"สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ" นั้นเป็นคำอธิบายของผู้ไม่รู้แก่ผู้ไม่รู้

ในห้อง 'ภพภูมิ-สวรรค์ นรก' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 24 กรกฎาคม 2006.

  1. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,012
    [​IMG]


    คำอธิบายที่ว่า "สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ" นั้นเป็นคำอธิบายของผู้ไม่รู้แก่ผู้ไม่รู้ คือ ไม่มีฌานที่จะเห็นได้ในมิติพิเศษ ที่เป็นทิพย์นั้น ทำให้เกิดความพอใจ คือ เป็นที่ยุติไม่ได้


    ความจริง คำอธิบายนี้ แย้งได้ เพราะ คนโกงที่หากินอยู่ในขอบเขตของกฏหมาย รู้ตัวแน่ว่ากฏหมายไม่มี ทางทำอะไรตนได้ ถึงทำชั่ว ก็มีความสุข กลับโกง มากขึ้นอีก มนุษย์กินคน สามารถกินคนได้ ในถิ่นของเขาโดยมีความสุข นักล่าสัตว์ ที่ยิงสัตว์ (โดยกฏหมายเสียด้วย) ก็มีทั้งความสุข และความสนุกคนกินเหล้า (ศีลข้อ 5) ก็มีความสุข มีสตางค์พอเสียอย่าง ทุกข์ก็ไม่เกิด
    ในเมื่อคำอธิบายนี้ แย้งได้ ก็ไม่ควรจะเป็นคำอธิบายที่ถูก

    ไม่เหมือน คำของพระพุทธเจ้า ที่พิสูจน์ได้ แย้งไม่ได้ และ เป็นจริงในทุกเวลาทุกสถานที่

    อันที่จริงในพระไตรปิฎกท่านพูดไว้ชัด ไม่มีความกำกวมเลยในเรื่องของนรกสวรรค์

    เล่ม 1 หน้า 6 หัวข้อจุตูปปาญาณ (ตอนพระพุทธเจ้ากำลังตรัสรู้)
    "เรานั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีกิเลสปราศจากอุปกิเลส อ่อนควรแก่การงานตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว อย่างนี้แล้ว ได้น้อมจิตไป เพื่อญาณ เครื่องรู้จุติ และอุปบัติ ของสัตว์ทั้งหลาย เรานั้น ย่อมเล็งเห็นหมู่สัตว์ ผู้กำลังจุติ กำลังอุปบัติ เลว ประณีต มีผิวพรรณดี มีผิวพรรณทรามได้ดี ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ล่วงจักษุของมนุษย์ ย่อมรู้ชัดซึ่งหมู่สัตว์ ผู้เข้าถึงตามกรรมว่า หมู่สัตว์ ผู้เกิด เป็นอยู่เหล่านี้ ประกอบด้วยกาย ทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ติเตียน พระอริยเจ้า เป็นมิจฉาทิฐิ ยึดถือการกระทำ ด้วยอำนาจมิจฉาทิฐิ หมู่สัตว์ผู้เกิดเป็นอยู่เหล่านั้นเบื้องหน้า แต่แตกกายตายไป เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์....."

    เห็นได้ชัดว่า นรก หรือ สวรรค์นั้น ตายแล้วจึงไป ไม่ใช่ว่า ไปทั้งเป็นๆ อย่างที่พูดว่า สวรรค์อยู่ในอกนรกอยู่ในใจ ต้องขอสะกิดไว้นิดหนึ่งว่า พระพุทธเจ้าท่านไม่ใช่ว่า "มีความเชื่อ" ว่า ทำชั่วตกนรก ทำดีขึ้นสวรรค์ แต่ท่านบอกว่า
    ท่านเห็นด้วยตาทิพย์ทีเดียวว่า ผู้ทำชั่วตกนรก ผู้ทำดีขึ้นสวรรค์

    ฉะนั้น ถ้าใครจะค้านท่าน ก็ต้องเห็นเอง เสียก่อน จึงค่อยค้าน ไม่ใช่ว่า ไม่เห็นอะไรเลย แล้วค้านตะบันไป คนชนิดนั้นท่านจัดไว้เป็นพวก "ปทปรมะ" อาจรู้สารพัดอย่าง แต่พูดไม่รู้เรื่องกันเลย


    หมายเหตุ :- หลวงพ่อฝึกมโนมยิทธิ มีคนไปชมสวรรค์ได้ด้วยตนเองหลายพันคนแล้ว ใน พ.ศ.2522


    http://www.firstbuddha.com/Real/oiy7.html
     
  2. virot05

    virot05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +1,679
    น่าสนใจครับ อยากทราบรายละเอียดมากกว่านี้ขอรับ


    อนุโมทนาบุญด้วยขอรับ
     
  3. ไอ้ใบ้

    ไอ้ใบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,254
    ค่าพลัง:
    +7,241
    ไม่ทราบว่า ความหมายของคำว่า ไม่รู้ กับ รู้ไม่ถึง จะอันเดียวกันหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ใจเรารับรู้ได้ว่าอะไรคือสุข อะไรคือทุกข์ และสุขหรือทุกข์ที่แท้จริงคืออะไรอีกล่ะ น่าเหนื่อยกับสิ่งที่เราไม่รู้จริงๆนะ ถ้าเช่นนั้นเรามารู้กับสิ่งที่ควรรู้แบบง่ายๆดีกว่าเน้อ ด้วยหลักง่ายของ พรหมวิหาร 4 และ ศีล 5 (i) (i) (i) (i)
     
  4. wudiman

    wudiman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,333
    อนุโมทนา บุญกับข้อมูลนี้ด้วยนะครับ ได้สาระ และความรู้ความเข้าใจที่ดีที่เดียวครับ
     
  5. oun_narak

    oun_narak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +265
    อยากจะบอกว่าข้อความกระทู้โดนใจครับเพราะเคยปวดหัวอย่างมาก กับคำพูดนั้นมาแล้วครับ เลยตั้งใจว่าจะยึดคำครู คือหลวงพ่อฤษีอย่างเดียวครับไม่อ่านของคนอื่นแล้วปวดหมอง
     
  6. thank you

    thank you เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +1,747
    ขอค้าน ที่ว่าสวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจว่าเป็น คำอธิบายของผู้ไม่รู้แก่ผู้ไม่รู้
    ความจริงขอความนี้คือปริศนาธรรมต่างหาก และขอยืนยันว่ามาจากผู้รู้ ไม่ใช่มาจากผู้ไม่รู้เเน่นอน แต่การที่เราๆตีปริศนาธรรมไม่เเตก ก็ไม่ใช่ว่าขอความนี้จะด้อยคุณค่าลง ยังมีคนอีกหลายท่านที่ตีโจทย์ธรรมข้อนี้ได้
    ขออธิบายให้อ่านกันคะ "สวรรค์อยู่ในอกนรกอยู่ในใจ" ให้เข้าใจกันรับรองว่าจริงเเละง่ายตรงตามหลังพุทธศาสนา ไม่มีซับซ้อนเลยคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2007
  7. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,518
    ค่าพลัง:
    +27,187
    อย่าเถียงพระ เดี๋ยวจะซวย
    เข้าใจก็ดีแล้ว
    ปัจจัตตังจ้ะ
     
  8. varakorn

    varakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2005
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +435
    จอพูดอย่างกลางๆนะครับ ถ้าผิดก็ขออโหสิกรรมด้วยนะครับ

    คำว่าสววรค์อยู่ในอกนั้น ท่านคงจะอาจหมายถึงว่า ทำความดีย่อมเกิดปีติคือความสุขเปรียบดังสววรค์ในอก เมื่อท่านทำชั่วย่อมมีความดิ้นรนทรมาน เปรียบดังนรกนั้นอยู่ในใจคอยเผาผลาญ "นี่คือผลในปัจจุบันคือรับได้ในขณะยังดำรงซึ่งกายในภพมนุษย์อยู่" แต่เมื่อท่านสูญสิ้นกายคือความตายนั่น ย่อมต้องรับผลจากกระทำนั้นแน่นอน คือมีภพอื่นรองรับ ตามผลกรรมของแต่ละคนเช่น สววค์ของจริง นรกของจรอง นั่นเอง ความหมายอาจตีความแตกต่างกันได้นะครับ
     
  9. munee

    munee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2007
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +1,069
    โมทนาครับ หลวงพ่อพุทธทาสท่านก็ได้กล่าวไว้ว่า ทำดีได้ขึ้นสวรรค์ไม่ต้องรอตอนตายคือใจเป็นสุขขณะนั้นเลยทำเดี๋ยวนั้นได้เดี๋ยวนั้นถ้าทำชั่วก็ตกนรกเดี๋ยวนั้นเลยคือใจเศร้าหมองแต่เป็นนรกสวรรค์ตอนยังมีชีวิตอยู่ท่านผู้รู้จึงได้บอกว่าสวรรค์ในอกนรกในใจ ต้องแยกประเด็นให้ออกนะครับ ส่วนตอนตายแล้วก็จะได้พบนรกสวรรค์ตามกำลังบุญและกรรมของแต่ละคนครับ แต่ถ้าทำปัจจุบันดีก็เป็นที่นอนใจว่าตายแล้วก็ไปสู่ภพภูมิที่ดีแน่ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2007
  10. thank you

    thank you เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +1,747
    ก่อนอื่นขออธิบายว่า สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงนรก สวรรค์จริงๆ ที่เราไปกันหลังความตาย หรือไปได้เมื่อฝึกทางธรรมใดๆ
    เเต่เป็นการเปรียบเทียบโดยคำว่า
    สวรรค์ ให้เปรียบกับความเย็น ความเบิกบานเป็นสุข ฯลฯ
    นรก ให้ปรียบกับ ความร้อน ความทุกข์ ความไม่สบายฯลฯ
    อก เเละใจ มันอยู่ที่เดียวกัน คือตัวเรา หรือที่ใจที่จิตเราเอง
    คนใดเมื่อทำดี คิดดีก็เปรียบเหมือนอยู่บนสวรรค์ คือเย็น เป็นสุข
    ขณะเดียวกันถ้าเลือกชั่วคิดชั่ว เจ้าตัวเองที่จะรู้สึกร้อน มีความทุกข์
    ดังนั้นสวรรค์อยู่ในอกนรกอยู่ในใจ จึงหมายถึงทุกข์หรือสุขเจ้าตัวเท่านั้นที่จะรู้ เเละจะเลือกทำ เพราะมันอยู่ที่เดียวกันคือตัวเราเอง ที่จิตเราเอง
    ส่วนสวรรค์และนรกจริงๆ นี่ต่างหากเป็นเรื่องเฉพาะตัว กรรมเเบบไหนไปเเบบนั้น ตัวใครตัวมัน
     
  11. thank you

    thank you เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +1,747
    พูดถึงปริศนาธรรม เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยนะ ถ้าครูอาจารย์ท่านใดบางทีท่านเมตตาจะเล่าให้ฟังก็จำมา ที่บอกว่าน่าสนใจเพราะปริศนาธรรมส่วนใหญ่จะได้มาจากองค์ธรรม ที่ท่านจะทิ้งปริศนาดังกล่าวไว้ให้คิดเพื่อเกิดปัญญา
    มิใช่เเค่คำว่า สวรรค์อยู่ในอกนรกอยู่ในใจ เเต่ยังมีจากท่านองค์อื่นๆอีกเช่นที่ว่า
    "หินเด่น เป็นอยู่ ใครรู้ รู้จักใช้"
    "อยากดีอยู่ป่า อยากเป็นขี้ข้าอยู่เมือง"
    "ใต้หล้าฟ้ายุ่ง ในกรุงสามหาว พึ่งดาวสูงเด่นถลาเข้ามาด้วยความจำเป็น ต่อไปไม่เห็นคนตาย"
    และที่วัดบ่อน้ำทิพย์อีกเเห่ง มีปริศนาธรรมที่น่าสนใจมากผู้พิมพ์เคยเข้าไปอ่านคือเข้าไปเที่ยว ตามองขึ้นไปบนถ้ำมีป้ายเขียนเอาไว่ว่า...(จำไม่ได้555)...ถ้ากลับไปจะจดมาบอกกันที่หลัง เขียนลงบนหินอ่อนเเผ่นไม่ใหญ่ไม่เล็กถ้าคนไปไม่สังเกตุจะไม่เห็นเลย
     
  12. บุญบันดาล

    บุญบันดาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,000
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
    กับทุกความคิดเห็นที่ไม่ขัดกับคำสอนของพระพุทธเจ้า
     
  13. ไอ้ใบ้

    ไอ้ใบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,254
    ค่าพลัง:
    +7,241
    ถ้าพรุ่งนี้พระสึก ก็คือผู้ชายธรรมดาธรรมดาคนหนึ่ง
     
  14. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,518
    ค่าพลัง:
    +27,187
    แต่ถ้ายังไม่สึกก็เป็นพระน่ะแหละ
    ไม่รู้อานุภาพผ้าเหลืองก็เงียบๆไว้เหอะจ้ะ
     
  15. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    นรกสวรรค์มีจริงแน่นอน คนที่ไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์จัดเป็นพวกมิจฉาทิฏฐิครับ บางคนก็เชื่อว่านรกสวรรค์เกิดจากจิตเราคิดสร้างขึ้นมาเอง ถ้าเราเชื่อว่ามีนรกสวรรค์ก็จะมีตามอำนาจจิตของเรา แต่ถ้าไม่เชื่อว่ามี ก็จะไม่มีจริงๆ ซึ่งนี่ก็เป็นความเห็นที่ผิดเช่นกัน จะเชื่อว่ามีหรือไม่เชื่อว่านรกสวรรค์มีจริง แต่นรกสวรรค์ก็ยังมีจริงอยู่เช่นนั้นเองครับ

    ตายแล้วไปไหน
    http://sangdham.8m.com/deadwhere01.html#dw01
     
  16. หนูแว่น

    หนูแว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    1,189
    ค่าพลัง:
    +3,207
    อนุโมทนา

    เรื่องสวรรค์ในอก นรกในใจนั้นใช้ได้ดีกับคนที่ละอายต่อบาป
    แต่หากเป็นคนชั่วที่ไม่ละอายต่อการทำบาปแล้วคงยากที่จะรับความรู้สึก
    ไม่สบายใจเมื่อได้ทำชั่ว จนกว่ากรรมจะตามมาทันนั่นแหล่ะจึงได้รู้ตัว
    ได้รับรู้ความรู้สึกที่เคยทำไม่ดีกับคนอื่นๆไว้ หรือได้รับผลกรรมที่ตัวเองทำ
    คิดได้ก็ดี หากคิดไม่ได้ก็น่าเศร้าใจนัก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2007
  17. naf06

    naf06 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    577
    ค่าพลัง:
    +2,227
    ถ้าทำดีก็เย็นสบายตัว ถ้าทำชั่วก็ร้อนรุ่มตัวกันไปเลย....ฟ่ะ
     
  18. soawapa

    soawapa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +9
    สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ

    สวรรค์อยู่ในอกนรกอยู่ในใจ(evil2) เปรียบเสมือนไม่ว่าเราจะทำเรื่องอะไรออกไปไม่ว่าจะดีหรือร้ายเราก็เป็นผู้กำหนดเอง ถึงแม้ว่าคนอื่นจะไม่รู้ว่าความจริงนั้นเป็นอย่างไรแต่ในใจเราก็จะรู้อยู่เสมอว่าเราทำเรื่องอะไรไปบ้าง(evil2) (evil2)อนุโมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2007
  19. โชเต

    โชเต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +331
    ก็เพราะว่า

    คนเดี๋ยวนี้เขาเป็นคอมมิวนิสต์กันไปหมด

    แต่จดทะเบียนในสัมมโนครัว ว่า เป็น พุทธศาสนิกชน

    ปากก็บอกว่า นับถือศาสนาพุทธ ๆ ๆ ๆ

    ที่บอกว่าคนเดี๋ยวนี้เป็นคอมมิวนิสต์ก็เพราะว่า

    "นรก สวรรค์ ผี เปรต เทวดา นิพพาน ไม่มี "

    "เกิดมาเพียงหนเดียว มีชาติเดียว ชาติหน้าไม่มี ตายแล้วเป็นสูญ"

    นั่นมันเป็นคำพูดของพวกคอมมิวนิสต์เขา และพวกที่ไม่มีศาสนา

    แต่ศาสนาอื่นเขาบอกว่ามีนะครับ

    งั้นถามหน่อยว่า "หุงข้าว ปลาอาหาร เชือดไก่ ล้มหมู เบียดเบียนชีวิตสัตว์อื่นเพื่อนำมา

    ถวายพระทำไม แล้วบวชลูก บวชหลาน มาวัด ฟังธรรม สร้างศาลา สร้างกุฏิ สร้างเจดีย์

    สร้างวิหารอุโบสถ์ไปกันเพื่ออะไร ในเมื่อทำบุญไปแล้วผลบุญที่ทำไว้ชาตินี้ที่ส่ง

    ไปยังชาติหน้าภพหน้าไม่มีจริง อุทิศส่วนกุศลไปทำไม อุทิศแล้วก็ไม่ได้รับบุญ เทวดาไม่มี

    ในเมื่อไม่มีสวรรค์ แล้วยังอยากจะไปอีกทำไม ทำบุญอีกทำไม ทำบาปไม่ดีกว่าหรอ เพราะ

    ว่านรกไม่มีอยู่จริง จะได้ไม่ต้องกลัวบาป บวชเข้ามากันเพื่ออะไร บวชมาแล้วก็ไม่ได้มี

    อะไร ปฏิบัติแล้วไปที่ไหน ในเมื่อไม่เชื่อว่า นรก สวรรค์ พรหม พระนิพพานมีจริง

    ต้องอดเมีย อดข้าวเย็น ไปเพื่ออะไร มาอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ดีกว่าหรอ"

    แล้วคุณยังจะพูดออกมาอีกทำไม ว่า

    "นรก ไม่มี สวรรค์ไม่มี เทวดาไม่มี พระนิพพานไม่มี ชาติหน้า ไม่มี เกิดมาแล้วตายไป

    แล้วก็เป็นศูนย์ "

    พูดอย่างนี้ เท่ากับว่า คุณไม่นับถือ พระพุทธเจ้าท่าน ไปปรามารถท่าน

    เพราะว่าในคำสอนของพระองค์ท่าน ท่านบอกว่ามีอยู่จริง

    นี่เท่ากับว่าคุณโกหก พระพุทธเจ้า โกหก คนอื่น และโกหกตัวคุณเองด้วย
    <!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...