เว็บพลังจิต สัทธรรมปฏิรูป

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด, 26 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    3,278
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,494
    <CENTER>๑๓. สัทธรรมปฏิรูปกสูตร</CENTER><CENTER>.
    </CENTER>[๕๓๑] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของ
    ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี

    ครั้งนั้น ท่านพระมหากัสสปเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้ว ถวายอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นพระมหากัสสปนั่งเรียบร้อยแล้วได้กราบทูลถามว่า

    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอแล เป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้เมื่อก่อนสิกขาบทมีน้อยและภิกษุตั้งอยู่ในพระอรหัตผลมีมาก

    และอะไรเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บัดนี้สิกขาบทมีมาก และภิกษุตั้งอยู่ในพระอรหัตผลมีน้อย ฯ

    [๕๓๒] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรกัสสป ข้อนั้นเป็นอย่างนี้คือ

    เมื่อหมู่สัตว์เลวลง พระสัทธรรมกำลังเลือนหายไป สิกขาบทจึงมีมากขึ้น ภิกษุที่ตั้งอยู่ในพระอรหัตผลจึงน้อยเข้า สัทธรรมปฏิรูปยังไม่เกิดขึ้นในโลกตราบใด ตราบนั้นพระสัทธรรมก็ยังไม่เลือนหายไป

    และสัทธรรมปฏิรูปเกิดขึ้นในโลกเมื่อใด เมื่อนั้นพระสัทธรรมจึงเลือนหายไป ทองเทียมยังไม่เกิดขึ้นในโลก ตราบใดตราบนั้นทองคำธรรมชาติก็ยังไม่หายไป

    และเมื่อทองเทียมเกิดขึ้น ทองคำธรรมชาติจึงหายไป ฉันใด

    พระสัทธรรมก็ฉันนั้น สัทธรรมปฏิรูปยังไม่เกิดขึ้นในโลกตราบใด ตราบนั้นพระสัทธรรมก็ยังไม่เลือนหายไป เมื่อสัทธรรมปฏิรูปเกิดขึ้นเมื่อใด เมื่อนั้นพระสัทธรรมจึงเลือนหายไป ฯ

    [๕๓๓] ดูกรกัสสป ธาตุดินยังพระสัทธรรมให้เลือนหายไปไม่ได้ ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม ก็ยังพระสัทธรรมให้เลือนหายไปไม่ได้

    ที่แท้โมฆบุรุษในโลกนี้ต่างหาก เกิดขึ้นมาก็ทำให้พระสัทธรรมเลือนหายไป เปรียบเหมือนเรือจะอัปปาง ก็เพราะต้นหนเท่านั้น พระสัทธรรมยังไม่เลือนหายไปด้วยประการฉะนี้ ฯ

    [๕๓๔] ดูกรกัสสป เหตุฝ่ายต่ำ ๕ ประการเหล่านี้ ย่อมเป็นไปพร้อมเพื่อความฟั่นเฟือน เพื่อความเลือนหายแห่งพระสัทธรรม

    เหตุฝ่ายต่ำ ๕ ประการเป็นไฉน คือ
    ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในธรรมวินัยนี้

    ไม่เคารพยำเกรง
    ในพระศาสดา ๑
    ในพระธรรม ๑
    ในพระสงฆ์ ๑
    ในสิกขา ๑
    ในสมาธิ๑

    เหตุฝ่ายต่ำ ๕ ประการเหล่านี้แล ย่อมเป็นไปพร้อมเพื่อความฟั่นเฟือน เพื่อความเลือนหายแห่งพระสัทธรรม ฯ

    [๕๓๕] ดูกรกัสสป เหตุ ๕ ประการเหล่านี้แล ย่อมเป็นไปพร้อมเพื่อความตั้งมั่น ไม่ฟั่นเฟือน ไม่เลือนหายแห่งพระสัทธรรม

    เหตุ ๕ ประการเป็นไฉน คือ
    ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในธรรมวินัยนี้

    มีความเคารพยำเกรง
    ในพระศาสดา ๑
    ในพระธรรม ๑
    ในพระสงฆ์ ๑
    ในสิกขา ๑
    ในสมาธิ ๑

    เหตุ ๕ ประการเหล่านี้แล ย่อมเป็นไปพร้อมเพื่อความตั้งมั่น ไม่ฟั่นเฟือน ไม่เลือนหายแห่งพระสัทธรรม ฯ


    <CENTER>จบสูตรที่ ๑๓


    </CENTER><CENTER>จบกัสสปสังยุตต์ที่ ๔</CENTER><CENTER></CENTER>

    __________________________
    .

    เชิญชวนร่วมกุศล
    .
    "ช่วยกันดูแลรักษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระบรมศาสดากัน"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 กุมภาพันธ์ 2011
  2. ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    3,278
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,494
    ............................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Thanks 02.jpg
      Thanks 02.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.9 KB
      เปิดดู:
      1,786
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 มีนาคม 2011
  3. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    906
    ค่าพลัง:
    +3,887
    เหตุที่พุทธศาสนาจะเสื่อมสิ้นไปนั้นก็เนื่องด้วยพุทธบริษัททั้งหลายนี้แหละที่ประมาทในธรรม
    ก็เพราะพุทธบริษัททั้งหลายนี้แหละที่ขาดศรัทธาในองค์พระศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ก็เพราะพุทธบริษัทนั้นแหละที่ลดคุณค่าของศาสนาตนเองไปและไปหลงไหลได้ปลื้มกับลัทธิใหม่ที่อวดอ้างว่าเป็นของใหม่ จนประกาศออกมาว่าที่แท้พุทธศาสนาก็ไม่ได้แตกต่างจากศาสนาอื่น
    คนที่พูดออกมาเช่นนี้ก็เหมือนเปรียบว่าเพชรนั้นก็เหมือนกับพลอยฉันใดก็ฉันนั้น
    พุทธศาสนาอาจเหมือนหรือคล้ายศาสนาอื่นในเรื่องการสอนถึงจริยธรรม
    แต่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงในเรื่องการสอนให้ศาสนิกปฏิบัติเพื่อนิพพานคือการไม่เวียนว่ายตายเกิดโดยตัดวงจรแห่งปฏิจจสมุทปาท
    ไม่มีศาสนาอื่นใดในโลกแม้แต่ลัทธิใหม่เช่นnew age สอนเช่นนี้
    เพราะศาสนาอื่นนั้นไม่ว่าจะยืมศาสนาพุทธไปอธิบายหลักคิดอย่างไรอย่างไรก็ไม่อาจสลัดหลุดไปจากคำว่าพระเจ้าได้
    พุทธศาสนานั้นการที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งจะหลุดพ้นไปจากสังสารวัฎอันแสนยาวนานนี้ได้ต้องเกิดความเบื่อหน่าย ขัดข้องในโลกนี้ก่อน
    เพราะเบื่อหน่ายในมายาของโลกจึงปรารถณาไม่อยากเวียนว่ายตายเกิดอีก จึงมุ่งปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้น หาใช่ปฏิบัติเพื่อการเป็นพระเจ้าหรือกลับไปสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นของพระเจ้า
    เพราะถอนอุปาทานของตนว่าตนตัวนั้นมีอยู่จริง จึงพ้นไปได้
    ขอพุทธศาสนิกชนโปรดพิจารณา
     
  4. 26895645

    26895645 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +0
    ผมเห็นด้วยนะกับความคิดเห็นข้างบน
    เพียงแต่ว่า
    ถ้าไม่มีคำว่านิวเอจ
    และเป็นคำสอนพุทธเป๊ะๆไม่มีผิดเพี๊ยน
    ผมก็ยังนึกยากอยู่ว่าสุดท้ายแล้วห้อง "พลังจิต ลึกลับ"นี้
    จะเอาอะไรมาโพสต์กัน
    ห้องนี้ก็จะกลายเป็นห้อง "พุทธศาสนา พระไตรปิฎก"
    เพราะข้อมูลทั้งมนุษย์ต่างดาว
    คำพยากรณ์
    พลังจิตบางสาขา ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่แนวพุทธ
    ผมเพียงแค่อยากขอความเห็นว่า ถ้าเป็นอย่างที่ว่าจริงๆ
    เราจะเหลืออะไรให้โพสต์กันบ้างเท่านั้นครับ
    แต่ก็เห็นด้วยกับความเห็นก่อนหน้านะครับ
     
  5. pmntr

    pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +2,244
    ถ้าพลังจิตเกิดมาเพราะพระธรรม เพราะอัศจรรย์แห่งพระพุทธศาสนา
    ผมคาดหวังว่าจะพยายามพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนา พระรัตนตรัยให้บริสุทธิ์ อย่างเต็มกำลังความสามารถ
    ผมไม่สนใจหรอกว่าสมาชิกจะมาก จะน้อย จะเร็ว จะแรง จะทันสมัย ไฮเทคอย่างไร แต่ถ้าหากไม่สามารถแสดง และคงไว้ซึ่งพระธรรมที่แท้จริง ที่ถูกต้อง ปรับวิธีการเผยแผ่ได้ แต่จะปรับเปลี่ยนเนื้อหาตามใจไม่ได้ เพราะรู้ได้อย่างไรว่าถูก เข้าใจตรง
    อย่างพระใบลานเปล่า แม้จะไม่รู้ แต่กล่าวตามพระพุทธเจ้าก็ทำให้มีผู้บรรลุได้มากต่อมาก แต่ถ้าเอามาทำความเข้าใจเอง คิดว่าต้องเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ถ้าผู้คิดยังไม่ได้อะไรสักอย่างเลย คาดว่าจะพากันลากลง และไปไกลจนกลับไม่ทัน
    เรามีหน้าที่ทำตามพระธรรมคำสอน ตามพระพุทธเจ้า ตามหลวงปู่หลวงพ่อ ท่านสอนไว้ ท่านวางแบบไว้ เราก็เอาไปเผยแผ่ ประยุกต์วิธีเผยแผ่ให้์เข้ากับยุค กับเทคโนโี้ลยีได้ แต่จะนอกแบบ ไปบอกแบบคิดว่าอย่างนั้น อย่างนี้ไม่ได้ ยกเว้นว่าถ้าคุณได้แล้ว อย่างถูกต้องเป็นจริง ไม่ได้อุปาทาน
    สิ่งต่าง ๆ ในเว็บนี้พากันออกนอกพระธรรมมากขึ้นเรื่อย ๆ มีบางส่วนเท่านั้นที่ยังรักษา ดึงให้อยู่กับพระพุทธศาสนา หลาย ๆ ส่วนนอกพระรัตนตรัยอย่างรุนแรง แค่ให้ยังอยู่กับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แค่นี้ก็ดีมากแล้ว ไม่ใช่พาลากกันไปไหนต่อไหน
    พระธรรมให้พยายามปฏิบัติ ทำความเข้าใจ ก็ยากแล้ว ยังจะพยายามไปหาเรื่องอื่น ๆ เข้ามาคิดกันอีก แค่สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนเพื่อมรรคผลนิพพานก็มากแล้ว ยากแล้ว ยังจะเอาเรื่องอื่น ๆ อีก ไม่ได้มีประโยชน์ ไม่ได้เป็นไปเพื่อการบรรลุ ไม่ได้เพื่อมรรคผลนิพพาน จริงอยู่ว่าหลายท่าน หลายคน อาจจะไม่สามารถเข้าใจได้ทันที แต่นี่คือบารมีธรรม สิ่งที่จะสะสมเพื่ออนาคตของเขาเหล่านั้น อย่างที่ท่านว่าตักน้ำรดหัวตอ ไม่งอกแต่ชื้น ๆ ก็ยังดี (เรื่องว่าตอผุ ตอพัง ขึ้นรา ช่างมันเถอะ อย่ามาลากออกนอกเรื่อง) มีหลายครั้งที่ได้ยินได้ฟัง แม้ไม่เ้ข้าใจ แต่ได้ฟัง ได้คิดสักนิด แต่ในอนาคตต่อไปส่วนนี้กลับเป็นสิ่งที่ส่งให้ได้บรรลุ
    ขอให้ช่วยกันรักษาพระพุทธศาสนาอย่างเต็มกำลัง เต็มความสามารถ ผมเชื่อว่าหลาย ๆ สมาชิกของเว็บ ท่านเป็นผู้ที่มีความสามารถอย่างมาก ถ้ามาร่วมมือ ช่วยกันอย่างเป็นระบบ ต้องมีผลไม่มากก็น้อย
    หากเว็บนี้จะสามารถทำให้สักเพียงคนเดียวมั่นคงต่อพระรัตนตรัยได้อย่างแท้จริงแล้ว ผมดีใจมากจริง ๆ ไม่เสียดายเลย
     
  6. 26895645

    26895645 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +0
    แสดงธรรมตามหลักองค์ธรรมกถึก คือ ธรรมที่ผู้แสดงธรรมควรตั้งไว้ในใจ ๕ ประการคือ
    ๔.๑ แสดงธรรมไปตามลำดับ คือแสดงหลักธรรมหรือเนื้อหาวิชาตามลำดับความง่ายยาก มีเหตุผลสัมพันธ์ต่อเนื่องกันเป็นลำดับ
    ๔.๒ ชี้แจง ยกเหตุผลมาแสดงให้เข้าใจ คือ ชี้แจงให้เข้าใจชัดในแต่ละแง่แต่ละประเด็น โดยอธิบายขยายความตามแนวเหตุผล
    ๔.๓ แสดงธรรมด้วยเมตตา คือ สอนผู้ฟังด้วยจิตเมตตา มุ่งจะให้เป็นประโยชน์แก่ผู้ฟังอย่างแท้จริง
    ๔.๔ ไม่แสดงธรรมด้วยการเห็นแก่อามิส คือ สอนโดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน
    ๔.๕ แสดงธรรมไม่กระทบตนและผู้อื่น คือ สอนตามหลักเนื้อหาวิชา มุ่งแสดงธรรม ไม่กล่าวยกย่องตนเองและไม่กล่าวเสียดสี กล่าวข่มผู้อื่น หรือกล่าว“ยกตนข่มท่าน”

    อ้างอิงUntitled Document

    ผมแค่กังวลว่าบางทีอาจมีบางท่านเข้าไปทักท้วงแบบอคติจึงนำมาให้พิจารณา

    ด้วยความเคารพอย่างจริงใจ
     
  7. pmntr

    pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +2,244
    เพราะความหลากหลายของพลังจิต ทำให้มีผู้เข้าใช้มาก แต่...
    ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยใจจริงแท้ ๆ เพราะท่านก็ย่อมมีใจรักษาเช่นกันครับ
     
  8. 26895645

    26895645 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +0
    ผมขอให้ผู้ดูแลเว็บบอร์ดพิจารณารายละเอียดของห้องนี้ที่ว่า
    วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ
    ศูนย์รวมคนมีพลังจิต, วิทยาศาสตร์ทางจิต, วิทยาศาสตร์มหัศจรรย์, เรื่องลึกลับ, มนุษย์ต่างดาว, สัมผัสที่หก, วิญญาณศาสตร์, UFO, ศาสตร์และประสบการณ์อันลี้ลับ, ศาสตร์แห่งปัญญาที่ล้ำเลิศ, ศาสนาและปรัชญา

    เพราะถ้าเข้มงวดเช่นนั้นก็จะกลายเป็นห้องนี้
    อภิญญา-สมาธิ
    แลกเปลี่ยน,ถามตอบและแนะนำ การฝึกสมาธิทุกรูปแบบ, ฝึกพลังจิต, ฝึกอภิญญา, สมถและวิปัสนากรรมฐาน เพื่อมรรคผลนิพพาน

    ผมแค่เกรงว่าคนที่จะโพสต์จะใช้วิจารณญาณยังไงดี
    ถ้าจะกรุณาชี้แจงให้กระจ่างยิ่งๆขึ้นก็จะดีครับ
     
  9. ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    3,278
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,494
    พลังจิตมีความหลากหลาย เพื่อให้คนเ้ข้ามาศึกษาตามจริตของตน จะเห็นว่ามีทั้งห้องคาราโอเกะ ห้องพระเครื่อง-วัตถุึมงคล ห้องผี จิตวิทยา ห้องดูดวง เป็นต้น

    ซึ่งเป็นกุศโลบาย(กุศล+อุบาย)ในการให้คนเข้ามาร่วมชุมชนพูดดี คิดดี ทำดีกัน และปกติของคนเราก็มักจะคลิกเข้าไปดูสิ่งต่าง ๆ ที่เข้าไปได้ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

    และความที่พลังจิตเป็นเว็บเรื่องพระพุทธศาสนา สมาชิกที่คลิกเข้าไปดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็ได้พบเห็นเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านหู ผ่านตาเรื่องพุทธศาสนาในห้องต่าง ๆ ทำให้ได้คำตอบในชีวิตที่มีคำตอบในเรื่องของพระพุทธศาสนาโดยบังเอิญบ้่างก็มี ทำให้รู้สึกสว่างในใจ ทำให้มีทางออกในความรู้สึกไม่ดี ๆ ของกิเลส มีความสบายใจ ได้บุญ

    พลังจิตเป็นเว็บมุ่งเรื่องพระพุทธศาสนาจึงพูดคุยเรื่องนี้ในห้องต่าง ๆ ได้เต็มปากเต็มคำ หากเราไปคุยเรื่องพระพุทธศาสนาในเว็บที่เขาไม่มุ่งเน้นเรื่องพระพุทธศาสนา เราอาจดูไม่มีพวก หรือถูกหาว่าพูดทำตัวเป็นคนธรรมะธรรมโม รับไม่ได้จากสมาชิกบ้างก็มี

    ห้องวิทยาศาสตร์ทางจิต-ลึกลับ

    วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ
    ศูนย์ รวมคนมีพลังจิต, วิทยาศาสตร์ทางจิต, วิทยาศาสตร์มหัศจรรย์, เรื่องลึกลับ, มนุษย์ต่างดาว, สัมผัสที่หก, วิญญาณศาสตร์, UFO, ศาสตร์และประสบการณ์อันลี้ลับ, ศาสตร์แห่งปัญญาที่ล้ำเลิศ, ศาสนาและปรัชญา

    ก็สามารถพูดคุยกันในเรื่องพระพุทธศาสนาได้ในกระทู้ต่าง ๆ ซึ่งเรื่องความเข้มข้น เมื่อถึงจุดสุกงอม ความสุกงอมนั้นจะทำให้ไหลไปรวมกันที่เหมาะสมเองโดยธรรมชาิติของความสนใจของสมาชิกเองประการหนึ่ง และด้วยการดูแลของทีมงานฯประการหนึ่ง

    เพราะ ธาตุแท้ย่อมไหลไปอยู่ที่ธาตุแท้ด้วยกัน เช่นธาตุทองก็ย่อมรวมอยู่กับทอง จึงเป็นทอง หรือน้ำกลั่นก็ย่อมรวมอยู่กับน้ำกลั่นโดยอัตตโนมัติ จึงเป็นน้ำกลั่นที่รวมกัน

    ฉะนั้นสมาชิกก็พูดคุยกันในกระทู้ที่ห้องวิทย์ฯ ได้เต็มที่ เพราะอนุญาตให้ไว้ในหมวดแล้ว
    และเมื่อเข้มข้นขึ้น ๆ สมาชิกก็จะมีการพัฒนาไปสู่ห้องที่เหมาะสมมีพวกมากมายเรื่องที่เข้มข้นต่อไปเองโดยธรรมชาติพาไป คือความสนใจพาคลิกเข้าไปคลุกคลีที่ตนสนใจนั่นเอง

    นั่นหมายถึงเป็นสิ่งที่น่ายินดีและอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งที่มีความสนใจขนาดห้องอภิญญา-สมาธิได้ แสดงถึงมีการฝึกศีล สมาธิ ปัญญาบ่อย ๆ ในชีวิตประจำวันประกอบด้วย นั่นเอง

    สำหรับผู้ดูแลฯ เห็นพูดคุยกันตามกระทู้เรืองธรรมะ ในห้องวิทย์ก็ปล่อยตามสะดวก แต่บางทีหากมีการตั้งกระทู้ เห็นว่าน่าย้ายไปห้องอื่น เช่นห้องอภิญญาน่าจะได้ประโยชน์สำหรับ คำถามหรือกระทู้นั้น ๆ ก็ย้ายไป หรือเอาไว้ห้องนี้ได้ประโยชน์กว่าก็เอาไว้ เป็นต้น

    อนุโมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 กุมภาพันธ์ 2011
  10. 26895645

    26895645 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +0
    ผมขออยู่แบบเงียบๆดีกว่า
    รู้สึกจะสาธยายมากเกินควร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2011
  11. ดูงาน

    ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    571
    ค่าพลัง:
    +2,670
    <TABLE cellSpacing=3 cellPadding=3 width=600 border=0><TBODY><TR><TD colSpan=2>เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานแล้วได้ ๗ วัน พระสุภัททะร่วมอยู่ในคณะของพระมหากัสสปเถระ ซึ่งกำลังเดินทางจากเมืองปาวาสู่เมืองกุสินาราระหว่างทางนั้น คณะได้ทราบข่าวพุทธปรินิพพานจากอาชีวกผู้หนึ่ง ภิกษุทั้งหลายที่ยังไม่สิ้นราคะพากันร้องไห้คร่ำครวญเป็นอันมาก
    ในขณะนั้นเองพระสุภัททะ (วุฑฒบรรพชิต) ก็ร้องห้ามขึ้นว่า “อย่าเลย ท่านผู้มีอายุพวกท่านอย่าเศร้าโศก อย่าร่ำไห้ไปเลย พวกเราพ้นดีแล้ว พระมหาสมณะนั้นคอยเบียดเบียนพวกเราว่าสิ่งนี้ควรแก่เธอสิ่งนี้ไม่ควรแก่เธอ บัดนี้พวกเราปรารถนาสิ่งใด ก็จักกระทำสิ่งนั้น ไม่ปรารถนาสิ่งใดก็จักไม่กระทำสิ่งนั้น”
    </TD></TR><TR><TD>
    พระมหากัสสปเถระได้ฟังแล้วเกิดธรรมสังเวช ดำริว่า “พระพุทธเจ้าปรินิพพานเพียง ๗ วัน ก็ยังเกิดเสี้ยนหนามขึ้นแล้วในพระศาสนา หากต่อไปคนชั่วได้พวกพ้องมีกำลังเติบกล้าขึ้นก็จะทำพระศาสนาให้เสื่อมถอย” ดังนั้น หลังจากเสร็จงานถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระแล้ว ท่านจึงได้ยกถ้อยคำของพระสุภัททะ (วุฑฒบรรพชิต) นี้ขึ้นเป็นข้อปรารภชักชวนพระเถระทั้งหลายร่วมกันทำสังคายนาครั้งแรก


    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    Web Guide: <!-- google_ad_section_end -->

    <!-- google_ad_section_end -->
     
  12. ดูงาน

    ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    571
    ค่าพลัง:
    +2,670
    พุทธทำนาย 16 ข้อ
    สุบินนิมิตข้อที่ 6
    พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบินนิมิตเห็นมีหมู่มนุษย์ ถือถาดทองคำอันมีค่ามหาศาล ไปวางให้สุนัขจิ้งจอกถ่ายอุจจาระถ่ายปัสสาวะใส่
    พระพุทธเจ้าให้คำทำนายว่า
    อนาคตต่อไปในภายภาคหน้าโน้น กลุ่มคนที่โง่เขลาปัญญาทราม จะเอาพระธรรมคำสอนของเราตถาคต ไปให้ลัทธิต่าง ๆ เหยียบย่ำทำลาย แล้วถ่อยทอดลัทธิของเขา เอาคำสอนของเขาที่สกปรกโสโครกด้วยกิเลสตัณหา มากลบเกลื่อนในคำสอนของเรา แล้วดัดแปลงแก้ไขคำสอนของเรา ให้เข้ากันกับลัทธิของเขา และประกาศว่าคำสอนของเราตถาคต เป็นส่วนหนึ่งในลัทธิของเขา ให้คนทั้งหลายมีความเข้าใจผิดว่า คำสอนของเราเข้ากันได้กับของเขา ถือว่าเป็นอันเดียวกัน ลัทธิเหล่านั้นก็จะไม่รู้คุณค่าของคำสอนของเราตถาคตแต่อย่างใด มนุษย์อย่างนี้ก็จะมีในเมื่อเราตถาคตนิพพานไปแล้ว และจะมีลัทธิต่าง ๆ มาอวดอ้างว่าเป็นศาสนาเป็นจำนวนมาก


     
  13. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,077
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,669
    ธรรมจากพระอริยสาวกผู้ถึงโลกุตตระภูมิเป็นธรรมที่เป็นที่พึ่งของหมู่สัตว์ได้ ส่วนธรรมจากปุถุชนโลกีย์ภูมิเป็นธรรมที่ปฎิรูปเป็นทางอันเนิ่นช้าจะหาที่พึ่งจงตรองให้ดี ควรเข้าหาครูบาอาจารย์พระอริยสงฆ์เจ้า กราบกรานทำใจให้อ่อนโยน พอเหมาะแก่การเรียนรู้ธรรม ^-^
     
  14. ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    3,278
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,494
    [​IMG]
     
  15. Ong

    Ong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +12,861
    สมาธิใด เป็นไปเพื่อรู้-เห็นไตรลักษณ์ สมาธินั้นเป็นสัมมาสมาธิ ฯ
     
  16. ped2011

    ped2011 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +1,096
    กระทู้ของผู้ดูแลมาดึงๆ คอยเตือนสติ ไม่งั้นพี่น้องจะหลงประเด็นพากันลงคลองทั้งห้อง
     
  17. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,480
    ค่าพลัง:
    +1,880
    พระรัตนตรัย เป็น สรณะของข้าพเจ้า
     
  18. pmntr

    pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +2,244
    หลาย ๆ กระทู้เข้าไปอ่าน คนเดิมก็เหมือนเดิม เขียนแบบเดิม ตามความคิดของตนเอง บรรยายธรรมเหมือนบรรลุธรรม แต่หาแก่นสารสาระไม่ได้ บางคนก็กล่าวนอกตำรา เชื่อว่าดี ว่าเลิศ ทั้ง ๆ ที่พระพุทธองค์ตรัสไว้แล้วว่าใบไม้นอกกำมือ ไม่ใช่หนทางบรรลุ แต่หากทำให้เนิ่นช้า ยาวนานอาจนับไม่ได้
    (พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๑ สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค)

    ได้แต่สังเวชใจ
     
  19. ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    3,278
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,494
  20. ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    3,278
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,494
    ช่วย ๆ กันดูแลอย่าทิฏฐิต่อสิ่งที่มีและดี ๆ อยู่แล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...