สร้างพระแก้วใหญ่หรือเล็กแค่ไหนก็ได้ (ต้นทุนถูกที่สุดในโลก)

รูปร่างเบ้าหลอมแก้วที่ช่างหลอมแก้วในไทยนิยม แต่มักเป็นเบ้าหลอมของแก้วโซดาไลม์ซิลิก้า ไม่ใช่แก้วคริสตัล

เบ้ารูปร่างเดียวกันนี้ แต่ปากเบ้าเป็นรูปคล้ายสี่เหลี่ยมคางหมูจะเป็นเบ้าสำหรับหลอมแก้วคริสตัล เนื่องจากน้ำแก้วคริสตัลมีส่วนผสมของตะกั่วมากถึง >30% PbO ดังนั้น เนื้อของเบ้าจะต้องดีกว่าเบ้าหลอมโซดาไลม์ซิลิก้าธรรมดาๆ

 

ปากเบ้ามักเป็นรูปร่างอย่างนี้ครับสำหรับน้ำแก้วคริสตัล

แต่ในภาพนี้เขาใช้เบ้าแบบกาลามังนะครับ ซึ่งจะตรงกับของโรงงานแก้วโลตัสคริสตัล ระยอง เอาไว้ค่อยมาอธิบายภายหลังครับ เพียงแต่มาให้เห็นก่อนครับว่า ผมด่วนสรุป ไปตัดปัจจัยปูนปลาสเตอร์ยี่ห้อนั้นออกไป อาจทำให้ก้อนแก้วจากจีนได้รับเครดิตน้อยลงโดยที่อาจจะดีก็ได้

 

ภาพขณะที่ช่างเตาหลอมแก้วของ Lalique กำลังเปลี่ยนเบ้าหลอมแก้วคริสตัลของเขาในฝรั่งเศส




วิธีการปั้นเบ้าหลอมแก้วของฝรั่งเศส เป็นเบ้าแบบปิดถึงหลังคาเบ้านะครับ ซึ่งบางค่ายในญี่ปุ่นหรือในไทยอาจชอบเบ้าเปิดหลังคา หรือ เบ้ารูปร่างกาละมัง มากกว่า

ซึ่งผมคิดว่าดินทำเบ้านี้ ในไทยสามารถหามาทำได้ครับ ไม่ยากนัก

 

บริษัทผู้ผลิตเบ้าหลอมแก้วและอื่นๆของจีนรายหนึ่ง

Deqing Sanming Crucible Ltd. Co.,
Tel：0572-8264322
Fax：0572-8264528
Code：313220
Website：www.dqjmgg.com
Address：No.1, Nanyangxi Rd., Zhongguan Town, Deqing Country, Zhejiang, China
E-mail：info@dqjmgg.com
Tax Code：33052106923952X
Beneficiary bank：德清农商银行钟管支行
Account number：201000108095752

 

ภาพบนที่ช่างปั้นเบ้าหลอมแก้วคริสตัล ชนิดรูปเบ้ากาละมัง ภาพขวาล่างขณะที่เบ้ากาละมังเข้าไปอยู่ในเตาหลอมแก้ว

เบ้าชนิดนี้โรงงานแก้วคริสตัลในไทยนิยมใช้ ความจุ 600 kg แต่เวลาหลอมจริงมักหลอมแค่ 500 kg

 

เบ้ากาละมังขนาดทดลอง

Glass melting pot,Ø ca. 150 mm,height ca. 200 mm

€43.00* · มีสินค้า
supply for glass fusing,glass working,glass art, glass melting pot, diameter: ca. 150 mm, height: ca. 200 mm Item.No.: 3562250

GLASINSEL®
Inh. Carmen Harusta
Bürgerstr. 6
37073 Göttingen
Germany

phone +49(0)551 - 7701719
www.glasinsel.com
e-Mail: glasinsel@t-online.de

 

พอดีเปิดกูเกิ้ลพบวิธีการหล่อ Lost Wax Glass ด้วยคำอธิบายขั้นตอนเพียงไม่กี่ขั้นตอน ง่ายๆ แบบนี้จริงๆ แล้วก็ได้ชิ้นงานออกมาดังในภาพล่างสุด ซึ่งภาพนั้นเขาให้เห็นเลยว่า ฐานด้านล่างของเขาก็คือส่วนที่ตอนหลอมอยู่บนสุด เราเรียกวิธีนี้ว่า up side down ซึ่งใช้ในงานหล่อทั่วๆไปครับ

alissa volchkova forms irregular crystal glasses for alcova at milan design week

franco-russian designer and artist, alissa volchkova, has formed the ‘back to origins’ glassware series for the alcova exhibition at 2019’s milan design week. the project intends to act as a tribute to the stone age – when human identity, social progress and behavioural modernity developed alongside the first man-made tools. the resulting collection of crystal glasses also aims to defy traditional notions of beauty such as perfection, regularity and symmetry.

models are carved out of wax using a ceramic knife

all images courtesy of alissa volchkova

volchkova has utilized crystal in a paradoxical, irregular and imperfect way. by using this approach, the project aims to challenge our perception of this precious material by bringing it back to its raw natural state. to form the objects, simple, primitive techniques have been employed. to emulate the instinctive gestures used during the stone age, the designer has used a ceramic knife to carve, break and cut into the form, without thinking about the final shape of the objects.

breaking the bits of crystal to arrange the colors and prepare them for the melting process

the process employed by volchkova results in matt, rough and irregular crystal glasses – in direct contrast to the transparent, shiny and symmetrical objects that are more typically found. the raw texture of the glass is finalized by the kiln firing process, that, due to its unpredictability, ensures a final result that can never be controlled. the ‘back to origins’ series can be discovered at the alcova exhibition at milan design week 2019 from april 9th to the 14th.

moulds of the wax models are ready for firing (on top the bits of broken crystal are arranged in pots)

close-up view of the broken crystal

an excess of melted glass oozes out after the firing process

breaking the moulds

the mould is chipped away

the final shape of the crystal glass is revealed
the finished crystal glasses

https://www.designboom.com/design/a...cova-exhibition-milan-design-week-04-09-2019/

 

การหล่อแก้วกลวงนั้น เราสามารถกำหนดความหนาของชิ้นงานได้ด้วยตนเอง อย่างในรูปนี้ เขาใช้ความหนาได้ดีจริงๆครับ น่าจะเหลือแค่ 1 cm. ซึ่งหนาแค่นี้ถือว่า บางมากเมื่อเทียบกับขนาดคือคนจริงๆ คนที่สูงถึง 170 - 180 cm. แต่ในเมื่อเขาทำออกมาแล้ว ชิ้นงานเขานำออกแสดงให้ประชาชนได้ดูมาหลายครั้งหลายหน มีการเคลื่อนย้ายครั้งแล้วครั้งเล่า และไม่เกิดความเสียหายขึ้นเลย ผมว่า อาจจะถือว่า มาตราฐานความหนาในคนจริงประมาณ 1 cm. หรือบางส่วนอาจจะหนากว่าเล็กน้อย เช่นส่วนที่รับน้ำหนักด้านล่าง อาจจะค่อยๆหนาขึ้นบ้าง อาจถึง 2 cm. ก็ไม่เป็นไร ยังอบง่ายมากๆครับ ทำให้ประหยัดน้ำหนักแก้วลงเหลือไม่ถึง 100 kg. ก็อาจเป็นไปได้ครับ

 

ชิ้นงานแก้วหล่อด้วยแก้วคริสตัลเนื้อตันๆสูง 50 cm. ของศิลปินเดวิด วิลเลี่ยม เขานิยมสร้างงานแก้วความสูงประมาณนี้ ถ้าแบบนี้จะสร้างตันๆก็ดีไปอีกแบบ เพราะถ้าชิ้นงานขนาดนี้ไม่หนักมากครับ ประมาณ 11 kg.


ศิลปินท่านเดียวกัน ความสูง 44 cm. น้ำหนักยังคงสิบโลต้นๆ ซึ่งถ้างานลักษณะน้ำหนักสิบโล ทำตัน ถ้าเราหันมาใช้แก้วจีนกิโลละ 5 หยวน ต้นทุนเฉพาะน้ำหนักแก้วก็แค่ 300.- บาท หรือต่อให้ใช้ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อของ Gaffer กิโลกรัมละ 500.- บาท สิบโลก็เพิ่งจะ 5,000.- บาท แต่เขาขายได้เป็นแสนหรือบางชิ้นหลายแสนบาท ผมว่าก็น่าจะใช้ Gaffer

ส่วนพระแก้วที่เราต้องการสร้างให้ทั่วไทยทั่วโลก เราไม่ได้ขายใคร ต้นทุนถูกหน่อยก็ดี สมมุติว่าแก้วจีนมีฟองอากาศนิดนึงไม่เป็นไร องค์นึงอย่างรูปประมาณนี้ สูงประมาณนี้ เฉพาะน้ำหนักแก้ว 200 - 300 บาท ผมว่าถูกกว่าเรซิ่นเสียอีก โดยเฉพาะถ้าเรารวมตัวกันไปซื้อก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อจากจีน หากซื้อเกินสิบตัน เผลอๆกิโลกรัมละ 2.5 หยวน ประมาณกิโลกรัมละ 10 บาท องค์ขนาดนี้น้ำหนักแก้วเหลือแค่ 100 บาทเท่านั้น ถูกกว่าใช้ปูนซีเมนต์ด้วยซ้ำไปครับ

 

วิธีสร้างชิ้นงานขนาดเท่าคนจริง ถ้าใช้คนต้นแบบก็ง่ายเลยครับ แต่ถ้าปั้นจะมีค่าปั้นที่ในเมืองไทยอาจมีราคาค่าปั้นไม่เท่ากัน บางท่านปั้นฟรีก็มี ทำเพื่อเป็นงานบุญงานกุศล แต่ถ้าเป็นนายช่างปั้นเก่งๆส่วนมาก ค่าตัวสูงมาก

 

ต้องใช้เครื่องมือช่วยค้ำให้คนนิ่งไว้ก่อน

 

ท่านอนง่ายสุด

 

เมืองนอกนิยมการทำปฏิมากรรมแบบนี้ แต่คนไทยหรือคนเอเซียอาจนิยมพระพุทธรูป โดยเฉพาะใช้แก้วที่ขณะนี้เขาทำมาเป็นก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อจากหลายประเทศ จากจีนขายปลีกครั้งละ 300 kg กิโลละ 5 หยวน แต่ถ้าซื้อครั้งละหลายๆตัน กิโลละอาจจะแค่ 2 หยวน (ราคานี้ยังคงขายกันในปี พ.ศ. 2562 คนไทยเพิ่งไปซื้อมา 300 kg) ผมไม่แน่ใจว่าจีนจะยืนราคาให้แบบนี้ไปนานแค่ไหน ช่วงนี้ราคาถูกมาก น่าสร้างมากนะครับ ก่อนที่จีนจะขึ้นราคา

Glass: Canova’s Paulina Borghese cast in glass by Giberto Arrivabene, Venice.

งานปฏิมากรรมแก้วขนาดเท่าคนจริงหรือใหญ่กว่าตั้งกลางแจ้ง ถูกแดดถูกฝนได้ ความร้อนจากแสงแดดไม่ระคายผิว

 

วันสองวันนี้ผมจะลองติดต่อปีเตอร์ทางไลน์ดู จะถามเขาถึงเรื่องก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อว่า ที่เขาบอกผมนั้น เขารู้มายังไง หรือเจ้าของโครงการชิ้นงานยืนสูง 60 - 70 cm เป็นคนบอกเขาว่าราคาเท่าไร ? และอย่างไร ?

 

ผมได้ไลน์คุยกับปีเตอร์แล้วเมื่อครู่นี้เอง สรุปว่า เจ้าของโครงการคนที่จะสร้างชิ้นงานยืนสูง 60 - 70 cm. เขาเป็นคนสั่งซื้อจากจีน โรงงานไหนไม่รู้ เพราะบิลมาในชื่อเจ้าของโครงการ ปีเตอร์ไม่ได้เข้าไปรู้เห็นตรงนั้น รู้แต่ว่า เขาซื้อในราคา 5 เหรียญ ผมย้ำว่า 5 หยวนจีน หรือ 5 เหรียญอเมริกา ปีเตอร์บอกว่า เจ้าของบอกว่า 5 เหรียญอเมริกา แต่ถ้าซื้อมากๆ ทางจีนเขาจะลดให้เหลือแค่ 2 เหรียญอเมริกา แต่ต้องเยอะหลายๆตัน

เอาละครับ ตกลงผมฟังไม่ได้ศัพท์ จับเอามากระเดียด ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อจากจีนราคาขายปลีกครั้งละ 300 ก.ก. จะตกกิโลกรัมละ 5 US$ ถ้า US ละ 30 บาท 5 เหรียญก็จะตกกิโลกรัมละ 150 บาท

นอกจากนี้ปีเตอร์ยังบอกผมว่า ช่วงนี้กลับมาเยี่ยมลูกเมียในไทย คาดว่าจะอยู่สัก 4 เดือน ค่อยกลับพม่า เพราะลูกเมียไม่ยอมไปพม่าด้วย ฝั่งพม่าปีเตอร์มีน้องสาวเป็นเจ้าบ้าน ปีเตอร์กลับไปต้องอยู่บ้านน้องสาว กลับมาไทยก็มาอยู่บ้านภรรยากับลูกในไทย

ปีเตอร์บอกว่า ถ้าวัดหรือสำนักสงฆ์ไหน หรือใครจะเปิดโรงงานสร้างพระแก้ว จะเปิดที่ไหนก็ได้ เพราะเครื่องมือก็แค่เตาที่ใหญ่กว่าองค์พระนิดเดียว ถ้าปีเตอร์ยังไม่ตาย ไฟในใจเรื่องนี้ก็ยังมีอยู่ เขาจะมาช่วยแบบว่า ต้องมีค่าใช้จ่ายให้เขา ถูกกว่าสั่งเมืองนอกสร้างองค์ละหลายสิบล้านบาท ปีเตอร์บอกอย่างนั้น

 

เมื่อครู่นี้ผมคุยกับปีเตอร์หลายเรื่อง ปีเตอร์บอกว่าเจ้าของโครงการไม่ให้ปีเตอร์รู้อะไรเกี่ยวกับจีน บอกเพียงแต่ว่า โครงการที่จะให้ปีเตอร์ทดลองหล่อชิ้นงานยืนตอนแรกนั้น ปีเตอร์เสนอให้ลองของ Gaffer แต่เจ้าของงานจะลองแก้วจีน เมื่อทดลองแล้วมันไม่สำเร็จ (ทั้งนี้ผมยังไม่ขอเปิดเผยใดๆเพราะเป็นงานของคนอื่น จะพูดเฉพาะในส่วนที่น่าจะเกี่ยวข้องกับพระแก้วไทยจะมาได้ไงมากกว่า เพราะพระแก้วใหญ่น่าจะเกิดในไทย ไม่ต้องไปซื้อนอก) ที่ไม่สำเร็จนั้น เมื่อครู่ผมกับปีเตอร์สรุปได้ตรงกันว่า น่าจะเกี่ยวกับปูนปลาสเตอร์ทนความร้อนมีส่วนมาก (ผมกับปีเตอร์ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดหรือทางเทคนิคก็จะไม่บอกมากเกินไป) เพราะเจ้าของงานอาจไม่พอใจ

เมื่อครู่ปีเตอร์บอกว่า ความจริงราคาของชิ้นงานสูงองค์ละสองแสนไม่น่าประหยัดไปลดต้นทุนอะไรขนาดนั้น ซึ่งผมเคยเห็นด้วยกับแนวคิดนั้นมาตลอด แต่เมื่อมาคิดว่า หากเราสร้างพระแก้วในไทยจำนวนมากจริงๆ ผมก็เพิ่งมากลับลำไม่กี่วันมานี้เอง ถ้าเราใช้แก้วมากจริง เงินที่ต่างกันไม่กี่ร้อยบาทต่อกิโลก็จริง เมื่อเป็นพันเป็นหมื่นกิโลก็มากอยู่ครับ อย่างไรก็ดี ความสำเร็จทางฝรั่งเขาย่อมมีเปอร์เซ็นต์สูงกว่า

 

เอาไว้ผมจะลองหาข้อมูลจากทางจีน ให้รู้กันไปเลยว่า จีนจะพอสู้ฝรั่งได้บ้างไหมในเรื่องก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อ

 

แต่ถ้าท่านใดไม่อยากรอ อยากสร้างเลย ก็บอกได้เลยว่า ตอนนี้เอาของ Gaffer ของนิวซีแลนด์หรือของอเมริกา (Gaffer มีฐานการผลิตก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อทั้งสองประเทศครับ)

ถ้าหล่อองค์ไม่ใหญ่นัก แค่หน้าตักไม่เกิน 9 - 12 นิ้ว ต่อให้หล่อแบบตัน ก็องค์ละแค่สิบกิโลกรัมเศษๆเท่านั้น แต่ถ้าหล่อแบบกลวง จะเหลือแค่ 4 - 5 กิโลต่อองค์ ใช้ของฝรั่งก็แน่นอนกว่า เพราะฝรั่งเขาคงจะทดลองมาหนักมาก อย่างไรก็ดี ถ้าใจเย็นๆรอได้ ผมจะหาข้อมูลมาเร็ววันนี้ครับ