สาวก พุทธทาส งง

อ๋อ ๖ ทางของการปฏิบัติเพื่อบรรลุมรรคผลแห่งพระนิพพานค่ะ อย่างบางอาจารย์เน้น การปฏิบัติแบบสุขวิปัสโก ไม่เน้นฤทธิ์เน้นเดช

บางอาจารย์เน้นเจาะจง แล้วแต่จริตของอาจารย์ท่านนั้นๆ สืบต่อๆ กันมา แต่ท้งหมด เป้นแนวทางที่พรพุทธเจ้าสอนไว้หมดแล้วค่ะ

ไม่มีอะไรที่ไม่ฝึกอาณาปาณสติก่อนค่ะ

ไม่มีสมาธิ คุณจะไปฝึกอะไรได้คะ

 

จิตที่สงบ จิตที่ละเอียด ย่อมเป็นจิตที่อิสระค่ะ

ยายเองยังตกใจเลยตอนแรก ทุกวันนี้ยังเป็นบ้าง บางเวลาหากไม่ได้คาดว่าจะเป็น ยายยังไม่เก่งนัก เลยรู้ว่าอาการตกใจเป็นอย่างไร เมื่อเราเจอหรือเป็นในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้

ความกลัว มีกับทุกคนค่ะ ฝึกไปเรื่อยๆ ทำความคุ้นเคย เหมือนเรากลัวงู เราต้องกล้าจับงู ไม่ใช่ไม่เคยจับงู โดนสอนมาว่า งูมันร้ายนะ ขยะแขยงนะ แค่ได้ยินคำว่างูก็กลัว ก็แขยงแล้ว ยังไม่ทันเห็นตัวเลย กลัวแล้ว งูปลอมยังกลัว นี่ล่ะค่ะอิทธิพลของจิตที่เราได้รับการปลูกฝังผิดๆ เราต้องปลูกฝังจิตเราให้กล้าขึ้นในทางที่จริง และดีค่ะ

กลัวความสกปรก เราต้องทำความสะอาด
กลัวความสูง เราต้องลองปีนไปที่สูง ด้วยกำลังใจที่บอกตัวเองว่า เราต้องไม่กลัว เราต้องทำได้ ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ หากเรามุ่งมั่น

 

รู้ไหมว่าการทำอาณาปาณสติด้วยการหายใจยาวๆ ยิ่งหายใจด้วยเท้า นั่นล่ะยารักษาโรคที่ดีค่ะ ยายเคยเป็นโรคที่หายใจลำบาก นั่งในห้องแอร์นี่พูดไม่ออกเลย หายใจอึดอัด เป็นภูมิแพ้ ตอนนี้ไม่ต้องพึ่งยาบ่อยเหมือนเดิมแล้ว

เดี๋ยวยายจะหาดูว่ลงวิธีการหายใจด้วยเท้าไว้ที่ไหน ในห้องเออตามมาทำไมถ้าไม่รักยายผีป่าหรืองัยนี่ล่ะ

ยายตอบตรงนี้ไม่ไหว เพราะมีสิ่งภาระหน้าที่ๆ ต้องทำ ไม่ได้มาคอยไล่ตอบกระทู้อย่างเดียวค่ะ

หากเราไม่ฝึกจิตเรา ยายจะตอบไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ

 

เมื่อศึกษาธรรมของท่านผู้ใดก็ตามพอสมควรแล้ว ก็ควรไปอ่านพระไตรปิฎกโดยตรงด้วย จะได้ความรู้และความเข้าใจอีกมากที่จะเกิดคุณประโยชน์อย่างแท้จริง

 

เห็นด้วยกับยาย คับ
โรคคัดจมูก น่ะ ผมก้อเป็น
มาตั้งแต่เริ่มจำความได้เลยล่ะ
ตอนเด็กๆ นะ บางคืนหายใจไม่ได้
จนเหมือนจะตายเลย
แต่อ่านหนังสือมา เค้าบอกว่า
จิตที่เป็นสมาธิ จะรักษาได้
ก้อลองทำ
แต่ ไม่ใช่การนั่งสมาธิ (หลายปีก่อนนะ)
แต่เป็นการนึกถึงเรื่องที่เพลิดเพลินใจ
(มันทำให้จิตเป็นสมาธิ)
ทำไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่านานเท่าไร(หลายปีเลยแหละ)
พอมาคิดๆดู ก้อรู้ว่า อาการหายใจไม่ออก ได้หายไปแล้ว

 

สิ่งที่ท่านและเราควรรู้(และต้องรู้)

ศาสตร์แห่งความรู้ที่องค์พุทธะรู้นั้น มีมากมายเหมือนใบไม่ในป่า แต่พระพุทธองค์ทรงหยิบมาสั่งสอนแค่ 1 กำมือที่พระองค์เลือกมาสอน

- ใบใม้ในกำมือคือความรู้เน้นในเรื่องอะไร
- สมถะกรรมฐาน มีมากมายหลายสาขาผู้ฝึกได้ย่อมจะมีคุณต่างๆ มากมาย แต่ประโยชน์หลักคือการยกระดับจิต เข้าสู่ความเป็นทิพย์ ซึ่งจะเป็นจิตที่มีคุณภาพ เหมาะในการพิจรณาในข้อธรรมเพราะเมื่อจิตเข้าสู่ความเป็นทิพย์ปัญญาจะเกิดมาก จริตคืออะไร รู้ได้อย่างไร ว่าเราเหมาะกับ วิธิฝึกแบบใหน
- ข้อธรรมหลักที่พระอริยะเจ้าใช้ในการพิจารณา เพื่อก้าวข้าม หรือหยุดกงจักรแห่งภพทั้งสาม คืออะไร
- ที่สุดแห่งธรรม ยอมล่วงแล้วซึ่งสิ่งสมมติ สิ่งสมมติใหญ่ได้แค่ในภพทั้งสาม นิพพาน อยู่เหนือไตรลักษณ์ อยู่เหนือสิ่งสมมติ สิ่งสมมติอะไรที่เราและท่านยังยึดติดได้จริงๆ อีก เมื่อเราต้องก้าวเข้าสู่โลกแห่งความจริง ที่เหนือจากโลกแห่งสมมติ
สุข ทุกข์ ชั่ว ดี เรา เขา ของจริง หรือสิ่ง ลวงตา(ปิดธรรม)

คิดว่าดี กว่าเขา ซิเราแย่
มันเพียงแต่ ดีกว่าคน ที่บาปใหญ่
ส่วนตัวเอง บาปลึก นึกให้ไกล
มันบาปเบา อยู่เมื่อไร ให้นึกดู
เขาติดซ้าย เราติดขวา ถ้ามานึก
มันยังติด เหลือลึก กันทั้งคู่
แม้ติดซ้าย เลวกว่า ไม่น่าดู
แต่ติดขวา มันก็หรู อยู่เมื่อไร
มันเพียงแต่ ดีกว่าคน ที่ยังเลว
ส่วนตัวเอง ก็ยังเหลว ไม่ไปไหน
เฝ้าเกลียดซ้าย รักขวา เป็นบ้าใจ
มันก็ไพล่ พลัดห่าง ทางนิพพานฯ

ขอ อาราธนาบารมีแห่งองค์พระจอมไตร พระธรรม พระอริยะสงฆ์ น้อมนำแสงแห่งวิมุติปัญญา ส่องทางเปิดตาธรรม ให้เหล่าข้าพระองค์ผู้ยังลุ่มหลงในสมมติ ผู้มีจิตที่ยังครองด้วยกิเลสมาร ให้กล้ายืนหยัดและเ**้ยมหาญ ขจัดมารในจิตไม่หลงติดแห่งสมมติ ก้าวเข้าสู่โลกแห่งวิมุติ ในกาลปัจจุบันอันไกล้นี้เทอญ

 

ผมว่าเจ้าของกระทู้ลองนั่งสมาธิ ดูแบบจริงจังดีกว่า
ไม่ต้องสงสัยอะไรทั้งนั้น ทำอานาปานสติไปเรื่อยๆ
อย่าไปสงสัยกังวลอะไรทั้งนั้น ถ้าไม่ลองตั้งใจทำ
คำถามมันก้อ ออกมาเรื่อยๆแหละ
แล้วก้อไอ้ที่กลัวๆน่ะ ไม่ต้องใส่ใจมันหรอก
นักวิทยาศาสตร์น่ะ ไม่กลัวอะไรทั้งนั้นหลอก
ถ้าคิดจะพิสูจน์ทั้งทีนะ

 

ศาสตร์แห่งความรู้ที่องค์พุทธะรู้นั้น มีมากมายเหมือนใบไม่ในป่า แต่พระพุทธองค์ทรงหยิบมาสั่งสอนแค่ 1 กำมือที่พระองค์เลือกมาสอน

- ใบใม้ในกำมือคือความรู้เน้นในเรื่องอะไร
- สมถะกรรมฐาน มีมากมายหลายสาขาผู้ฝึกได้ย่อมจะมีคุณต่างๆ มากมาย แต่ประโยชน์หลักคือการยกระดับจิต เข้าสู่ความเป็นทิพย์ ซึ่งจะเป็นจิตที่มีคุณภาพ เหมาะในการพิจรณาในข้อธรรมเพราะเมื่อจิตเข้าสู่ความเป็นทิพย์ปัญญาจะเกิดมาก จริตคืออะไร รู้ได้อย่างไร ว่าเราเหมาะกับ วิธิฝึกแบบใหน
- ข้อธรรมหลักที่พระอริยะเจ้าใช้ในการพิจารณา เพื่อก้าวข้าม หรือหยุดกงจักรแห่งภพทั้งสาม คืออะไร
- ที่สุดแห่งธรรม ยอมล่วงแล้วซึ่งสิ่งสมมติ สิ่งสมมติใหญ่ได้แค่ในภพทั้งสาม นิพพาน อยู่เหนือไตรลักษณ์ อยู่เหนือสิ่งสมมติ สิ่งสมมติอะไรที่เราและท่านยังยึดติดได้จริงๆ อีก เมื่อเราต้องก้าวเข้าสู่โลกแห่งความจริง ที่เหนือจากโลกแห่งสมมติ
สุข ทุกข์ ชั่ว ดี เรา เขา ของจริง หรือสิ่ง ลวงตา(ปิดธรรม)

คิดว่าดี กว่าเขา ซิเราแย่
มันเพียงแต่ ดีกว่าคน ที่บาปใหญ่
ส่วนตัวเอง บาปลึก นึกให้ไกล
มันบาปเบา อยู่เมื่อไร ให้นึกดู
เขาติดซ้าย เราติดขวา ถ้ามานึก
มันยังติด เหลือลึก กันทั้งคู่
แม้ติดซ้าย เลวกว่า ไม่น่าดู
แต่ติดขวา มันก็หรู อยู่เมื่อไร
มันเพียงแต่ ดีกว่าคน ที่ยังเลว
ส่วนตัวเอง ก็ยังเหลว ไม่ไปไหน
เฝ้าเกลียดซ้าย รักขวา เป็นบ้าใจ
มันก็ไพล่ พลัดห่าง ทางนิพพานฯ

ขอ อาราธนาบารมีแห่งองค์พระจอมไตร พระธรรม พระอริยะสงฆ์ น้อมนำแสงแห่งวิมุติปัญญา ส่องทางเปิดตาธรรม ให้เหล่าข้าพระองค์ผู้ยังลุ่มหลงในสมมติ ผู้มีจิตที่ยังครองด้วยกิเลสมาร ให้กล้ายืนหยัดและเ**้ยมหาญ ขจัดมารในจิตไม่หลงติดแห่งสมมติ ก้าวเข้าสู่โลกแห่งวิมุติ ในกาลปัจจุบันอันไกล้นี้เทอญ

 

ตกลงผมยังไม่ได้รายชื่อ 6 วิธีฝึกสมาธิเลยครับ
ขอแค่ชื่อก็พอครับเดียวผมไปหาวิธีทำใน Google ได้ครับ

ขอบคุณที่แนะนำเรื่องหายใจด้วยเท้านะครับ
ไม่เป็นไรครับผมชอบหายใจด้วยจมูกมากกว่า

และผมก็เคยชินแล้วอย่างที่บอกเป็นแปล๊บเดี๋ยวก็หาย
ประมา 5-10 นาทีหลังจากที่เปลี่ยนห้อง
หรือเจอแอร์ใหม่ ๆ เท่านั้น หรืออีกทีก็ตอนตื่นแปล๊บเดียว
แต่ก็ขอบคุณที่แนะนำครับ

ส่วนเรื่องความกลัวนะครับไม่ต้องเป็นห่วง
ผมไม่ได้ต้องการว่าอยู่โดยไม่กลัวอะไรเลยครับ
เพียงอยากอยู่อยากมีความสุขกับกระดาษปากกา
ที่ผมคุยเคยก็พอครับไม่ต้องมีอะไรเพิ่ม

การมีอะไรเพิ่มไม่มีบอกว่ามีความสุขครับ
เมื่อก่อนมีเน็ต 56k ก็ฝันหวานอยากมี hi-speed
พอมีแล้วก็มาบอกว่าทำไมที่นี้มันดูหนังกระตุ๊กอีก

พอได้ฟังพุทธทาสถึงได้เข้าใจว่าการมีความสุข
กับสิ่งที่มีอยู่นั้นคืออะไรไม่ใช่การหักห้ามใจ
แต่เป็นการสร้างอารมณ์ขึ้นมาจริง ๆ

สรุปแล้วไม่ได้ต้องการที่จะไม่กลัวอะไรเลย
หรือเก่งกาจไปไหนแค่ต้องการควบคุมความรู้สึกได้เท่านั้น
อย่างไรช่วยบอกรายชื่อให้หน่อยนะครับไปหาใน
พระไตรปิฎกเองผมเกรงว่าจะหาได้ยาก
ถ้ามีรายชื่อเดี๋ยวไป Search ได้ครับ

ขอบคุณครับ

ตอบ boydd
ผมฝึกเป็นประจำครับ ว่างเว้นจากการฝึกผมก็มาถามที่นี้ครับ
เหมือนกับเราฝึกกีฬาครับฝึกไปก็ถามโค้ชไปหาความรู้เพิ่มเติม
ไม่มีใครบอกเราก็ฝึกไปเรื่อย ๆ ครับ แต่ถ้าบอกเราก็ลอง
เอามาปรับใช้หรือเอามาลองดูครับ

 

โมทนาด้วยครับ อดดีใจแทนน้องไมได้ที่มาสนใจธรรมะตั้งแต่อายุน้อยๆ
ที่น้องดูลมหายใจแล้วเหมือนถูกบีบหัว เพราะน้อง "เพ่ง" โดยไม่รู้ตัวครับ
ถ้าไล่ตามสภาวะจากสภาวะ สบายๆ จะเหมือนตามลมได้มากขึ้นแล้วร่างกายหนัก
อึดอัด หรือแน่นตามใบหน้าหรือหน้าอก

การเพ่งทำให้จิตเราไม่เป็นกลาง แบบไม่รู้ตัวครับ อย่างดูลมหายใจจะกลายเป็นค่อยๆบังคับลมไป
สังเกตดูง่ายๆ เมื่อเกิดอาการแบบเดิมอีก ให้ลืมตาแล้วเลิกสนใจ สักครู่เดียว อาการปวด อึดอัดต่างๆจะหายไป
ตรงนี้พอเลิกทำแล้วอาการปวด อึดอัดหายไป ถือเป็นหลักฐานว่า เราติด "เพ่ง" ซึ่งตรงกันข้ามกับตามรู้ลมสบายๆ

วิธีการแก้ไข พอทำแล้วอึดอัด ให้รู้ว่ากำลังอึดอัดครับ แล้วถ้ารู้แล้วยังไม่หายอึดอัดให้เลิกดูลมไปก่อนครับ
เลิกสนใจเรื่องลมสักพัก พอหายอึดอัดแล้วลองค่อยๆตามดูลมใหม่ ถ้ายังไม่หายอีก ก็ให้เลิกอีกครับ

ส่วนที่พอเลิกแล้วน้องสามารถอ่านหนังสือได้มากขึ้น เพราะจิตใจมันผ่อนคลาย สบายขึ้น หลังผ่านการถูกบีบรัดเพราะเพ่งหรือบังคับมาครับ ยังไม่ใช่จิตใจที่มีพลังจากผลของสมาธิครับ

หลักสำคัญของการทำสมาธิให้ได้ผล คือก่อนทำสมาธิและขณะทำสมาธิ ควรมีจิตใจที่ เบาๆสบายๆ มีความสุข ด้วยจิตใจลักษณะนี้จะสามารถทำให้เกิดสมาธิได้ง่าย ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า "ความสุขเป็นเหตุใกล้ให้เกิดสมาธิ" ส่วนถ้าทำๆแล้วเริ่มหนักๆหรือเกิดอาการต่างๆนาๆ ถือว่าผิดทางครับ ดีไม่ดีอาจจะเป็นผลเสียกับตนเองได้ให้ระวังตรงจุดนี้ด้วยครับ

 

ขอบคุณ บัวใต้น้ำ มากครับ ผมจะลองดู

แต่น่าแปลกคือผมสามารถปวดได้ยี่สิบกว่านาที ไม่รู้สึกว่านาน
และมีทีท่าว่าจะทนได้มากขึ้นแต่ทำไปสักพัก
จะเหมือนตื่นนอนคือจะทำสมาธิไม่ได้แล้วหายใจก็
ไม่เจ็บแต่ว่าจะหลับตาไม่ลงต้องออกจากสมาธิครับ

 

ขอบคุณ WebSnow ครับ
แต่ผมไม่ทราบว่าจะให้ไปฟังที่ไหน
เรื่องเป็นกองอะไรผมไม่เข้าใจเลยครับ

 

ปัญหาอีกเรื่องคือ เมื่อก่อนผมเคยปวดฟันกลามด้านซ้ายบนมาก
ไปหาหมอก็ไม่ถอนให้เพราะหมอเอ็กซ์เรย์แล้วก็หาสาเหตุไม่พบ
ผมต้องนอนทนปวดเป็นเดือนแล้วก็หายปวดไปเอง

ที่น่าแปลกคือพอทำสมาธิแล้วมันกลับมาปวดอีกครับ
แต่ไม่แรงเท่าของเดิม ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรครับ

หรือว่ามันไปสะกิตประสาทจุดปวดอันเดิมครับ

 

ฝึกสมาธิ คุณลองจับลมหายใจ 3 ฐาน คือ จมูก หน้าอก เหนือสะดือ เวลาหายใจเข้า-ออก ให้มีสติระลึกรู้ว่าลมกระทบฐานใดบ้าง อย่าให้พลาดอย่าให้คลาดเคลื่อน รู้สึกเครียดหรือปวดหัว ปวดตาเมื่อไหร่ให้คลายอาการ(คลายได้ถ้าคุณมีสติรู้ตัวและตามลมหายใจเข้าออกอยู่ตลอด พอมีอาการเครียดหรือปวดมากระทบปุ๊บคุณจะหยุดอาการมันได้ทันที(เพราะคุณมีสติ) การที่คุณรู้สึกปวดหัว ในขณะทำสมาธิ(ในกรณีที่ไม่ได้มีไข้) แสดงว่าคุณเครียดและเพ่งโดยไม่รู้ตัวนั่นคือคุณพลาดคุณลืมสติไป (ท่าข้ามก็เคยเป็น บ่อยด้วย) แต่ถ้าคุณมีสติระลึกรู้กับลมหายใจตลอดรู้อาการกระทบแต่ไม่ยึดและคลายอาการ(ยังสนใจแต่ลมหายใจ) คุณจะไม่ปวดหัวหรือปวดตาอีกเลย (รับรอง) พระธรรมของพระพุทธเจ้านั้น ถ้าทำพอดี ทำถึงจุด ผลจะบังเกิดและเป็นผลดี(จะสุขมากแต่ก็อย่าติดสุข) และจะไม่ทำให้คุณปวดหัว หรือ ปวดอวัยวะใดๆแน่ท่าข้ามรับรอง ท่าข้ามไม่ได้เก่งอะไรแต่แนะนำในส่วนที่ท่าข้ามเคยเป็นและแก้อาการได้เพราะปฎิบัติตาม พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ภาวนาทำให้เกิดสติ และสติก็ทำให้เกิดปัญญา การใช้ชีวิต ต้องมีสติและใช้ปัญญาให้มาก คุณไม่ต้องคิดมากถ้าทำแล้วจะไม่บังเกิดผลเหมือนคนอื่นในเว๊ปนี้ ท่าข้ามเพียงแค่อยากช่วยคุณแก้อาการปวดหัว ปวดตา จากการทำสมาธิของคุณเท่านั้น เรื่องฤทธิ์เรื่องญาณต่างๆคงไม่ถูกจริตคุณ ก็ไม่ต้องเครียด เดี๊ยวจะปวดหัวอีก ปฎิบัติธรรมเพื่อดับกิเลสดีกว่า