สลด!"พระ"ทั้งวัด ใส่กันน็อก พิษโรงโม่ระเบิดหิน

โอ้โห..!

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=516 align=center border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>ปิดโรงโม่หิน ตกใส่หัวพระ


</TD></TR><TR><TD colSpan=3></TD></TR><TR><TD colSpan=3></TD></TR><TR><TD colSpan=3></TD></TR><TR><TD width=50></TD><TD class=text width=416>

กรณีพระวัดถ้ำยอดทอง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ได้รับความเดือดร้อน จากการระเบิดหินของโรงโม่หิน ที่บริเวณเขาสามง่าม เขตติดต่อกับ ต.ห้วยไผ่ อ.เมืองราชบุรี จนต้องใส่หมวกกันน็อก ป้องกันหินหล่นลงมาใส่ศีรษะ ขณะสวดมนต์ทำวัตร จนสร้างความสลดหดหู่ใจ ให้กับพุทธศาสนิกชนผู้พบเห็นนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเช้าวานนี้ (8 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางติดตาม ความเคลื่อนไหวที่วัดถ้ำยอดทอง พบว่ามีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เจ้าคณะตำบลทุ่งหลวง ตัวแทนของจังหวัดราชบุรี ตำรวจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ผู้นำท้องถิ่นทั้ง อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนทั่วไปพากันเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังมีพระสงฆ์จากวัดต่างๆ จำนวน 30 รูป ไปปักกลดอยู่ด้วย ซึ่งชาวบ้านที่พบเห็นสภาพวัดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สมควรที่พระจะต้องสวมหมวกกันน็อกเพื่อป้องกันศีรษะแตก
พระอธิการวิรัตน์ อินทปัญโญ เจ้าอาวาสวัดถ้ำยอดทอง กล่าวว่า ทางวัดไม่ต้องการอะไรมาก แค่อยากให้ทางโรงโม่หินช่วยลดแรงระเบิดให้เบาลง เพื่อหินจะได้ไม่กระเด็นมาถูกหลังคาวัดและให้ลดเสียงการทำงานลงบ้าง เพราะบางวันมีการระเบิดหินกันทั้งกลางวัน และกลางคืนจนพระไม่ได้จำวัดเลย แต่จะให้ย้ายวัดพ้นพื้นที่คงเป็นไปไม่ได้
ด้าน นายสัญชัย นิติกาญจนา ตัวแทนเจ้าของโรงโม่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการทำข้อตกลงร่วมกับทางวัด และพยายามติดต่อขอให้ทางวัดส่งพระเข้าร่วมประชุมหาข้อสรุปจะได้หาวิธีการช่วยเหลือ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากทางวัด จึงถือว่าทางวัดไม่ต้องการความช่วยเหลือ และทางโรงโม่ก็ไม่อยากรบกับผ้าเหลือง แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย
ส่วน นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ผวจ.ราชบุรี เผยว่า ได้สั่งให้ทางผู้ประกอบการโรงโม่ 4 โรงหยุดระเบิดหินชั่วคราวแล้ว จนกว่าจะดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านต่างๆให้เรียบร้อย เดิมวัดถ้ำยอดทอง เป็นเพียงสำนักสงฆ์ ได้รับอนุญาตให้ยกฐานะเป็นวัด เมื่อปี 2533 มีพระ 5 รูปจำพรรษา ส่วนโรงโม่ที่ได้รับประทานบัตรในปี 2535 เมื่อมีการระเบิดหินนานเข้า ทำให้เขตระเบิดเข้าใกล้เขตวัด จนสะเก็ดหินปลิวมาถูกศาลาการเปรียญของวัด ซึ่งทางโรงโม่ก็เข้ามาดูแลเปลี่ยนหลังคาให้เป็นประจำ เรื่องราวที่เกิดขึ้นญาติโยมเป็นห่วงพระ จึงซื้อหมวกกันน็อกให้ พระสวมใส่ในช่วงทำวัตรที่ตรงกับเวลาระเบิดหินพอดี
นายชนินทร์ ทองธรรมชาติ รองเลขาธิการสำนักงานนโยบาย และแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สผ.และกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีเข้าไปตรวจสอบพื้นที่แล้ว และได้ใช้อำนาจสั่งปิดโรงโม่หินชั่วคราวเพื่อให้ปรับปรุงทำแนวกันชนให้ห่างจากวัด และในวันนี้ (9 ธ.ค.) จังหวัดจะร่วมกับ สผ. และ คพ. ประชุมหารือถึงเรื่องนี้อีกครั้ง เมื่อถามว่า ทำไม สผ.ถึงปล่อยปละละเลย ไม่เข้าไปควบคุมตรวจสอบมาตรการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ของโรงโม่หินแห่งนี้ นายชนินทร์กล่าวว่า สผ.ไม่ได้ละเลย เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่ (กพร.) ก็มีคำสั่งให้โรงโม่แห่งนี้ทำแนวกันชนให้ห่างจากวัด 40 เมตร แต่ทางโรงโม่หินไม่ยอมปฏิบัติตาม ทาง กพร.ก็มีอำนาจลงโทษสั่งหยุดหรือปิดโรงงานได้แต่ไม่ทำกัน
ด้าน นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.กองพุทธศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า กองพุทธศาสนสถานได้แจ้งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดราชบุรี ให้ติดต่อประสานงานสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อขอให้มีการระงับการระเบิดหินบริเวณเขาสามง่ามเป็นการชั่วคราว ก่อนตรวจสอบรายงานความเสียหายของศาสนสถานภายในวัด รวมไปถึงขอ ตรวจสอบแนวเขตการระเบิดหินด้วย จากข้อมูลที่ได้รับทราบว่า วัดถ้ำยอดทองได้รับผลกระทบจากการระเบิดหินอย่างหนัก ดังนั้น อาจจะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแนวเขตสัมปทานกันใหม่ ให้ห่างไกลจากวัดและชุมชนโดยรอบทันที เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
นายศศิน เฉลิมลาม อนุกรรมการสิทธิในทรัพยากรน้ำและแร่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น กสม.ยังไม่ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องให้กองติดตามประเมินผล ทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ว่า บริษัทโรงโม่ดังกล่าว ปฏิบัติตามแผนที่กำหนดไว้ใน อีไอเอหรือไม่ ทั้งนี้ ในภาพรวมจากปัญหาความเดือดร้อนที่ประชาชนทั่วประเทศได้รับจากเหมืองแร่ มีทั้งหมด 35 กรณี เป็นโรงโม่หิน 20 แห่ง ทั้ง 20 แห่งนี้ องค์กรท้องถิ่นไม่มีกลไกให้ชาวบ้านเข้าไปร้องเรียนได้เลย ทั้งหมดร้องเข้ามาที่ กสม.ทั้งสิ้น
ขณะที่ นายสมชัย เพียรสถาพร รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงฯ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า กระทรวงได้สั่งให้ดำเนินการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของวัดถ้ำยอดทองแล้ว คือปัญหาเร่งด่วนได้สั่งให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงไปตรวจสอบตามมาตรฐานอีไอเอแล้ว ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษนำแนวปฏิบัติที่ดี ของผู้ประกอบการโรงโม่บดย่อยหินและเหมืองหิน ซึ่งใช้ได้ผลกับการประกอบการลักษณะนี้ในพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี มาใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติทั่วประเทศต่อไป



</TD></TR></TBODY></TABLE>

ที่มา : thairath.co.th