สวดมนต์แล้วได้อะไร?

​

สวดมนต์แล้วได้อะไร?

โดย...นักบวชปาซาน


ทุกๆครั้ง ที่เหล่านักบวช นักบุญ ผู้มีศีลมีธรรม ท่านได้ตั้งใจไหว้สวดมนต์ด้วยความเคารพ ด้วยความเชื่อ ความเลื่อมใสนั้น จะมีผลดี หรือจะมีอะไรเกิดขึ้นแก่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นอย่างไรบ้าง

พระพุทธเจ้าทรงตรัสอยู่เสมอๆ ในสมัยที่พระองค์ยังมีพระชนน์ชีพอยู่ พระองค์ตรัสไว้ว่า

 

ขอบคุณในข้อความดีๆ

ขอบคุณในข้อความดีๆอ่านแล้วทำให้มีกำลังใจปฏิบัติดีต่อค่ะ

 

สวดไปก็ไม่รู้เรื่องไม่รู้ความหมาย เสียเวลาเปล่า ทำไมไม่นั่งท่องคำสอนของพระพุทธเจ้าที่แปลรู้เรื่องจากพระไตรปิฏกแล้วนำไปปฏิบัติ ไม่ดีกว่าหรือ ถึงจะสวดจนตายก็ไม่หลุดพ้นหรอก ถ้าไม่ปฏิบัติและอานิสงฆ์ของการสวดมนต์ดีที่สุดคือเกิดเป็นปลาทองเท่านั้นนะ นอกนั้นตกนรกหมด

 

แค่คิดก็ผิดแล้วเข้าตำรามือไม่พายเอาเท้าลาน้ำ แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่รู้คำแปล คนที่เขาสวดมนต์ทุกวันใหม่ ๆ อาจจะยังไม่รู้ แต่เมื่อได้ทำบ่อย ๆ เข้าใจก็เกิดศรัทธาก็ต้องค้นคว้าหาคำแปลและความหมายจนได้ ไม่ทำก็อย่าขวางทางคนอื่นเขาแต่ละคนเขามีวิธีทางปฎิบัติไม่เหมือนกัน

 

สวดมนต์แล้วได้อะไร

สาธุ สาธุ สาธุ ผมคนหนึ่งที่เมื่อก่อนไม่รู้คำแปลแต่ก็ได้ขวนขวายหาคำแปลมาสวด กระทั่งปัจจุบัน ได้รับอานิสงฆ์ตามสติกำลังdencee

 

ได้รับความรู้เพิ่มเติมดีขึ้นมาก ๆ ครับ มีสาระอรรถะประโยชน์ยิ่ง

ขออนุโมทนาสาธุการครับ

เมตตาวิหารี

 

ผมก็สวดอยู่ทุกวัน และต่อไปก็คิดว่าจะสวดทำวัตรเช้า - เย็นด้วย คุณรู้ได้ยังไงว่าคนที่สวดมนต์เขาจะไม่รู้ความหมาย กระแสแห่ง พระพุทธะ พระธรรมะ และพระอริยะสังฆะ จะน้อมนำให้เข้าความหมายเองแบบค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ตามกำลังบุญบารมีที่ได้สร้างสมมา ถ้าไม่รู้จริงแล้วก็อย่าติเตียนเลยครับบาปกรรมเปล่า ๆ
การสวดมนต์ทำให้คนที่สวดมนต์น้อมนำคุณพระรัตนะตรัยทั้งมาสู่กาย เพื่อปฏิบัติตามธรรมะที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวพุทธวจนะธรรม ที่ว่า ทำแต่ความดี
ละเว้นความชั่ว ทำจิตให้ผ่องใส

 

ผมสงสัยคับว่า การสวดมนต์นี้หรือที่ทำไห้เราเกิดเป็นปลาทองคับ อยากทราบรายระเอียดเรื่องนี้จัง ว่าเรื่องสวดมนต์แล้วเป็นปลาทองนั้นเรื่องราวเป็นอย่างไร
ท่ามีคนมาเล่าเรื่องนี้ไห้ฟังผมขออนุโมทนาบุญคับ

 

โมทนา สาธุๆ กับท่าน จขกท.ด้วยนะค่ะเป็นบทความที่ดีและได้สาระมากๆๆค่ะ

 

อนุโมทนาด้วยนะครับ
ข่าวดีมาถึงแล้ว!!! คอร์สอบรบเทคนิคการทำงานให้เจริญรุ่งเรืองอย่างน่าอัศจรรย์!
http://palungjit.org/showthread.php?t=180134

 

ผมเคยดวงตก มากๆ ตกงาน ไม่เงิน ภรรยาท้อง ไม่งานอยู่ครึ่งปี มีแต่คนนินทา ญาตพี่น้องไม่นำพานะครับ และได้เริ่มหาที่พึ่งแรกๆก็สวดเพราะเข้าใจว่าเป็นมงคลและอยากหลุดพ้นจากวังวนอุบาทว์ซึ่งผมคิดว่าดวงตกคงเป็นกรรมเก่าที่ไม่ดีชนิดหนึ่ง ได้อ่านคำสอนของพระสงฆ์ผู้ปฎิบัติดีหลายท่านอย่างเช่นหลวงปู่โต และหลวงพ่อจรัญ (กราบนมัสการนะครับ)

สวดได้อยู่สามเดือนชีวิตเปลี่ยนมางานดีเข้ามา ทำงานแล้วมีความสุข ทุกๆคนที่เคยไม่ดีด้วยก็กลับมาเป็นมิตร ทุกวันนี้ครอบครัวมีความสุขมาก ชีวิตสงบสุข สมหวังอย่างน่าประหลาดใจในบางเรื่อง

ผมรู้ว่าหลายท่านคงเคยมีประสบการณ์แบบผม หลายท่านยังไม่เคยลอง เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง ผมเป็นหนึ่งในอีกหลักฐานที่เป็นเครื่องยืนยัน

ขอให้ทุกคนสวดมนต์กันมากๆนะครับ และขอให้โชคดี

อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้และทุกท่านนะครับ

 

พระพุทธเจ้าให้กล่าวธรรม

 

ขอแย้ง

ขอบคุณครับ
คำถามนะครับ
1.ถ้ารู้คำแปลแล้วทำไมต้องสวดไม่พูดหรือท่องคำแปลเลย
2.ถ้ารู้คำแปล แล้วได้นำไปปฏิบัติหรือเปล่า
3.รู้ใหมว่าอานุภาพของการสวดมนต์มันเป็นอันตรายแก่ผูที่อยู่ในภพภูมิต่ำ ๆ
4.แล้วท่านรู้หรือไม่ว่าพวกนี้มีความเกี่ววข้องกับท่านใหมอาจเป็นวิญญาณบรรพบุรุษ ญาติ นายเวร ของท่านก็ได้ แทนที่ท่านจะลดนายเวรลง กลับเพิ่มนายเวรให้อีก
ขออธิบายเพิ่มเติม
คุณของการสวดมนต์คือ สวดแล้วรู้เรื่อง - รู้ความหมาย -
ปฏิบัติได้ถูกต้องตามที่สวดนั้น - และสวดด้วยจิตใจอิ่มเย็นโอบอ้อมอารี
เพราะมนต์ทั้งหมดในพระพุทธศาสนาคือคำสอนแม้จะเป็นคำสรรเสริญก็ืคือคำสอน
ถ้าจะสวดเป็นบาลีก็ต้องสวดให้ถูกต้องตามอักขระฐานกรณ์ของภาษาบาลีด้วย
(แต่ต้องเป็นมนต์ที่พระพุทธเจ้าพาทำมาและสอนไว้)

โทษของสวดมนต์คือ สวดแบบไม่รู้เรื่อง - ไม่รู้ความหมาย - ทำไม่ถูกตามที่สวด -
สวดเพื่อให้ขลัง - อ้อนวอน - สวดเสก - เป่าให้ผู้อื่นฉิบหาย หรือ
สวดแล้วรู้เรื่องและเข้าใจอย่างดีแต่ไม่ทำตาม เช่น พระสวดพระวินัยทุุกๆ 15 วัน
แต่ก็ทำผิดพระวินัยมากมาย และโยมสวดประกาศปฏิญาณตนมอบกายถวายชีวิต
นับถือ พุทธ - ธรรม - สงฆ์ เป็นที่พึ่ง แต่ไม่กระทำตามนั้น
ยังไปนับถือสิ่งอื่นเพิ่มอีกเช่น ผี - เทวดา - เครื่องรางของขลัง ฯลฯ

เมื่อเป็นเช่นนี้ย่อมผิดต่อคำสวดที่ตนเองสวดคำพุทธเจ้าสอนอยู่
และโทษย่อมเกิดขึ้นกับตนผู้ไม่ได้ศึกษาพุทธศาสนาให้ดี


สำหรับผู้ชอบสวดมนต์เป็นภาษาบาลี ถ้าไม่รู้เรื่องคือไม่ได้แปล
เมื่อไม่แปลก็ไม่เข้าใจความหมาย เมื่อไม่เข้าใจความหมายของบทสวดมนต์
ถึงแม้จะมีสติกำกับอยู่อย่างดี แต่สตินั้นก็เป็น มิจฉาสติ
แม้กระทั่งมีความเลื่อมใสปลาบปลื้มปิติอยู่ด้วย ก็ยังเป็นความเลื่อมใสปลาบปลื้มปิติที่ผิด

สตินั้นมีอยู่ของมันทุกเมื่ออยู่แล้ว แต่ถ้าไประลึกผิด ก็เป็นสติที่ผิด
ทุกอย่างต้องเข้าใจชัดเจนถูกต้อง จึงจะเป็นสัมมาสติ
จึงจะเป็นสติที่ถูกในความหมายของพระพุทธศาสนา

พุทธเจ้าสอนเอาไว้แล้วว่า ผู้ที่จะเรียนธรรม - วินัยของพระองค์
ต้องเรียนด้วยภาษาที่ผู้เรียนสามารถเข้าใจได้
ถ้าหากเรียนธรรม - วินัยด้วยภาษาที่ผู้เรียนไม่เข้าใจ
พุทธเจ้าตำหนิเอาไว้แล้วว่าเป็นการ " ปฏิบัติผิด "
การปฏิบัติผิดนี่ต้องได้บาป
ต้องไปรับโทษในนรก - เปรต - สัตว์เดรัจฉาน
เมื่อได้หมุนวนกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง ก็เป็นมนุษย์ที่มีสติ - ปัญญาไม่ดี
เรียนรู้อะไรก็เข้าใจยากมาก เงอะงะๆ เซ่อๆซึมๆ
สาเหตุก็เพราะได้สร้างความงงงวย - งมงาย - ไม่รู้เรื่อง
เหยียบย่ำตัวเองเอาไว้แล้วเรียบร้อยในคราวนี้ด้วยการสวดมนต์คือคำสอนของพระพุทธเจ้าแบบผิดๆ

 

การสวดมนต์ที่ถูกต้องนั้นประกอบด้วยสามประการนะครับ

1มีสติกำกับ ระลึกชอบด้วยคุณแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ รู้ว่าตนเองสวดบทอะไร ถึงวรรคไหน หลุดขาดสติปากท่องไป ก็ดึงกลับมาได้ ให้รู้สึกตัวว่าสวดอะไร ออกเสียงอะไรได้
2มีสมาธิกำกับ ไม่วอกแวก มีจิตจดจ่อกับการสวดมนต์
3มีปัญญา สวดและรู้เนื้อหา สวดบาลี แล้วแปลไทยด้วย ก็เกิดปัญญา พอจำได้แล้วอาจสวดบาลีอย่างเดียว หรือ แน้นทางปัญญาทำดวงจิตท่านให้ฉลาดก็อาจสวดแต่ภาษาไทยอย่างเดียวก็ได้

หมายเหตุ การสวดนั้นอักษรเป็นเพียงสื่อกลาง ที่สำคัญคือกำลังใจ กำลังสมาธิของท่าน แรกๆอาจสวดผิดไปบ้าง ไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือ สติ สมาธิ ปัญญาในการสวด และควรมีวิริยะในการสวดคือสวดให้สม่ำเสมอ และต่อเนื่องทุกวัน ท่านจะคล่องและจะเข้าใจด้วยปัญญาของท่านเอง

ขอทุกท่านอย่าได้โต้แย้งกัน สวดมนต์ให้กันและกันแทนนะครับ

 

เป็นกำลังใจให้กับผู้เรื่มจะท้อได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ เพียรทำเถิดค่ะ อนุโมทนา สาธุ กับเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ

 

แล้วเรื่องสวดมนต์แล้วเกิดเป็นปลาทองนี้มันยังไงนี้อะครับ ถ้าสวดแล้วเป็นปลาทองผมจะได้เลิกสวดแล้วจะได้บอกคนอื่นต่อคับ เพราะผมเองปู่ย่า ตายายผม เค้าก็ไม่รู้คำแปรแต่ก็สวดกันตลอด ตอนนี้ท่านเสียไปแล้ว อย่างนี้สงสัย เค้าคงเกิดเป็นปลาทองกันหมดแล้วกะมัง

 

คุณพระพุทธ คุณพระะรรม คุณพระอริยะสงฆ์ ทั้งสามคุณนี้มีดีแต่ฝ่ายเดียว
การระลึกนึกถึงคุณทั้งสามนี้จึงเป็นการนึกถึงความดีล้วนๆ ไม่มีอย่างอื่นปน
การที่เราสวดมนต์ ก็เพื่อจะระลึกถึงความดี สิ่งดีๆ ของพระพุทธ พระธรรม พระอริยะสงฆ์
เพราะบทสวดมนต์ทุกบท ล้วนกล่าวถึงคุณความดี ของพระรัตนะตรัยทั้งสิ้น
การสวดมนต์เป็นภาษาบาลี แม้ไม่รู้ภาษา แต่จิตน้อมไปในด้านคุณความดีทั้งหมด
เหตุที่ต้องสวดเป็นภาษาบาลี ก็เพื่อรักษาความเที่ยงตรงของบทสวดมิให้ผิดเพี้ยนตามกาลเวลานั่นเอง
ผลดีจึงเกิดต่อผู้สวดอย่างแน่นอน จิตน้อมไปในด้านดีที่เป็นกุศล ก็ได้รับกุศลความดีนั้นด้วย
จิตน้อมไปหาความชั่ว เป็นอกุศลก็ได้ความชั่วอกุศลนั้นด้วยฉันใด

การสวดมนต์เป็นการสรรเสริญคุณความดี ของพระพุทธ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ จึงมีผลฉันนั้น
เมื่อผู้ใดสงสัยในคำสวดมนต์ บุคคลผู้นั้ก็จะ
สงสัยในคุณความดีของพระพุทธเจ้า
สงสัยคุณความดีของพระธรรม
สงสัยคุณความดีของพระอริยะสงฆ์

เป็น วิฉิกิจฉา เป็นมิจฉาทิฐิบุคคล หาความเจริญก้าวหน้าไม่ได้ ทั้งทางโลกทางธรรม พึงพิจารณา

 

ผมขอยืนยันว่าใช่และจริงดังท่านว่ามาครับผม สาธุ......โมทนา

 

สวดมนเป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน

 

การสวดมนต์ ตามความเข้าใจของผมนะ ผมว่าเป็นสิ่งที่ดีวิเศษ สำหรับผู้ปฏิบัติเอง บทสวดมนต์ นับว่าเป็นพุทธมนต์อันศักดิ์สิทธ์ ที่สรรเสริญคุณความดีของพระพุทธเจ้า ถึงแม้เราไม่ทราบความหมายหรือคำแปล แต่บทสวดมนต์ต่างๆ จะมีความศักดิ์สิทธ์ในตัวของมันเองเนื่องจากการสวด เราจะสวดเป็นภาษาบาลี ซึ่งเป็นภาษาศักดิ์สิืทธิ์ อย่างน้อยก็ทำให้ผู้สวด มีจิตใจที่อ่อนโยน มีเมตตามากขึ้น ซึ่งถือเป็นบุญเป็นกุศล ก็เป็นอานิสงค์ ที่ประเสริฐให้กับผู้ปฏิบัติเอง ผมเป็นผู้ที่สวดมนต์เป็นประจำทุกคืน โดยเฉพาะพระคาถาชินบัญชร อย่าลืมว่าการสวดมนต์นั้น เวลาสวดเราไม่ได้อยู่คนเดียว แต่จะมีเทพยาดา พรหม เจ้าที่เจ้าทาง หรือแม้แต่วิญญาณชั้นต่ำทั้งหลาย จะมาฟังคำสวดพระพุทธมนต์ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นบุญเป็นกุศลก็เหมือนการฟังธรรมในวัดนั้นแหละ เท่ากับว่า เทพยาดา พรหม หรือวิญญาณชั้นต่ำ ก็จะได้รับผลบุญไปด้วย ถ้าเราได้มีการปฏิบัติเป็นประจำ เทพยาดาต่างๆ ก็จะมาฟังเป็นประจำ จนในที่สุด ก็จะสิงสถิตย์ อยู่ ณ ที่แห่งนั้นๆ เพื่อฟังคำสวดพระพุทธมนต์ และจะทำการปกปักรักษาสถานที่แห่งนั้น รวมทั้งผู้ปฏิบัติ ไม่ให้เกิดเหตุเภทภัยใดๆ ได้รับแต่สิ่งที่ดีๆ เจริญในชีวิต ซึ่งถือว่าเป็นการทำบุญกุศล ที่ง่ายที่สุดแล้ว ไม่ต้องลงทุนเสียเงินเสียทอง แต่อานิสงค์มีมากมายอย่างน่าอัศจรรย์ ขออานิสงค์จงมีกับผู้ปฏิบัติทุกท่าน