สำรวจ'วัดสวนแก้ว' หลังถูกน้ำท่วมหนัก

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย สังขารไม่เที่ยง, 21 พฤศจิกายน 2011.

  1. สังขารไม่เที่ยง

    สังขารไม่เที่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,943
    ค่าพลัง:
    +24,697
    วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7662 ข่าวสดรายวัน


    สำรวจ'วัดสวนแก้ว' หลังถูกน้ำท่วมหนัก




    <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left><TBODY><TR><TD bgColor=#e0e0e0 vAlign=top align=middle>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ปัญหาจากมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ ส่งผลให้วัดวาอารามหลายแห่งต้องมีสภาพจมบาดาล

    วัดสวนแก้ว อ.บางใหญ่ เป็นอีกแห่งหนึ่งในนนทบุรี ที่ไม่อาจรอดพ้นหายนภัยครั้งนี้ไปได้ ทั้งที่ระดมการป้องกันอย่างสุดความสามารถ

    'พระราชธรรมนิเทศ' หรือ 'พระพยอม กัลยาโณ' เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า "ภายในวัดระดับน้ำท่วมสูงถึงระดับเอว หรือประมาณ 40-50 เซนติเมตร พระ-เณร ภายในวัดส่วนใหญ่ได้ออกไป จากวัดแล้วเหลือเพียงไม่กี่รูปเท่านั้น ขณะที่การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้น วัดยังมีสิ่งของเพียงพอที่จะนำไปช่วยเหลือ เนื่องจากมีหน่วยงานต่างๆ บริจาค ทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำดื่ม ซึ่งยืนยันว่ามีเพียงพอต่อจำนวนผู้ที่จะเข้ามาอาศัยภายในวัดและนำไปช่วยเหลือประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้กับทางวัด ขณะที่การขนย้ายสุนัขจำนวนกว่าพันตัวภายในวัดนั้น มีอาสาสมัครต่างๆ ที่ได้รับทราบ อาสาเข้ามาให้การช่วยเหลือและขนย้าย"

    หลังจากน้ำท่วมวัดสวนแก้วเป็นเวลาหลายวัน พบว่าปัญหาน้ำท่วมยังไม่ทุเลาลง และแปลกแต่จริง ช่วงเริ่มแรกที่น้ำเริ่มท่วมวัดสวนแก้วได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทุกสาขาอย่างมาก แต่หลังจากนั้นไม่มีแม้กระทั่งหน่วยงานใดเข้ามาให้ความช่วยเหลือหรือช่วยแต่น้อยมาก

    ส่วนน้ำที่ขังอยู่เริ่มลดระดับลงอย่างช้าๆ แต่กลายเป็นเกิดปัญหาใหม่คือ น้ำเน่าเหม็น

    สุนัขที่คอนโด วัดสวนแก้ว รับเลี้ยงไว้ เจ้าหน้าที่ได้ย้ายพวกมันมาอยู่ที่ตึกหลังใหม่ ซึ่งอยู่ด้านข้างส่วนหน้าวัด ส่งเสียงร้องและมีกลิ่นเหม็น คละคลุ้งไปทั่วบริเวณ จนชาวบ้านย่านใกล้เคียง เริ่มเกิดความรำคาญ

    สำหรับวัดสวนแก้ว เดิมชื่อวัดแก้ว เป็น วัดร้าง หลังจากหลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ และพระภิกษุอีก 3-4 รูป ได้เข้ามาพำนักแต่พื้นที่ของวัดเต็มไปด้วยเรือกสวน ท่านไม่สามารถ จะบูรณะได้เพราะขาดบุคลากรที่จะช่วยพัฒนา พ.ศ.2521พระพยอม กัลยาโณ และพระภิกษุสหธรรมิกอีก 2 รูป ได้เดินทางมากราบหลวงพ่อเทียน เพื่อขอทำโครงการบวชเณรภาคฤดูร้อน เมื่อเสร็จแล้ว ก็จะลากลับสวนโมกข์ เมื่อหลวงพ่อเทียนได้อนุญาตให้พำนักแล้วยังได้ช่วยสนับสนุนงานบวชเณรภาคฤดูร้อนด้วย

    พ.ศ.2522 หลวงพ่อเทียนมอบหมายให้พระพยอมและสหธรรมิกเป็นผู้ดูแลรักษาวัดต่อไป ส่วนตัวหลวงพ่อเทียนกลับจังหวัดเลย จากนั้นพระพยอมได้พัฒนาพื้นที่ของวัดและเตรียมจำลองสวนโมกขพลารามให้เกิดขึ้นในเมือง ตามคำที่ 'ท่านพุทธทาส' เคยปรารภเมื่อคราวที่ยังศึกษาธรรมอยู่ที่สวนโมกข์

    ท่านได้ทุ่มเทชีวิตใจเพื่อการบูรณะวัดอย่างเต็มที่และได้นำทรัพย์ ส่วนตัวมาพัฒนาวัดแก้ว ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น 'วัดสวนแก้ว'

    ปี พ.ศ.2529 เป็นปีที่พระพยอมรับกิจนิมนต์มากทำให้ทราบถึงปัญหาต่างๆ ทำให้ท่านตัดสินใจรวบรวมทุนทรัพย์ส่วนตัว ซึ่งมีไม่มากนำมาใช้พัฒนาบริเวณวัด และหาทุนซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียงต่อออกไปอีก เพื่อทำเป็นมูลนิธิสวนแก้ว

    ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกในการบริหารงานช่วยสังคม ปัญหาของสังคมทุกวันนี้ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่าง ฐานะ อาชีพ ความรู้ และโอกาสซึ่งพระสงฆ์ควรจะมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหานี้ด้วย ด้วยปณิธานที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และเผยแผ่ศีลธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เพื่อให้ประชาชนได้รู้จักการใช้หลักธรรมในการดำเนินชีวิตและแก้ปัญหาด้วยตนเอง

    มูลนิธิสวนแก้ว ตั้งขึ้นมาในปี พ.ศ.2529 มีวัตถุประสงค์หลัก 6 ประการ คือ เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา เพื่อส่งเสริมศีลธรรมจรรยา อันดี เพื่ออนุรักษ์ และส่งเสริมวัฒนธรรมและประเพณีไทย เพื่อร่วมมือกับองค์การการกุศลอื่นๆ เพื่อสาธารณประโยชน์ จัดการศึกษา และส่งเสริมการศึกษา

    เนื่องจากปัญหาน้ำท่วม อาจทำให้หลายท่านติดต่อวัดสวนแก้วได้ลำบาก

    หากประสงค์ร่วมบริจาคช่วยเหลือ ติดต่อมูลนิธิสวนแก้วได้ที่โทร.0-2921-6391, 0-2921-6310, 0-2921-5023

     
  2. เฮียเครียด

    เฮียเครียด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2011
    โพสต์:
    877
    ค่าพลัง:
    +332
    ไม่รู้ว่าถ้าจะบริจาคของวัดจะมีรถมารับอยู่หรือเปล่าครับ........
     

แชร์หน้านี้

Loading...