สาวสวยกับบทบาทภิกขุณี

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย whimsicle, 17 สิงหาคม 2011.

  1. whimsicle

    whimsicle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +36
    สาวสวยกับบทบาทภิกขุณี

    [​IMG]

    โคฮีนัว สิงค์ ชื่ออันไพเราะภาษาเปอร์เซียโบราณอันแปลว่า มงกุฎเพชร เป็นชื่อในวงการของ ทิพปา สิงค์ นักแสดงและนางแบบสาวชั้นแนวหน้าของเนปาล เชื้อสายอินเดีย ที่จู่ๆตัดสินใจ ผันตัวเองมาบวชเป็นภิกขุนี เธอโกนผม ไม่แต่งหน้าและทำสิ่งที่สวนทางกับอาชีพนักแสดงอย่างยิ่ง จนหลายคนตกใจ มีทั้งเสียงยินดี ไม่พอใจ และสนับสนุนในคราวเดียวกัน หลังจากการเป็นนางเอก มิวซิก วีดีโอกว่า 25เรื่องและอาชีพนางแบบกว่า 10 ปี บน catwalks bikini shoots และนิตยสาร เสื้อผ้าแฟชั่น ตอนนี้เธอได้ชื่อใหม่ทางพุทธศาสนาแบบเนปาลว่า Ani Losang Dolma

    [​IMG] [​IMG]


    เธอกล่าวว่าที่เธอเลือกจะบวชเป็นภิกขุณีในศาสนาพุทธก็เพราะศาสนาพุทธนั้นเรียบง่ายและเป็นความจริงของชีวิต และสอนให้เธอได้เป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ชื่อเกิดของเธอคือ ทิพปา ต่อมาเมื่อเข้าวงการดารานางแบบก็กลายเป็น โคฮีนัว ในขณะที่แม่ของเธอชอบเรียกเธอว่า ชนะคยา ส่วนพ่อของเธอให้ nick name ใหม่ กับเธอหลังบวชเป็นภิกขุณีว่า "buddha" ภิกษุณีสาวสวยให้สำภาษณ์อย่างติดตลกเกี่ยวกับชื่อเหล่านั้น แต่อย่างไรก็ตามชื่อของเธอตามแบบสงฆ์ ซึ่งเป็นตัวตนจริงของเธอก็คือ Ani Losang Dolma

    [​IMG][​IMG]

    ภาพถ่าย fashion shoots ของภิกขุณีสาวสวยก่อนออกบวช


    [​IMG][​IMG]

    นอกจากนี้ภิกขุณีคนสวยยังกล่าวเธอไม่เคยรู้สึกตื่นเต้น หรือ ดีใจกับการได้เป็นนักแสดงหรือเวลามีคนมาชมในความสวยของรูปร่างน่าตาของเธอ เพราะสำหรับเธอมันก็เป็นแค่อาชีพหรือภาระหน้าที่หนักหน่วงเท่านั้น ผู้คนที่เข้ามามองดูเธอแค่เพียงรูปร่างภายนอกไม่ใช่ตัวตนจริงๆของเธอบาง คนชื่นชมในความสวยก็ดีไป ในขณะที่มีอีกหลายๆคนในสังคมอันโบร่ำโบราณของอินเดียและเนปาลที่มองว่านักแสดงนางแบบเป็นพวกขายเรือนร่างและหยาบคายใส่


    [​IMG][​IMG]


    ภิกขุณีสาวอดีตนักแสดงยังกล่าวอีกว่าเธอรู้สึกชื่นชมการเป็นภิกขุณีมาตั้งแต่เด็ก เวลาที่เธอพบพวกภิกขุณีที่ Swayambu นางดูมีความสุขและแต่งกายแบบเดิมเสมอ เรียบง่าย และปราศจากเครื่องยึดเหนี่ยวใจให้ตกต่ำ เช่นสังคมของคนธรรมดาที่ต้องนึกถึงภาพลักษณ์และปั้นแต่งอยู่เสมอ ยิ่งเวลาอายุน้อยมีกิเลสอยากได้มากเท่าไร สังเกตได้ว่าความสุขก็น้อยลงเท่านั้น

    [​IMG]
    [​IMG]


    หลายคนคิดว่าที่เธอบวชภิกขุณีเพื่สร้างข่าวให้ตัวเองดังยิ่งขึ้น แต่ภิกขุณีสาวก็กล่าวว่าไม่เป็นความจริงเช่นนั้น เพราะเธอไม่ได้บอกสื่อมวลชนเลยตลอดเดือนที่เริ่มบวช แต่คนอื่นก็มาสืบรู้กันเอาเอง ภิกขุณีสาวกล่าวว่าเธอเป็นนางแบบที่ดังอยู่แลวและไม่จำเป็นต้องสร้างข่าวเทียมเพื่อทำลายชื่อที่มีอยู่แล้วด้วยการโกหก เธอคิดว่าตลอดระยะเวลาเป็นดารานางแบบนี้เธอก็ได้สร้างชื่อมามากเกินพอแล้ว และเธออยากจะละทิ้งมันไปทั้งหมดจริงๆแล้วสื่อมวลชนเป็นสิ่งที่เธอยอมแพ้ เวลาที่ใครสักคนเกิดมาไม่มีใครรู้หรอกว่าตัวเองจะโตขึ้นแล้วเป็นอะไร เราทุกคนซึมซับเรียนรู้สิ่งรอบตัวและก็กลายเป็นเราในอนาคตและแน่นอน ภิกขุณีไม่ใช่คนของสื่อมวลชน

    [​IMG]

    เธอกล่าวว่าความแตกต่างระหว่างตอนเป็นโคฮีนัวกับตอนนี้ก็ตลกดี เจอเหตุการณ์ที่ต่างกัน ตอนเป็นโคฮีนัว ก็มีแฟนคลับผู้ชายโทรมาให้ฉันเลิกกับแฟนของตัวเอง (ดาราด้วยกัน) ในขณะที่แฟนคลับผู้หญิงของแฟนเราก็โทรมาบอกให้เราเลิกกับแฟนเราพอมาตอนนี้เป็นภิกขุณีโกนหัวใส่จีวร มีวันหนึ่งเดินไปบิณฑบาตร เจอกลุ่มเด็กผู้ชายกำลังเตะบอล พวกเค้าบังเอิญเตะมาโดนหัวเรา พวกเค้าคิดว่าเราเป็นเณรผู้ชาย ภิกขุณีสาวกล่าวพลางหัวเราะ

    [​IMG]

    ภิกขุณีสาวกล่าวว่าเธอจะไม่มีทางกลับไปเดินบนเส้นทางเดิมของนักแสดงอีกตลอดไปเพราะการเป็นภิขุณีคือสิ่งที่ฉันเป็นมาตลอด ทั้งหมดนี้คือหนทางของหญิงสาวที่ก้าวสู่การเป็นภิกขุณีในต่างแดน แน่นอนว่ามีทั้งเสียงคัดค้านและต้อนรับ

    [​IMG]

    ผู้สื่อข่าวถามคำถามสุดท้ายจากเธอว่า เธอมีอะไรที่จะบอกเยาวชนรุ่นเด็กบ้าง ภิกขุณีสวยสอยตอบว่า
    คนเรานั้นเกิดมาก็ง่ายต่อการบเจอสุขและทุกข์ ซึ่งเป็นส่วนนึงของชีวิตอันแสนสั้น สิ่งที่เป็นอมตะคือวิญาณของเรา คนที่สามารถอยู่กับทั้งสุขและทุกข์โดยไม่สะทกสะท้านคือผู้ที่ค้นพบสุขอันแท้จริง

    เดี๋ยวจะพยามทำให้รูปโชว์ขึ้นมาคะ สงสัย server ของเวป พลังจิตจะมีปัญหาเพราะเราฝากรูปอัปไว้กับในเวปพลังจิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2011
  2. อารมณ์ดี

    อารมณ์ดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    280
    ค่าพลัง:
    +550
    สาธุอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ:cool:
    เป็นข่าวที่น่ายินดี และเป็นมงคลยิ่ง
     
  3. Kra-Tai

    Kra-Tai สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2011
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +7
    ระหว่างฉันนั่งรถบัส นั่งมองข้างทางที่เป็นภูเขา ต้นหญ้า มีท้องฟ้าสีคราม มีทุ่งกว้าง ฉันมองเห็นความสุขในตัวฉัน ฉันมองเห็นความสวยงามของโลก แต่ในขณะเดียวกัน ณ.ที่ที่ฉันนั่งรถผ่านที่ฉันเห็นมันสวยงามนั้น มีหมาแม่ลูกอ่อนตัวหนึงที่ใช้สถานที่ริมถนนเพื่อเลี้ยงลูกของเธอ....หมาน้อยดูวิ่งเล่น มีความสุขทุกวัน แต่แม่ผอมโซ แถวนั้นไม่มีบ้านคน ฉันไม่รู้ว่ามันจะไปหาอาหารได้ที่ไหน ก็คงจะมีผู้ใจบุญที่ผ่านมาและแวะเอาเศษอาหารมาให้บ้าง ครอบครัวหมา อยู่ตรงนี้จนโต จนวันนี้ฉันไม่เห็นมันเลย ก็ไปนึกถึงเรื่องขบวนการค้าสุนัข ฉันมองเห็นความทุกข์ มองเห็นความโหดร้าย หมาที่ถูกขังและตายในเหตุการณ์นี้มีกรรม..กำลังใช้กรรม...และฉันก็ไม่อยากเห็นใครมาใช้กรรม...แบบนี้...ฉันรู้สึกสงสารคนที่ทำกับหมาพวกนั้น....ที่ต่อไปเขาอาจจะต้องใช้กรรมที่หนักกว่าที่หมาพวกนี้เจอ.....

     
  4. k_pe

    k_pe สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +18
    อนุโมทนา สาธุ บทความนี้ดียิ่งนัก ขอบพระคุณท่านมากๆครับ
    ที่ทำให้ผมได้รู้ว่า ผู้หญิงที่ยังอยู่ในวัยสาว ที่ยังมีความคิดที่จะออกบวช
    ยังมีหลงเหลืออยู่ในโลก ณ.ปัจจุบันนี้ด้วยเหรอ? เพราะผมมองว่าคงเป็นเรื่องยากมากๆ
    ได้อ่านบทความนี้แล้ว ทำให้ผมมีกำลังใจที่จะบวชในอนาคตมากเลยครับ...
    อยากให้ทุกท่านลองอ่านบทความนี้ดูครับ ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ


    ดูกรอานนท์ ผู้รู้แล้วและมิได้ทำตามนั้น จะนับว่าเป็นคนรู้ไม่ได้ เพราะไม่เกิดมรรคเกิดผลสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลยเราตถาคต
    อนุญาตตั้งศาสนธรรมคำสอนไว้นี้ ก็เพื่อว่าเมื่อรู้แล้วว่าสิ่งใดเป็นโทษให้ละเสีย มิได้ตั้งไว้เพื่ออ่านเล่น ฟังเล่น พูดเล่น เท่านั้นเลย
    บุคคลทั้งหลายได้เสวยทุกข์ในมนุษย์แลในอบายภูมินั้น ไม่ใช่สิ่งอื่นเลย เป็นเพราะกิเลส ราคะ ตัณหา นั้นอย่างเดียว ถ้าบุคคลผู้ยัง
    ไม่พ้นจากกิเลส ราคะ ตัณหา ได้ตราบใด ก็ยังไม่เป็นผู้พ้นจากอบายทุกข์ได้จนตราบนั้น บุคคลผู้มิได้พ้นจากกิเลสราคะตัณหา
    นั้น จะทำบุญให้ทานสร้างกุศลอย่างแข็งแรงเท่าใดก็ดี ก็จักได้เสวยความสุขในมนุษยโลก แลเทวดาโลกเพียงเท่านั้น ที่จะ
    ได้เสวยสุขในพระนิพพานนั้นเป็นอันไม่ได้เลย
    ถ้าประสงค์ต่อพระนิพพานแท้ ให้โกนเกล้าเข้าบวชในพระศาสนา ไม่ว่า
    บุรุษหญิงชาย


    ถ้าทำได้อย่างนี้ ชื่อว่าปฏิบัติใกล้ต่อพระนิพพาน เพราะว่าเมืองนิพพานนั้นปราศจากกิเลสตัณหา เมืองมนุษย์แลเมือง
    สวรรค์เป็นที่ทรงไว้ซึ่งกิเลส ตัณหา ไม่เหมือนเมืองพระนิพพาน ผู้มีปัญญาเมื่อปรารถนาความสุขในพระนิพพาน จงออกบวชใน
    พระพุทธศาสนา แล้วตั้งใจเจริญสมถวิปัสสนา อย่าให้หลงโลกหลงทาง
    ถ้าไม่รู้ทางพระนิพพาน มีแต่ตั้งหน้าปรารถนาเอาเท่านั้น ก็
    จักหลงขึ้นไปในอรูปพรหม ชื่อว่าหลงโลกหลงทางไปในภพต่างๆ ให้ห่างจากพระนิพพานไป การทำบุญกุศลทั้งหลายนั้น มิใช่ว่าจะ
    ทำให้บุญนั้นพาไปในที่อื่น ทำเพื่อระงับกิเลสอย่างเดียว อย่าเข้าใจว่าทำบุญกุศลแล้ว บุญกุศลนั้นจักยกเอาตัวนำเข้าไปสู่พระ
    นิพพานเช่นนั้นหามิได้ ทำเพื่อระงับกิเลสตัณหา แล้วจึงจักไปพระนิพพานได้ กิเลสตัณหานั้นมีอยู่ที่ตัวของเรา ถ้าเราไม่
    ทำให้ดับ ใครจะมาช่วยดับได้ ต้นเหง้าเค้ามูลของกิเลสตัณหาอยู่ที่เรา ถ้าเราดับไม่ได้ ก็ไม่ถึงซึ่งความสุขในพระนิพพาน
    เท่านั้น

    คัตมาจาก พระคิริมานนทสูตร (พระยาธรรมมิกสูตร)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2011
  5. CharnK

    CharnK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +1,453
    ขอให้ท่านได้บรรลุโมกขธรรมโดยเร็ว
     
  6. tawansongsaeng

    tawansongsaeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +423
    ไม่เห็นมีรูปขึ้นมาเลยครับ
     
  7. tawansongsaeng

    tawansongsaeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +423
    ไปหารูปมาให้ น่าจะเป็นท่านนี้ครับ
    [​IMG]

    รูปนี้ก่อนบวช
    [​IMG]
     
  8. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,612
    ค่าพลัง:
    +2,882
    คิดเหมือนกันเลย อนุโมทนาด้วย
     
  9. chansinghvasin

    chansinghvasin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +82
    อนุโมทนา..สาธุ ความสวยแบบทางโลกหมดแล้ว หัวโล้นแล้วไม่งามแล้ว สมัยพุทธกาลนางอุบลวรรณาเถรี ก้อคงสวยประมาณนี้ ทำไมหนอมีคนไปมองในทางกามกับท่านได้.....
     
  10. no-ne

    no-ne เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,198
    ค่าพลัง:
    +3,380
    กราบอนุโมทนาสาธุ กับการออกบวชของท่านด้วยนะคะ ขออนุญาตแบ่งปันนะคะ
     
  11. Janus

    Janus สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +1
    เป็นกำลังใจให้ดิฉันอย่างยิ่งค่ะ กราบอนุโมทนาด้วยอย่างยิ่งค่ะ สา...ธุๆๆ
     
  12. pawanakun

    pawanakun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    291
    ค่าพลัง:
    +181
  13. ปลัดแว่น

    ปลัดแว่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +7
    อนุโมทนาสาธุ เคยคิดเหมือนท่านแต่ติดอยู่ว่าต้องตอบแทนผู้มีพระคุณที่กำลังอยู่ในวัยชรา
     
  14. kikinlala

    kikinlala เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    4,939
    ค่าพลัง:
    +8,842
    ข้ามไปได้เปราะหนึ่ง..
    *************************************************
    วันก่อนไปกราบหลวงปู่แบน วัดป่าริมธาร ท่านเทศน์มีเนื้อความว่า "คนเราเป็นพระไม่ได้อยู่ที่ผม พระบางรูปโกนผมแต่ปฏิบัติไม่ได้เหมือนพระ ส่วนคนที่ไม่ได้ปลงผม ก็สามารถปฏิบัติแบบพระได้ เข้าใจไหม .."
    ก็ขอเป็นกำลังใจให้ คนที่ไม่ได้ปลงผม แต่พยามยามปฏิบัติแบบพระ ด้วยค่ะ
     
  15. ann_swu

    ann_swu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +142
    อนุโมทนาสาธุค่ะ ตอนเด็กๆ เห็นคนบวชชี ก็คิดเหมือนกันว่าทำไมเขาดูมีความสุข สงบๆ
    มองแล้วเย็นกาย เย็นใจ
     
  16. supphakrit

    supphakrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +178
    เตาะแตะ เต่งตึง โตงเตง และต้องตาย นี่คือความจริงของชีวิต ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  17. GUYTHUM

    GUYTHUM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    1,358
    ค่าพลัง:
    +1,088
    Motana_Satukan....4444:cool::cool::cool::cool:
     
  18. AUNKZERI

    AUNKZERI Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +49
    งามยิ่งคับ นับถือ..
     
  19. k_pe

    k_pe สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +18
    ผมเห็นด้วยกับท่านครับ(แต่ไม่ทั้งหมด) การที่เราจะหวังไปถึงฝั่งพระนิพพานได้นั้น ก็คงต้องออกบวชอยู่ดีเพราะ สภาพแวดล้อมที่เอื้อ เพศที่เอื้อต่อการปฏิบัติ เราก็จงเลือกที่จะเป็น พระภิกษุ ภิกขุณี หรือแม่ชี ที่ปฏิบัติดีสิครับ จะได้ไปถึงฝั่งเร็วๆ ที่ผ่านมาผมยังไม่เคยเห็น เพศฆราวาส ผู้ดำเนินชีวิตในทางโลก หรือผู้ครองเรือน พอตายละสังขารลง ก็ไม่ปรากฏข่าวว่า กระดูกแปรสภาพเป็นพระธาตุเลย(โดยเฉพาะยุคปัจจุบันนี้) มีแต่ข่าว พระภิกษุ ภิกขุณี หรือแม่ชี เท่านั้น แต่ถ้าหวัง เพียงแค่ มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ ก็ไม่จำเป็นต้องออกบวชครับ "ในอนาคต ผมก็ตั้งใจไว้ว่า หากไม่มีอันต้องห่วงจากทางบ้านแล้ว ผมก็จะออกบวชเช่นกันครับ" ลองพิจารนาดูดีๆนะครับว่าท่านต้องการอะไร อนุโมทนากับทุกๆท่านครับผม...
     
  20. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,913
    ค่าพลัง:
    +1,513
    เท่าที่รู้ พระพุทธองค์ตรัสว่า หลังเราปรินิพพานแล้วห้ามมีภิกษุณีโดยเด็ดขาด
    เพราะภิกษุณีมีโดนการบวชของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
    และ ต่อให้พระพุทธองค์มาบวชให้เอง ก็ต้องบวช2รอบคือ
    ต้องเป็นชีก่อน แล้วค่อยเป็นภิกษุณี

    ขอพวกนั้น เป็นเท็จหรือไม่เชื่อฟังพระพุทธองค์กันแล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...