สหรัฐฯทดสอบขีปนาวุธร่อนต้องห้าม หลังถอนตัวจากสนธิสัญญานิวเคลียร์

เอเอฟพี - กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯแถลงในวันจันทร์(19ส.ค.) ว่าได้ทำการทดสอบขีปนาวุธร่อนยิงจากภาคพื้นพิสัยกลาง ไม่กี่สัปดาห์หลังถอนตัวอย่างเป็นทางการออกจากสนธิสัญญาสมัยสงครามเย็นฉบับหนึ่งที่ทำไว้กับรัสเซีย ซึ่งห้ามครอบครอบอาวุธศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ดังกล่าว

ขีปนาวุธถูกยิงเมื่อวันอาทิตย์(18ส.ค.) ออกจากเกาะซานนิโคลัส ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพเรือสหรัฐฯ นอกชายฝั่งลอสแองเจลิส, รัฐแคลิฟอร์เนีย "ขีปนาวุธถูกยิงออกจากฐานยิงเคลื่อนที่บนภาคพื้นและตกกระทบเป้าหมาอย่างถูกต้อง หลังพุ่งไปเป็นระยะทางมากกว่า 500 กิโลเมตร" เพนตากอนระบุในถ้อยแถลง

ถ้อยแถลงของเพนตากอนระบุต่อว่า "ข้อมูลที่รวบรวมและบทเรียนที่ได้เรียนรู้จากการทดสอบครั้งนี้จะเป็นข้อมูลสำหรับการพัฒนาศักยภาพพิสัยปานกลางในอนาคตของกระทรวงกลาโหมต่อไป"

ในขณะที่ขีปนาวุธนี้ถูกจำกัดความว่าเป็นขีปนาวุธดั้งเดิม ซึ่งหมายความว่ามันไม่ได้ติดหัวรบนิวเคลียร์ แต่การยิงครั้งนี้เป็นสัญญาณว่าวอชิงตันได้ยกระดับแสนยานุภาพการสู้รบในสงครามนิวเคลียร์แล้ว หลังสนธิสัญญากองกำลังนิวเคลียร์พิสัยกลาง (Intermediate-Range Nuclear Forces agreement หรือ INF) พังครืนลงเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม



สนธิสัญญา INF ห้ามทั้งสองฝ่ายติดตั้งประจำการขีปนาวุธประเภทยิงจากภาคพื้นดินทุกชนิด ทั้งดั้งเดิมและติดหัวรบนิวเคลียร์ ซึ่งมีพิสัยทำการระหว่าง 500 ถึง 5,500 กิโลเมตร ในความพยายามคลายความตื่นกลัวว่ายุโรปอาจต้องกลายเป็นสมรภูมิของสงครามนิวเคลียร์

มีความกังวลว่าการพังครืนของสนธิสัญญา INF ซึ่งทางวอชิงตันกล่าวหามอสโกละเมิดหลายต่อหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จะนำไปสู่การแข่งขันสะสมอาวุธนิวเคลียร์ที่เป็นอันตรายครั้งใหม่

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม .) มาร์ค เอสเปอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯกล่าวหารัสเซียละเมิดสนธิสัญญากองกำลังนิวเคลียร์พิสัยกลางซ้ำๆและไม่หยุดหย่อน พร้อมบอกว่าวอชิงตันได้เริ่มทำงานในการพัฒนา "ระบบขีปนาวุธนำวิถีและขีปนาวุธรุ่นยิงจากภาคพื้น ทั้งแบบปกติและแบบเคลื่อนที่"แล้ว

"ตอนนี้เราได้ถอนตัวแล้ว และทางกระทรวงกลาโหมจะหาทางอย่างเต็มกำลังในการพัฒนาขีปนาวุธแบบทั่วไปยิงจากภาคพื้น เพื่อไว้ตอบโต้อย่างรอบคอบต่อพฤติกรรมต่างๆของรัสเซีย" เอสเปอร์กล่าว


ที่มา : https://mgronline.com/around/detail/9620000079408