สิงห์คาบดาบ

หลายท่านอาจจะเคยเห็นสิ่งนี้ติดไว้ที่หน้าบ้าน กระจกแปดเหลี่ยมกับสิงห์คาบดาบ ซึ่งในภาษาจีนนั้นเรียกว่า ปากว้าไชเท้า แต่รู้รึไม่ว่ามีความหมายเช่นไร ? รู้รึไม่ว่าต้องมีพิธีการติดอย่าง ? แล้วรู้รึไม่ว่ามีที่มาเช่นไร ?

 

กระจกที่มักเห็นติดตามบ้านที่อยู่ตรงทางสามแพร่ง ทางโค้ง หรือตลอดจนบ้านที่อยู่ในทำเลที่อัปมงคลมักจะติดไว้ โดยความหมายตรงๆแล้วนั้น ปากว้าแปดเหลี่ยมก็เพื่อปรับสมดุลของกระแสพลังที่จะปะทะเข้ามายังตัวบ้าน ส่วนสิงห์คาบดาบนั้นสำหรับป้องกันวิญญาณร้าย ตลอดจนคุณไสยมนต์ดำต่างๆ แต่รู้หรือไม่ว่าหลายคนซื้อมาจากร้านแล้วติดเลยจะมีความอทธิฤทธิ์ได้อย่างไร เหมือนติดรูปสิงห์หลอกผี ไม่ต่างกับเขียนเสือให้วัวกลัว โอกาสต่อไปจะมาเล่าเรื่องการติดกระจกพร้อมกับความหมายทั้งยังมีตำนานที่แฝงอยู่ภายใน...

 

สิงห์คาบดาบหมายถึง สิงห์คาบอาวุธอยู่ครับ เอาไว้ขู่วิญญาณร้าย เพราะสิงห์น่ากลัว ดาบก็ยังน่ากลัวเพราะเป็นอาวุธ
เท่าที่เห็นว่าทำไมเป็นสิงห์ดำๆ จริงๆแล้วก็ไม่ดำเท่าไหร่นะครับ ลักษณะของสิงห์มีตำนานอยู่ จะขอกล่าวในลำดับต่อไป
ที่ว่าสิงโตหรืออาหลงเกี่ยวอะไรกันนั้น ไม่ทราบจริงๆว่าอาหลงคืออะไร ?
ที่ว่าแป๊ะยิ้มนำหน้านั่นไม่ถูกครับ ในอดีตนั้นเทพเซียนทั้งแปด(โป๊ยเซียน)ได้ผ่านทะเลตะวันออก พลัดได้เจอสัตว์ประหลาด ร่างเหมือนม้าแต่ไม่ใช่ม้า มีเกล็ดคล้ายปลาแต่ไม่ใช่ปลา มีหางเหมือนโคแต่ไม่ใช่โค ศรีษะคล้ายมังกรแต่ไม่ใช่มังกร เซียนหนึ่งในนั้นคือหลันไฉเหอ หรือหน่าไชฮั้วในภาษาแต้จิ๋ว ซึ่งเป็นเด็กผมจุก ได้ใช้ตะกร้าดอกไม้ของตนอันเป็นของวิเศษประจำตัว หลอกล่อสิงโตไปถวายเง็กเซียนฮ่องเต้ครับ แต่ช่างทำอุปกรณ์เชิดสิงโตได้เปลี่ยนไปทำหัวแป๊ะยิ้มแทน เพราะว่าหัวของเก่านั้นทำยาก ทั้งยังดูไม่เหมาะสมที่เซียนทั้งแปดจะทำมาแค่ท่านเดียว เพราะแสดงถึงการแตกแยกครับ

 

รออ่านต่อครับ วิธีเชิญสิงห์? แล้วเลี้ยงด้วยอะไร? เราจะทราบได้อย่างไรว่ามีสิงห์เข้ามาอยู่จริงๆ มิใช่วิญญาณพเนจรอื่นมาอยู่แทน?

 

พิธีเชิญสิงห์คาบดาบ

สิงห์ที่คาบดาบนี้ไม่ใช่สิงห์ที่เป็นสิงโตเชิดนะครับ แต่เป็นสิงห์ของเทพเฉินกง ซึ่งเทพเฉินกงนั้นเป็นเทพทวารบาลผู้คุ้มครองประตู ซึ่งสิงห์ตัวนี้จะเป็นพาหนะของเทพเฉินกง ออกจากประตูสวรรค์ออกตรวจตราโลก อันนี้เป็นตำนานที่มานะครับ
สำหรับของใช้ที่เตรียมในพิธีได้แก่
1. เนื้อหมูสดสามชิ้น (แร่บางๆ)
2. กระดาษเงินสามแผ่น
3. กระดาษทองสามแผ่น
4. น้ำบริสุทธิ์
5. กิ่งทับทิม
วันประกอบพิธี
ดูจากปฏิทินจีน จะมีบอกไว้ โดยให้เลือกวันขาลเท่านั้น
ส่วนเวลาประกอบพิธีนั้น คือตีสามถึงตีห้า เพราะเป็นเวลาที่ไชเท้าและเทพเฉินกงเสด็จออกจากประตูสวรรค์พอดี จึงตั้งพิธีเชิญจิตไชเท้าเข้ามาอยู่ในสิงห์นี้
ข้อห้ามสำหรับการประกอบพิธี
ห้ามคนเกิดปีวอกอยู่ในพิธี สัตว์เลี้ยงทุกชนิดในบ้าน ห้ามปล่อยออกมาเพ่นพ่านในขณะประกอบพิธี
ขั้นตอนการประกอบพิธี
ผู้ประกอบพิธีจะต้องตั้งจิตและมีสมาธิที่แน่วแน่ จิตไม่ฟุ้งซ่าน
ก่อนเริ่มพิธีให้นำกิ่งทับทิมแช่ในน้ำบริสุทธิ์ก่อน จากนั้นให้พรมน้ำที่ได้นั้นลงบนกระจกพอประมาณ (ชาวจีนเชื่อว่าน้ำแช่กิ่งทับทิมเป็นน้ำที่ใช้ล้างอัปมงคล หรือชำระมลทินได้ ตำรับยาจีนใช้น้ำแช่กิ่งทับทิมฆ่าเชื้อโรคได้) หลังจากนั้นให้ตั้งกระจกให้ส่องขึ้นฟ้า กล่าวบทอัญเชิญว่า "เทียนมิ่งลิ่ง ตี้มิ่งลิ่ง จินชิ่งไชเท้า ต้าชือ เฉินกงเหมินเสิน ปากว้าฝูซี ปาฉิงชี่กง จี จี หรู ลู่ว ลิ่ง" (แปลว่า ฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ดินศักดิฺสิทธิ์ เชิญสิงห์โตไชเท้า สัตว์เทพพาหนะเทพทวารบาลเฉินกง สถิตกระจกยันต์แปดทิศศักดิ์สิทธิ์ สำแดงอำนาจฤทธิ์เดช ณ บัดนี้)
จากนั้นให้เอาหมูสามชิ้นเช็ดที่ปากสิงห์ แล้วโยนหมูนั้นไปไกลๆ แล้วเช็ดด้วยกระดาษเงินสามแผ่น กระดาษทองสามแผ่น หลังจากนั้นให้ติดตั้งกระจกไว้ในตำแหน่งที่สิ่งไม่ดีปะทะเข้าตัวบ้าน แล้วคำนับลงกับพื้นสามครั้งแล้ว แล้วถอยออกมา ห้ามหันหลังกลับไปมองจนกว้าฟ้าสาง

 

...สำหรับท่านที่ไม่มั่นใจว่าจะเชิญสิงห์มาได้ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะอักขระที่กระจกก็พอจะต้านกันวิญญาณได้บ้าง แต่นานไปผีก็ไม่กลัวเพราะรู้ว่าเป็นแค่รูป ดังนั้นจะต้องประกอบพิธีให้ถูกต้องครบถ้วนและบรรลุไปได้ด้วยดี
...สำหรับบ้านที่จัดงานศพไว้ที่บ้าน จะต้องเอากระดาษแดงปิดกระจกไว้เสียก่อน เพื่อให้วิญญาณของผู้ตายเข้าบ้านได้ เพราะไชเท้าจะไม่ยอมให้เข้า

 

ท่านพอมีเครื่องหมายเดิมๆแบ่งปันบ้างหรือไม่ขอรับ
เพราะบางอย่างชื่อจะเป็นตัวบอกความหมาย
บางครั้งรู้เครื่องหมายไม่รู้ชื่อ
เลยไม่เข้าใจสื่อ

อย่างยันแปดทิศนี้
ท่านนับทิศใดเริ่มต้น
แล้วทำไมการแบ่งในแต่ละทิศไม่เหมือนกัน
แต่ที่สุดแล้วจบที่หยินและหยางคือไท้เก้กหรือไม่อย่างไร

การรำไท้เก้กนี้
แตกต่างจากไท้ก๊กอย่างไร
หรือบางครั้งท่านจะเรียกคนไทยว่าไท้ก๋อหรือไท่ก๊ก
เกี่ยวพันธ์กันหรือไม่
แล้วทำไมเป็นฟาหลุนกง
กงหลุนที่แท้จริงคือหยินและหยางหรือไม่อย่างไร

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ

 

เครื่องหมายเดิมอะไรเหรอครับ ส่วนยันต์แปดทิศนั้นเริ่มนับทิศตะวันออกเป็นทิศแรก เวียนขวา แต่ในยันต์แปดทิศนั้นจะนับทิศตะวันออกและเป็นเหนือ เพราะเป็นการสะท้อนทิศมาจากบนสวรรค์ จึงไม่เหมือนทิศของเราปกติ ทิศแต่ละทิศมีธาตุและความหมายแฝงอยู่ ถ้าจะพูดกันคงยาวเพราะเป็นเรื่องของวิชาทางโหราศาสตร์ ที่มาของทิศนั้นเริ่มมาจากสมัยฝูซี เรียกว่า ผังหล่อซู
การรำไท้เก๊กนั้นเป็นภาษาแต้จิ๋ว จีนกลางเรียกว่า ไท่จี๋
ส่วนที่เรียกคนไทยนั้น ไท แปลว่า ไทย ก๊ก แปลว่าประเทศ ไทก๊กเป็นภาษาฮกเกี้ยนแต้จิ๋ว ส่วนไทกว๋อเป็นภาษาจีนกลาง ซึ่งก็หมายถึงคนไทย หรือประเทศไทยเหมือนกัน
ส่วนฝ่าหลุนกงเป็นอีกวิชาหนึ่งที่คล้ายๆไท่เก๊ก แต่มีการเคลื่อนไหวน้อยกว่า เน้นสมาธิและลมปราณ(ชี่) เรียกอีกอย่างว่า วิชาฝ่าหลุนต้าฝ่า ซึ่งเป็นการฝึกเพื่อสุขภาพ แต่ไท้เก๊กจะฝึกเพื่อสุขภาพและวรยุทธ์ครับ

 

อ่านแล้วซึ้งเลยว่าท่านฮกหลงขงเบ้งนี่มีความรู้ล้ำลึกจริงๆ ขอคารวะ

 

มิกล้าๆ ชมเกินไปครับ ผมยังงูๆปลาๆ ท่องตำรามาพูด อ่านมานิดจำมาน้อยครับ

 

ต้าแปรว่าใหญ่
ฝ่าละขอรับ

แตงโมหนึ่งลูก
หว่อเย้ซา
อีเก้อเก๋หนี่
อีเก้อเก๋หว๋อหรือไม่อย่างไรขอรับ

ถามว่าผ่าอย่างไรเป็นศิลปะ
ผ่าอย่างไรเป็นศิลธรรมขอรับ

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ

 

พอดีว่าผมไม่มีความรู้ในแขนงวิชานี้เลยครับ เป็นศาสตร์วิชาที่มีมาภายหลัง เพื่อการฝึกสุขภาพ และจิตแบบใหม่ครับ คล้ายๆกับเป็นของสถานปฏิบัติที่เกิดขึ้นใหม่ๆครับ

 

รำไท้เก้ก
ผ่าขาวกับดำหรือไม่อย่างไรขอรับ

ตรงนี้เป็นเรื่องที่สื่อด้วยกันหรือไม่
ทำไมเป็นฮกหลงขอรับ
ผมเจอแต่หกเหลี่ยมมาเป็นตำราเยอะมาก
ทำไมยันต์แปดทิศมีหยินหยางอยู่ตรงกลาง
ยันต์นี้จะเที่ยงได้ต้องรู้จักขวาจักดำเท่ากันพอดีหรือไม่อย่างไร
ท่านพอจะช่วยชี้แนะไหมขอรับ
แบ่งแปดได้อย่างไร
อายาตนะมีหกขอรับ
ไปทีไรหลงอายาตนะทุกครั้งเลยขอรับ

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ

 

คำถามบางข้อผมเองก็งงๆ ครับ
เอาเป็นว่าจะขอตอบเฉพาะที่อ่านแล้วเข้าใจคำถามแล้วกันนะครับ
ยันต์แปดทิศนั้น จริงๆแล้วไม่ใช่ยันต์ครับ เป็นสัญลักษณ์มากกว่า ขีดสั้นยาวรอบๆทิศทั้งแปดนั้นหมายถึง ธาตุและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ (มีที่มาจากผังหล่อซู ในสมัยฝูซียุคโบราณ) ส่วนที่ใส่หยินหยางไว้ตรงกลางก็คือ หมายถึง ความสมดุลของสรรพสิ่งครับ และหยินหยางยังมีความหมายที่เป็นปรัชญามากกว่า สีขาวสีดำมีปริมาณพอๆกัน คนเรามีดีมีชั่วอยู่พอกัน ในแถบขาวมีจุดดำ ในแถบดำมีจุดขาว ในคนดีย่อมมีคนชั่ว ในคนชั่วมีคนดี อีกนัยหนึ่งยังหมายถึงการหมุนเวียนของสรรพสิ่งที่ ทำลายจากจุดกำเนิดเล็กๆในขณะที่กำลังก่อเกิด และก่อเกิดในขณะที่ทำลาย

 

น่าสนใจมากครับ ขอบคุณมากครับ

 

ขอบคุณสาระดีๆค่ะ ได้ความรู้มากเลย

 

สวัสดีคะ อยากทราบว่า หลังจากใช้หมูสดสามชิ้นเช็ดปากแล้วขว้างไปไกลๆ คามด้วยกระดาษเงินและกระดาษทอง สงสัยว่า หลังจากเช็ดด้วยกระดาษ ต้องทำยังไงกับกระดาษคะ?