14.สร้อยฟ้ามาลาพาเที่ยว ตอน ๑ วัน ๓ วัด ณ นนทบุรี

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย สร้อยฟ้ามาลา, 19 ตุลาคม 2009.

  1. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ๑๔

    สร้อยฟ้ามาลาพาเที่ยว ตอน ๑ วัน ๓ วัด ณ นนทบุรี

    ห่างหายไปนานร่วมเดือน ที่ไม่ได้ไปซนจริงๆ จังๆ ที่ไหนเลย พอดีได้รับสาส์นจากพี่พิชชี่ ว่าคุณครูอำนวยกรณ์พร้อมคณะมาเข้าค่ายอบรมธรรมะ ณ เสถียรธรรมสถาน ในวันที่ ๑๒ – ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๒ (ใช่หรือเปล่าจำกำหนดวันไม่ได้) หลังจากนั้นคุณครูอำนวยกรณ์ก็ขอแยกทางจากคณะมาตระเวนพบปะเพื่อนๆ น้องๆ ที่กรุงเทพมหานคร โดยจะอยู่ที่กรุงเทพมหานคร วันที่ ๑๖ – ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๒ และเดินทางกลับตอนเย็นโข คุณครูอำนวยกรณ์และพี่พิชชี่เลยนัดสร้อยฟ้ามาลาและแมงปอแก้ว ไปทานส้มตำกันแถวๆ ซอยรางน้ำ ใกล้ๆอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีเจ้าภาพคือ คุณหนู BNBK ในเย็นวันศุกร์ที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๒ ระหว่างทานก็มีสมาชิกมาสมทบอีกหนึ่งท่านคือคุณพี่ K.JIT ดีใจจังได้รู้จักหน้าคร่าตาหลังจากที่ได้คุยกันในเว็ปพลังจิต พี่หนู BNBK นี่น่ารักและคุยสนุก แต่พอพี่ K.JIT มาสมทบนี่อืม.... แย่งพูดกันไม่ทันเลยอ่ะ คุยเก่งจัง มันส์ๆขำๆ ดี สร้อยฟ้าฯ ก็เป็นคนคุยไม่เก่งนั่งฟังอย่างเดียว ก็ขอขอบคุณอย่างสูงในน้ำใจไมตรีที่เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารในมื้อค่ำยามฝนโปรยปราย ณ กลางกรุง เจ้าค่ะ

    หลังจากทานอาหารเสร็จก็แยกย้ายกับกลับบ้าน พี่พิชชี่ได้ให้สร้อยฟ้ามาลาช่วยพาไปทัวร์ยังวัดต่างๆ ในจังหวัดนนทบุรี ในวันเสาร์ที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๒ โดยโปรแกรมให้สร้อยฟ้าฯ คิดเองว่าจะพาไปไหน



    วันรุ่งขึ้น.... วันเสาร์ที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๒ เมื่อคืนสร้อยฟ้าฯ นอนดึก แต่ตื่นไม่สายนะ โปรแกรมยังไม่ได้คิดเลยว่าจะไปไหน ๐๙.๓๐ น. นัดเจอกันที่กระทรวงศึกษาธิการ การไปซนครั้งนี้ก็มี คุณครูอำนวยกรณ์ คุณพี่พิชญ์ คุณสร้อยฟ้ามาลา คุณแมงปอแก้ว และเพื่อนนอกเว็ปของแมงปอแก้วอีกหนึ่งคน กองทัพต้องเดินด้วยท้องยังไม่มีใครทานข้าวเช้าเลย นอกจากคุณครู คุณครูในฐานะเจ้าถิ่นเลยพาคณะไปทานอาหารข้างๆ ซอยในกระทรวงฯ

    a.jpg
    ข้าวมันไก่จ้า

    ระหว่างนั้นก็ทานกันไปคุยกันไป คุณครูติ๋งบอกว่า นี่เธอเมื่อคืนพี่นอนดึกมัวแต่คุยกับเพื่อนในเว็ปอยู่ พอนอนก็นอนได้ไม่สนิทเพราะกลัวผี (อิ อิ คุณครูกลัวผี) เอาพระมากำไว้ในมือสองข้างเลย (ขำ ขำ) พอใกล้รุ่งสาง พระหลุดจากมือ เจอเลย มากวนพี่อีกแล้ว (ฮา ฮา) พอแระ ไม่เล่าแระเดี๋ยวครูว่าเอา แต่ขำดี

    a.jpg
    ร้านกาแฟ

    a.jpg
    บรรยากาศของร้าน


    ทานเสร็จสร้อยฟ้ามาลาง่วงมากเพราะนอนดึก เลยไปหากาแฟในกระทรวงฯ ทาน การจัดร้านกาแฟจัดได้น่ารัก สวยดี ดูบรรยากาศน่านั่ง แต่คณะของเราไม่มีเวลานั่งแล้ว ต้องรีบไป เดี๋ยวไม่ได้เที่ยว เอ้าขึ้นรถจ้า


    ระหว่างเดินทาง แมงปอแก้ว ก็คุยกับคุณครูว่า จะไปที่ไหนกันดี จากนั้นก็แชร์ความคิด มติออกมาว่า ที่แรกที่จะไปคือวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ ที่แห่งที่สองที่จะไป ก็คือ..... ไม่บอกตอนนี้ดีกว่า เดี๋ยวเพื่อนๆ ไม่ติดตามต่อ เพราะว่า เบื่อ สร้อยฟ้ามาลา โม้ มากไปหน่อย

    และแล้วก็มาถึงวัดกาญจนาบรมราชาภิเษก เวลาประมาณเกือบ ๑๑ โมงได้มั้ง พอดีสร้อยฟ้าฯ นึกถึงพี่อ้อ สายฝนฉ่ำเย็น ซึ่งบ้านอยู่แถวๆ นั้น กะว่ามื้อกลางวันจะไปทานไข่เจียว แต่พี่อ้อไม่อยู่ไปงานกฐินแถวๆ ปากเกร็ด เลย อด เลย

    ข้าวไข่เจียว ข้าวไข่เจียว......



    <EMBED src=http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?Autoplay=1&songID=V24EEF74PA0 width=315 height=80 type=application/x-shockwave-flash wmode="transparent" scale="noscale">
    .........................

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_7951_1.jpg
      IMG_7951_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.4 KB
      เปิดดู:
      3,260
    • IMG_7957_1.jpg
      IMG_7957_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      100.8 KB
      เปิดดู:
      3,323
    • IMG_7959_1.jpg
      IMG_7959_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.5 KB
      เปิดดู:
      2,952
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2023
  2. พิชญ์

    พิชญ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    760
    ค่าพลัง:
    +3,392
    [​IMG][​IMG]เมื่อยจัง....กินขนมหมดไป 1 ถุงแระ สนิมสร้อยยังโม้ไม่จบอีก...ไปแระ..
     
  3. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์

    พอดีรายละเอียดของวัดแห่งนี้ สร้อยฟ้ามาลา เคยตั้งกระทู้ไว้แล้วที่ กระทู้ชื่อ สร้อยฟ้ามาลาพาไปงานวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ เลยไม่ขอเล่ารายละเอียดของวัด แต่จะเล่าเรื่องความเป็นมาของคณะสงฆ์นิกายจีนแทน นะจ๊ะ เพราะวัดบรมราชากาญจนภิเษกอนุสรณ์ ก็เป็นวัดหนึ่งในประเทศไทยที่อยู่ในนิกายนี้

    [​IMG]
    ซุ้มประตูหน้าวัด

    คณะสงฆ์นิกายจีน
    ความสัมพันธ์ ไทย - จีน

    ในพงศาวดารสมัยราชวงศ์หงวน ปีพ.ศ. ๑๘๓๗ จักรพรรดิกุบไลข่าน ส่งราชทูตมาเจริสัมพันธไมตรีกับไทย ปีต่อมา ไทยจึงส่งราชทูตไปเจริญไมตรีเช่นกัน ตั้งแต่นั้นมา การติดต่อทางการทูตและค้าขายในระหว่างสองประเทศ เจริญขึ้นเป็นลำดับ และก็เจริญยิ่งขึ้นในสมัยต้นยุคกรุงศรีอยุธยา คือปลายราชวงศ์หงวนและต้นราชวงศ์เหม็ง


    ชาวจีนที่เข้ามาอาศัยในประเทศไทยนั้น ส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน และลัทธิขงจื้อกับลัทธิเต๋าปนกันไป ในสมัยกรุงสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยา ยังไม่ปรากฎว่ามีวัดและ พระสงฆ์ฝ่ายจีนขึ้นน่าจะมีเพียงศาลเจ้าเทวาลัยจีนเท่านั้น

    สมัยอยุธยาชาวจีนได้อพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร พระมหากษัตริย์ไทยมากขึ้น ทรงมีพระมหากรุณาพระราชทานบริเวณที่ดินหลายแห่งทั้งในเมืองและนอกเมือง เป็นที่ตั้งภูมิลำเนาของชาวจีนในประเทศไทยเช่น ตำบลสวนพลูด้านทิศใต้ของวัดพนันเชิง และในกำแพงพระนครอีกหลายแห่ง ดังปรากฏในจดหมายเหตุว่าด้วยแผนผังกรุงศรีอยุธยา เมื่อยังเจริญรุ่งเรืองตอนหนึ่งว่า “...ย่านนายก่ายเชิงสะพานประตูจีนไปเชิงสะพานนายก่าย เป็นย่านจีนอยู่ตึกทั้ง ๒ ฟากถนนหลวง นั่งร้านขายของสรรพเครื่องสำเภา ไหม แพร ของขาเหลือง ถ้วย โถ ชาม เครื่องสำเภาครบ....ย่านสามม้าแต่เชิงสะพานนายก่ายตะวันออกไปถึงหัวสะพานมากรุงเทพมหานคร จีนทำเครื่องจันอับและขนม ทำโต๊ะเตียงละถังน้อยใหญ่และทำสรรพเครื่องเหล็ก มีตลาดขายของสดเช้าเย็น”


    [​IMG]


    การบำเพ็ญกุศลตามจารีตพุทธศาสนา ชาวจีนคงอาศัยวัดไทย ในสมัยอยุธยา ชาวจีนได้เคยร่วมกันสร้าง พระพิมพ์แบบไทย โดยเสด็จพระราชกุศล บรรจุไว้ในกรุใต้องค์พระปรางค์วัดราษฎรบูรณะ ในแผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๒ เจ้าสามพระยา เมื่อทรงสถาปนาพระปรางค์ใหญ่ของวัดนี้ ในสมัยกรุงธนบุรี ปรากฏว่ามีญวนอพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ชาวญวนก็เป็นพุทธมามกะ ฝ่ายมหายานเช่นเดียวกับชาวจีน และมีวัฒนธรรมประเพณีคล้ายชาวจีน ชาวญวนได้สร้างวัดฝ่ายมหายาน ขึ้นบนฝั่งตะวันออกของกรุงธนบุรีเป็นวัดแรก และเมื่อสร้างกรุงรัตนโกสินทร์แล้ว ชาวจีนและชาวญวน ก็ได้สร้างวัดทั้งในกรุงและนอกกรุงอีกหลายวัด

    [​IMG]

    (ชั้นล่างของพระอุโบสถ ทางวัดกำลังเตรียมสถานที ในพีธีกินเจ ใครไม่สวมใส่ชุดขาวห้ามเข้าในบริวเวณนี้)


    [​IMG]



    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]

    สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ปี พ.ศ. ๒๓๒๕ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ จะสร้างพระมหาบรมราชวังบนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณที่ตรงนั้นเป็นที่อยู่ของชาวจีนอย่างคับคั่ง มีพระยาราชเศรษฐีขุนนางจีนเป็นหัวหน้าควบคุมอยู่ จึงโปรดให้ชาวจีนอพยพไปตั้งบ้านเรือนใหม่ที่สวนตั้งแต่คลองวัดสามปลื้มเป็นต้นไป ตำบลสำเพ็งจึงเป็นศูนย์กลางย่านชุมชนของชาวจีนมาตั้งแต่สมัยนั้น

    สมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๓ ปรากฏว่าความสัมพันธ์ทางศิลปะระหว่างไทย-จีน มีมาก ยิ่งกว่ารัชกาลใดๆ จะเห็นได้จากวัดวาอารามที่มีศิลปะของจีน อาทิ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร วัดเทพธิดาราม วัดราชโอรสารามวรมหาวิหาร เป็นต้น


    สมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ชาวจีนที่เข้ามาในประเทศไทย ส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนามหายาน ลัทธิขงจื้อและลัทธิเต๋า การบำเพ็ญกุศลตามจารีตทางศาสนาต้องไปที่วัดไทยเพราะว่า สมัยนั้นวัดในพุทธศาสนามหายานไม่มี ประกอบกับชนชาวจีนจำนวนมากเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร พระองค์ทรงเห็นความสำคัญของชนชาวจีนและวัดจีนมหายาน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้มีการสร้างวัดจีนมหายานขึ้น และมีพระราชทานสมณศักดิ์แก่พระจีนโดยอาศัยภิกษุจีนรูปหนึ่ง ชื่อ "พระภิกษุสกเห็ง" นับว่าเป็นพระภิกษุองค์สำคัญ ต่อการตั้งรากฐานของคณะสงฆ์จีนนิกายในไทย ต่อจากนั้นคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นจนถึงปัจจุบัน


    พระอาจารย์สกเห็ง เป็นชาวมณฑลกวางตุ้ง เกิดในสกุลพาณิชย์ เมื่ออายุได้ ๑๗ ปี ได้มีโอกาสสดับพระธรรมเทศนา จากพระอาจารย์ฮวบที แล้วเกิดศรัทธา จึงขอบรรพชาเป็นสามเณร ต่อมาได้บรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ครั้นต่อมาเมื่อได้ทราบกิตติศัพท์ว่า ประเทศไทยเป็นแหล่ง ความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา จึงได้เดินทางมาประเทศไทย เพื่อนมัสการปูชนียสถาน ได้มาพักอาศัยอยู่ ณ ศาลาร้างพระกวนอิมข้างวัดกุศลสมาคร ชาวจีนในกรุงเทพ ฯ พากันเลื่อมใส จึงชวมกันเรี่ยไรเงินบูรณะเป็นอารามฝ่ายจีนนิกายขึ้นเป็นแห่งแรกชื่อ "วัดย่งฮกยี่" ต่อมาได้รับพระราชทานนามว่า "วัดบำเพ็ญจีนพรต"


    [​IMG]
    ลูกนิมิต

    ต่อมาเมื่อมีพระสงฆ์จีนนิกายมากขึ้น จึงได้เลือกชัยภูมิบริเวณ ถนนเจริญกรุง ตำบลพลับพลาไชย สร้างเป็นอารามใหญ่ ด้วยพระบรมราชูปถัมภ์ และการช่วยเหลือจากพุทธบริษัทไทย - จีน จึงได้สร้างพระอารามแห่งใหม่เสร็จ โดยใช้เวลาถึง ๘ ปี ชื่อว่า วัดเล่งเน่ยยี่ และพระอาจารย์สกเห็ง ก็ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น "พระอาจารย์จีนวังสสมาธิวัตร" ตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่ฝ่ายจีนนิกาย และพระราชทานสมณศักดิ์แก่พระจีนอีก ๒ รูป คือ หลวงจีนคณาณัติจีนพรต ตำแหน่งปลัดขวา กับหลวงจีนธรรมรสจีนศาสน์ ตำแหน่งปลัดซ้าย คณะสงฆ์จีนนิกายจึงเริ่มมีทำเนียบสมณศักดิ์นับแต่นั้น และได้รับพระราชทานนามวัดเล่งเน่ยยี่ ว่า วัดมังกรกมลาวาส



    [​IMG]
    เจ้าแม่กวนอิม ประดิษฐานอยู่ชั้นล่างของพระอุโบสถ

    ต่อมาได้มีการสร้างวัดเล่งฮกยี่ หรือวัดจีนประชาสโมสร ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และเตรียมสร้างวัดเล่งฮั้วยี่ ที่จังหวัดนนทบุรี อีกแห่งหนึ่ง แต่ท่านเกิดอาพาธ ถึงแก่มรณภาพเสียก่อน




    ....................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8209_1.jpg
      IMG_8209_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      130.2 KB
      เปิดดู:
      3,712
    • IMG_8205_1.jpg
      IMG_8205_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      110.8 KB
      เปิดดู:
      3,493
    • IMG_8190_1.jpg
      IMG_8190_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      113.1 KB
      เปิดดู:
      3,075
    • IMG_8191_1.jpg
      IMG_8191_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      114.3 KB
      เปิดดู:
      3,008
    • IMG_7967_1.jpg
      IMG_7967_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      122.2 KB
      เปิดดู:
      2,941
    • IMG_7970_1.jpg
      IMG_7970_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      105.6 KB
      เปิดดู:
      3,067
    • IMG_7979_1.jpg
      IMG_7979_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      87.2 KB
      เปิดดู:
      3,398
    • IMG_7976_1.jpg
      IMG_7976_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      150.3 KB
      เปิดดู:
      2,971
    • IMG_7993_1.jpg
      IMG_7993_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.8 KB
      เปิดดู:
      3,235
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2013
  4. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    เจ้าคณะใหญ่ฝ่ายจีนนิกาย


    a.jpg





    เจ้าคณะใหญ่ฝ่ายจีนนิกาย มีสมณศักดิ์เป็นที่พระอาจารย์จีนวังสสมาธิวัตร ตามที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์จาก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และรูปแรกคือ พระอาจารย์สกเห็ง ตามที่กล่าวมาแล้ว



    a.jpg

    เจ้าคณะใหญ่ ลำดับที่ ๒ คือ พระอาจารย์จีนวังสสมาธิวัตร (กวยหงอ) พุทธบริษัทรู้จักท่านในนามของ พระครูแมว ท่านเป็นผู้สนิทสนมคุ้นเคยกับ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ ครั้งพระองค์เสด็จกลับจากประพาสยุโรป ยังได้มีสิ่งของมาพระราชทานให้

    a.jpg


    เจ้าคณะใหญ่ ลำดับที่ ๓ คือ พระอาจารย์จีนวังสสมาธิวัตร (โล่วเข่ง) ต่อมาท่านได้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว เดินทางกลับประเทศจีน พระภิกษุฟุกยิ้นจึงได้รักษาการในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาสอยู่หลายปี


    a.jpg


    เจ้าคณะใหญ่รูปที่ ๔ คือ พระอาจารย์จีนวังสสมาธิวัตร (ย่งปิง) ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส และเป็นเจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย

    a.jpg


    เจ้าคณะใหญ่รูปที่ ๕ คือ พระอาจารย์จีนวังสสมาธิวัตร (เซี่ยงหงี่) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส และเจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย

    a.jpg

    เจ้าคณะใหญ่ลำดับที่ ๖ คือ พระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร พุทธบริษัทจีนพิเนตุ ฯ (โพธิแจ้งมหาเถระ) และได้เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิแมนคุณารามองค์แรก และเป็นประธานคณะกรรมการสงฆ์จีนนิกายรูปแรก

    a.jpg

    เจ้าคณะใหญ่ลำดับที่ ๗ คือ พระคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร พุทธบริษัทจีนเนตา (เย็นเต็ก) ประธานคณะกรรมการสงฆ์จีนนิกายรูปที่สอง เจ้าอาวาสวัดโพธิแมนคุณาราม รูปที่ ๒

    a.jpg

    a.jpg

    (เป็นรูปเทพเจ้าในวิหารท้าวจตุโลกบาล)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2022
  5. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    บูรพาจารย์ผู้สืบทอดมหายานในประเทศไทย

    นอกจากเจ้าคณะใหญ่ที่ได้กล่าวมาแล้วยังมีคณาจารย์รูปอื่น ๆ ที่มีการบันทึกประวัติ และผลงานไว้ดังนี้

    a.jpg
    (พระพุทธเจ้า ๓ พระองค์ พระประธานในพระอุโบสถ)


    พระอาจารย์กวยหลง เป็นผู้ช่วยพระอาจารย์สกเห็ง เจ้าคณะใหญ่ ลำดับที่ ๑ มีความรู้แตกฉานทางด้านมหายาน ได้ช่วยเหลือในการสร้างวัดจีนประชาสโมสร (เล่งฮกยี่) ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และได้เป็นเจ้าอาวาสวัดนี้

    a.jpg
    (ด้านหลังพระประธาน)

    พระอาจารย์ตักฮี เจ้าอาวาสวัดจีนประชาสโมสรรูปต่อมา ได้เคยแสดงธรรมแก่ประชาชนชาวจีน ณ สำนักสงฆ์เต๊กฮ่วยตึ้ง จังหวัดเพชรบุรี เป็นประจำ ก่อนมาเป็นเจ้าอาวาสวัดจีนประชาสโมสร ได้ทำการบรรพชาอุปสมบทศิษย์ จำนวน ๓๐ กว่ารูป ซึ่งต่อมาได้เป็นพระอาจารย์จีนที่มีชื่อหลายรูปด้วยกัน ต่อมาท่านได้จาริกแสดงธรรมมาถึงจังหวัดชลบุรี และได้สร้างวัดเทพพุทธารามขึ้น ชาวจีนเรียกว่า วัดเซียนฮุดยี่ เนื่องจากท่านเคยถือคติลัทธิเต๋ามาก่อน เพื่อมาบวชในพุทธศาสนาแล้ว จึงได้นำคติเต๋ามาผสมกับพุทธศาสนา จึงให้ชื่อวัดดังกล่าว

    a.jpg
    (พระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือพันตา ในวิหารอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ )

    พระอาจารย์เซี่ยงหงี ได้บรรพชาเป็นสามเณรในฝ่ายเถรวาท ที่วัดต้นไทร จังหวัดฉะเชิงเทรา ต่อมาได้บรรพชาเป็นสามเณรในนิกายจีน เป็นศิษย์พระอาจารย์ตั๊กฮี และต่อมาได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในสำนักพระอาจารย์กวยหงอ แล้วเดินทางไปบูชาปูชนียสถานในประเทศจีน เมื่ออายุได้ ๓๕ ปี ได้เดินทางมาประเทศไทยอีก และได้เป็นเจ้าอาวาสวัดจีนประชาสโมสร ต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระอาจารย์หลวงจีนวังสสมาธิวัตร เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส และได้เป็นพระอุปฌาย์จีนนิกาย เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๒


    พระอาจารย์เซี่ยงซิว เป็นชาวมณฑลกวางตุ้ง ได้เป็นกำลังช่วยพระอาจารย์ตั๊กฮี ในการสร้างถาวรวัตถุ อันเป็นประโยชน์ต่อสังคม มีสะพานและถนน เป็นต้น เป็นผู้ที่ศึกษาและปฏิบัติด้านกัมมัฏฐาน และได้ออกจาริกเทศนาสั่งสอนประชาชนด้วยความเมตตากรุณา

    พระอาจารย์เซี่ยงกี่ เป็นชาวมณฑลกวางตุ้ง ได้ออกบวชในสำนักพระอาจารย์ตั๊กฮีที่วัดจีนประชาสโมสร ได้ออกธุดงควัตรไปที่เขาพระพุทธบาท สระบุรี เข้าไปปฏิบัติโยคะธรรมที่ถ้ำประทุน และได้นำประชาชน สร้างวัดเซ็งจุ้ยยี่ขึ้น มีศิษย์หลายรูปที่มีชื่อเสียง เช่น พระอาจารย์โพธิแจ้ง เป็นต้น

    พระอาจารย์ฮ่งเล้ง เป็นชาวมณฑลกวางตุ้ง เมื่อเดินทางมาประเทศไทยได้บวชที่วัดเช็งจุ้ยยี่ สมาทานธุดงควัตรตลอดเวลากว่า ๑๐ ปี แล้วกลับไปสักการะปูชนียสถานที่มาตุภูมิ ประชาชนถวายนาม ท่านว่าพระลิปห่วยโพธิสัตว์ ปัจจุบันสำนักสงฆ์ลิปห่วย (หลับฟ้า) ตั้งอยู่ที่ตำบลวังใหม่ สะพานอ่อน พระนคร เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ตัวท่าน

    พระมหาคณจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (โพธิแจ้งมหาเถระ)เจ้าอาวาสวัดโพธิแมนคุณาราม เจ้าคณะใหญ่จีนนิกายรูปที่ ๖ และเจ้าอาวาสวัดโพธิเย็น ตลาดลูกแก จังหวัดกาญจนบุรี กับเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิทัตตาราม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นพระราชาคณะชั้นสัญญาบัตร (เทียบชั้นธรรมพิเศษ) ฝ่ายวิปัสสนา


    a.jpg


    พระอาจารย์โพธิแจ้ง เป็นชาวมณฑลกวางตุ้ง เกิดเมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๔ เมื่อวัยหนุ่มได้เข้ารับราชการทหาร ที่มาตุภูมิอยู่ระยะหนึ่ง ต่อมาได้เดินทางมาประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๐ เพื่อศึกษาหลักธรรม และสักการะปูชนียสถานต่าง ๆ และได้ขอบรรพชา ณ สำนักสงฆ์ถ้ำประทุน เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๑ มีฉายาว่า โพธิแจ้ง ท่านเห็นว่าพระสงฆ์จีน ไม่เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย และชาวจีนมากนัก จึงควรปฏิรูปปรับปรุงคณะสงฆ์จีนเสียใหม่ ท่านจึงได้ออกบำเพ็ญเพียรศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ ๖ พรรษา จนแตกฉานในพระไตรปิฎก เป็นที่เคารพนับถือของบรรดาพุทธบริษัทมาก ต่อมาได้ย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่ สะพานอ่อน กรุงเทพ ฯ ณ สำนักสงฆ์หมี่กัง ได้รับสานุศิษย์ (กุยอี) เข้าปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะเป็นรุ่น ๆ รุ่นละกว่าร้อยคน เป็นการสร้างคนก่อนสร้างวัตถุ

    เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๗ ได้เดินทางไปประเทศจีน เพื่อเข้ารับการอุปสมบท แล้วอยู่ศึกษาธรรมเพิ่มเติมอีก ๒ ปี จึงได้เดินทางกลับประเทศไทย ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๔ ได้เดินทางไปประเทศจีนอีกครั้งหนึ่ง และได้ธุดงค์ไปถึงธิเบต เพื่อศึกษาลัทธิมนตรยาน ซึ่งเป็นนิกายหนึ่งในฝ่ายมหายานจนถึงปี พ.ศ.๒๔๙๐ ได้เดินทางกลับมาประเทศไทย และในปีต่อมาได้เดินทางไปประเทศจีนเป็นครั้งที่สาม ได้รับแต่งตั้งเป็น พระปรมัตตาจารย์ จากประมุขเจ้านิกายวินัยของประเทศจีน เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๓ ได้เดินทางกลับประเทศไทย และต่อมาได้ดำรงตำแหน่งเป็น หลวงจีนธรรมรสจีนศาสน์ ตำแหน่งปลัดซ้าย เจ้าคณะใหญ่คณะสงฆ์จีนนิกาย

    a.jpg




    ........................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8024_1.jpg
      IMG_8024_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      137.3 KB
      เปิดดู:
      3,079
    • IMG_8050_1.jpg
      IMG_8050_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      115.4 KB
      เปิดดู:
      3,129
    • IMG_8038_1.jpg
      IMG_8038_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      115.2 KB
      เปิดดู:
      2,725
    • IMG_8068_1.jpg
      IMG_8068_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      151 KB
      เปิดดู:
      5,811
    • IMG_8083_1.jpg
      IMG_8083_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      153.7 KB
      เปิดดู:
      4,366
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2022
  6. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    [​IMG]
    (พระอมิตาภพุทธเจ้า พระอวโลกิเตศวร และพระมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์ ในวิหารหมื่นพุทธสุขาวดีพุทธเกษตร)

    พระอาจารย์โพธิแจ้ง ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์มาตามลำดับ รวม ๗ ตำแหน่งด้วยกัน อันเป็นสมณศักดิ์ฝ่ายจีนนิกาย ตามลำดับดังนี้
    ปี พ.ศ.๒๔๙๓ เป็นที่หลวงจีนธรรมรสจีนศาสน์ ตำแหน่งปลัดซ้าย
    ปี พ.ศ.๒๔๙๔ ได้เป็นที่ หลวงจีนคณาณัติจีนพรต ตำแหน่งปลัดขวา
    ปี พ.ศ.๒๔๙๗ ได้เป็นที่ พระอาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร ตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่สงฆ์จีนนิกาย ลำดับที่ ๖ โดยข้ามสมณศักดิ์ที่พระอาจารย์จีนวินยานุการ ในตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าคณะใหญ่ และ สมณศักดิ์ที่พระอาจารย์จีนธรรมคณาธิการ ในตำแหน่งรองเจ้าคณะใหญ่


    [​IMG]
    พระอมิตาภพุทธเจ้า

    ปี พ.ศ.๒๕๐๗ ได้เป็นที่ อาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร พุทธบริษัทจีนเนตา พระราชทานพัดยศเสมอด้วยพระราชาคณะชั้นราชแห่งคณะสงฆ์ไทย ฝ่ายวิปัสสนา
    ปี พ.ศ.๒๕๑๐ ได้เป็นที่ พระคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร พุทธบริษัทวิเนตา สาธุชนธรรมประสิทธิ์ บรมนริศรานุวัตร พระราชทานพัดยศเสมอด้วยพระราชาคณะชั้นเทพแห่งคณะสงฆ์ไทย ฝ่ายวิปัสสนา

    [​IMG]
    พระอวโลกิเตศวร

    ปี พ.ศ.๒๕๑๓ ได้เป็นที่ พระคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร พุทธบริษัทจีนพิเนต วิเทศธรรมประสิทธิ์ บรมนริศรานุวัตร พระราชทานพัดยศเสมอด้วยพระราชาคณะชั้นธรรมแห่งคณะสงฆ์ไทย ฝ่ายวิปัสสนา ตั้งคณานุกรมได้ ๖ รูป คือ หลวงจีนธรรมรส ๑ หลวงจีนวินัยธร ๑ หลวงจีนปลัด ๑ หลวงจีนสังฆรักษ์ ๑ หลวงจีนสมุห์ ๑ และหลวงจีนใบฎีกา 1
    ปี พ.ศ.๒๕๒๐ ได้เป็นที่ พระคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร พุทธบริษัทจีนพิเนต วิเทศธรรมประสาท นวกิจพิลาสประยุกต์ ทำนุกจีนประชาวิสิฐ สถิต ณ วัดโพธิแมนคุณาราม พระราชทานพัดยศเสมอด้วยพระราชาคณะชั้นธรรมพิเศษ ฝ่ายวิปัสสนา ตั้งคณานุกรมได้ ๖ รูป คือ หลวงจีนปลัดธรรมสมาธิวัตร ๑ หลวงจีนวินัยธร ๑ หลวงจีนธรรมธร ๑ หลวงจีนสังฆรักษ์ ๑ หลวงจีนสมุห์ ๑ และหลวงจีนใบฎีกา

    [​IMG]
    และพระมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์


    ก็จบความเป็นมาของคณะสงฆ์นิกายจีนเพียงประการฉะนี้แล....แต่รูปของวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ยังไม่หมดนะ ขอพักรูปของวัดแห่งนี้ไว้ก่อน

    จากที่พากันเดินอย่างเพลิดเพลินภายในวัด ได้เวลาอันพอสมควรแล้วก็จะไปยังวัดแห่งที่สอง แต่พอขับรถออกจากประตูวัด ต่างคนต่างกระหายน้ำเพราะว่าแดดร้อน เหลือบไปเห็นเขากางเต็นท์ขายเฉาก๋วยเย็นๆ อยู่ หน้าวัด ซึ่งตอนนี้กำลังจัดร้านและกางเต็นท์เพื่อขายอาหารในเทศกาลกินเจกันอยู่ สร้อยฟ้ามาลาเลยจอดรถข้างทางตรงใกล้ๆ ที่แม่ค้าขายของต่างๆ ส่วนด้านหน้ารถเป็นที่จอดของรถจักรยานยนต์ แล้วให้แมงปอแก้วกับเพื่อนของแมงปอแก้วลงไปซื้อให้ ส่วนสร้อยฟ้ามาลา คุณครูอำนวยกรณ์และพี่หญิงพิชญ์ นั่งคอยอยู่ในรถ
    .........

    ทันใดนั้น ก็มีเสียงโวยวายมาจาก เจ๊ เจ้าของร้านที่สร้อยฟ้ามาลาขับรถจอดหน้าร้าน เจ๊ ท่าทางไม่พอใจ ตะโกนบอกว่าจอดตรงนี้ไม่ได้และไล่ให้ไปจอดที่อื่นเพราะว่าบังหน้าร้าน สร้อยฟ้ามาลาจึงเปิดกระจกลงมามองหน้าเจ๊ เห็นเจ็ แขวนพระแม่..... ปางดุเสียด้วย ล้อมด้วยคริสตัลแวววาวองค์บะเร่อ กะโชว์เต็มที่ว่า ฉันแน่ ฉันขาใหญ่ มีพระแม่.....ปางดุอยู่กับตัว สร้อยฟ้ามาลาเลยบอกว่า ขอจอดซื้อของแป๊ปเดียวเอง เจ๊ ก็ตะโกนบอกว่า ถ้ายอมให้จอดเดี๋ยวคันอื่นก็มาจอดต่ออีก แล้วไล่ให้ไปจอดในซอย สร้อยฟ้ามาลาเลยถามว่า จะให้จอดตรงไหนหล่ะ แต่เมื่อ เจ๊ หันมามอง คุณครูอำนวยกรณ์กับคุณหญิงพี่พิชญ์ เจ๊ แก ถอยฉากกลับร้านไปเลยซึ่งขณะนั้นเจ๊แกก็อีกมือหนึ่งคุยโทรศัพท์อยู่ด้วยนะ อืม... สงสัยเจอของจริงแฮะ คิก คิก สร้อยฟ้ามาลาก็เลยจอดหน้าร้าน เจ๊ นั่นแหล่ะ แต่จอดไม่นาน เมื่อสองคนที่ไปซื้อเฉาก๋วยกลับมาที่รถ พอออกรถสร้อยฟ้ามาลาก็มองไปที่ เจ๊ อีกแต่ไม่ได้มองหาเรื่องนะ แล้วก็คุยกับคนในรถว่า แปลกดี แล้วตรงที่จอดก็ถนนหลวงนี่หน่า สงสัยอยากเป็นเจ้าถนน............



    ...........................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8096_1.jpg
      IMG_8096_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      102.8 KB
      เปิดดู:
      3,335
    • IMG_8097_1.jpg
      IMG_8097_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      102.4 KB
      เปิดดู:
      3,103
    • IMG_8098_1.jpg
      IMG_8098_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94.9 KB
      เปิดดู:
      2,827
    • IMG_8099_1.jpg
      IMG_8099_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79 KB
      เปิดดู:
      2,821
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2013
  7. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    พออกจากวัดบรมราชากาญจนภิเษกอนุสรณ์แล้ว ก็เป็นเวลาเกือบจะบ่ายโมงได้แล้วมั้ง หิวแล้วสิ ก็คุยกันว่าจะทานอะไรในมื้อกลางวันดี ก็ตกลงกันได้ว่า ก๋วยเตี๋ยว ก็เลยแวะทานกันตรงแถวๆ บางบัวทองนั่นแหล่ะ

    [​IMG]
    เฉาก๋วย ต้นเหตุ

    [​IMG]
    ลูกชิ้นย่าง ในร้านก๋วยเตี๋ยว
    จะถ่ายรูปก๋วยเตี๋ยวมาให้ดู แต่คุณครูอำนวยกรณ์บอกว่าอย่าถ่ายเลยอายเขา.....ก็เลยไม่ถ่าย

    ......................

    พอทานกันพออิ่มแล้ว พวกเราก็มุ่งหน้าสู่ทางถนนเส้นบางกรวย - ไทรน้อย ท่าน้ำนนทบุรี แล้วพวกเราก็มาถึงวัดพร้อมกับหมู่เมฆฝนมหึมา



    แต่วันนี้เมื่อยแล้ว ขอหยุดพักการ โม้ ก่อน ให้ทายกันไปก่อนว่า วัดที่สองคือวัดอะไร เดี๋ยวพรุ่งนี้มา โม้ ต่อ นะจ๊ะ............




    ........................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8211_1.jpg
      IMG_8211_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      63.8 KB
      เปิดดู:
      3,361
    • IMG_8214_1.jpg
      IMG_8214_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      105 KB
      เปิดดู:
      3,019
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2013
  8. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
    วัดสวนแก้วแน่เลย แฮะๆๆ แล้วก็ไปวัดกู้ (แม่นบ่)
    าธุ สาธุ ขอโมทนา
    อิทัง ปุญญพลัง อิมินา ปุญญะกัมเมนะ

    ด้วยเดชะบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วด้วยดี ตั้งแต่ปฐมชาติ อดีตชาติ ปัจจุบันวันนี้ ข้าพเจ้าขอตั้งจิตกุศลนี้เป็น มหาธรรมทาน เพื่ออบรมหนทางความดับ ไม่มีเหลือเชื้อแห่งอาวสะกิเลสตน แด่ผู้ใฝ่ในธรรม และผู้เคารพเลื่อมใสองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    <O:p</O:p
    ขอส่งผลบุญกุศล อันเกิดจากการนี้ อุทิศให้ ครูอุปัชฌาย์อาจารย์สืบๆ ต่อกันมา พ่อเกิดแม่เกิด ผู้มีคุณผู้สูงชาติ ผู้สงเคราะห์โลกพิทักษ์ธรรม ตลอดจน เจ้าบุญนายคุณ เจ้าบ่าวนายใช้ เจ้ากรรมนายเวร เจ้าเกณฑ์ชะตา เจ้าการบัญชี ทั้งหลายในทุกภพทุกชาติ ที่ข้าพเจ้าได้เคยสบประมาทล่วงเกิน และมีสัมพันธ์เกี่ยวข้อง ขอจงได้รับขมากรรม และอโหสิกรรมอนุโมทนาบุญให้แก่ข้าพเจ้า และกรรมอันใดที่ท่านทั้งหลายได้ทำไว้กับข้าพเจ้าทุกภพทุกชาตินั้น ข้าพเจ้าขอปวารณาให้เป็นอโหสิกรรมเช่นกัน พร้อมนี้ขอให้ท่านทั้งหลายพึงปราศจากทุกข์และมีสุข เกิดปัญญาญาณยิ่งๆ ขึ้นไป เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าได้รับ กาลบัดเดี่ยวนี้ด้วยเทอญ
    <O:p</O:p
    สาธุ สาธุ สาธุ นะ โม พุท ธา ยะ นิพพานัง ปะระมัง สุขขัง
     
  9. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,673
    ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ
    สวยงามมาก

    ร่วมโมทนาทั้งหมดทั้งมวลค่ะ ^^
     
  10. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    มาแล้ว...กระทู้พาเที่ยวของคุณสร้อย เพื่อนๆมารออ่านและชมภาพตรึมเลย
    อย่านอนดึกมากนะคะ เดี๋ยวพักผ่อนไม่พอ ไม่ได้มาเขียนกระทู้ รออ่านค่ะ
     
  11. walaphako

    walaphako ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +1,599
    โห..ไปเที่ยวไม่ชวนเลย อิอิ
     
  12. PhraEkk

    PhraEkk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2008
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +233
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    ขออนุโมทนาสาธุครับ...คุณสร้อยฟ้ามาลา ขอขอบคุณในน้ำใจไมตรี นำสิ่งดีๆที่เป็นประโยชน์มาฝากให้ทุกท่านได้อ่าน ได้รับความรู้ดี...ครับ อย่าลืมนำตอนที่สองมาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟังอีก...นะครับ
     
  13. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    แหมนะจ๊ะ...อนุโมทนาบุญด้วยจ๊ะ ต้องขอประทานโทษด้วย เผอิญวันที่มานั้นมิได้มีการนัดหมายกันเลย อิฉันก็ไปทอดกฐินอีกวัดหนึ่ง เลยมิได้ลองลิ้มชิมรสไข่เจียวของอิฉันกันเลย ต้องขอโทษคุณครูติ๋ง น้องสร้อยฯ น้องแมงปอแก้ว และ คุณพิชญ์ที่รัก ด้วยนะจ๊ะ หวังว่าคงมีโอกาสได้ชิมไข่เจียวฝีมืออิฉันในโอกาสหน้านะจ๊ะ....^___^

    (ใครหนอ ใส่เสื้อสีแดงลายดอกสีขาว....แค่เห็นเสื้อก็รู้แล้วว่าชอบสีแดง...คิดว่าต้องเป็นสาวสวยแน่เลย)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2009
  14. พิชญ์

    พิชญ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    760
    ค่าพลัง:
    +3,392

    แหม๋เจ๊สา....อยู่ตั้งแอตแลนต้า... ถ้าชวนแล้วจะมาอ๊ะเป่าหล่ะ...(k)

    รีบกลับมาไว ๆ ซิจ๊ะ คิดถึง... มีทริปแหกประตูทะลุมิติ กะว่าจะจัดเพื่อเจ๊โดยเฉพาะเลยนะเนี่ย...รีบมานะ..catt7
     
  15. อำนวยกรณ์

    อำนวยกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +1,931
    ของมันกลัวกันได้จ้า..นู๋ .. สร้อยฟ้าฯ ยังไม่มีตัวตนเลย ..
    คราวหน้าคราวหลังก้อย่ามาแอบเล่านะ .. อายเค้าจะ
     
  16. pucca2101

    pucca2101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    5,805
    ค่าพลัง:
    +20,896
    ภาพสวยมากเลยจ้ะพี่สร้อย ฝีมือไม่มีตกเลย ^___^
     
  17. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    ขอขอบคุณเพื่อนสนิทมิตรสหายที่เข้ามาชมมาอ่านจ่ะ
    แต่คุณลุงชาลี ทายผิดไปท้งสองวัดเลย...อิ อิ

    ขอบคุณคุณน้ำใส ที่เข้ามาติชมจ่ะ
    ขอบคุณพี่แอ๊ด ที่มาให้กำลังใจทุกครั้งทุกกระทู้
    ขอบคุณคุณหญิงจัน ที่ติดตามอ่านจ่ะ
    ขอบคุณพี่สา แต่อยู่กันตั้งค่อนโลกจะชวนกันยังงัยอ่ะ
    ขอบคุณคุณพี่พระเอก ที่ติดตามเข้ามาอ่านจ่ะ
    ขอบคุณพี่อ้อจ้า แหม เห็นแค่เสื้อก็ยงอุตส่าห์จำได้ว่าใครเป็นใคร ^^
    ขอบคุณคำชมของหนูปุ๊กนะ

    พี่ติ๋งจ๋า ก็เค้าเล่านิดส์เดียวเอง มีรูปถ่ายแม่ทัพนกพิราบด้วยหล่ะ เท่ห์มากเลย อยากดูป่ะ

    ยังไม่ได้ โม้ ถึงพี่พิชญ์เลยแฮะ นึกไม่ออกว่าจะโม้เรื่องอะไร เพราะคุณพี่ท่านวันนั้นอายกล้อง(เหมือนเค้า)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2009
  18. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271
    ทำเป็นกั๊ก ไม่ยอมเฉลยนะจ๊ะ (รู้น่าว่ายังเขียนไม่เสร็จล่ะสิ อิอิอิ) อยากกินลูกชิ้นง่ะ

    [​IMG]
     
  19. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    และแล้วคณะของพวกเราก็มาถึงวัด วัดแห่งนี้อยู่ใกล้ๆ กับท่าน้ำนนท์ เป็นวัดใหญ่เอาการ คุณครูอำนวยกรณ์และคุณพี่พิชญ์บอกว่า ต้องรีบมาให้ถึงเร็วๆ เพราะกลัวเข้าฉากถ่ายละครไม่ทัน ครูอำนวยกรณ์บอกว่า จะไปเป็นนางพันธุรัตน์ แต่สร้อยฟ้ามาลว่าคิดว่า คุณครูน่าจะเป็นแม่ของนางเอกได้นะ....

    พูดมาขยายความอีกนิดคิดว่าหลายคนคงเริ่มเดาถูกว่าคือวัดอะไร นั่นคือ วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร มาอ่านประวัติความเป็นมาของวัดกัน



    วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร


    [​IMG]

    เป็นพระอารามหลวงชั้นโทชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศตะวันตก (ฝั่งขวา) ที่ตำบลบางศรีเมือง อำเภอเมืองนนทบุรี เยื้องศาลากลางจังหวัดไปทางทิศเหนือประมาณ ๑ กิโลเมตรเศษ มีเนื้อที่ประมาณ ๒๔ ไร่ ๗ งาน ๒๒ ตารางวา แบ่งออกเป็น ๓ เขต คือ เขตพุทธาวาส เขตสังฆาวาส และเขตนอกกำแพงใหญ่สาเหตุที่มีลักษณะเป็นกำแพงเมืองโบราณ ก็เพราะว่าเดิมคือ ป้อมเก่าริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา


    [​IMG]


    วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร เป็นพระอารามหลวง ที่มีความสำคัญ คู่บ้านคู่เมือง มาร่วม ๑๓๕ ปีแล้ว พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ โปรดให้ทำการสร้างขึ้น ด้วยทรงมีพระราชดำริว่า บริเวณป้อมเก่า (ป้อมทับทิมสมัยกรุงศรีอยุธยา) ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่ง แม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ใต้วัดตลาดขวัญ

    [​IMG]


    เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๙๐ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ขึ้นครองราชสมบัติเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๗ ได้สถาปนาสมเด็จพระราชชนนี แห่งพระองค์ท่านขึ้นเป็น "กรมสมเด็จพระศรีสุลาลัย" ต่อมาทรงมีพระราชดำริว่า บริเวณป้อมทับทิมเก่าฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านตะวันตกนั้น เป็นนิวาสสถานเดิมแห่งอัยกาพระอัยกี ทั้งเป็นสถานที่ประสูติของกรมสมเด็จพระศรีสุลาลัยพระราชชนนี จึงสมควรสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวงขึ้นสักแห่งหนึ่ง จึงโปรดเกล้า ฯ ให้สมเด็จพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) เป็นแม่กองสร้างวัดขึ้นบริเวณนั้น และโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างกำแพงเมือง และป้อมปราการก่ออิฐถือปูนรอบวัด มีใบเสมาทำนองเดียวกับกำแพงพระบรมมหาราชวัง พระราชทานนามว่า "วัดเฉลิมพระเกียรติ"


    [​IMG]


    การสร้างวัดเฉลิมพระเกียรตินี้ได้อนุรักษ์รูปแบบเดิมเอาไว้ แม้สิ่งก่อสร้างที่ร่วมสมัยนั้น ก็ได้สร้างให้กลมกลืนกับสถาปัตยกรรมเดิม จึงทำให้วัดเฉลิมพระเกียรติได้รัยรางวัล
    "อาคารอนุรักษ์ดีเด่น ประจำปี พ.ศ. ๒๕๓๖ จากสมาคมสถาปนิกสยาม"

    [​IMG]

    พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จไปทรงก่อพระฤกษ์พระอุโบสถ เมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๓๙๐


    [​IMG]


    วันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๓๙๓ โปรดเกล้าให้อาราธนา พระประชาเฉลิม (เกษ) กับพระฐานานุกรมวัดอรุณราชวราราม ลงเรือแห่ไปจำพรรษา ณ วัดเฉลิมพระเกียรติ ในวันต่อมาโปรดเกล้า ฯ บำเพ็ญพระราชกุศลพระสงฆ์ขึ้นกุฏิใหม่ที่ทรงสร้างจำนวน ๕๓ หลัง


    พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคตเสียก่อนที่การก่อสร้างจะแล้วเสร็จ แต่เมื่อทรงพระประชวนก็ห่วงการก่อสร้าง จึงได้มีพระดำรัสขอเงินจากท้องพระคลังจากพระเจ้าอยู่หัวองค์ต่อไป ๑ หมื่นชั่ง เพื่อนำมาสร้างวัดให้แล้วเสร็จ



    [​IMG]


    พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ได้ทรงสร้างวัดเฉลิมพระเกียรติจนแล้วเสร็จตามพระราชประสงค์ของรัชกาลที่ ๓ และยังโปรดให้ปิดทองพระประธานในพระอุโบสถ ไปพระราชทานพระกฐิน โปรดให้แห่พระบรมธาตุขึ้นไปบรรจุไว้ในเจดีย์ และให้แห่พระศิลา ๓ องค์ จากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ไปประดิษฐานในพระอุโบสถวัดเฉลิมพระเกียรติ


    [​IMG]


    ในรัชสมัยของรัชกาลที่ ๕ โปรดให้อาราธนาพระปรีชาเฉลิม (แก้ว) ไปเป็นเจ้าอาวาสวัด แต่ในตอนนั้น (พ.ศ. ๒๔๓๑) กุฏิสงฆ์ทรุดโทรมมากจนเจ้าอาวาสต้องพักอยู่ในพระอุโบสถ จึงพระราชทานเงิน ๑๑๕ ชั่ง เพื่อสร้างกุฏิใหม่สำหรับพระสงฆ์ และได้จัดตั้งโรงเรียนธรรมและบาลีขึ้นในยุคนี้

    [​IMG]


    ในรัชกาลปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงบริจาคทรัพย์ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์วัด และเมื่อวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐๔ พระบาทสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ได้นำเสด็จเจ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งเคนท์ เสด็จพระราชดำเนินลอยพระประทีป ณ วัดเฉลิมพระเกียรติ


    .....................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8276_1.jpg
      IMG_8276_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      90.4 KB
      เปิดดู:
      4,272
    • IMG_8291_1.jpg
      IMG_8291_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      110.8 KB
      เปิดดู:
      3,285
    • IMG_8219_1.jpg
      IMG_8219_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.7 KB
      เปิดดู:
      3,555
    • IMG_8223_1.jpg
      IMG_8223_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.5 KB
      เปิดดู:
      3,927
    • IMG_8239_1.jpg
      IMG_8239_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      89.7 KB
      เปิดดู:
      3,671
    • IMG_8229_1.jpg
      IMG_8229_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      89.4 KB
      เปิดดู:
      3,391
    • IMG_8268_1.jpg
      IMG_8268_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      88.9 KB
      เปิดดู:
      3,432
    • IMG_8266_1.jpg
      IMG_8266_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.9 KB
      เปิดดู:
      3,844
    • IMG_8243_1.jpg
      IMG_8243_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94.9 KB
      เปิดดู:
      3,565
    • IMG_8278_1.jpg
      IMG_8278_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      88.2 KB
      เปิดดู:
      4,187
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2013
  20. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,933
    ค่าพลัง:
    +43,536
    สถาปัตยกรรมต่างๆ ภายในวัด

    [​IMG]

    หากเข้าทางประตูหลังวัด เมื่อจอดรถแล้วจะมองเห็น "มอ" หรือน่าเรียกว่าภูเขาหิน ที่สร้างขึ้นให้เหมือนเขา มีต้นไม้ มีน้ำตก มีถ้ำลอด กล่าวว่าเป็น "มอ" ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเลยทีเดียว อยู่ทางด้านซ้าย

    พระบรมธาตุเจดีย์ ด้านหลังพระอุโบสถ



    [​IMG]
    พระอุโบสถ


    [​IMG]
    ลวดลายบนบานประตูพระอุโบสถ


    [​IMG]
    พระพุทธมหาโลกาภินันทปฏิมา

    พระอุโบสถ เป็นสถาปัตยกรรมไทยปนจีนตามแแบพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ ๓ ตัวอาคารก่ออิฐถือปูนหลังคามุงกระเบื้องรางดินเผาชนิดกาบกล้วยไม่เคลือบสี ถือปูนทับแนวทำเป็นลอนลูกฟูกแบบเก๋งจีน หน้าบันประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีสลับลายลวดลายใบดอกพุดตาล กระจังฐานพระ ช่อฟ้า ใบระกา ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีสลับลายจากประเทศจีนเช่นเดียวกัน ผนังด้านใน เขียนสีลายพุ่มข้าวบิณฑ์ก้านแยกมีช่อดอกพุดตาลภายใน เพดานฉลุปิดทอง ซุ้มประตูหน้าต่างประดับลายปูนปั้นรูปดอกพุดตาลพื้นประดับกระจก บานประตูหน้าต่างด้านในเป็นภาพเขียนสีฝุ่นลายกอบัวและสัตว์ประเภทปลาและนก ด้านนอกเขียนลายรดน้ำภาพตราแผ่นดิน พระจันทร์เต็มดวง เครื่องยศและโกฐิ ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยซึ่งหล่อด้วยทองแดงทั้งองค์ (ปัจจุบันปิดทอง) พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถวายพระนามว่า "พระพุทธมหาโลกาภินันทปฏิมา"


    [​IMG]
    พระวิหาร


    [​IMG]
    พระศิลาขาว

    พระวิหาร มักเรียกกันว่า พระวิหารศิลาขาว อยู่ด้านทิศใต้ของพระอุโบสถ ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบเดียวกับพระอุโบสถผนังภายในเขียนสีลายดอกไม้ร่วงสีฉูดฉาดบาดตา บานประตูหน้าต่างด้านในมีลวดลายเช่นเดียวกับพระอุโบสถ ด้านนอกเป็นลายกำมะลอ เขียนสีแกมทอง ภายในพระวิหารนี้ มีบุษบกไม้สักลงรักปิดทองประดับกระจกลวดลายวิจิตรอ่อนช้อยองค์พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่บนบุษบกไม้สัก ลงรักปิดทอง ประดับกระจก มีลวดลายวิจิตรอ่อนช้อยสวยวามมาก ซี่งเป็นที่ประดิษฐาน "พระศิลาขาว" ประธานพระวิหาร พร้อมอัครสาวก

    พระเจดีย์ อยู่ด้านทิศตะวันตกของพระอุโบสถ เป็นเจดีย์ทรงกลม หรือทรงระฆัง มักเรียกกันว่า ทรงลังกา เนื่องจากได้รับแบบอย่างมากจากลังกา พร้อมกับการแพร่เจ้ามาของพระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ มีฐานแปดเหลี่ยมสองชั้นสูง ๔๕ เหมตร ภายในบรรจะพระบรมธาตุ


    [​IMG]
    การเปรียญหลวง


    [​IMG]
    ลวดลายประตูวิหารการเปรียญ

    [​IMG]
    พระปฏิมาชัยวัฒน์

    การเปรียญหลวง อยู่ด้านทิศเหนือของพระอุโบสถติดเขตสังฆวาส เป็นอาคารผสมผสานระหว่าอาคารทรงไทยกับเครื่องบนหลังคาแบบจีน ลักษณะเป็นตึกทรงโรงมีเสาอยู่ข้างในประธานสถาปัตย์ภายนอกแบบเดียวกับพระอุโบสถ ผนังภายในเขียนสีลายดอกไม้ร่วงรูปช่อพุดตาล สีอ่อนลุมุนนุ่มนวลอ่อนหวานสบายตา บานประตูหน้าต่างด้านในแบบเดียวกับพระอุโบสถ ด้านนอกเป็นลายกำมะลอไม้ดัดเขียนสีแกมทอง ภายในประดิษฐาน "พระปฏิมาชัยวัฒน์" ซึทหาชมได้ยากพร้อมด้วยคู่อัครสาวกที่ทรงฤทธานุภาพ

    [​IMG]
    ส่วนหนึ่งของป้อมปราการ

    กำแพงและป้อมปราการ เป็นกำแพงก่ออิฐถือปูน มีใบเสมาเหมือนกับกำแพงพระบรมมหาราชวัง มีป้อมปราการทั้งสี่มุมมีความสำคัญคือเป็นสถานที่พักกองทัพจัดกระบวนทัพ และประกอบพิธีกรรมในการยกทัพไปทางเหนือหลายครั้ง ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก เท่าที่พบหลักฐานมี ๔ ครั้ง คือ
    ๑. พ.ศ.๒๓๙๕ กรมหลวงวงศาธิราช ยกทัพไปตีเมืองเชียงตุง
    ๒. พ.ศ.๒๔๑๘ เจ้าพระยา๓ธราภัย(นุช บุณยรัตนพันธุ์) ยกทัพไปปราบฮ่อ
    ๓. พ.ศ.๒๔๒๘ เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี(เจิม แสงชูโต) ยกทัพไปปราบฮ่อ
    ๔. พ.ศ.๒๔๓๐ เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ยกทัพไปปราบฮ่ออีกครั้ง

    กุฏิไทย อยู่ทางด้านทิศเหนือเขตพุทธาวาสจำนวน ๑๖ หลัง ซึ่งสร้างและจัดแผนผังอย่างมีระเบียบ เป็นเรือนไทยภาคกลางทรงมะลิลาใต้ถุนสูง มีความสวยงามบ่งบอกถึงความเป็นศิลปะแบบไทยๆ สง่างามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของวัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร


    ..............................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8233_1.jpg
      IMG_8233_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      105.7 KB
      เปิดดู:
      3,224
    • IMG_8247_1.jpg
      IMG_8247_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      106.2 KB
      เปิดดู:
      8,449
    • IMG_8259_1.jpg
      IMG_8259_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      101.8 KB
      เปิดดู:
      4,066
    • IMG_8299_1.jpg
      IMG_8299_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      106 KB
      เปิดดู:
      3,104
    • IMG_8304_1.jpg
      IMG_8304_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      121.4 KB
      เปิดดู:
      3,269
    • IMG_8245_1.jpg
      IMG_8245_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      104.2 KB
      เปิดดู:
      3,103
    • IMG_8322_1.jpg
      IMG_8322_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      110.5 KB
      เปิดดู:
      3,371
    • IMG_8307_1.jpg
      IMG_8307_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.4 KB
      เปิดดู:
      3,100
    • IMG_8347_1.jpg
      IMG_8347_1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      104.3 KB
      เปิดดู:
      2,962
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...