สัมผัสที่ 6 ญาณหยั่งรู้ในชีวิตประจำวัน

สัมผัสที่ 6 จากธรรมชาติ
















เพียงนึกน้อมนำตัวเองเข้าสู่ธรรมชาติ



http://palungjit.org/showthread.php?t=147013


​

 

ธรรมชาติสวย......
แต่ดูคนที่ปฏิบัติแล้วมันอึดอัด....
เพราะเหตุอันใดข้าพเจ้าจึงรู้สึกเช่นนี้ หนอ.....?

 

เคยอ่านมารอบละตอนนั้นยังไม่รู้อะไรเป็นอะไรอ่านแบบงงๆขอจองไว้ก่อน อิอิ

เรียนเสร็จจะกลับมาอ่านอีกรอบงับป๋ะป๋า

 

เกิดวันเสาร์ค่ะ ขอแจมด้วย ^-^

 

ได้เข้ามาอ่าน ก็อนุโมทนานนะคะ

ดูไปเรื่อยๆ มันรู้สึกเฉยๆ อะค่ะ ไม่ตื่นเต้นอะไรเลย

แต่ดูบางรูปมันมึนหัวแปลกๆ ก็ช่างเหอะ

ความคิดเป็นมายา ดูความคิดตัวเอง รู้สึกว่ามัน เชื่อถือไม่ได้เลย

ไม่รู้ทำไมนะคะ ครั้งหนึ่ง หน้าบ้านมีอุบัติเหตุ แต่ใจมันไม่ตกใจอะไรนะคะ เฉยๆ อย่างเดียว ก็ไม่รู้นะคะ เดี๋ยวนี้ รู้สึก เฉยๆ แต่ก็พยายาม ดูความคิดตัวเอง

 

กลับบ้บานมาอ่านแล้วค่ะป๋ะป๋า ไม่รู้ทำไมอ่านหน้าแรกแล้วรู้สึกคลื่นใส้ อยากอาเจียน อ๋อยย.... @_@

 

ทุกคนมี แต่จะไม่สังเกตุกันเอง บางครั้ง หรือบางที่ เราไม่เคยไป แต่ความรู้สึกมันบอกว่าเคยมาแล้วนะ หรือบางประโยคที่พูดออกไปเหมือนเคยพูดแล้ว ลองวังเกตุตัวเอง นะ

 

ดี ครับ ที่ มาแบ่งภาระ..ที่จะต้อง อธิบายว่า ตาที่สาม หรือ สัมผัสที่หก คือ อะไร
มีการตอบ ถามซ้ำๆกัน ทุกวัน
ขึ้นมาก็ ถามเลย..น้อยคนนักที่ จะไปอ่านกระทู้เก่าๆๆที่ ผ่านมา
กลายเป็นเรื่อง มัก ง่ายเกินไป..ทั้งๆๆที่ ห้อง พลังจิต มีเรื่อง เหล่า นี้ อยู่มากมาย
หลายคุรุหลายผู้ รู้ หลาย อาจารย์
อนุโมทนา บุญ ครับ

 

อาจารย์มงคล กริชติทายาวุธ ประธานชมรมศาสนาและการกุศล

ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้สัมผัสที่ 6 ดังนี้คือ...

พลังแม่เหล็กหรือพลังไฟฟ้า นักวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่า มีอยู่ในโลกนี้จริง

และอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน สุดแล้วแต่ว่าใครจะมีมากน้อยกว่ากัน และเมื่อมีแล้ว

สามารนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้หรือไม่


สัมผัสที่หกที่เกี่ยวกับการบีบนวด

- เมื่อท่านจะนวดใครสักคน และอยากให้เขาผู้นั้น ได้รับพลังเพิ่ม ให้บีบนวดออกจากหัวใจ

หรือออกจากร่างกาย ไปที่ปลายแขน/ปลายขา/ปลายเท้า จิตนาการให้โรคร้ายออกจากตัว


- ในทางกลับกัน ถ้าต้องการลดพลัง ของใครสักคน ให้บีบนวดจากปลายแขน/ปลายขา/

ปลายเท้า หรือบีบนวดเข้ามาภายในกาย จิตนาการให้มีของหนัก/ทุกข์ เข้าร่างกาย จะทำ

ให้ง่วงนอนหรือหลับไป พึงระวังการนวดแบบนี้ หากไปนวดนอกบ้านอาจเสียรู้ หรือหมดตัว

 

สิ่งของที่ใช้ หรือสัมผัส มีส่วนเพิ่ม – ลดพลังในร่างกายได้

ปูน ไม้ เหล็ก พลาสติค อลูมิเนียม สแตนเลส ทองคำ เงิน ฯลฯ มีผลต่อการเพิ่ม / ลด

พลังในกายไม่เหมือนกันในแต่ ละคน หากท่านต้องการทราบว่า พลังของท่านเพิ่ม – ลด

เมื่อสัมผัสสิ่งใด หรือสิ่งใดมีผลต่อความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า กระฉับกระเฉง

มีพลังงานเพิ่มหรือไม่ หรือสิ่งของใดมีผลทำให้อ่อนเพลีย เฉื่อยชา

เหมือนคนหมดแรงก็ย่อมทำได้

วิธีทดสอบ

(1) คนแรก คว่ำมือที่ถนัดกางแขนออก

(2) คนที่สอง บอกให้คนแรกต้าน แล้วกดแขนที่กางออกลง กดได้เพียงไร จำไว้

(3) ให้คนแรกแตะ หรือสัมผัสกับสิ่งของทีละอย่าง ของอย่างใดไม่มี

ผลต่อพลัง จะกดได้เท่าครั้งแรก

(4) ถ้าเป็นตัวดูดซับพลัง หรือทำให้เพลีย จะกดลงได้ง่าย

(5) ถ้าเป็นตัวเพิ่มพลัง หรือทำให้กระปรี้กระเปร่า จะกดได้ ยากกว่า หรือกดลงได้เล็กน้อย


นอกเหนือจากนั้น ถ้าพบว่าพื้นปูน พื้นไม้ เป็นตัวทำลายพลังของเรา ก็ไม่ควรใช้เท้าเปล่า

เดินบนพื้นนั้น ต้องสวมรองเท้าภายในบ้านเดิน จะช่วยป้องกันได้

 

ไม่ว่าชาย – หญิง จะเป็นเพศเดียวกัน หรือต่างเพศกันก็ตาม การได้สัมผัสกันก็สามารถ

ตรวจสอบได้ว่าเขา / เธอผู้นั้นช่วยเพิ่ม หรือลดพลังให้ท่าน

วิธีทดสอบ

- ใช้หลักการเบื้องต้นเหมือนกัน คนแรกกางแขนที่ถนัดออกโดยคว่ำมือ และให้คนแรก ใช้อีก

มือหนึ่งคว่ำบนฝ่ามือของผู้ใดผู้หนึ่งที่ต้องการทดสอบ ชายหรือหญิง/เพศเดียวกัน หรือต่างเพศก็ได้

- คนที่สอง กดแขนที่กางออก เพื่อดูว่ากดได้มากหรือน้อยกว่าครั้งแรก ที่ไม่สัมผัสอะไรกับใครเลย

- หากกดได้ง่าย – ผู้นั้นลดพลังของท่าน

- หากกดได้ยาก – ผู้นั้นได้เพิ่มพลังให้ท่าน

- หากกดได้เท่ากัน – ผู้นั้นไม่มีผลต่อพลังของท่าน

- หากทดลองแล้วพบว่า คนในครอบครัวของท่าน ลดพลัง หรือสลาย

พลังของท่านไป ก็อย่าวิตกกังวล ยังคงอยู่ร่วมกันกับบุคคลนั้นๆ อย่างเป็นสุขได้

ตลอดชีวิต แต่สัมผัสเนื้อตัวเท่าที่จำเป็น สัมผัสยามที่ต้องการเท่านั้น ไม่สัมผัส

พร่ำเพรื่อ ก็ไม่มีผลเสียหาย ใด ๆ ในการใช้ชีวิตประจำวัน

- แต่ถ้าผู้ใดสัมผัสแล้ว เขาเพิ่มพลังให้ท่าน หากอ่อนเพลีย หรือ เหนื่อยอ่อนมาก

ก็ขอให้เขาช่วย “ชาร์จพลัง” ให้แก่ท่านจะได้ผลดี มีพลังฟื้นตัวได้เร็ว แต่ถ้าเป็น

เพศเดียวกัน ดูจะปลอดภัยกว่าจะต้องควบคุมจิตใจ และมีสติให้ดี

 

ในชีวิตประจำวัน ก็จะต้องรู้จักหลีกเลี่ยงสิ่งที่ลดพลังของเรา คล้ายกับการคบคน

หรือเข้ากลุ่มคน เข้าผิดกลุ่ม เหมือนคบคนพาล คนพาลไปหาผิด ท่านจะเดือดร้อน

แต่ถ้าเข้าถูกกลุ่ม คบถูกกลุ่ม หรือคบแต่บัณฑิต บัณฑิตย่อมพาไปหาผล ท่านจะมี

แต่ความรู้ ความสำเร็จ และความสุข ขอให้รู้จักพิจารณากันให้ดีก็แล้วกันนะครับ

เพราะท่านก็เป็นผู้ใหญ่ทุกคน ต้องระวังถูกคนอื่นนำชื่อท่านไปหาชื่อเสียง ระวังจะ

เสียชื่อเมื่อมีอายุมากแล้ว

 

สีของเสื้อผ้าที่สวมใส่ มีผลต่อการเพิ่ม – ลดพลัง

สีของเสื้อผ้าที่สวมใส่ มีผลต่อการเพิ่ม – ลดพลัง อย่างที่ท่านไม่คาดคิดมาก่อน

วิธีทดสอบ

ควรใช้วัสดุแบบชิ้นเดียวกัน แต่มีหลาย ๆ สีบนวัสดุชิ้นเดียวกันนั้น

คนแรกกางแขนออกเหมือนวิธีก่อน คนที่สอง บอกให้เกร็งแขน แล้วกดแขนลง

จำไว้ว่ากดได้แค่ไหน ให้คนแรกใช้อีกมือแตะเสื้อผ้า หรือวัสดุใดก็ได้ที่มีหลายสี

วัสดุนั้นอาจเป็นกระดาษแผ่นเดียวกัน แต่มีหลายสีก็ได้ ให้แตะไล่ไปทีละ 1 สี

แล้วกดทีละครั้ง หากสีใดไม่มีผล ก็จะกดได้เท่าเดิม ถ้าสีไหนเพิ่มพลัง จะกดได้

ยากกว่าปกติ ถ้าสีไหนลดพลังจะทำให้กดลงได้โดยง่าย


ในชีวิตประจำวัน ให้สังเกตดูว่า เวลาสวมใส่เสื้อผ้าสีนั้นๆ แล้วมีผลอย่างไร ถ้ามี

การปฏิสัมพัทธ์จริง ๆ ท่านใดแพ้สีไหน ก็จงหลีกเลี่ยงสวมใส่สีนั้น จะทำให้พลัง

ภายในกายไม่เสื่อมถอย โดยยังไม่ถึงเวลาอันสมควร เป็นสิ่งที่น่าสนใจ และไม่

ต้องฟังใครบอก โดยตัวเราเองพิสูจน์ด้วยตัวของเรา กับญาติพี่น้อง หรือเพื่อน

ฝูงที่ไว้ใจได้ว่า ไม่แกล้งกดหนัก-เบาต่างกัน

 

การทดสอบสิ่งที่มีปฏิสัมพัทธ์ต่าง ๆ ในการเพิ่มหรือลดพลังภายในกายของเรานี้

สามารถนำไปใช้ได้กับผลึกคริสตอลหรือพลอยสีต่าง ๆ ได้

ถ้าใครบอกว่า พลอยสีนี้ถูกโฉลกกับท่าน ทำให้ท่านมีพลังคริสตอลก้อนนี้ จะ

เสริมพลังให้ท่าน ก็ขอให้ยับยั้งชั่งใจก่อนที่จะเชื่อ โปรดทดสอบด้วยตนเองว่า

พลอยก้อนไหน คริสตอลชิ้นใด โดยใช้หลักการต่าง ๆ ที่ได้เรียนชี้แจงมาให้

ทราบแล้วมาประยุกต์ใช้ตรวจสอบได้


เป็นเรื่องแปลก “พลังชีวิต” (Life Power) ของมนุษย์ มีปฏิสัมพัทธ์กับสสาร

และพลังงานในโลกของเรามากมาย สุดแต่ว่า เรามีโอกาสเรียนรู้และทำความ

เข้าใจได้เพียงไรเท่านั้น โปรดอย่าปิดหู-ปิดตาเลยครับ การเกิดเป็นมนุษย์ ก็สนุก

อยู่ตรงที่มีเสรีภาพในการเรียนรู้ทำอะไรต่าง ๆ ได้มากกว่าการเกิดในภพภูมิอื่น

 

การใช้มืิอปิดหน้าผาก มีผลต่อการเพิ่ม/ลดของพลัง

และการรักษาโรค ไปทำงานก่อน ว่างเดี๋ยวมาต่อ

 

สาธุ อนุโมทามิ

คุณมังกรบูรพา คุณ Vanco โดยเฉพาะ อ. มงคลกริชติทายาวุธ ค่ะ สำหรับสาระวิทยาธรรมทานน่ารู้ พร้อมนี้ ขออนุญาตคัดลอกไว้ศึกษานะคะ ขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ค่ะ
<O</O
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมตอบแทนบูชาผู้มีคุณธรรมทั้งปวง บุญใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำไว้แล้วอันดีด้วยจิตบริสุทธิ์อันจะเป็นไปเพื่อการเพียรประพฤติปฏิบัติ เพื่อความเป็นสิริมงคลนั้น ขอผลทุกประการจงส่งเป็นกระแสบุญอันบริสุทธิ์หลั่งไหลสู่ดวงจิตของทุก ๆ ท่าน ที่มีส่วนร่วม และข้าพเจ้านับแต่นี้ด้วยเทอญ
<O</O
พุทโธ ธัมโม สังโฆ นะโมพุทธายะ นิพพานัง ปะระมัง สุขขัง<O</O

 

จากคำอธิบายของ อาจารย์ ดร.ไชย ณ พล อัครศุภเศรษฐ ผู้ศึกษา วิจัยพลังโยคะ

และเป็นผู้เชี่ยวชาญพลังจิตคนสำคัญของประเทศไทย ได้อธิบายให้ทราบว่า

จักระในร่างกายมนุษย์ มีมากมายเป็นร้อยจักระ แต่จักระใหญ่ ๆ ที่สำคัญมี 7 จักระ

บริเวณกลางหน้าผาก ที่เรียกกันว่า “จักระ 6” หรือ “ตาที่สาม” นั้น เป็นจักระด้าน

หน้า เป็นจักระที่ใช้ในการเพ่ง หรือส่งพลังออกไปจากตัวเรา ถ้าเราเอามือแตะ หรือ

ปิดที่จักระ 6 ด้านหน้า เพียงจุดเดียว จะทำให้พลังในกาย สูญเสียไป จึงมีการ

ห้ามแตะจักระนี้”

วิธีทดสอบ

- ใช้หลักการเดิม คนแรกกางแขนที่ถนัดออก – คว่ำมือ - คนที่สอง ทดลองกด

ในสภาวะปกติ กดได้เพียงไร จำไว้ - คนที่สอง เอามือแตะ หรือปิดที่จักระ 6

อีกมือนำมากดแขนคนแรกที่กางออก ก่อนกด บอกให้คนแรกเกร็งแขนต้านแรง

กดไว้ด้วย จะพบว่า กดได้ง่าย แสดงว่าไม่มีพลัง เพราะถูกปิดพลังไปแล้ว

ดังนั้น จึงมักมีการห้ามมิให้แตะที่จักระ 6 ด้านหน้า

 

แต่ให้ยกเว้นการรักษาโรค และการเปิดจักระ แม้แตะที่จักระ 7 และ 6 พร้อมกัน

ก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นการอัดพลังเข้าที่จักระ 7 แล้วปิดไม่ให้พลังออกที่ จักระ 6

ในกรณีเปิดจักระไม่เกิน 60%


แต่ถ้าจะเปิดจักระ 100% จะต้องชาร์จเข้าที่จักระ 6 ด้านหลังศรีษะ (ตรงข้ามกับ

จักระ 6 ด้านหน้า) และแตะจักระ 7 หรือใช้พลังจิตกำหนดเปิดจักระ 100% เข้าที่

จุดดังกล่าว 2 จุด ทลวงพลังออกจักระ 6 ด้านหน้า อันเป็นเคล็ดวิธีเปิดจักระ

100% ได้

 

ท่านคุรุชยาอ่านอย่างเดียวเลยนิ 55555555

หาความรู้น่าดู อิอิ ผมเริ่มหนักการทำสมาธิแล้ว

นะครับ แต่อยากโพสต์ให้จบ.....

ยังมีของอาจารย์ตาที่สามอีก เดี๋ยวไปยืมมาเสริม

 

เข้ามาให้กำลังใจครับท่านพี่