สามัคคีมหาบารมี วัดเขาพุคำ

เชิญทอดกฐินสามัคคีมหาบารมี วัดเขาพุคำ ทอด ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
เวลา ๑๓.๐๐ น.

เบอร์บัญชี ธ กสิกรไทย สาขา ด่านช้าง
ชื่อบัญชี เอฟเอ็มเก้าสิบห้าจุดเจ็ดห้าเมกกะเฮริท์

หมายเลข 288 2471 821



Emailunya_wuttho@hotmail.com Tel.089-5009752

แนวทางปฏิบัติธรรม<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O></O>​

การเจริญสติให้เป็นมหาสติปัฏฐานสี่ ตามรูปแบบขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แบบดั้งเดิมของแท้ มีในพระไตรปิฎก<O></O>
๑. มีสติระลึกรู้ลมหายใจ เข้าก็รู้-ออกก็รู้ เข้ายาวก็รู้ว่าเข้ายาว-ออกยาวก็รู้ว่าออกยาว เข้าสั้นก็รู้ว่าเข้าสั้น – ออกสั้นก็รู้ว่าออกสั้น มีสติระลึกรู้ลมหายใจ เหมือนนายช่างกลึงที่ชำนาญงาน ชักลูกกลึงยาวก็รู้ว่าชักยาว - ชักลูกกลึงสั้นก็รู้ว่าชักสั้น มีสติระลึกรู้กองลมลงไปเป็นท่อ เหนือสะดือ ๒ นิ้ว แล้วม้วนตัวออกมาเป็นท่อ มีสติระลึกรู้ลมเข้าเป็นท่อ - ออกเป็นท่อ ถือว่าท่านผ่านการบ้านข้อที่ ๑. สติของท่านเริ่มเป็นมหาสติค่อนข้างสมบูรณ์<O></O>
๒. เจริญสติระลึกรู้ความสั่นสะเทือนตามแบบฉบับดั้งเดิมของพระพุทธเจ้า ตามคำพูดของท่าน คือ บุคคลใดเกิดมาแล้ว ๑๐๐ ปี ไม่เข้าใจสัจจะธรรม (ไม่รู้ไม่เข้าใจคำสอนของท่าน) สู้คนที่เกิดมาแล้วเข้าใจ เห็นความเกิด – ดับ ชั่วลัดนิ้วมือหนึ่งไม่ได้ (คือ นิ้วชี้และนิ้วโป้งกระทบกัน) พระพุทธเจ้าให้เครดิตเป็นอย่างมากสำหรับคนเห็นความเกิด – ดับ ชั่วลัดนิ้วมือหนึ่ง ฉะนั้นต้องตามไปพิสูจน์ว่าเป็นเช่นไร การเอานิ้วชี้กับนิ้วโป้งกระทบกันจะเกิดอะไรขึ้น ให้ท่านลองหลับตา ตั้งสติมองย้อนจากปลายนิ้วเข้ามาในตัว แล้วลองขยับนิ้วชี้ – นิ้วโป้ง มากระทบกันเบา ๆ ที่สุด สติระลึกรู้ความสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นว่า มีความสั่นสะเทือนไปถึงไหน กระทบระลึกรู้ไปเรื่อย ๆ ก็จะเห็นความสั่นสะเทือนจากปลายนิ้วส่งไปออกที่หว่างคิ้ว กระทบตึบจะมีพลังสั่นสะเทือนส่งไปออกหว่างคิ้ววับ ช่วงแรก ๆ ทำข้างเดียวก่อนจนมีความชำนาญ สติระลึกรู้พลังสั่นสะเทือนออกหว่างคิ้ว (มะโนทวาร) จนชำนาญคล่องดีแล้ว ค่อยทำสองข้าง ซ้าย – ขวา เริ่มแรกซ้ายขยับนิ้วกระทบกัน (หายใจเข้า) และข้างขวากขยับนิ้วกระทบกัน(หายใจออก) ขยับกระทบกัน ความเร็วตามจังหวะลมหายใจ เข้า – ออก<O></O>
ทำให้มาก ๆ ทำให้ชำนาญ ถ้าเมื่อยมือก็ให้ยกขยับนิ้ว เอาสติไปจับส่วนที่สัมผัสกับพื้น ก้นกบ หัวเข่า ตาตุ่ม บริเวณที่สัมผัสกับพื้นเกิดการเต้นของชีพจร ตึบ – ตับ ตรงไหน ก็เอาสติไประลึกรู้ตรงนั้นว่าเกิดการสั่นสะเทือนมากน้อยแค่ไหน มันจะสะเทือนส่งขึ้นไปพร้อม ๆ กัน เรื่อย ๆ แต่ว่าถ้าสติแก่กล้า เริ่มเป็นมหาสติ ก็จะระลึกรู้ได้ว่า มันจะส่งแบ่งข้างซ้าย และข้างขวา ขึ้น – ลง ไม่พร้อมกัน ซ้ายขึ้น – ขวาลง , ขวาขึ้น – ซ้ายลง สติจะระลึกรู้ไปเรื่อย ๆ ใช้เวลานั่ง 1 – 1.5 ชั่วโมง ถือว่าท่ารนผ่านการบ้านข้อที่ ๒. ในแบบนั่งเจริญสติ<O></O>
1.1 แบบนั่ง


1.2 แบบยืน (อิริยาบถยืน)

​

​

1.3 เดินจงกลม

​

1.4 นอนตะแคงข้างขวา 80% ซ้าย 10% หงาย 10%
<O></O>

อิริยาบถยืนยืนให้ฝ่าเท้าห่างกันประมาณ ๑ ฝ่ามือครึ่ง เอาสติไปแนบไว้ที่ฝ่าเท้า ในบริเวณฝ่าเท้าตรงไหนมีอาการตึบ (การเต้นของชีพจร) ก็ให้มีสติระลึกรู้ไปว่ามีความสั่นสะเทือนค่อย หรือแรง ส่งขึ้นมาข้างบนถึงหน้าอก และถึงศีรษะ ออกหว่างคิ้ว (มะโนทวาร) ความสั่นสะเทือนแรงค่อย ก็ระลึกรู้ไปเรื่อย ๆ สติแก่กล้าขึ้นก็จะเห็นการส่งของความสั่นสะเทือนแยกออกเป็น ๒ ข้าง ซ้าย – ขวา (คนเป็นอัมพาตครึ่งซึก อีกข้างทำงานได้อีกข้างหนึ่งหมดสภาพ) เวลาส่ง ซ้ายขึ้น – ขวาลง หรือ ซ้ายลง – ขวาขึ้น สลับกันไปเรื่อย ๆ ใช้เวลายืนประมาณ 1 – 1.5 ชั่วโมง<O></O>
เดินจงกลม มีสติระลึกรู้เวลายกเท้าก็รู้ – เวลาเสือกไปก็ระลึกรู้ – เวลาวางเท้าลงก็ระลึกรู้ความสั่นสะเทือน เวลายกมันจะดูด ๆ (ตึบ) จะมีความสั่นสะเทือนส่งขึ้นไปออกหว่างคิ้ว เวลาเสือกไปมันโดนลมจะรู้สึกเสี่ยว ๆ มันก็ส่งเหมือนกัน และเวลาวางเท้าลง มันก็เกิดความสั่นสะเทือน ส่งไปที่หว่างคิ้วเหมือนกัน ช่วงเดินใหม่ ๆ เราเอาลมหายใจมาร่วมด้วยในช่วงแรก คือ ยกเท้าก็หายใจเข้า เสือกไป วางเท้าลงก็หายใจออก (ตามจังหวะลมหายใจ เข้า – ออก) ถ้าเดินคล่องดีแล้ว สติระลึกรู้ความสั่นสะเทือน ส่งดีแล้ว ทั้งเวลายก – เสือกเท้าเสี่ยว – วางลง ใช้เวลามากกว่านั่งและยืน 2 เท่า ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง/ครั้ง การเดินต้องเดินให้มาก ๆ เดินให้ติดให้ได้อารมณ์ แล้วไปนั่งก็จะได้สติและจิตตั้งมั่น จะนั่งได้นานได้อารมณ์ดี (ดูภาพประกอบ)<O></O>
<O></O>
<O></O><O></O>
ท่านอน นอนตะแคงจขวา (สีหะไสยยาส) สติจับระลึกรู้ส่วนที่สัมผัสกับพื้นมีการตึบ ๆ และสั่นสะเทือนส่งออกหว่างคิ้วเหมือนกัน ซ้าย – ขวา หรือจะใช้ระลึกรู้ลมหายใจเข้าเป็นท่อ – ออกเป็นท่อ ก็ได้ จนนอนไป กำหนดสติตื่นเวลาเท่าไหร่ เมื่อถึงเวลาก็จะตื่นตามเวลา<O></O>
<O></O>
<O></O><O></O>
อิริยาบถทำงาน เช่น กวาดบ้าน , ถูบ้าน , ล้างจาน , ทำอาหาร , หุงข้าว , เข้าห้องน้ำ , อุจจาระ , ปัสสาวะ , ล้างหน้า , แปรงฟัน , ทานข้าว ก็มีสติระลึกรู้ตลอด<O></O>
แม้แต่คุยกับเพื่อนก็มีสติระลึกรู้ว่าเพื่อนพูดมีสาระ หรือไม่มีสาระ ถ้ามีสาระก็กำหนดรู้ไปที่เสียงของเพื่อน 75% กำหนดไปที่ฐานลมหรือความสั่นสะเทือน 25% จะฟังเพื่อนพูดรู้เรื่อง แต่ถ้าเพื่อนพูดไม่มีสาระก็กำหนดที่เสียงเพื่อน 25% กำหนดไปที่ฐานลมหรือความสั่นสะเทือน 75% จะฟังเพื่อนพูดไม่รู้เรื่อง​

<O>FM 95.75 MHz.ʶҹ</O>​

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=650 align=center><TBODY><TR><TD>ประวัติหลวงพ่อ <!– Input "menuname" in page header –>
</TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD class=dotline height=1></TD></TR><TR><TD>

ประวัติหลวงพ่อประสงค์ ปัญญาวุฑโฒ<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O></O>​

เกิด ๒๕ พ.ค. ๒๕๐๐ บ้านเลขที่๗ ม.๔ ต.มารวิชัย อ.เสนา จ.อยุธยา<O></O>
การศึกษา <O></O>
ป.๔ วัดอู่สำเภา ต.มารวิชัย อ.เสนา จ.อยุธยา<O></O>
ม.๓โรงเรียนศิริวิทศึกษา อ.เสนา จ.อยุธยา<O></O>
สอบได้ใบประกอบโรคศิลป์ แพทย์แผนไทย,เวชกรรม,เภสัชกรแผนไทย<O></O>
สอบได้ใบประกอบโรคศิลป์ แพทย์แผนจีน,ฝังเข็ม,ยาจีน,นวดจีนทุยน่า<O></O>
ตอนเรียนหนังสือเป็นเด็กวัด ๙ ปี(วัดสากอ ๕ ปี วัดอู่สำเภา ๔ ปี จ.อยุธยา) รู้สึกเฉยๆเรื่องพระพุทธศาสนาไม่มีอะไรประทับใจ จนกระทั่งมาบวชครั้งแรกตามประเพณีที่วัดอู่สำเภา ตั้งใจไว้ว่าจะบวช ๗ วัน แต่ได้พบกับพระรุ่นน้องซึ่งได้บวชตั้งแต่เป็นเณร จึงเกิดความสงสัยว่าทำไมเขาจึงอยู่ในสมณะเพศได้จึงได้ทำการศึกษาค้นคว้าคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อที่จะพิสูจน์ว่าเพราะอะไร จึงได้สอบถามพระรุ่นน้องว่ามีสำนักปฏิบัติในภาคกลางที่ใหนจะแนะนำได้บ้าง ท่านได้แนะนำว่าวัดไทรงามธรรมธาราม ต.ดอนมะสังข์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี จึงได้ไปบอกโยมพ่อว่าจะไปปฏิบัติธรรมเพื่อที่จะได้เข้าพรรษาที่ จ.สุพรรณบุรี โยมพ่อก็ยินดี และไปอยู่ปฏิบัติธรรมด้วย เข้าพรรษาด้วย ๓ เดือน ช่วงเดือนแรกจะเป็นการหาข้อมูลในการปฏิบัติศึกษาแนวทางกับพระที่มีประสบการณ์เพราะเราไม่รู้อะไรเลยทุกอย่าง พอเข้าเดือนที่สองจึงเริ่มเก็บอารมณ์ ปิดวาจาตั้งสัจจะครั้งละ ๑ เดือน และงดอาบน้ำครั้งละ ๓ วัน ๗ วัน และ ๑๔ วัน จำวัด(นอนพักผ่อน) วันละ ๔ ชม. แนวทางการปฏิบัติของวัดไทรงามใช้การขยับนิ้วมือจับความสั่นสะเทือน ก็ได้ทำตามทุกอย่าง มีอยู่อย่างหนึ่งช่วงปฏิบัติเราคิดไปว่าน่าจะอ่านพระไตรปิฎกหน่อย เพราะเราบวชแล้วไม่ได้อ่านพระไตรปิฎกเหมือนบวชไม่สมบูรณ์ จึงได้ไปหยิบพระไตรปิฎกมา ๑ เล่ม อ่านทุกตอน และสังเกตได้ว่าพระพุทธเจ้าจะเน้นเรื่องลมหายใจไปด้วย จึงเข้าใจว่าลมนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติจึงทำตามพระพุทธเจ้าบอกคือมีสติระลึกรู้ลมหายใจเข้า-ออก หายใจเข้าก็รู้ หายใจออกก็รู้หายใจเข้ายาวก็รู้ หายใจออกยาวก็รู้เข้าสั้นก็รู้ ออกสั้นก็รู้ มีสติระลึกรู้ทุกลมหายใจเหมือนนายช่างกลึงที่ชำนาญงานชักลูกกลึงยาวก็รู้ว่ายาว ชักลูกกลึงสั้นก็รู้ว่าสั้น มีสติระลึกรู้ลมหายใจลงไปเป็นท่อ ออกเป็นท่อ จึงได้นำลมหายใจมาประกอบการปฏิบัติธรรมตลอดสลับกับการดูการสั่นสะเทือนจากการขยับมือและนิ้วกระทบกันตามแบบของวัดไทรงาม ยืน เดิน นั่ง นอน การปฏิบัติช่วงเดือนแรกไม่มีอะไร เกิดขึ้นปกติเหมือนเดิม จึงได้พิจารณาว่าเวลาของเรามีน้อย เดี๋ยวก็ต้องสึกไปตอนออกพรรษา จึงได้ตัดสินใจจุดธูปเทียนต่อหน้าพระพุทธรูปขอถวายชีวิตในการปฏิบัติบูชาในครั้งนี้ จะนอน ๔ ชม.และปิดวาจา ไม่ฉันเนื้อสัตว์ (สาเหตุที่ไม่ฉันเนื้อสัตว์เพราะช่วงบวชใหม่ๆนั้นเป็นช่วงที่พลตรีจำลอง ศรีเมือง เป็นเลขานายกพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ พลตีจำลองถือศีล ๘ ไม่ทานเนื้อสัตว์จึงเกิดความคิดว่าเราถือศีลมากกว่าแต่ทำไมทานเนื้อสัตว์ จึงทำให้เกิดการตัดสินใจว่าจะไม่ฉันเนื้อสัตว์) ฉันผักบุ้ง ๑๒ ยอด ถั่ว งาป่นเป็นเวลา ๓ เดือน ในการปฏิบัติฝึกเจริญสติตลอดทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน ดื่มฉัน เข้าห้องน้ำ กวาดวัดทำความสะอาดห้องน้ำ บิณฑบาต มีสติระลึกรู้ตลอดตั้งแต่ตื่นนอน จนเข้านอน เราตั้งสัจจะว่าจะไม่นอนกลางวัน หลังจากผ่านไปได้ ๒ เดือน เกิดอาการเนื้อตัวตึงมากจนแทบไม่ไหวจึงบอกตัวเองว่าเราไม่ได้นอนเพียงขอพักยืดเส้นยืดสายหน่อยโดยการเอนหลังลงไปพอหัวถึงหมอน แขนยังวางไม่ถึงพื้นปล่อยวางร่างกาย จิตใจทั้งหมด อยู่ดีๆก็เกิดสติระลึกรู้ตัวทั่วพร้อมความเกิดดับของรูป นามรวดเร็วดุจดังสายฟ้าแลบเห็นการทำงานของร่างกายเหมือนมนุษย์หุ่นยนต์ ร่างกายสว่างทั้งตัว ทั้งลืมตา ทั้งหลับตา นานประมาณ ๑ ชม. ๒ ครั้ง เข้าใจระบบร่างกาย มีแต่ความเกิดดับ ทั้งร่างกายของเรา ร่างกายคนอื่น ร่างกายสัตว์ ทุกสรรพสิ่งในโลกมีแต่ความเกิดดับทั้งนั้น จึงเข้าใจคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า เกิดความมั่นใจ ไม่สงสัยในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า และได้ปฏิบัติต่อไปจนออกพรรษา และจำเป็นต้องสึก เพราะก่อนบวช ตีเช็คเด้งไว้ ๓ ใบ ใบละหมื่นกว่าบาท เขาได้ออกหมายจับแล้ว จึงจำเป็นต้องสึกออกไปใช้หนี้เพราะไม่สามารถหาเงินจากญาติพี่น้องได้ เราไม่อยากสึก แต่จำเป็นต้องสึก เลยตั้งสัจจะไว้ว่าพอสึกออกไปทำงาน ได้มาเท่าไรจะต้องถูกหัก ๒๐% เพื่อบำรุงพระพุทธศาสนา พอสึกออกไป ในช่วงระหว่างการใช้ชีวิตคู่ได้ตกลงก่อนแต่งงานว่าเราให้เวลา ๑๐ ปี แล้วเราจะออกบวช ช่วงเป็นคาระวาท การใช้ชีวิต การทำงานไม่ค่อยราบรื่นช่วง ๑๐ ปี ตัวเลขยังแดงอยู่ยังเป็นหนี้ธนาคารประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้างเป็นเซลล์ ขายเครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า และในช่วงนั้นได้ไปเข้ากลุ่มอโศก เนื่องจากชอบทานมังสวิรัติจึงพาครอบครัวไปใส่บาตรและเข้ากิจกรรมของอโศกอยู่เป็นระยะจึงได้สร้างบ้านไว้ที่ราชธานีอโศก ๑ หลัง และได้มอบเงินจำนวนหนึ่งเข้ามูลนิธิเพื่อนช่วยเพื่อน ให้กับท่านจัน(จันทเศษโฐ) เนื่องด้วยว่าเป็นคนที่ชอบด้านการดูแลสุขภาพจึงเรียนแพทย์แผนไทย เภสัชกรแผนไทย แพทย์แผนจีนและได้สอบใบประกอบโรคศิลป์ของแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนจีนได้ สามารถรักษาด้วยการฝังเข็ม ยาจีน นวดจีน แพทย์ แผนไทย เวชกรรมเภสัชกรแผนไทย จากที่สึกออกไปปีที่ ๒๐-๒๕ การงานจึงค่อยเริ่มประสบผลสำเร็จ เงินเริ่มไหลเข้ามา สามารถที่จะสร้างตึก บริษัท โรงงาน ซื้อรถยนต์ยี่ห้อดัง ไปเที่ยวต่างประเทศได้ตลอดเวลาโดยที่ไม่ต้องกังวลถึงสภาวะการเงิน เนื่องจากธุรกิจอยู่ตัว และมีเงินเก็บเพียงพอ จึงมีความรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะบวช ประจวบเหมาะกับอารมณ์ที่รู้สึกได้ว่าคนเรามีแต่การเกิด ดับ ดังคำที่พระพุทธเจ้าท่านได้ทรงตรัสไว้ แล้วตระหนักว่าคนเราตายไปแล้วจะสามารถเอาอะไรไปได้บ้าง ไม่มีสิ่งใดที่เราจะเอาไปได้เลย จึงรู้สึกว่าอยากจะออกจาวัฏฏะ สังสารวัฒน์ การเวียนว่ายตายเกิดจะดีกว่า ถ้าเราทำได้ช่วยตัวเองได้ แล้วยังสามารถแนะนำช่วยญาติพี่น้องครอบครัว เพื่อน มิตรสหาย และมวลมนุษย์ได้อีกด้วย จึงออกบวชเป็นครั้งที่สองวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ หลังจากที่บวชแล้ว ได้สร้างสถานที่สำหรับเข้ากรรมฐาน ๑๔ ไร่ ขุดเป็นสระใหญ่ มีกุฏิ แพลอยน้ำสองหลัง และศาลาริมน้ำหนึ่งหลังไว้เข้ากรรมฐานเก็บตัวโดยตั้งสัจจะว่าจะไม่ขึ้นมาเหยียบแผ่นดินครั้งละ ๓ เดือน ๖ เดือน ๑๒ เดือน จนบวชมาได้ ๓ พรรษาจึงได้เข้าใจในพระไตรลักษณ์ ตัดราคะ,โมหะ,โทสะ ทำความเข้าใจ ใน อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา (วิโมกข์ ๓ คือทางหลุดพ้นสามอย่าง ๑.อนิมิตตวิโมกข์(อนิจจัง)ความไม่เที่ยงแปรเปลี่ยนตลอดเวลา ๒.อัปปนิหิตวิโมกข์(เห็นทุกข์)เห็นว่าการเกิด แก่ เจ็บ ตาย พลัดพราก เป็นทุกข์และเห็นร่างกายเป็นรังของโรค ๓.สุญญตวิโมกข์(เห็นเป็นอนัตตา)ไม่สามารถบังคับบัญชาร่างกายได้ร่างกายมันจึงไม่ใช่ของเราไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเราคลายความยึดมั่นถือมั่นในร่างกาย)ต้องใช้เวลาถึง ๒๘ ปี ถึงจะสามารถเข้าใจ ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาอาตมาได้พิจารณาจิตมันก็ยอมรับในการพิจารณาทางร่างกายว่าเป็นของไม่เที่ยง แปรเปลี่ยน มันเป็นทุกข์ มันบังคับตัวเราไม่ได้ ตอนพิจารณาจิตมันก็ยอมรับ แต่พอเลิกพิจารณามันก็เหมือนเดิม จนมาถึงตอนที่อาตมาเข้าไปทำความสะอาดสถานีวิทยุที่วัดไผ่เดี่ยว ตอนบวชแล้วอาตมาก็เก็บเสื้อยืดสีขาวตราห่านคู่ไว้ที่ชั้นวางของแต่มีพระอีกรูปนำเอาเสื้อขาวไปถูพื้นแล้วอาตมาก็ได้คลี่ผ้าขี้ริ้ว(คือเสื้อสีขาว)พอคลี่ออกเท่านั้นแหละ จิตมันก็บอกว่านี่เป็นเสื้อของเรา มันไม่สามารถกลับไปขาวเหมือนเดิมได้อีกต่อไปแล้ว จิตมันก็เกิดสภาวะยอมรับถึงความเปลี่ยนแปลง ความไม่เที่ยงของสรรพสิ่งในโลกและร่างกายเรา ร่างกายคนอื่น ร่างกายสัตว์ สรรพสิ่งต่างๆในโลกล้วนแปรเปลี่ยน จะมองไปทางใหนก็เห็นความแปรเปลี่ยนไม่เที่ยงทั้งหมดน้ำตามันก็ไหลออกมาเองเหมือนท่อประปาแตก ไม่สามรถกลั้นน้ำตาไว้ได้ อารมณ์ในตอนนั้นมีความรู้สึกศรัทธาในพระพุทธเจ้ามากไม่ลังเลสงสัย ในคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เห็นความไม่เที่ยง ความแปรเปลี่ยน เสวยอารมณ์นั้นเป็นเวลา ๔ วันเต็มน้ำตามันล้างดวงจิตที่ดำมืดอยู่จนดวงจิตสว่างไปหมด ตรวจตัวเองแล้วอารมณ์ ราคะ โทสะ โมหะ รู้สึกว่ามันเบาบางลง รู้สึกเฉยๆ จิตประภัสสร(โปร่งใส ว่างเหมือนน้ำในบ่อที่มีความใสจนเห็นตัวปลาและพื้นได้ชัดเจน จนเหมือนจะคิดและมองว่าไม่มีน้ำในบ่อ) คือเฉยๆ ก็ดำริเฉพาะแต่สิ่งที่เป็นกุศล เพื่อสอนให้จิตเข้าธรรมมะฝ่ายกุศลต้องสอนเขาเหมือนเด็กที่ไร้เดียงสา ที่ต้องหัดและฝึกให้เขารู้และเข้าใจธรรมฝ่ายดีก่อน ดวงจิตถูกฝึกมาหลายภพหลายชาติ เข้าใจแต่ธรรมฝ่ายอกุศล(ที่นอนเนื่องในจิตมานานเป็นแสนเป็นล้านชาติ)จนทำให้จิตดำมืด เมื่อจิตสว่างต้องมาเริ่มฝึกใหม่ กระทบรู้ทางทวารทั้งหกพอใจหรือไม่พอใจ (ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ) มีอารมณ์ฌานไม่เสื่อมไปจากใจ(ฌาณลืมตา) เป็นปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ฝากถึงญาติโยม

จากการที่อาตมาได้เรียนรู้พระพุทธศาสนาจากการเกิดความสงสัยในพระรุ่นน้องที่บวชตั้งแต่เป็นสามเณรว่าอยู่ได้อย่างไรตั้งนานในสมณะเพศ จึงทำให้เกิดการทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อที่จะพิสูจน์ในตัวพระรุ่นน้อง และคำสอนของพระพุทธเจ้า จนได้รู้แจ้งในคำสอนของพระพุทธเจ้าว่าจริงแท้แน่นอนทุกสิ่งที่ท่านกล่าวมาคือสิ่งที่เป็นสัจจะ เป็นความจริง เป็นธรรมชาติ เป็นวิทยาศาสตร์ เป็นสิ่งที่มีอยู่ในโลก เป็นสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเอง ปฏิบัติได้ด้วยตนเอง หนทางแห่งพระพุทธศาสนานี่แหละคือหนทาง คือวิธีการแห่งการหลุดพ้น พ้นจากทุกข์ ที่ท่านได้กล่าวไว้ เพราะทุกศาสนาในโลกนี้ ถามว่ามีศาสนาใดบ้างที่สอนให้คนพ้นจากทุกข์ สอนให้คนหลุดพ้น สอนให้หลุดจากวัฏฏะ การเวียนว่ายตายเกิด ไม่มีอีกแล้ว เพราะศาสนาอื่นนั้นถ้าดูข้อมูลตามประวัติศาสตร์แล้วไม่มีศาสนาใดสอนให้คนเป็นพระเจ้า เป็นเทวดา ได้ นอกจากศาสนาพุทธเท่านั้นที่พระพุทธเจ้าท่านได้ทรงตรัสไว้ว่าทุกคนสามารถที่จะเป็นอะไรก็ได้ขึ้นอยู่กับการกระทำของตนเอง จะขึ้นหรือลง ก็ขึ้นอยู่กับตน ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน พระพุทธเจ้าท่านไม่สอนให้คนเชื่ออย่างงมงาย ไม่สอนให้เชื่อโดยไร้สติ ถึงแม้จะเป็นคำสอนของท่านเองก็ตาม ท่านสอนให้รู้จักคิด รู้จักการมีสติ สอนให้รู้จักการพิสูจน์ และจากการที่อาตมาได้พิสูจน์จึงได้เห็นว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกพระพุทธเจ้าท่านรู้แจ้งเห็นจริงขนาดอัจฉริยะบุคคลระดับโลก อย่างไอน์สไตน์ยังยอมรับเลยว่าพระพุทธเจ้าท่านได้กล่าวไว้ถูกต้องทุกอย่างดีแล้ว สมควรแล้ว เหมาะสมแล้ว ขนาดผ่านมาแล้วสองพันกว่าปี โลกจะเปลี่ยนไปอย่างไรผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยมีอะไรต่างๆเกิดขึ้นมากมายในโลกก็ยังไม่มีอะไรผิดพลาดแม้แต่น้อยจึงเกิดความมั่นใจว่าแนวทางการเจริญสติ(สติปัตฐาน ๔) ทำสติให้เป็นมหาสติโดยวิธีการเดียวกับวิธีการที่พระพุทธเจ้าใช้ในการตรัสรู้ซึ่งเป็นของแท้และดั้งเดิมของพระพุทธเจ้า เป็นทางรอดของเหล่ามวลมนุษยชาติที่จะสามารถปิดอบายภูมิ ๔ ได้โดยไม่ยาก(เปรต อสูรกาย สัตว์นรก สัตว์เดรัจฉาน)อาตมาจึงได้น้อมเอาคำสั่งสอน วิธีการปฏิบัติของพระพุทธเจ้ามาเผยแพร่แก่ทุกคนเพื่อหนทางแห่งการพ้นทุกข์

​

 

​

กฐินสามัคคี มหาบารมี
[FONT=DSN PaTiMoke Extend,Display NPa Titling Moke Extend][FONT=DSN PaTiMoke Extend,Display NPa Titling Moke Extend]วันอาทิตย์ที่ [/FONT][/FONT][FONT=DSN PaTiMoke Extend,Display NPa Titling Moke Extend][FONT=DSN PaTiMoke Extend,Display NPa Titling Moke Extend]๔ [/FONT][/FONT][FONT=DSN PaTiMoke Extend,Display NPa Titling Moke Extend][FONT=DSN PaTiMoke Extend,Display NPa Titling Moke Extend]พฤศจิกายน [/FONT][/FONT][FONT=DSN PaTiMoke Extend,Display NPa Titling Moke Extend][FONT=DSN PaTiMoke Extend,Display NPa Titling Moke Extend]๒๕๕๕
[/FONT][/FONT][FONT=DSN PaTiMoke Extend,Display NPa Titling Moke Extend][FONT=DSN PaTiMoke Extend,Display NPa Titling Moke Extend]ถวายองค์กฐิน [/FONT][/FONT][FONT=DSN PaTiMoke Extend,Display NPa Titling Moke Extend][FONT=DSN PaTiMoke Extend,Display NPa Titling Moke Extend]เวลา [/FONT][/FONT][FONT=DSN PaTiMoke Extend,Display NPa Titling Moke Extend][FONT=DSN PaTiMoke Extend,Display NPa Titling Moke Extend]๑๒[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New].[/FONT][/FONT][FONT=DSN PaTiMoke Extend,Display NPa Titling Moke Extend][FONT=DSN PaTiMoke Extend,Display NPa Titling Moke Extend]๐๐ [/FONT][/FONT][FONT=DSN PaTiMoke Extend,Display NPa Titling Moke Extend][FONT=DSN PaTiMoke Extend,Display NPa Titling Moke Extend]น
[/FONT][/FONT]ณ [FONT=DSN SaiMai,Display NSai Mai][FONT=DSN SaiMai,Display NSai Mai]สำนักปฏิบัติธรรมเขำพุคำ [/FONT][/FONT][FONT=DSN SaiMai,Display NSai Mai][FONT=DSN SaiMai,Display NSai Mai](อริยธรรม)
[/FONT][/FONT][FONT=DSN FreeJack,Display NFree Jack][FONT=DSN FreeJack,Display NFree Jack]บ้านเขาโล้น ม.๙ ต.วังคัน อาเภอด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
[/FONT][/FONT]โทร [FONT=DSN FreeJack,Display NFree Jack][FONT=DSN FreeJack,Display NFree Jack]:๐๘๙[/FONT][/FONT][FONT=DSN FreeJack,Display NFree Jack][FONT=DSN FreeJack,Display NFree Jack]-[/FONT][/FONT][FONT=DSN FreeJack,Display NFree Jack][FONT=DSN FreeJack,Display NFree Jack]๕๐๐๙๗๕๒ , ๐๘๖[/FONT][/FONT][FONT=DSN FreeJack,Display NFree Jack][FONT=DSN FreeJack,Display NFree Jack]-[/FONT][/FONT][FONT=DSN FreeJack,Display NFree Jack][FONT=DSN FreeJack,Display NFree Jack]๑๖๒๓๔๒๒
[/FONT][/FONT][FONT=DSN MonTaNa,Display NMon Ta Na][FONT=DSN MonTaNa,Display NMon Ta Na]กองบุญสร้างโบสถ์ถ้้า [/FONT][/FONT][FONT=DSN MonTaNa,Display NMon Ta Na][FONT=DSN MonTaNa,Display NMon Ta Na]เพื่อเป็นสถานที่ท้าสังฆกรรมต่างๆ ของพระและนักปฏิบัติธรรม
[/FONT][/FONT]และร่วมกองทุนค่าไฟฟ้าสถานีวิทยุพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
[FONT=DSN MonTaNa,Display NMon Ta Na][FONT=DSN MonTaNa,Display NMon Ta Na]ประธานองค์กฐิน
[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]ลานมันทรัพย์ศิริ ( คุณแม่นารี เอี่ยมวิริยาวัฒน์ )
[/FONT][/FONT][FONT=DSN MonTaNa,Display NMon Ta Na][FONT=DSN MonTaNa,Display NMon Ta Na]ประธาน[/FONT][/FONT][FONT=DSN MonTaNa,Display NMon Ta Na][FONT=DSN MonTaNa,Display NMon Ta Na]อุปถัมภ์
[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณสมพงษ์[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]-[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณดารณี เอี่ยมวิริยาวัฒน์ คุณวิชัย[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]–[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณลัดดา กวางษี คุณอัศฆ์ชนัย[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]–[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณวาสิณี เกษรังสรรค์ ร้านรุ่งสวัสดิ์วัสดุภัณฑ์(กม.๖) ทีเจ การ์เด้น & รีสอร์ท (คุณศรินทา จารุทัศน์)
คุณนิพนธ์[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]-[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณดุลยรัตน์ เอี่ยมวิริยาวัฒน์ บริษัท โอ เอ็ม โฮม จำกัด (คุณศิริศักดิ์ ศิริธัญญะรัตน์)
นาวาตรี ปราโมทย์ [/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]-[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณบังอร รอบคอบ ร้านสง่ายานยนต์ (บ้านไร่) คุณสันติ แห้วเพชร คุณอรนรินทร์ จินต์ธนวัฒน์ คุณพงษ์เลิศ[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]-[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณยุวกาญจน์ ศรีวิฑูรย์ คุณภัทร์อาภรณ์ เอี่ยมวิริยาวัฒน์
คุณถาวร [/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]-[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณ วรรณี เอี่ยมวิริยาวัฒน์ ร้านตั้งวัฒนาโลหะกิจ คุณแม่มี แซ่เตียว(พร้อมบุตรหลาน)
คุณสาธิต[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]–[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณนฤมล สวนดอกไม้ ร้านฤดีบิวตี้ (ด่านช้าง) ร้านแสงทองเฟอร์นิเจอร์(ด่านช้าง) คุณประเสริฐ[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]–[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณบุญธรรม ทรัพย์ประเสริฐ คุณอภิสัณห์ เอี่ยมวิริยาวัฒน์ ร้าน ล.เล็ก(ด่านช้าง) คุณธนะสิทธิ์(ผิน)[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]–[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณธัญยธรณ์ ว่องไววรารักษ์ คุณปัทมา เอี่ยมวิริยาวัฒน์ คุณ ธาดา (เต่า) สูรย์ราช คุณปราโมทย์ [/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]– [/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณสุชาดา เต็มวิริยะนุกูล บริษัท อโนดาต ออฟเฮิร์บ จำกัด แม่ชี ละมุด มั่นคง [/FONT][/FONT]
[FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]รองประธาน
[FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]ผญบ.เอี่ยม–คุณพเยาว์ ศรีเมือง อบต.ถนอมศักดิ์–คุณสำเริง ศรีนาค คุณสมนึก–คุณยุพิน เฝือกทอง
อบต. สยาม ศรีเมือง คุณสายัณห์(เล็ก)–คุณวรรณา หิรัญวงษ์ [/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณช้าง[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]-[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณติ๋ม สว่างเนตร
[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณ ลมูล[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]-[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณเกษม แน่นหนา คุณหมอละมาน–คุณสม แน่นหนา คุณบุญลือ[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]-[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณวันเพ็ญ บุรุษชาติ
คุณมะยม [/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]-[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณทองม้วน สุภาเกตุ คุณสมพิศ[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]-[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณละเมียด เกตุการณ์ คุณไพศาล[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]-[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณวรรณเพ็ญ โสมมนัส
คุณสุภัทรา หอมดวงจันทร์ คุณอุดร[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]-[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณละมัย บัวเกิดธรรม คุณสันสุณี เกตุการณ์
คุณวัฒวรรยา ,คุณนันทภัค คณาวัง แม่ชีสมบัติ แป้นสุวรรณ แม่ชีลั่นทม สุสุขศักดิ์ แม่ชีรสสุคนธ์ จันทวงศ์ แม่ชีจำเนียน สำเนียงหวาน แมชีราตรี อ่อนสำอาง แม่ชีนิตยา เสือสกุล แม่ชีชลดา กลิ่นสุคนธ์ คูณปีเตอร์[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]-[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณ บุรุษชาติ คุณวีนัส บุรุษชาติ
[/FONT][/FONT]กรรมการ
[FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณพรรณี[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]-[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณพรศักดิ์ พร้อมครอบครัว คุณชิด เขาแก้ว คุณสายทอง เผ่าผาง , คุณกนกอร
คุณ นกแก้ว เขาแก้ว คุณเฉลา มังคุด คุณพรทิพย์ พุทธาประทีป
คุณ สีฟ้า พุ่มโพธิ์ คุณสีไพร เขาแก้ว คุณ ณรงค์ฤทธิ์ จันทร์กิตติสิน
ด.ญ.เมธาพร ดอกไม้ศรีจันทร์ , ร้านอุดมการยาง น.ส. ดวงกมล เศษบุปผา
คุณแม่สุพรวน มาตนอก คุณแม่กิมหลี สีเหลือง คุณธีรเดช นํ้าทิพย์ และครอบครัว
คุณศรีมาลา สีเห[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]-[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]รา คุณมณีกานต์ โชสนัน คุณแม่บุญยิ่ง สุริวงศ์
คุณสุวรรณ สัตบุตร, คุณเฉลย สัตบุตร คุณรวิษฎา กออุดม และครอบครัว คุณกมล เกริกชัย
นาย ศิณพงศ์ จินต์ธนวัฒน์ คุณเพ็ญศรี กลับมาลัย และครอบครัว นายชาญชัย ชาติทอง
ด.ช. พิสิษฐ์พล จินต์ธนวัฒน์ น.ส.ปณิชา[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]–[/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]นายชวากร คำดีวงศ์ น.ส.ดารินทร์ ชูชาติเจริญพร
ด.ญ. สุทธิมาภรณ์ จินต์ธนวัฒน์ นางศิริพร [/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]– [/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]นายลิขิต คำดีวงศ์ คุณวินัย [/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]– [/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณหนึ่งฤทัย พิกุลขาว
คุณ พิมพ์วรัชญ์ ธรรมศิริ คุณสามารถ [/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]– [/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณวรนุช แน่นหนา คุณ อนุ [/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]– [/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณบุญยืน บุญเกิด
น.ส. สุณิศา ธรรมศิริ นายสุนทร ล้อมวงศ์ คุณใจ [/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]– [/FONT][/FONT][FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]คุณน้อย พิกุลขาว
นาย เอกสิชฌ์ นาคเอก ช่างประดิษฐ์ นางนิตยา นาคเอก
น.ส.เบญจรัตน์ นาคเอก นายนเรศ นาคเอก น.ส.พัชรินทร์ นาคเอก คุณมานพ เนตรลา
[/FONT][/FONT]ขออานิสงค์ผลบุญกุศลในการทอดกฐินสามัคคีมหาบารมี ในครั้งนี้
ให้ท่านทั้งหลาย จงประสพแด่ความสุขความเจริญ ได้ดวงตาเห็นธรรมได้โดยง่าย
ได้มรรคสี่ ผลสี่ นิพพานหนึ่ง โดยทั่วหน้ากันทุกท่าน เทอญ
[/FONT][/FONT]

 

ข้าพเจ้าและน้องนางร่วมกฐินสามัคคีมหาบารมีณ สำนักปฏิบัติธรรมเขำพุคำ (อริยธรรม)
บ้านเขาโล้น ม.๙ ต.วังคัน อาเภอด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ทอด ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕

จำนวน 50 บาท

บัญชีผู้รับเงิน
เลขที่บัญชี - ชื่อเรียกบัญชี 2882471821 - วัดเขาพุคำ

ธนาคารผู้รับโอน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
วิธีการโอนเงิน
วิธีการโอนเงิน 2 วันทำการถัดไป
จำนวนเงิน
จำนวนเงินที่ต้องการโอน 50.00 บาท
คำอธิบาย
วัน-เวลาที่ทำรายการ 29/10/2555 - 01:19:08
วัน-เวลาที่หักเงินจากบัญชี 29/10/2555 - 01:19:08