สั่งบูรณะวัด-ฉลองครองราชย์60ปี มติมส.เทศน์จักรวรรดิวัตร12กัณฑ์

นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อเร็วๆ นี้ มีมติให้ดำเนินโครงการบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถาน โบราณวัตถุ วัด และศาสนสถานสำคัญ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ขณะนี้ ศน. ได้มีการแต่งตั้งอนุกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุดทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองแผนงานและจัดลำดับความสำคัญของการดำเนินการบูรณะเรียบร้อยแล้ว โดยมีนายสรจักร เกษมสุวรรณ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งจากการประชุมคณะอนุกรรมการชุดย่อยได้เชิญตัวแทนผู้นำทางศาสนา ทั้ง 5 ศาสนา ได้แก่ พุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์-ฮินดู และซิกข์ โดยมอบหมายให้แต่ละศาสนาไปดำเนินการสำรวจ และพิจารณาทำความเข้าใจว่าศาสนสถานใดควรจะได้รับการบูรณะ

นายปรีชา กล่าวต่อว่า สำหรับหลักเกณฑ์ในการบูรณะ กรมการศาสนาต้องการให้ศาสนสถานที่จะได้รับการบูรณะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 60 ปี และมีความเกี่ยวข้องผูกพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ เช่น เป็นวัดที่พระมหากษัตริย์เคยเสด็จพระราชดำเนินไปปฏิบัติศาสนพิธี หรือบำเพ็ญพระราชกุศล ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนองต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเป็นแบบอย่างและได้วางแนวทางทำนุบำรุงศาสนาทุกศาสนาที่มีอยู่ในประเทศไทยเอาไว้ นอกจากนี้ ได้ประสานไปยังกรมศิลปากร ในการสำรวจศาสนสถานที่ได้มีการลงทะเบียนไว้ เพื่อที่จะได้มีการกำหนดรูปแบบการบูรณะได้อย่างเป็นระบบ อย่างไรก็ตาม สำหรับศาสนสถานของบางศาสนา อาทิ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ที่มีอายุไม่ครบ 60 ปี อาจจะมีการอนุโลมการบูรณะเป็นกรณีพิเศษได้ แต่จะต้องให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองที่มีผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาคุณลักษณะของศาสนสถาน โดยจะเน้นการบูรณะให้มีความยิ่งใหญ่สง่างาม การจัดการดูแลสภาพภูมิทัศน์ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการสำรวจให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด

ด้านพระธรรมกิตติเมธี โฆษกกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวว่า ในส่วนของมหาเถรสมาคมได้เห็นชอบให้จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีโดยการแต่งและแสดงพระธรรมเทศนาทศพิธราชธรรมและจักวรรดิวัตรรวม 12 กัณฑ์ แบ่งเป็นกัณฑ์ทศพิธราชธรรม 1 กัณฑ์ กัณฑ์แยกแต่ละหัวข้อธรรม 10 กัณฑ์ และกัณฑ์จักรรดิวัตร 1 กัณฑ์ โดยจะนิมนต์พระนักเทศน์มานั่งเทศน์เดือนละ 1 กัณฑ์ตลอดปี 2549 ผ่านทางสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์ รวมไปถึงจะมีการจัดพิมพ์เป็นเล่ม บันทึกเทปเป็นซีดี วีซีดีแจกจ่ายไปยังวัดต่างๆ ทั่วประเทศ และจำหน่ายแก่ประชาชนที่สนใจรายได้นำเข้ากองทุนเล่าเรียนหลวงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่พระภิกษุสามเณรในการศึกษาต่อจำนวน 72 ล้านบาทด้วย