๆแล้วว่า #วัดเทพธารทอง ก็ต้องเป็นอะไรที่เกี่ยวกับเทพแน่นอน อีกทั้งเชื่อว่าความเกี่ยวพันธ์ระหว่างองค์หลวงปู่กับพระอินทร์นั้นก็คงต้องมีแน่นอน เพราะจากประสบการณ์ของผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือจากองค์หลวงปู่นั้นมักจะเกี่ยวพันธ์ถึงพระอินทร์อีกด้วย และด้วยความที่พระอินทร์ท่านมีรัศมีกายเป็นสีเขียวมรกต จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่วัดเทพธารทองจึงเน้นทุกอย่างเป็น สีเขียว เพราะเป็นสถานที่ในความดูแลของท่าน

และอีกเหตุผลหนึ่งซึ่งมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าเหตุผลอื่นๆนั่นก็คือ สีเขียวเป็นสีประจำของ พระปัจเจกภูมิ ด้วยความที่องค์หลวงปู่ท่านเคยตั้งความปรารถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้ามาแต่เดิม จึงทำให้จริตของท่านโน้มไปทางสายนั้น #สีเขียวก็เป็นความชอบส่วนตัวของท่านเองด้วย
อีกทั้งสีเขียวยังเป็นสีแห่งความเย็น เมตตา อนุเคราะห์ ความอุดมสมบูรณ์ เป็นสีที่ให้ผู้ที่มาพบเห็นรู้สึก สดชื่น สบายตา ผ่อนคลาย และปลอดภัย

บางท่านก็บอกว่า สีเขียว เป็นนิมิตรแห่งกองกสิณที่เรียกว่า " นีลกสิณ " โดยนิมิตรของกสิณกองนี้ ประโยชน์คือ สามารถทำให้เกิดสีเขียว หรือทำสถานที่สว่างให้มืดครึ้มได้ หมายความว่า หลีกเร้น สงบ สงัด..ฯลฯ ตามแต่ความปรารถนาของแต่ละท่าน(บุคคล)ไป ตามความเข้าใจนั้นน่าจะเป็นนิมิตรของผู้ปฏิบัติเพื่อพระปัจเจกภูมิ เพราะตามจริตวิสัยนั้น พระปัจเจกภูมิ มักจะซุ่ม หลีกเร้นอยู่โดยสันโดษ เพื่อหาทางที่จะตรัสรู้ธรรมด้วยองค์เอง โดยเฉพาะในสถานที่ป่าอันมีแมกไม้และธรรมชาติสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นสีเขียว..
(ข้อมูลคุณทุเรียนทอด)

 

ei946340226th สามพราน

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

smct000250519 โคราช

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

ก็ตามที่เคยบอกเอาไว้ พระปัจเจกสีเขียวราคาไปไกลแล้วตอนนี้คนก็มาตามเก็บสีเหลืองไปบูชาแทน หาสวยสภาพสมบูรณ์ก็มีน้อยหน่อยสำหรับสีเหลืองด้านหลังปั๊มยันต์พระพุทธเจ้าชนะมาร














พระปัจเจกพุทธเจ้า เนื้อผง รุ่น "สมปรารถนา" ชุดนี้ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2552 โดยคณะศิษย์ผู้สร้างถวายได้จําลองพุทธลักษณะองค์พระปัจเจกมาจากรูปหล่อพระปัจเจกพุทธเจ้าที่เป็นสมบัติของวัด ซึ่งมีอายุกว่าหลายร้อยปีถึงพันปี รูปแบบพิมพ์ทรงสี่เหลี่ยม ประทับนั่งอยู่ในซุ้มประตู บนซุ้มประตูเขียนคําว่า "สติ" อักขระด้านล่างสุดบริเวณฐาน อ่านว่า พระปัจเจกโพธิ ส่วนด้านหลังองค์พระ ออกแบบเป็นรูปบาตรภายในมีดอกบัว และล้อมด้วยคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าเป็นภาษาล้านนา พระปัจเจกพุทธเจ้ารุ่นนี้ ครูบากฤษดาท่านเมตตาตั้งชื่อรุ่นว่า "สมปรารถนา" ท่านว่ารุ่นนี้ศักสิทธิ์ตั้งแต่ปั๊มแล้ว เพราะเจตนาดี พระชุดนี้สร้างไว้ทั้งหมด 5 สี



ซึ่งสีเขียวนี้ ได้นําถวายบูชาธรรมแด่หลวงปู่พิศดูทั้งหมด และมีสีเหลืองบางส่วนประมาณ 1,000 องค์ หลังจากครูบากฤษดาท่านได้ปลุกเสกแล้ว ได้ถูกนําไปให้หลวงปู่พิศดูท่านปลุกเสกอีกครั้งพร้อมพระปัจเจกสีเขียว ซึ่งจะปั๊มตรายันต์พระพุทธเจ้าชนะมารไว้ ( บางส่วนได้แจกไปโดยไม่ปั๊มก็มีแต่น้อยมาก ) พระบางส่วนได้นําไปถวายวัดอื่นเพื่อทําประโยชน์ผ่านท่านครูบากฤษดา และอีกบางส่วนฝังไว้ที่เสาวิหาร วัดสันพระเจ้าแดง

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

ei946366736th สามพราน

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

"โยมมีของดีแล้วต้องเอามาใช้นะ..."