สวัสดีครับ ผมมีเรื่องอยากมาปรึกษาครับ(เรื่องค่อนข้างsensitive)ครับ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ทรงสร้าง, 5 มีนาคม 2020.

  1. ทรงสร้าง

    ทรงสร้าง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ก่อนอื่นต้องขอโทษทุกคนด้วยครับ..
    คือว่าผมเป็นเด็กชายคนนึงที่ได้ยินเรื่องราวล้มเจ้ามาจากสื่อหลายๆสื่อ แล้วผมก็เชื่อคนง่ายจึงเป็นคนล้มเจ้าไปด้วย ผมคิดล้มแม้กระทั่งรัชกาลที่๙ จนปัจจุบันผมรู้สึกกลับใจครับ แต่ผมก็เพิ่งรู้ว่า ร.๙ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ครับ ผมรู้สึกว่าผมทำบาปมาตลอด แล้วผมคงหนีอบายภูมิไม่พ้น อยากทราบว่าพอมีวิธีแก้ไขให้กรรมตรงนี้หมดไปไหมครับ (เครียดครับ)
     
  2. Justnobody

    Justnobody สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2020
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +12
    อดีตก็เหมือนเหล้าเบียร์กินแล้วก็เมา ถ้าท่านมัวแต่เมาอยู่กับอดีตมันจะได้ประโยชน์อะไร? อดีตทำดีหรือชั่วก็ผ่านไปแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้ ท่านน่าจะทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ตราบใดที่ยังเวียนเกิดเวียนตายซ้ำๆซากๆไม่มีทางหนีพ้นเงากรรมที่ทำไว้ได้ครับ วิบากกรรมชั่วคือภัยอย่างหนึ่งในวัฏสงสาร ผู้แสวงหาทางพ้นทุกข์จึงปฏิบัติธรรมเพื่อให้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด พ้นจากวิบากกรรมทั้งปวงครับ
     
  3. โซ

    โซ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +872
    วัฎฎะ คือ การเวียนว่าย คือการเรียนรู้ ปฐม พื้นฐาน ย่อมมีแก่สัตว์ บุคคล ที่จะนำพาไปสู่จุดมุ่งหมายที่แท้จริง เป็นบทเรียน เป็นประสบการณ์ เพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้ เป็นพลัง เป็นเกราะป้องกัน ที่จะนำมาคิด พิจารณา กระทำ ปฎิบัติ มีสติ มีปัญญา วิถีทาง หนทาง มีหลายอย่าง ที่จะนำไปประพฤติ ปฎิบัติ ที่ถูกแก่จริตของตน สัตว์ คนเราคือปถุชน ไม่ใช่อริยะ ย่อมหลงผิดไปเป็นธรรมดา หลงดี หลงชั่ว ย่อมยึดมันเป็นธรรมดา สัตว์ไม่ว่าจะประเสริฐ หรือเดรัจฉาน ย่อมมีดี มีชั่วปนกันไป ฉนั้นสิ่งที่คุณได้รับมา มันก็มีจริง และไม่จริงปนกันไป เพราะเรื่องราวที่เราได้ยิน เราไม่ได้ไปรู้ เห็น สัมผัส เราจะได้ข้อมูลที่ไม่เป็นจริง 100% คำว่ากรรม มันมีเหตุและผลของมัน ถ้าเราสร้างเหตุ มันก็ได้รับผลของมันเป็นธรรมดา สิ่งที่ทำไห้เกิดกรรม ก็มี 3ทางคือ วจี มโน กาย (กรรมบถ) สิ่งที่คุณเล่ามาคงกระทำไปแล้ว 2 คือ วจี มโน ถ้าคุณมีช่องทาง หรือโอกาส คุณคงกระทำมันด้วย กาย ทีนี้เท่ากับว่าคุณ กระทำมันครบกรรมบถ สิ่งที่คุณจะแก้คือ สิ่งที่เกิด มันเกิดจาก วจี และมโน สิ่งที่จะเปลี่ยนคือ เปลี่ยนวจีและมโน มันนี่แหละ เมื่อคุณเกิดมันในฝ่ายอกุศล จะทำไห้มันเป็นกุศล คุณต้องหาวิธีเปลี่ยนกลับกัน แต่ถ้ามันฝังลึกลงไปแล้ว มันก็จะยากหน่อยเพราะจะไห้มองคุณงาม ความดี ของบุคคลที่เราไม่ชอบนั้น(มองเป็นอกุศล) ที่มีความคิดเป็นอคติ มีความอาฆาต พยาบาท โกรธ เคือง แค้น ฯ แต่ถ้าคุณยังมีจิต หรือจริต มองเห็นในความดีของบุคคล หรือผู้นั้น หรือมีแนวทางที่เป็นไปเหมือนกับตน คือรักความ มีเมตตา มีกรุณา มีอุเบกขา มีความซื่อสัตย์ มีความสุจริต เที่ยงธรรม เที่ยงตรง ยุติธรรมฯ คุณก็จะมอง คิด หรือกระทำตน ปฎิบัติ ต่อผู้นั้นไปในทางกุศลได้ แต่ถ้าคุณไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้ คุณมีทางเลือก ทางเดิน มีจุดมุ่งหมาย มีจุดมุ่งหวัง มีความเชื่อ ศรัทธา มั่นใจในแนวทาง หรือสิ่งที่กระทำของตน(ในการสร้างคุณงาม ความดี ในบุญ กุศล ศีล สมาธิ ตบะ บารมี บำเพ็ญ จงมองบุคคลผู้นั้น หรือเหล่านั้นว่า สิ่งที่เขากระทำในทุกขณะ ชั่วเวลา ชั่วย่างก้าว หลับ ตื่น จงมองเถอะว่าเราย่อมมีกรรม จากการกระทำเป็นเงาตามตัว มันจะส่งผลแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว สัตว์บุคคลผู้เกิดมา ย่อมมีแนวทางเป็นของตนเอง มีถูกบ้าง ผิดบ้าง ตามกำลังกรรม สติ ปัญญา ของตนเอง เรามองในสิ่งที่เขากระทำไม่ดี จงมองเพียงแต่ว่า นั้นมันเป็น กรรม เป็นวิถีที่เขาเลือก หรือสติ สมาธิ ปัญญา ของเขามีอยู่แค่นั้น หรือมองว่าเขาน่าสงสาร ที่เขาเป็นแบบนั้น อดีตในวัฎฎะเขากระทำมาแบบนั้น เขาคิดได้แค่นั้น เขาเลยมากระทำ หรือโหยหา ในแบบนั้นในปัจจุบัน ถ้าเราจะคิดในมุมมองแบบนี้ จงมองตัวเองอย่างนี้เถิดว่า เขาเป็นผู้น่าสงสาร เพราะเขาดำลังกระทำในสิ่งที่เป็นอกุศล เราสงสารเขา เขาเห็นผิด เป็นชอบ เขาไม่มีกำลังของบุญ บารมี ศีล สมาธิ ปัญญา ของเขามีแค่นั้นจริงๆ (อย่าไปคิดแบบดูถูก หรือ อคติ ไปในทางที่เป็นอกุศลทุกรูปแบบ) มีเราเห็นข้อเสียเขาแบบนี้ จงนำข้อเสียนั้นมาปฏิบัติต่อตัวของเรา เพื่อไห้ตัวเองเจริญๆยิ่งขึ้นไป ไห้ใจเราน้อมไปในทางกุศลไห้มากๆ ตรงกันข้าม เขามีข้อดีใรการ กระทำ หรือปฎิบัติ เราจงน้อมนำมาปฎิบัติไห้ได้เหมือนเขา หรือสรรเสริญ เชิดชู รัก ศรัทธา เราต้องมอง และเชื่อมั่น ศรัทธา ยินดี ในกุศล บุญ บารมี ภาวนา สติ ปัญญา ของบุคคลผู้นั้น (ถ้าเราไม่ชอบเขา ก็ไห้เรามองแบบนี้เถิดว่า หนทางของสัตว์ บุคคล ไม่เหมือนกัน ตามกำลังของ ศีล สมาธิ สติ ปัญญา ถ้าเราคิดว่าของเราถูก ของเขาผิด จงกระทำต่อไป จงแค่ไม่ไปก้าวก่าย ล่วงเกิน จงเชื่อ และศรัทธา ไห้เกียรติ์ ในหนทางของสัตว์ บุคคล เหล่านั้น จงทำตนไห้ดี และทำไห้เจริญๆ ในทางที่ถูกต้องที่สุด จงมองด้วยความเสมอภาค ไม่มองแต่ว่าดี หรือเลว เป็นกุศล หรือเป็นอกุศล ไห้เราคิดได้แบบนี้
     
  4. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    ขอขมาต่อพระรัตนตรัยซิครับ

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ

    หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน
    ต่อพระรัตนตรัย อันมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์
    พระปัจเจกพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม และ
    พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี
    ด้วยกายก็ดี วาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี
    ไม่เจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
    ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
    พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์
    ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษ
    ให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
    ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ.

    ข้อมูลจาก http://www.watthasung.com/home.php
     
  5. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    รักษา ศีลห้า ตอบแทนท่าน บาปย่อมจะเบาบาง
    ฝึกปล่อยวางบาปที่ทำลงไป
    อาจจะบรรลุธรรมได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...