สัตตานัง-สัตตา-คำนี้ไม่เคยมี พลวงพ่อ- พลวงตา-หลวงปู่

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เราโตมาคนละแบบ, 3 เมษายน 2017.

  1. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    วัดใด-สายใด- ไม่เคยนำคำว่า "สัตตนัง-สัตตา-สัตว์" มาสอนเราเลยทั้งที่สำคัญที่สุดในการเรียน ศาสนาพุท..เปิดธรรมที่ถูกปิดครับ เสวนากันนะจ๊ะ..ได้ความรู้ไม่เชื่อก็ไปด่า อจ.คึกฤทธิ์โน่น ไม่ใช่ผมนะครับ ผมแค่นำมาให้เรียนรู้และวิจัยกัน.."เปิดธรรมที่ถูกปิด"..สาธุ
     
  2. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :eek::pสัตตนัง..แปลว่าสิ่งๆหนึ่งที่ชอบยึดติด มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก โคจรมาครอบงำจิต(วิญาณ-มโน-จิต) ในขันธ์5 อยู่ตลอดเวลา
    :mad:แล้วโคจรไปในธาตุทั้ง4 รูป-เวทนา-สัญญษ-สังขาร-แต่จะไม่ยอมปล่อยอยู่ธาตุเดียวในขันธ์5 คือ จิต-วิญาณ นี้่เองครับ
    นี่คือ ธรรมที่ถูกปิดครับ(อจ.คึกฤทธิ์ ท่านว่างั้น) สาเหตุที่พวกเราปฏิบัติ วนเวียน-ซ้ำซาก-ไม่ไปไหนเลย อยู่ที่เดินทั้งชีวิต ก็เพราะ ตำราที่ถูกปิด-และ ปลอมปน จนเราเขวไปหมดครับ ลองวิเคราะห์กันดู
    :mad:o_Oไม่เชื่อก็เอาพระไตรปิฏกของเรามาเปิดเทียบเคียงดู..ตามมหาประเทศ4 อย่าไปเชื่อ อจ.คึกฤทธิ์และอย่ามาด่าผมนะครับ ผมแค่นำมาเสนอเมื่อข้อมูลเปิดมาแล้วเท่านั้น สาธุ
     
  3. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    เพราะความไม่รู้ว่า สัตตานัง คือ อะไร มีบรรจุอยู่ในพระไตรปิฏกแต่ไม่เอาออกมาสอน..นักปฏิบัติก็วนเวียนกันทั้งชีวิต เมื่อตำราผิด ..หากเป็นจริงนะครับ
     
  4. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    เนี้ย อาการทัพพี ไม่รู้ รสแกง สุดท้าย ปรักปรำ ตำราสอนผิด กล่าวโทษ ครูบา อาจารย์ เพราะอะไร เพราะตนเป็น ทัพพี เป็นมอดไม้คอยเฝ้าคำภีรย์ สุดท้าย สะดุ้งรู้สึกตัวว่ากัดกินคำภีรย์มาตั้งนาน โทษแต่คำภีรย์ แต่มันไม่โทษตัวมันเองที่เป็นมอดไม้ รู้จักแต่คำภีรย์ แต่หาได้รู้อรรถรู้ธรรมแท้จริงไม่ สุดท้ายมันก็โทษตำราสอนผิด โทษครูบาอาจารย์สอนผิด แล้วก็วิ่งไปกัดกร่อนคำศาสดา เอาคำศาสดามาเที่ยวฟาดฟันใส่ผู้อื่น แต่ตัวมันเองหาได้รู้อรรถรู้ธรรมจริงไม่
     
  5. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
     
  6. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    สัตตานัง..นี่เป็นพุทธวจน-อยู่ในพระไตรปิฏก ..
    :pทำไมคุณไม่รู้จักมรรยาท เข้าใจอะไรยากรึครับคุณอ่านหนังสืออกไหมครับ-ชี้ที่ธรรมอย่ามาชี้วิจารณ์คนโพสต์..เดี๋ยวก็ทะเลาะกัน..
    มีวัฒนะธรรมในการตอบโต้ไหมครับ ผมก็บอกไว้แล้ว อุตส่าห์เขียนอย่างที่เข้าใจง่าย สันดานคุณ..จะกัดคนอื่นอยู่เรื่อยนี่มันอะไรครับ ดูตัวเองมั่ง[/QUOTE]
     
  7. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
  8. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :mad::eek: เหนื่อยเน๊าะการยึดติดตัวบุคคล..แถมอวดฉลาดซะอีกแทนที่จะระลึกบุญคุณคนอื่นเขาเอาข่าวที่ทั่วประเทศ-ทั่วโลก อ่านรู้กันหมดแล้ว มาให้อ่าน.ยังเสือกอ่านไม่รู้เรื่องอีก
    :mad:แถมมาด่าคนอื่นอีก บ้ารึปล่าวนี่-ไม่เชื่อก็เอา"ธรรมที่แท้จริงมาเทียบเคียงแล้วชี้มาตรงไหนผิด-
    จะกินหญ้าคนเดียวก็เชิญครับ อย่ามชวนผมเลย อย่างคุณผมเลิกคุยดีกว่านะ คุณไม่จำเป็นต้องมาคุยกะทู้ผมก็ได้หากรับไม่ได้ ..
     
  9. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :mad: หลวงตามหาบัว-เคยเอา วงจรปฏิจจสมุปบาท-หรือคำว่า สัตตานัง- มาสอนใคร-ลูกศิษย์มีบ้างไหมครับ-
    :eek: ยกมาให้ดูหน่อย สอนไว้ที่ไหน-เพราะอะไรครับ ..พวกหลงศรัทธา จนโงหัวไม่ขึ้นไม่ยอมรับความจริง เพี้ยนนี่คุณมั๊งไม่ใช่ผม
     
  10. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    ปิดกะทู้ดีกว่า-พวกโง่แต่อวดฉลาด ศรัทธานำซะปิดสมองตนเองเลย เถียงไม่ได้ก็ด่าไว้ก่อน แทนที่จะชี้มาว่าที่เขานำเสนอนั้น ถูกหรือผิด ..น่าสงสารนะ อิอิ
     
  11. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
  12. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    อย่าไปสนใจเลยครับ
    เค้ามาประชาสัมพันธ์น่ะ
    ปล่อยเค้าไปเถอะ
    เอาไว้มีคนมาสนใจหรือสงสัย ค่อยว่ากันครับ
    เสียเวลา ทำให้เศร้าหมองเปล่าๆ
    อ้อ ขออภัย ปิดกระทู้ไปแล้วนี่นา
     
  13. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    พระท่านทั้งหลาย ที่ท่านเห็น อุบายนำออก ท่านก็กล่าวหมดแหละ

    อย่างกรณี หลวงตามหาบัว ท่านก็จะพูดว่า "กิเลสเจ้าของ" "จิตเจ้าของ" ซึ่ง
    ท่านก็พูดในมุมของ สัตตานัง เหมือนที่พี่เกิดกำลังกล่าว แต่ น้อยคนจะเข้าใจ
    แล้ว ร้อยละร้อย กลับไป กอดสัตตานัง จิตเจ้าของ กลายเป็น ลัทธิจิตเที่ยงไปโน้นน

    ซึ่งถ้าพี่เกิดไปไล่เอากับพระ พระท่านจะไม่บัญญัติอะไรนะ ท่านจะถามคำเดียว

    "ตะ เอ็ง!! ปฏิบัติมายังไง " [ ถ้า ปฏิบัติมา ภาษาธรรมอย่างหนึ่ง จะ ลง กันได้ ]

    ถ้าเป็น หลวงพ่อวัดพระโอษษฐ์น้ำต้นธาตุ อันนั้น ก็พุด สัตตานังเหมือนกัน ท่าน
    บ่นแค่ไม่กี่ตอน " เราตกเป็นทาสของมันมานาน " กำหนดรู้หนอ หยุด เป็นตัว
    สำเร็จ!!!

    ส่วน พระของพี่เกิด ฟาดลงขันธ์5 ลูกเดียว

    แต่พี่เกิด ชักจะออกปลายแถว ......

    ตรงไหนหละ

    ตรงที่ พี่เกิด ควักเอา วิญญาณขันธ์ตัวเดียว

    อันนี้ต้องจัดว่า ประมาท แระ เพราะจริงๆ กองหนึ่งกองใด ก็ล่าย
    เพราะในแต่ละกองขันธ์ ภายในมันยังแยกได้เป็นขันธ์5ได้อีก อันนี้
    พระของพี่เกิด ก็ยกบ่อย แต่ท่านก็จะบอกด้วยว่า จะกล่าวแต่เฉพาะ
    กลุ่มภายนอก ไม่ต้องละเอียด เพราะเน้น ความพอเพียงในการกำหนดรู้ สภาวะธรรม

    เมื่อกำหนดรู้ สภาวะธรรม จะประจักษ์ไตรลักษณ์

    ดังนั้น ไอ้พวกเทศนาไตรลักษณ์ต้อง หมาสติ หมาปัญญา อัตตโตมัติ ปัญญาดับ
    นี่ รหัสพ่อรหัสแม่ มันไม่เคยเห็น ฐานจิต เลยสักนิดเดียว [ สภาวะธรรมจะ
    หมายถึงการปรากฏของไตรลักษณ์อยู่แว้ว ไม่ใช่ต้อง รอสรุปเหมาเข่ง
    ทำอาการเหมือนคน ลูบคลำ เปรียบเทียบไตรลักษณ์ แทนที่จะ เห็น ]


    ปล. พี่เกิด อย่า งง เด้ ...ข้อความส่งถึงพี่เกิด หยุดเป็นตัวสำเร็จ ตรงที่
    ฟาดเข้ากองวิญญาณตัวเดียว แทนที่จะ กองใดก็ล่าย มี สัตตานังหมดแหละ
    ส่วนข้อความเกิน อันนั้น จม ผิดซอง ฮี้ ฮี้ ฮี้ ฮี้
     
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    อีกคำหนึ่ง อันนี้ พี่เกิด น่าจะได้ยินบ่อย

    " จิตไม่เกิดไม่ดับ "

    " จิตไม่เกิดไม่ดับ " ถ้าไม่ภาวนาให้แจ้งนิพพาน ก็จะ ไม่เกิดไม่ดับ
    (คือ หมายถึง หาเบื้องต้น เบื้องปลายไม่ได้ )

    ดังนั้น

    " จิตไม่เกิดไม่ดับ " ที่พระป่า ท่านใช้ ท่านก็หมายเอาคำว่า สัตตานัง
    แบบที่พี่เกิดใช้ นั่นแหละ

    มะเชื่อ พี่เกิดลองกลับไปอ่าน / ฟัง ดูดีๆ ฟังให้ครบๆ กระแสความ


    ปล. ทั้งนี้ทั้งนั้น โดยมากเวลาเป็น " คำครู " จะมีการแตกปริเฉท วรรค
    ตอนของการกล่าวธรรมะ แบบคำเดียว หลายอรรถสาระ ทั้งนี้เพราะ
    เจ้าของคำท่านกล่าวเทศนาหลายที่ พระที่เป็นศิษย์ท่านที่ปัญญาดี
    ท่านจะทรงจำได้หลายกัณฑ์เทศน พี่เกิดเลยอาจจะเจอแบบ คำเดียว
    แต่พูดซ้ำหลายวรรค หลายย่อหน้า อันนี้ พี่เกิดก็ต้องอ่านให้หมดหน่าคร้าบ
    อย่าหยิบ วรรคเดียว ย่อหน้าเดียว [ พูดในแง่ ปฏิจสมุปบาท อย่าเห็น
    เป็นของง่าย ดังนั้น จะมีการแตกปริเฉทพรึ๊บเลย สัตตานัง เนี่ยะ ]
     
  15. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    สัตว์ “ผู้ติดข้องในรูปารมณ์ เป็นต้น” สิ่งที่มีความรู้สึก และเคลื่อนไหวไปได้เอง รวมตลอดทั้งเทพ มาร พรหม มนุษย์ เปรต อสุรกาย ดิรัจฉาน และสัตว์นรก

    ในบาลีเพ่งเอามนุษย์ก่อนอย่างอื่น

    ไทย มักเพ่งเอาดิรัจฉาน

    สัตตานัง สัตตา แปลว่า สัตว์ ที่เห็นเป็นรูป สัตตานัง เพราะแจกวิภัตติตามหลักไวยากรณ์
     
  16. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    [/QUOTE]


    สัตตานัง สัตตานัง สัตตานัง เอาคำพูดของสัตตานัง มาทวนเอาไว้ให้อ่าน ไฮไลท์แต่จุดที่พีกๆให้ดู

    คุณเราโตไปเป็นเด็ก นี่จับหลักมหาประเทศ 4 ได้ครึ่งๆกลางๆนะครับ จับหลักการไม่ยึดติดตัวบุคคลก็ได้ครึ่งๆกลางๆอีกเหมือนกัน

    ใจคุณจะคิดแต่ว่าใครไม่พูดบาลี ใครไม่เอาคำพระพุทธเจ้ามาบอกต่อ พวกนั้นเป็นอลัชชีหมด ป๊าดดดด
    คุณต้องดูสิครับ ว่าเขาเอาธรรมหมวดใดมาเทศน์ เทศน์ออกมาแล้วตรงกับพระไตรไหม แล้วค่อยสรุปสิครับว่าท่านผู้นั้นเทศน์ได้ตรง หรือไม่ตรงกับพระไตร (พุทธวจนของคุณ)

    เมื่อฟังธรรมจากบุคคลผู้นั้นแล้ว ถูกต้อง ชื่นชอบ ก็น้อมนำมาปฏิบัติ น้อมนำธรรมมา ตัวบุคคลอย่าไปสนใจมาก จึงเรียกได้ว่าไม่ยึดติดตัวบุคคล แต่เราก็ยังนำธรรมของเขามาใช้พัฒนาตัวเอง(หากธรรมนั้นถูกต้อง)

    ่ใครไม่กล่าวบาลีแสดงธรรม กล่าวหาไปทั่วว่าเป็นคำสาวกไปหมด ป๊าดดด ภาษาไทยไม่ใช้ ต้องสื่อสารกันแล้ว
    ปฏิสัมภิทาญาณ รู้จักบ่อพี่น้อง? ย่อขยายความธรรม นะพี่น้อง มันเป็นความสามารถเฉพาะบุคคลเมื่อเขาย่อหรือขยายได้คล่อง พูดไปเรื่อยได้ 10 หน้ากระดาษ จากต้นฉบับที่มีเพียง 2 บรรทัด แต่ถ้าเนื้อธรรมไม่ได้ผิดไปจากธรรมแท้ ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะรับฟัง
    บางทีการได้ฟังธรรมที่เขาขยายออกมายาวๆ ก็เพลินดี เหมือนดูคอนเสริตนักร้อง k-pop สนุกจะตาย จะรีบปิดทีวีหนีไปทำไมเล่า
    เมื่อเข้าใจเนื้อธรรมใน 2 บรรทัดได้ลึกซึ้งทีแล้ว จะฟังเพิ่มอีก 10 หน้ากระดาษจะเป็นไรไป สายปฏิสัมภิทาญาณ เขาเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
    เพื่อสอนคนโง่ๆที่มันไม่เข้าใจใน 2 บรรทัด


    พี่เล่นด่ากราดเขาไปทั่วแบบนี้ไม่ไหวจะเคลียร์ ศิษย์โง่อ่านแล้วฮา บ่องตง!!!


    ศิษย์โง่ รู้สึกถึงความตลก ยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะหยิบอมยิ้มเข้าปาก ดูดม๊วฟๆด้วยความหวาน ก่อนจะคิดได้ว่า เราก็เป็นสัตว์ตานังตัวหนึ่งนี่หน่า คริคริ^^
     
  17. ศิษย์โง๋

    ศิษย์โง๋ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +66
    คุณยังไม่เข้าใจในระดับของความลุ่มลึกของธรรม และระดับปัญญาของผู้ที่พร้อมจะรับฟังธรรม

    ขนาดตัวคุณโปรโมทตัวเองปาวๆว่ารับฟังแต่ธรรมแท้ๆจากพระโอษฐ์(พุทธวจน) กระทู้ก่อนคุณยังโชว์ระดับปัญญาของคุณออกมาเอง ว่าสมาธิต้องถอยมาพิจารณา "ไม่ให้ความสำคัญกับสมาธิชั้นลึก" ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันผิด เพราะผมได้ยกพุทธวจน มาค้านความคิดของคุณเอง

    ใครกล่าวคำพระพุทธเจ้ามาสอน เป็นสิ่งที่น่ายกย่อง แต่ต้องมองที่บริบทของผู้รับสารด้วยว่าพร้อมจะรับฟังธรรมชั้นลึกได้แค่ระดับไหน ตัวคุณเองคือตัวอย่างที่ดี ที่เป็นบทเรียนให้ผู้อื่นเห็นถึงความพร้อม

    พุทธวจน ถ้าพูดในแง่ marketting กลุ่มเป้าหมายคือพวกชนชั้นกลางขึ้นไป หรือกลุ่มปัญญาชน เช่นนิสิต คนรุ่นใหม่ที่โตมากับ ipad, Internet ความเร็วสูง คนกลุ่มนี้ไม่นิยมความงมงาย หรือความไม่มีเหตุมีผล การรดน้ำหมา- เสกน้ำมนต์ เมื่อคนกลุ่มนี้เห็นคำสอนที่ดูมีหลักปรัชญา ลุ่มลึก และถ้ามีสัมมาทิฐิ ก็จะรู้สึกโดนใจในทันที แต่ถ้าไม่ก็จะเป็นกลุ่มคนที่ไม่นับถือศาสนาจะเป็นพวกนิยมวิทยาศาสตร์ นี่คืออุปนิสัยของคน GEN-Y ที่พุทธวจน ตอบโจทย์ได้ค่อนข้างดี รวมไปถึงฝรั่ง คนต่างชาติ ที่ไม่ยมพุทธพานิช ในลักษณะรดน้ำมนต์ ปลุกเสกพระเครื่อง สังเกตุได้จากการที่พระฝรั่งจะนิยมไปทางสายวัดป่า หลวงปู่ชาเป็นส่วนมาก พุทธพานิชสายเก่า จึงเริ่มไปอยู่กับตลาดคนรุ่นเก่า และตลาดชนชั้นล่าง ในปัจจุบัน

    ถ้าคุณเข้าใจในระดับปัญญาของผู้ที่พร้อมจะรับฟังจริง คุณจะไม่เดือดร้อน เที่ยวด่ากราดไปทั่วแบบนี้หรอกครับ
    มันเป็นไปไม่ได้ ที่ทุกคนจะคิดตรงกันหมด คนรุ่นใหม่บางคนเคยฟังคลิปพุทธวจน แต่ ก็ยังไม่วายเดินสายไปแก้กรรม นอนในโลงศพ บูชาพระพิฆเนศ นี่คือสิ่งที่บ่งชี้ได้ชัดเจนเช่นกัน ถึงความพร้อมของผู้รับสาร แม้ในกลุ่มของปัญญาชนคนรุ่นใหม่เอง


    ผมคงแนะนำ และเตือนสติคุณได้แค่นี้เอง ที่เหลือก็แล้วแต่เวร แต่กรรมคุณก็แล้วกันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2017
  18. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :eek::oops::rolleyes: สมองคุณ-ปัญญา-กริยาถ่อย-แบบนี้นี่นะ มาแสดงธรรมลุ่มลึก กริยาคุณ ส่อสันดานทั้งตระกูล-ตั้งแต่กะทู้ก่อนที่คุณเข้ามาตอบ
    :mad:-นี่นะ สามารถแสดงธรรมได้-ลุ่มลึกระดับปัญญา ผมสู้คนบ้า-กับพวกไม่ยอมเปลี่ยนโลกทัศน์ -ไม่รับความจริง-ไม่ไหวแล้ว
    :pพวกคุณเหมาะกับเวบนี้-ห้องนี้ห้องเดียวจริงๆ-แต่ก็ยังดีใจที่มีคนเห็นมั่งแม้จะได้จำนวนน้อย -ศรัทธาตัวบุคคลจนโงหัวไม่ขึ้น-ไม่ไหวผมปิดกะทู้ครับเหนื่อย..เหตุผลใช้กับพวกคุณไม่ไ้ด้-เวลา- เวลา-ความจริง เท่านั้น จะรักษาพวกคุณเอง อิอิ
     
  19. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    รูปธรรม นามธรรม ก็เป็นอย่างนี้แหละครับ

    รูปธรรมมันเป็นอะไรที่พอจับต้องได้ ตบแต่งจัดฉากได้ ให้เป็นไปตามใจ ตามหลักวิชาการ มันพอทำพอสรุปได้ สามารถพูด แถลง คิด วิเคราะห์ให้ลงตรงไปในหลักการได้ อันนี้เรียกว่าศึกษาทำความเข้าใจไปอย่างโลก ๆ อย่างตรรกศาสตร์เขาศึกษากัน

    แต่การเข้าถึงเห็นแจ้งในส่วนที่เป็นนามธรรม มันอีกแบบ คือมันต้องข้ามความเชื่อทั้งหลายไปก่อนให้ได้ วิชาการ ความรู้อะไรเนี่ย ต้องเอาวางไว้ให้หมดก่อนครับ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นวิปัสสนึกวิปัสสคิดแน่นอนพันเปอร์เซ็นต์

    ผมเองก็เพิ่งเข้าใจในจุดนี้นะครับ คำพูด ความคิดมันสวยหรูดูดีหมดแหละครับ แต่มันเข้าไม่ถึงความจริงจริงๆ เลย นามธรรมตัวจริงนี่ถูกปิดกั้นหมดด้วยฐานคิดล้วนๆ นี่แหละครับ ที่ทำไมครูบาอาจารย์ท่านถึงบอกว่า ให้อยู่กับปัจจุบัน เห็นตามความเป็นจริง อย่าไปมัวคิดมัวนึกอยู่ มันจะเข้าไม่ถึงไม่เห็นความจริง มันเป็นอย่างนี้ กิเลสมันก็เก่งนะ เอาคำว่าดำริเข้ามาใช้เพิ่มอีก ดำริ คิด นึก ไม่เหมือนกัน มันสวยหรูมาก นี่วิชาการเขาประเคนให้เรื่อยๆ เป็นวิบากกรรมอย่างหนึ่ง ต้องรู้เท่าทันสังขารมันจะคอยหลอก มันดูเป๊ะเว่อร์มากเลยนะครับ แต่ยังไม่เป็นสัจจธรรมความจริงถึงใจแต่อย่างใด เข้าไม่ถึงนามธรรมเลยสักนิด

    นามธรรมต้องเข้าไปเห็นตามความเป็นจริงอย่างเดียว อะไรเป็นอะไร ไม่ใช่แบกตำราเข้าไป มันผิดหมด หลง โดนส่วนสมมุติหลอกให้ไปทางความเชื่อนั้นทั้งนั้นครับ เอาวางไว้ก่อนเลย เข้าให้ถึงความจริงจริงๆ เสียก่อนแล้วจะรู้เอง แยกรูปธรรมนามธรรมได้ มันถึงจะรู้ความจริง ถึงจะมีทางหลุดทางพ้นได้จริงครับ แล้ววิชาการที่ร่ำเรียนมาเหล่านั้นแหละ จะช่วยส่งเสริมเราเองในภายหลัง

    ส่วนเรื่องจิตเที่ยง/จิตไม่เที่ยงอะไรที่กังวลนี่ก็เหมือนกันครับ ยังเป็นความวนเวียนอยู่ในเรื่องของสังขารวิชาการล้วนๆ ความจริงในส่วนของนามธรรมไม่มีตัวตนอะไรอยู่แล้ว ทุกอย่างเกิด ขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ความหลงยึดมั่นถือมั่นนี่สำคัญ เมื่อจิตใจนามธรรมนั้นได้เรียนรู้ถูกผิดเห็นทุกข์โทษภัยแล้ว ก็เป็นอันว่าวางไปเอง ไม่มีตัวตน ไม่ต้องไปกังวลอะไร ขอให้เข้าให้ถึงตัวนามธรรม แยกรูปแยกนามให้ได้เสียก่อนนั่นแหละเดี๋ยวก็รู้แจ้งความจริงเอง:rolleyes::)
     
  20. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    กั๊กๆๆๆๆ

    พินาเอา จิฮับ

    ตอนที่ แซะธรรมได้ ก็ เอ๊อะ เออ ใช่หว่ะ ต้องกำหนดรู้สภาวะธรรมเกิดดับ
    ต้อง จิตถึงฐาน อย่างนั้น อย่างนี้ ทำท่า ...

    ทำท่า ...

    ทำท่า เหมือนจะเข้าถึง

    คนเขาเลยเช็ค พูดไขว้กลับไปที่ พระ ให้กลับไปฟังได้

    พอกลับไปฟัง ก็ไป คว้า คำสอนบระเฮีย!! กลับมา เหมือนเดิมเป๊ะ แต่
    เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนอารมณ์สมถะ จาก อรูป แม่ เฮีย กลับไปติด รูปวจรจิต

    ทำได้

    ทำได้

    ทำได้ เฮียอะไร สภาวะธรรม ไตรลักษณ์ มันปรากฏของมันอยู่ ต้อง
    เข้าไปเห็น พวก สมถะ หนา เฮียยยย แม่ ก๊อปปี้วิปัสสสนาไปกล่าว
    จนเหมือน แต่ ต่างกัน ฟ้ากับเหว ทำ กับ ตามรู้


    อกตัญญู มากนัก ก็เชิญ ตาม จะบาย ทำไปเถอะ ปัญญา"จะ"ดับ ตรงนั้นตรงนี้
    เฮีย!!! อะไรเนี่ยะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...