สัมผัส เมืองพญานาค เมืองบังบด หรือ เมืองลับแล มีจริงที่วัดขึ่งเจริญ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย budda9, 29 เมษายน 2009.

  1. budda9

    budda9 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +1
    สัมผัส เมืองพญานาค เมืองบังบด หรือ เมืองลับแล ที่วัดขึ่งเจริญ
    ก่อนที่จะเล่าเรื่อง เมืองพญานาค และเมืองบังบด เราไปทำความรู้จักประวัติอภิหารของวัดกันก่อน บางคนอาจจะยังไม่ทราบว่าที่จังหวัดน่านมีวัดอีกวัดหนึ่งซึ่งมีความเป็นมาที่ยาวนานและมีพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มากคู่บารมีพระประธานในโบสถ์ นั่นก็คือ “พระพุทธรูปทองทิพย์ วัดขึ่งเจริญ อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน” เดี๋ยวค่อยเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปทองทิพย์ที่กล่าวขานกันมารุ่นสู่รุ่นแม้แต่ปัจจุบันนี้ท่านก็ยังความศักด์สิทธิ์และทำให้พวกขาลองดีทั้งหลาย ต้องกลับมาขอขมากันยกใหญ่ไม่รู้กี่รายต่อกี่ราย เมื่ออ่านแล้วก็อย่าคิดไปลองนะครับ เป็นบาปและกรรมเปล่าๆ เข้าไปกราบขอบารมีท่านคุ้มครองจะดีกว่าครับ ก่อนที่จะเล่าอภิหารของพระพุทธรูปทองทิพย์ เราไปทราบประวัติความเป็นมาของวัดขึ่งเจริญและพระประธานกันก่อนเพราะว่ายิ่งกว่าปฏิหารย์ไม่แพ้กัน ได้ฟังเรื่องนี้จากท่านเจ้าอาวาสและท่านก็ได้ฟังจากผู้เฒ่าผู้แก่เล่าสืบๆต่อกันมาอีกที <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ว่าเดิมหมู่บ้านแห่งนี้เป็นป่าดงดิบแผ่เป็นบริเวณกว้างใหญ่ปกคลุมหนาทึบจนแทบแหงนมองไม่เห็นแสงดวงอาทิตย์ในเวลากลางวันด้วยซ้ำ มีลำน้ำว้าไหลทอดยาวให้ความอุดมสมบูรณ์กับพื้นป่าและสัตว์ป่านานาชนิด ๆ ในแทบนี้ จนกระทั่งได้มีพรานป่าผู้หนึ่งได้ออกล่าสัตว์เข้ามาลึกถึงป่าบริเวณนี้ พรานป่าได้ตามไล่ล่าสัตว์ป่าจนเพลินไม่รู้ว่าตนเองได้มาไกลถึงป่าแทบนี้ จากนั้นก็ได้ลัดเลาะเข้ามาเรื่อยๆ อาศัยริมน้ำเป็นทิศเพื่อไม่ให้หลง จนนายพรานได้เดินมาถึงเนินสูงใกล้ๆกับแม่น้ำ ปรากฏว่ามีพุ่มไม้ปกคลุมและเถาวัลย์จับอยู่อย่างหนาแน่นเต็มไปหมดจึงได้ลองเข้าไปค้นดูเผื่อมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ เมื่อพอแหวกพุ่มไม้เข้าไปดูก็ตกตะลึง! เมื่อเห็นเพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประทับนั่งอยู่บนแท่นสายพระเนตรเพ่งจ้องลงมาที่พรานป่าด้วยประกายรัศมีสีแดงน่าเกรงขามและสง่างามยิ่งนัก และที่ใต้ฐานได้สลักเป็นอักษรที่ไม่สามารถอ่านออกได้ พรานป่าจึงรีบกลับไปที่หมู่บ้านและนำความไปบอกเล่าแก่เพื่อนบ้านทุกคนว่า<o:p></o:p>
    “ไปป๊ะ พระพุทธรูปองค์นึ้ง ตี้ป่าตางปุ้น โม!....องค์อย่างใหย๋ขนาดนัก สีแดงจึ่งขึ่ง”<o:p></o:p>
    (หมายถึง ไปพบพระพุทธรูปองค์หนึ่งที่ป่าฝากโน้น “โม!”(เป็นคำอุทานที่แสดงถึงความตื่นเต้นหรือตกใจ หรือสิ่งมหัศจรรย์เหลือเชื่อ ) องค์ใหญ่มาก มีสีแดง “จึ่งขึ่ง”เป็นคำขยายของคำว่าสีแดงเพื่อย้ำถึงสิ่งที่ตนเห็นว่าสีแดงมากๆ ๆๆ)<o:p></o:p>
    วันรุ่งขึ้นชาวบ้านก็พากันไปดู ต่างก็เกิดความปีติโสมนัสกันถ้วนหน้า จึงเห็นพ้องกันว่าคงเป็นนิมิตหมายที่ดี และสิริมงคลอย่างยิ่งที่พระพุทธรูปองค์นี้จะประทานให้แก่ผู้ที่ได้พบเห็น ประกอบกับบริเวณพื้นที่แถบนี้เป็นที่ราบกว้างใหญ่เหมาะแก่การตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนและไม่ต้องกลัวถูกภัยจากน้ำท่วม จึงได้ทำพิธีสักการะบูชาพระพุทธรูปองค์ใหญ่นี้และขอบารมีท่านปกปักษ์รักษาและพากันอพยพมาอยู่ตั้งถิ่นฐานบ้านเรือน ทำมาหากินกันบริเวณแถบป่านี้ และได้ร่วมแรงร่วมใจกันบูรณะปฏิสังขรณ์พระพุทธรูปโดยสร้างศาลาคร่อมไว้ และเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านแต่เดิมมี 2 หมู่บ้าน คือ บ้านห้วยไคร้ และบ้านน้ำว้า เป็นนามมงคลที่ได้รับจากนิมิตหมายอันดีจากการค้นพบพระพุทธรูปใหญ่องค์นี้ครั้งแรกที่มีพุทธลักษณะสีแดง “จึ่งขึ่ง” โดยคำว่า “ขึ่ง”ได้ถูกนำมาใช้เป็นนามอันมงคลของหมู่บ้าน วัดและตำบล ในเวลาต่อมา ซึ่งมีชาวบ้านได้อพยพครอบครัวมาอยู่กันอย่างหนาแน่น การทำมาค้าขายก็เจริญรุ่งเรืองอย่างมาก มีความเป็นอยู่อย่างสงบสุข ต่อมาจึงได้เติมว่าว่า “เจริญ” ต่อท้าย ให้มีสิริมงคลยิ่งขึ้นจนถึงปัจจุบันนี้<o:p></o:p>
    องค์พระพุทธรูปที่พบปัจจุบันชาวบ้านได้สร้างพระวิหารคร่อมองค์พระพุทธรูปไว้และเป็นองค์พระประธานของวัดขึ่งเจริญซึ่งประทับบนฐานชุกชี ลักษณะปางมาริชัย ท่านั่งสมาธิราบบนพื้นประทับถึงปลายพระเมาลีสูง 11 ศอก นับได้ว่าเป็นองค์พระประธานในพระวิหารที่ใหญ่โตที่สุดในอำเภอเวียงสา และเป็นพระประธานในอุโบสถ ที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์มาก<o:p></o:p>
    ด้านหน้าพระประธานห่างจากฐานชุกชีออกมาประมาณ1 เมตร จะมีปล่องหรือรู ปริศนา ขนาดที่เห็นตอนปัจจุบันนี้ก็ประมาณสักลูกฟุตบอล โดยก็ยังไม่มีใครทราบว่าคือปล่องหรือรูอะไร ผู้ใดสร้าง และสร้างไว้เพื่อประโยชน์อันใด แต่ก็มีความเชื่อกันว่า รูนี้เป็นเหมือนประตูเข้าออกของท่านพญานาคสำหรับขึ้นมากราบไหว้สักการะบูชาพระประธานในโบสถ์และใต้ฐานพระด้านล่างนี้ลงไปเป็นเมืองพญานาค เพราะสมัยก่อนมีคนเอาลูกมะพร้าวห้าวหย่อนลงไปในปล่องหรือรู ปรากฏว่า ลูกมะพร้าวได้ทะลุอออกไปริมฝั่งน้ำว้าอยู่ทางทิศตะวันออกของวัดขึ่งเจริญที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ผาโง้ม” ซึ่งเป็นชะง่อนผายื่นออกไปในลำน้ำและน้ำบริเวณนี้ก็เป็นวังน้ำวนมีความลึกมาก ห่างออกไปจากวัดประมาณ 1,700 เมตร และก็ยังไม่มีใครกล้าพิสูจน์ว่าลึกลงไปจากบนผิวน้ำสักกี่เมตร เพราะกลัวว่าเมื่อดำน้ำลงไปแล้วจะไม่ได้โผล่ขึ้นมาอีก ซึ่งก็ยังไม่มีคำยืนยันหรือหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อธิบายในเรื่องเหล่านี้ได้อย่างแจ่มชัด แต่สำหรับตัวผู้เขียนเองนั้น ตอนเวลาอยู่ในวิหารหรือบริเวณวัดจะรู้สึกสัมผัสว่าเหมือนมีอะไรลึกลับซับซ้อนอยู่ในบริเวณนี้แต่ไม่รู้ว่าทำไม ยิ่งไปอยู่ใกล้ๆ ปล่องหรือรู ยิ่งรู้สึกพิเศษถึงความว้าบหวาม เข้าไปถึงขั้วหัวใจ รู้สึกขนหัวลุก ขนลุกขนชันพูดไม่ถูก แต่ส่วนใหญ่ปัจจุบันนี้เวลามีคนถามถึงความเป็นมาของปล่องหรือรูนี้ส่วนใหญ่ชาวบ้านคณะศรัทธาบ้านขึ่งเจริญก็จะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าปล่องหรือรูนี้อยู่คู่กับพระประธานมานานแล้ว ซึ่งในสมัยก่อนปล่องหรือรูนี้จะกว้างกว่าปัจจุบัน ซึ่งตอนนี้ถูกหุ้มด้วยปูนซีเมนต์เป็นรูเล็กๆ และแคบกว่าเดิม <o:p></o:p>
    นอกจากนั้นยังมีความเชื่อกันอีกว่าบริเวณนี้มี ”เมืองซ้อนเมืองอยู่ หรือเมืองบังบด หรือที่เรียกว่าเมืองลับแล” ซึ่งบางท่านอาจจะคุ้นกับคำนี้ แต่ก็ไม่มีหลักฐานหรือสิ่งยืนยันและสามารถชี้แจงเป็นทางวิทยาศาสตร์ได้แต่ ผู้เขียนเองรู้สึกขนลุกซู่ตลอดเวลาเมื่อมีคนพูดถึงเมืองลับแลในบริเวณนี้ อย่างไรก็ตามผู้อ่านก็ต้องใช้วิจารณญานด้วยตนเองนะครับ เห็นท่านผู้เฒ่าผู้แก่ ฝากบอกมาว่าถ้าใครต้องการทราบประวัติต่างๆให้มากกว่าที่ผู้เขียนได้เล่าได้บอกไป ซึ่งอาจจะลึกลับพิศดารจนผู้เขียนก็ไม่กล้าเล่าให้ฟัง ก็สามารถไปยังหมู่บ้านขึ่งเจริญ อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ถามผู้เฒ่าผู้แก่และคนในหมู่บ้านหรือเจ้าอาวาสวัดบ้านขึ่งเจริญ จะละเอียดและชัดเจนมากยิ่งขึ้น<o:p></o:p>
    วกกลับมาถึงอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปทองทิพย์ที่กล่าวเอาไว้ข้างต้น พระพุทธรูปทองทิพย์ชาวบ้านนิยมเรียกกันติดปากว่า “พระเจ้าตองติ๊บ” (สำเนียงเหนือ) เป็นพระพุทธรูปที่มีความคงทนและศักดิ์สิทธิ์มากเป็นที่เคารพบูชา กราบไหว้คู่บ้านคู่เมืองมานานเลื่องลือไปทั่วทุกสารทิศ<o:p></o:p>
    พระพุทธรูปทองทิพย์เป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ ขนาดหน้าตักกว้าง 8 นิ้ว สูง 11 นิ้ว ปางมารวิชัยเป็นการสร้างของช่างฝีมือไทยสกุลเชียงแสนระยะแรก บางท่านเรียกว่า พระพุทธรูปสิงห์หนึ่ง เซียนพระทั้งหลายจะเข้าใจกันดีและดูพระลักษณะออกว่าพระพุทธรูปสิงห์หนึ่ง สิงห์สอง และสิงห์สาม มีพระลักษณะความแตกต่างกันอย่างไร พระลักษระของท่านจะคล้าย พระพุทธรูปอินเดีย สมัยราชวงศ์ปาละซึ่งรุ่งเรืองมากและแผ่อิทธิพลมาทางประเทศพม่าและอาณาจักรล้านนา<o:p></o:p>
    พระพุทธรูปทองทิพย์ ปางมารวิชัย สมัยเชียงแสนสิงห์หนึ่ง มีพระวรกายอวบอ้วน บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์พูนสุขตลอดกาล พระอุระนูนแน่นสง่างาม พระพักตร์เปี่ยมด้วยบารมีกลมคล้ายผลมะตูม พระโขนงโก่งโค้งดังคันธนู พระนาสิกเป็นสันได้รูปดังราชสีห์ พระโอษฐ์อิ่มเอิบ พระรัศมีเหนือพระเกศมาลาเป็นเพชรเม็ดกลม (ปัจจุบันหลุดหายไป) พระศกขมวดเป็นเม็ดกลมใหญ่ พระหัตถ์ซ้ายทรงหงายวางบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาทรงวางบนพระชานุ นิ้วพระหัตถ์ชี้ลงบนพระธรณี ประทับอยู่บนฐานดอกบัวกลีบบาน<o:p></o:p>
    ประวัติความเป็นมาของพระพุทธรูปทองทิพย์ ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่านำมาประดิษฐาน ณ วัดขึ่งเจริญ ตั้งแต่เมื่อใด มีแต่คำเล่าขานที่สืบต่อกันมา จากข้อสันนิษฐานในการศึกษาประวัติศาสตร์พงศาวดารเมืองน่านพบว่า เมืองน่านและเมืองสา มีสัมพันธ์ไมตรีเป็นอันดีกับเมืองเชียงแสนมาเป็นเวลาช้านาน (ปัจจุบันอยู่จังหวัดเชียงราย) คือราว พ.ศ.2246 – 2251 และ พ.ศ.2321-2326 เป็นช่วงที่เมืองน่านและหัวเมืองต่างๆ ถูกกองทัพพม่ากวาดต้อนไปไว้ที่เมืองเชียงแสนถึงสองครั้งสองครา ช่วงเวลานั้นพวกช่างชาวน่านได้รับศิลปะวิทยาการต่างๆ จากช่างชาวพม่า และเผยแพร่กระจายไปสู่อาณาจักรล้านนา<o:p></o:p>
    ต่อมา พ.ศ. 2334 เจ้าผู้ครองนครน่านนามว่า “เจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญ” ได้มาสร้างบ้านแปลงเมืองขึ้นใหม่ที่เมืองสา และได้อพยพผู้คนที่เป็นชาวเมืองน่านที่อยู่ ณ เมืองเชียงแสน กลับถิ่นเดิม ผู้คนที่อพยพก็ได้นำสิ่งอันเป็นที่เคารพสักการะเลื่อมใสที่สามารถพกติดตัวมาได้นำเดินทางกลับมาด้วย และพระพุทธรูปทองทิพย์ น่าจะนำมาสู่เมืองสาในตอนนั้นก็ได้<o:p></o:p>
    พระพุทธรูปทองทิพย์ได้ถูกขโมยไปหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งนับรวมทั้งหมดได้ 6 ครั้ง พระพุทธรูปทองทิพย์ได้แสดงอภินิหารทุกครั้งจนพวกโจรขโมยเกิดความหวาดกลัว ขนหนีดีฝ่อ ต้องรีบนำพระพุทธรูปมาคืนไว้ ในการขโมยครั้งที่สามทำให้ พระรัศมี เหนือพระเกศมาลาที่เป็นเพชรเม็ดกลมได้หลุดหายไป ยังความโศกเศร้าเสียดายมายังคณะศรัทธาบ้านขึ่งเจริญยิ่งนัก หลังจากนั้นก็ยังมีโจรได้มาขโมยอีกหลายครั้งหลายครา แต่ที่น่าทึ่งก็คือการขโมยแต่ละครั้งจากที่ตำรวจได้สันนิษฐานจากรอยเท้า ลายมือ น่าจะเป็นชายฉกรรจ์ ประมาณไม่ต่ำกว่า 4-6 คน แต่ยังไม่สามารถยกขโมยพระพุทธรูปทองทิพย์ที่มีน้ำหนักประมาณเพียงแค่เด็กอายุแค่ 5-6 ขวบสามารถอุ้มวิ่งได้ ออกไปจากบริเวณวัดได้เลย มีอยู่ครั้งหนึ่งเท่านั้นที่สามารถยกขโมยได้ไกลที่สุด ถึงแค่กลางสนามโรงเรียนบ้านขึ่งเจริญ ซึ่งมีอาณาเขตใกล้วัดแค่ถนนตัดผ่านแค่นั้นเอง พอพระพุทธรูปทองทิพย์ถูกขโมยไปถึง 6 ครั้ง 6 ครา เจ้าอาวาส ผู้ใหญ่บ้านและคณะศรัทธาบ้านขึ่งเจริญ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรที่จะสามารถปกป้องขโมยได้ดีที่สุด สุดท้ายก็เลยได้ปรึกษาหารือกันว่า ให้คณะศรัทธากรรมการหมู่บ้านเวียนกันอัญเชิญพระพุทธรูปทองทิพย์ไปประดิษฐานที่บ้านของกรรมการเองคนละ 1 คืนเพื่อป้องกันการถูกขโมย แต่จะด้วยเป็นการมิบังควรหรือเป็นความประสงค์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อารักษ์พระพุทธรูปทองทิพย์ จึงไม่มีกรรมการบ้านไหนที่ได้รับเวรการประดิษฐานพระพุทธรูปทองทิพย์ในคืนนั้นที่สามารถนอนหลับลงได้ ภายหลังมาก็เกิดการเกี่ยงกันจึงได้นำความปรึกษาเจ้าอาวาสให้อัญเชิญท่านมาประดิษฐานไว้ที่วัดดั่งเดิม ต่อมาภายหลังพระพุทธรูปทองทิพย์ก็ได้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดกลางเวียง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นวัดใหญ่ในตัวอำเภอ ซึ่งน่าจะสะดวกสำหรับสาธุชนที่จะมากราบไหว้สักการะและมีความปลอดภัยในเรื่องปกป้องโจรขโมย แต่ปรากฏว่าก็อยู่ได้ไม่นานก็ถูกอัญเชิญกลับมาอยู่ที่วัดขึ่งเจริญเหมือนเดิมคู่บุญบารมีพระประธานสืบมาจนถึงปัจจุบันนี้<o:p></o:p>
    “เรื่องความศักดิ์สิทธิ์”ของพระพุทธรูปทองทิพย์มีอีกมากมายหลายเรื่องคงเล่าให้ฟังสามวันก็ไม่หมด แต่ที่พุทธคุณเด่นๆ เรื่องหนึ่งคือ ด้านการยกเสี่ยงทาย หากคนไหนที่ต้องการทราบสิ่งที่เรามีปัญหา หาทางออกไม่ได้ หรือไม่รู้จะกระทำสิ่งใดในอนาคตต่อไปดี แต่ต้องเป็นสิ่งที่ดีงามถูกต้องตามกฏระเบียบแบบแผนหรือจารีตประเพณี ก็สามารถกราบเรียนถามพระพุทธรูปทองทิพย์ได้ ซึ่งเรื่องนี้ตัวผู้เขียนเองก็ไม่พลาดที่จะขอเจ้าอาวาสกราบนมัสการเรียนถามเรื่องที่ติดขัดในใจ ปรากฏว่า เมื่อผู้เขียนอธิษฐานว่าเรื่องที่ต้องการจะสำเร็จหรือไม่ ถ้าสำเร็จของให้พระพุทธรูปทองทิพย์หนักดังขุนเขา ผู้เขียนลองแล้วถ้าท่านบอกว่าสำเร็จจะเป็นไปตามคำอธิษฐานหนักเบา ถ้าอธิษฐานว่าให้หนัก ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อคือไม่ว่าผู้เขียนจะพยายามสุดแรงเกิดงัดท่านให้ขึ้นอย่างไรก็เหมือนแม่เหล็กกำลังมหาศาลดึงลงไป จนเส้นเอ็นเส้นเลือดที่แขนนี้ผุดขึ้นมาให้เห็นได้ชัดเจนเหมือนยกของหนักมากๆ แต่พออธิษฐานกลับว่าถ้าสำเร็จจริงของให้ท่านลอยขึ้น แค่อึดใจเดียวยกท่านลอยขึ้นเหนือหัวเลย อย่างไรก็ตาม คนที่มีประสบการณ์ได้มากราบนมัสการและขอบารมีท่านเสี่ยงทายแล้วเท่านั้นถึงจะรู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ท่านใดที่จะตั้งใจมาหรือผ่านมาแถวนี้ หรือมาเที่ยวที่น่านแล้วก็อย่าลืมแวะมานมัสการพระพุทธรูปทองทิพย์และอธิษฐานเสี่ยงทายได้ แต่ก็มีธรรมเนียมปฏิบัติก่อนจะมากราบขอบารมีพระพุทธรูปทองทิพย์ ขออนุญาตนำมาเล่าให้ทราบกันดังนี้<o:p></o:p>
    1 เตรียมตัวอาบน้ำ ชำระล้างร่างกายให้สะอาดบริสุทธิ์<o:p></o:p>
    2 ควรตั้งจิตอธิษฐานมาจากบ้าน ว่าขอมากราบนมัสการและขอบารมีเสี่ยงทายจากพระองค์<o:p></o:p>
    3 เตรียมเครื่องสักการะบูชา ประกอบด้วยดอกไม้ ธูป 3 ดอก เทียน 2 เล่ม<o:p></o:p>
    4 เดินทางมุ่งตรงมาโดยไม่แวะยังที่แห่งใด จนมาถึงวัด ทางที่ดี ภาวะนา พุธโธ มาตลอดด้วยจะยิ่งดีมาก<o:p></o:p>
    5 แจ้งต่อไวยาวัจกรวัด หรือเจ้าอาวาส ขออนุญาตทำการเสี่ยงทายยกพระพุทธรูปทองทิพย์ <o:p></o:p>
    6 ข้อสำคัญถ้าท่านมีจิตบริสุทธิ์ ศรัทธาจริงใจ ไม่กังขาสังสัย ท่านจะล่วงรู้ความในใจของเราและประทานคำตอบที่ท่านอยากรู้ <o:p></o:p>
    ผู้เขียนเมื่อพอได้เข้ามาสัมผัสและได้มากราบนมัสการพระประธานและพระพุทธรูปทองทิพย์ก็รู้สึกถึงความสงบ ปีติทั้งวัน ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกัน ทั้งที่แต่ก่อนก็เคยผ่านไปผ่านมา ตั้งแต่เด็กๆ บ่อยครั้งแต่ก็ไม่มีโอกาสได้เข้าไปกราบนมัสการพระประธานในโบสถ์สักครั้ง แต่สำหรับเรื่องเล่าขานการยกพระเสี่ยงทายก็พอเคยได้ยินมาบ้าง จนเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีโอกาสได้เข้าไปกราบนมัสการขอพรและเสี่ยงทายยกพระพุทธรูปทองทิพย์ และความสามารถเฉพาะตนตั้งแต่เกิดของผู้เขียนคือ ชอบสอดรู้สอดเห็น ชอบถามไถ่เรื่องอะไรควรถามก็ถาม เรื่องอะไรไม่ควรถามก็ถาม จนได้ทราบประวัติของวัดและพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของวัดนี้ก็ยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่ จึงขอพระท่านชมทุกซอกทุกมุมของวัดบ้าง แอบถามทางเจ้าอาวาสบ้าง พระภิกษุ พระลูกวัดบ้าง และชาวบ้านบ้างถึงประวัติความมา ความศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ได้จากโปรชัวร์วัดมาบ้าง มาเรียบเรียงประติดประต่อ และได้ขออนุญาตทางเจ้าอาวาสนำความมาบอกกล่าวแก่สาธุชนคนบุญทุกท่านที่ได้อ่านนี้ในครั้งนี้ ขอเดชะอำนาจบารมีของพระประธานในโบสถ์วัดขึ่งเจริญ พระพุทธรูปทองทิพย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพพรหมเทวดา เจ้าที่เจ้าทาง ณ วัดบ้านขึ่งเจริญจงดลบัลดาลให้ผู้เขียนและท่านผู้อ่านทุกท่านจงเพียบพร้อมด้วยมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ ในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเทอญ และหากท่านใดที่ได้นำความศักดิ์สิทธิ์นี้ไปบอกเล่าต่อ กันฟังก็เท่ากับเป็นโฆษกของพระพุทธเจ้า มีส่วนช่วยกันสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา ดำรงพระพุทธศาสนาให้ยาวนานผู้เขียนก็ขอร่วมอนุโมทนาบุญมา ณ โอกาสนี้ด้วย<o:p></o:p>
    ขณะนี้ทางวัดบ้านขึ่งเจริญ ก็ฝากบอกบุญมายังท่านสาธุชนทั้งหลาย ที่อยากร่วมบุญ บูรณะปฏิสังขรวัด วิหาร พระประธานในโบสถ์ หรือจะร่วมทำบุญค่าน้ำ ค่าไฟ ประจำเดือน รวมไปถึงบริจาคปัจจัยในพัฒนาวัดต่างๆ ปัจจัยในการส่งเสริมการศึกษาให้พระและสามเณร หรือทาสีกำแพงวัด ห้องน้ำ กุฏิ และอื่นๆ ก็สามารถโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและเช็คความถูกต้องหรือประสงค์จะร่วมบุญสิ่งใด หรือจะแวะมากราบนมัสการพระประธานและพระพุทธรูปทองทิพย์เป็นหมู่คณะ ก็สามารถโทรศัพท์สายตรงมาได้ที่ เบอร์ 085-037-9357<o:p></o:p>
    เลขบัญชี 156-2-81653-7<o:p></o:p>
    ชื่อบัญชี เงินวัดขึ่งเจริญ หมู่ 356<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    รูปหน้าวัด บ้านขึ่งเจริญ<o:p></o:p>
    <?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 403.5pt; HEIGHT: 301.5pt" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:title="หน้าวัดขึ่ง" src="file:///C:\DOCUME~1\TRIROP~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg"></v:imagedata></v:shape><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    รูปพระประธานในโบสถ์<o:p></o:p>
    <v:shape id=_x0000_i1026 style="WIDTH: 387pt; HEIGHT: 289.5pt" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:title="พระประธานในโบสถ์" src="file:///C:\DOCUME~1\TRIROP~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image003.jpg"></v:imagedata></v:shape><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    รูปพระพุทธรูปทองทิพย์ <o:p></o:p>
    <v:shape id=_x0000_i1027 style="WIDTH: 285.75pt; HEIGHT: 381pt" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:title="พระพุทธรูปทองทิพย์1" src="file:///C:\DOCUME~1\TRIROP~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image004.jpg"></v:imagedata></v:shape><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    รูปเจ้าพญายักษ์หนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผู้ร่วมกับหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ ผู้อารักษ์พระพุทธรูปทองทิพย์ศักดิ์สิทธิ์และมีฤทธิ์มาก<o:p></o:p>
    <v:shape id=_x0000_i1028 style="WIDTH: 326.25pt; HEIGHT: 243pt" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:title="เจ้ายักษ์" src="file:///C:\DOCUME~1\TRIROP~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image006.jpg"></v:imagedata></v:shape><o:p></o:p>
    โบสถ์น้อยข้างโบสถ์พระประธานเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสามพี่น้อง และสิ่งศักดิ์ที่อารักษวัดและพระพุทธรูปทองทิพย์ ถูกปิดไว้เปิดเพื่อเฉพาะกิจเท่านั้น ห้ามสตรีเข้าเด็ดขาด<o:p></o:p>
    <v:shape id=_x0000_i1029 style="WIDTH: 249pt; HEIGHT: 332.25pt" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:title="โบสถ์น้อย" src="file:///C:\DOCUME~1\TRIROP~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image008.jpg"></v:imagedata></v:shape><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    พระประธาน 3 พี่น้องในโบสถ์น้อยศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งนัก<o:p></o:p>
    <v:shape id=_x0000_i1030 style="WIDTH: 203.25pt; HEIGHT: 271.5pt" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:title="พระประธานในโบสถ์น้อย" src="file:///C:\DOCUME~1\TRIROP~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image010.jpg"></v:imagedata></v:shape><o:p></o:p>
    พระพุทธเจ้าทองทิพย์เนื้อผง รุ่น 1 ที่เหลืออยู่ศักดิ์สิทธิ์มาก เนื่องจากเป็นรุ่นแรกที่ท่านอนุญาตสร้าง และไม่มีพิธีการสร้างวัตถุมงคลของพระพุทธเจ้าทองทิพย์ได้สำเร็จอีกเลย เพราะท่านยังไม่อนุญาตให้สร้าง ใครอยากได้ไว้สักการะบูชาก็รีบๆ นะครับจะหาว่าไม่บอก <o:p></o:p>
    <v:shape id=_x0000_i1031 style="WIDTH: 405pt; HEIGHT: 303pt" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:title="พระผงพระพุทธรูปทองทิพย์" src="file:///C:\DOCUME~1\TRIROP~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image012.jpg"></v:imagedata></v:shape><o:p></o:p>
    <v:shape id=_x0000_i1032 style="WIDTH: 393.75pt; HEIGHT: 345pt" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:title="พระพุทธรูปทองทิพย์" src="file:///C:\DOCUME~1\TRIROP~1\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image014.jpg"></v:imagedata></v:shape><o:p></o:p>
     

แชร์หน้านี้

Loading...