สิ้นสุดสัญญา องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร วัดป่าห้วยริน ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย Nana nora, 10 สิงหาคม 2019.

  1. Nana nora

    Nana nora สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    386
    กระทู้เรื่องเด่น:
    5
    ค่าพลัง:
    +68
    #สิ้นสุดสัญญา

    “...พยายามอยู่นะพ่อก็ระวังไม่ใช่ว่าลืมไงลูกคือมันไม่ออกจากคำบริกรรม มันไม่ออกก็เพ่งของมันอยู่นั่นแหละตามประสีประสาของจิต มันก็เฉยของมันเราก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอกลูก แล้วมันก็ลืมแปลกอยู่นะ หากมันจะเป็นก็ช่างมันเถอะ มีเวลาที่ภาวนาหนักๆนี่พ่อเคยเป็นไม่ใช่อะไรหรอกเพราะระลึกถึงอยู่ คือเวลาภาวนาหนักๆนี่สัญญาจำได้หมายรู้นี่มันจะหยุด ท่านเรียกว่าสิ้นสุดสัญญา พ่อเคยเทศน์หลายครั้งอยู่ให้ลูกให้หลานฟังนี่ เวลาทำเพียรสุดโต่งเนี่ย สัญญาจำได้หมายรู้ต่างๆมันจะยุติเหลือไว้สัญญาเดียวก็คือ พุทโธ ธัมโม สังโฆ เป็นต้น อย่างงั้นพ่อจึงลืมชื่อพี่น้องวงศาคณาญาติและหน้าตาก็เรื่องนี้แหละ เอ...เราก็ภาวนาตลอดทำไมจะเหมือนกับเราหลงลืมมีอยู่ในป่าองค์เดียวสมัยก่อน มันก็หากเป็นของมัน ไม่ใช่ว่าเราเผลออะไรไม่รู้แต่ว่ามันลืมไปตัวนี้ก็เลยนึกถึงสิ ระลึกถึงหลวงพ่อชาสุภัทโทกับพ่อแม่ครูองค์หนึ่ง หลวงพ่อชาสุภัทโทเป็นไปไม่เป็นลูก ภาวนาไป ภาวนาไป เป็นเฉยอยู่ เป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวเป็นเหมือนกับคนนอนไม่อิ่มว่างั้น นี่ก็เลยขึ้นเขาไปกราบหลวงปู่หลวงตาองค์หนึ่งล่ะเคยอ่านชีวประวัติหลวงพ่อชาสุภัทโท องค์ท่านก็เลยว่า “ท่านชาท่านสิ้นสุดสัญญา ภาวนาไป ภาวนาไป ภาวนาไป สัญญาต่างๆสัญญาต่างๆจำได้ไหมรู้ตั้งแต่จำความได้ที่จำโน่นจำนี่จำอะไรได้นะ มันจะค่อยจางไปๆๆๆ เหลือสัญญาเดียวก็คือคำบริกรรม เดี๋ยวนี้สัญญาตัวนี้เวลาที่มันยุติลง มันเป็นสัญญาเดียวก็จริงอยู่แต่มันเหมือนไม่มีสัญญา มันก็เลยสิ้นสุดสัญญาไม่รู้จะไปไหนเลยอยู่สุดท้ายอย่างงั้นเรียกว่าสิ้นสุดสัญญา”

    ▪️มันไม่ไปลูก มันไม่ไป จะเดินข้างหน้ามันก็ไม่ไป จะถอยมันก็ไม่ไป มันเป็นเฉยๆอยู่ไม่รู้ว่าจะคิดอะไรรู้แต่ว่า พุทโธ ธัมโม สังโฆ คือสัญญามันสั้น แต่สัญญาอื่นมันสิ้นสุดหมดเลยเรียกว่าสิ้นสุดสัญญา เอาไปเอามาถ้ามันสิ้นสุดสัญญาจริงๆนี่มันจะทิ้งคำบริกรรมพุทโธเหลือไว้แต่ผู้รู้ตัวรู้ตัวเดียวนี่คือมันสิ้นสุดสัญญาที่มันจิตมันรวมลงเข้าสู่ ขณิก อุปจาร และอัปปนา นี่มหาเหตุมันลูก เราก็ทราบอยู่แต่ว่าทุกวันนี้มันไม่น่าจะเป็นไวขนาดงั้นไงเราก็เพียรระวังอยู่ เพราะว่าเราต้องใช้สติปัญญาในการสงเคราะห์สงหาโลกเพราะผู้ที่มาถามธรรมไม่ใช่คนธรรมดาที่มาถามใช่ไหมนั่นล่ะดั่งที่ลูกเห็น มีแต่ระดับดอกเตอร์ ระดับผู้ที่เรียนพระไตรปิฎกมามันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้พ่อว่าอย่างงี้ พอพ่อพูดถึงหลวงปู่ชาแล้ว “จะให้กระผมทำยังไงขอครับ หลวงปู่ชาว่า” “ไม่ต้องทำอะไรหลวงตานั่นพูด ไม่ต้องทำอะไรท่านชาให้อยู่อย่างงั้นนิ่งอยู่อย่างงั้นแล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเหนือสัญญาตัวนั้นอีกสัญญาหนึ่ง ตัวสัญญาตัวใหม่มันก็จะขึ้นมา ท่านไม่ต้องทำอะไร รู้อยู่ที่สัญญาสุดท้าย อะไรจะเกิดขึ้นช่วงนั้นก็ขอให้รู้ สัญญาใหม่มันจะเสริมเพิ่มขึ้นมายังไงก็จะได้รู้ว่าสัญญาใหม่มันคืออะไร ท่านอย่าไปทำพินิจพิจารณาไตร่ตรองใดๆทั้งสิ้นเพราะว่ามันสิ้นสุดสัญญา

    ▪️หลวงปู่ก็ไปสิ้นสุดสัญญาอยู่ที่ภูเมืองนะไงลูก ที่พูดให้ฟัง พุทโธ ธัมโม สังโฆ มันก็จำไม่ได้ เรียกว่าสิ้นสุดสัญญาเกือบบ้านอยู่ภูเมืองนะคนเดียวนั่นแหละ คือจะลืมหมดนะลูกนะคือสัญญาจำได้หมายรู้ที่ร่ำเรียนมานี่ในตำรับตำราคำบอกคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือพ่อแม่ครูจะจำไม่ได้เลยเรียกว่าสิ้นสุดสัญญา เหมือนกับจะบ้านี่แหละลูก สู้อยู่อย่างงั้นๆ จึงสลัดเป็นสลัดตายที่พูดถึงคลานขี้คลานเยี่ยวอยู่ ๗ วัน ๗ คืน นั่นแหละ จนมีสัญญาใหม่เข้ามาคือสัญญาที่พ่อพูดเสมอถึง ลมพัดมาแล้วมาโดนกับต้นไม้ไผ่เกิดเสียดสีกันดังเอี๊ยดอ๊าดๆ ขึ้น เริ่มมีสัญญาณไหมเริ่มมีสัญญาใหม่เข้าไป เอ....ก่อไผทำไมมันจึงดังนะ บทที่จะไปลงมันก็สิ้นสุดสัญญามันดังด้วยเหตุเหตุมันดังเพราะมีลมเริ่มมีความคิดไงลูกว่ามันสิ้นสุดสัญญาแล้ว เริ่มมีความคิดใหม่เราเป็นมาก่อนพ่อก็ทราบอยู่ตอนนั้น

    ▪️แต่ตอนนี้มันไม่น่าจะสิ้นสุดสัญญานะ เพราะเราไม่ได้ไปภาวนาอะไรที่มันหนักโสสุดโสเป็นโสตายเพื่อทำลายทำร้ายกิเลสอีก ถอนรากถอนโคนกิเลสอีกคือมันพอทุกสิ่งอย่าง แต่มันหากเป็นของมันลูก เดินหน้าเดินไปแล้วก็กลับไปใหม่ เอ....ทำไมลืมอะไร ทำนองนั้นแหละลูกเหมือนสัญญามันหดเข้ามา หดเข้ามา เหมือนมันอยากจะพักผ่อนคือจิตของหลวงปู่มันไม่เหมือนของพวกเรา เวลาที่มันรวมจริงๆนะมันไม่อยากจะออกมา มันอยากจะพักผ่อนอยู่อย่างงั้น ทำงานหนักหน่อยมันก็พักผ่อนคือทำงานในคำพูดคำอะไรที่หนักๆมันก็จะพักผ่อน มันไม่ทำอะไรเลยมันไม่นึกไม่ตรึกไม่ตรองอะไรเลย ดึงมันออกมาเพราะคิดว่ามันขี้เกียจได้สักพักมันก็หดตัวเข้าไป ขนาดที่พ่อพูดเรื่อยเทศน์เรื่อยเพราะรู้ว่ามันขี้เกียจจิตมันขี้เกียจถ้าจิตมันขี้เกียจมันก็จะอยู่อย่างงี้ มันก็ทำอะไรไม่ได้ เอ้า....ทำไมมันจึงขี้เกียจได้เล่า ก็ไหนว่าทำลายโคตรเหง้าเหล่ากอถอนรากถอนโคนมันแล้ว แล้วมันจะขี้เกียจได้อย่างไง ขันธ์ยังอยู่นะลูกเมื่อขันธ์ยังอยู่ #ลูกต้องเข้าใจนะว่าขันธ์นี้เป็นของมารมันมันก็ย่อมมีตัวนี้ไง นั้นสติปัญญาของเราจะทำอย่างไรเมื่อจิตมันขี้เกียจเราจะขี้เกียจตามมันไม่ได้นั่นนะลูก สติกำลังปัญญาเหนือขันธ์ไง เราใช้ขันธ์ให้เป็นประโยชน์

    ▪️สมัยก่อนพวกเปรตพวกผีมันใช้เรา เราต้องหมอบราบคาบให้มัน แต่ทุกวันนี้เราใช้มันมึงขี้เกียจไม่ได้มึงไม่อยากพูดไม่ได้มึงต้องพูด ดึงใหม่เอาใหม่มึงไม่อยากเทศน์มึงต้องเทศน์ มันจะหลบไงลูกมันไม่อยากคุยกับใครมันอยากอยู่เงียบๆของมัน เห็นหลวงตาเทศน์บ่อยๆไหม มันเป็นอย่างงั้นแหละลูก มันหดหัวเข้ามาๆ มันเบื่อหน่ายใช่ไหมล่ะ เพราะมันเบื่อหน่ายทำไมจะไม่เบื่อหน่ายล่ะเพราะมันเห็นโลกเห็นสงสารทุกวัน มีเรื่องอะไรที่ดีไหมล่ะนั่น ก็มีแต่เรื่องเลวๆทรามๆมีแต่เรื่องวุ่นวายก่ายกอง โอ๊ย..ทะเลาะเบาะแว้งวุ่นวาย นั่นแหละลูกมันก็จะยิ่งหดตัวเข้ามาๆๆสิ นี่มหาเหตุมัน ไม่อยากนึกไม่อยากตรึกไม่อยากตรอง ไม่อยากทำอะไร เคยอยู่ของมันอย่างนั้น ลูกต้องเข้าใจนะขันธ์นี่หากแม้นว่า พระพุทธเจ้าก็ต้องเฉกเช่นเดียวกัน สงฆ์สาวกก็เฉกเช่นเดียวกัน ไม่ใช่ว่าจะเป็นเฉพาะสงฆ์สาวกพระพุทธเจ้าก็เป็นเหมือนกัน สังเกตเห็นในการเดินทางของพุทธเจ้าช่วงก่อนที่จะเข้าไปนิพพานเดินไปๆๆ “เฮาเหนื่อยเราเดินไม่ไหวแล้วอานนท์เราเหนื่อย เหนื่อยมาก ไม่ไหวแล้วพักผ่อนเถิด” ทั้งๆที่กำลังของพุทธเจ้าเท่ากับช้าง ๑๐ เชือก ทำไมพระองค์จึงเหนื่อย นี่มหาเหตุ ไม่อยากไปใช่ไหมไม่อยากไปก็รั้งสิรั้งให้เดินต่อไปเมื่อเดินต่อไปไม่ไหวแล้วก็ “เราไม่ไหวแล้วอานนท์เรากระหายน้ำมาก ไปตักน้ำในแม่น้ำมาให้เราตถาคตหน่อยสิอานนท์เราไม่ไหวจริงๆ ไปไม่ไหวจริงๆ” นี่เรื่องธาตุขันธ์ ถ้าไปไหวก็รั้งมัน ฝืนมัน นี่มหาเหตุมัน

    ▪️ที่พูดเมื่อกี้ก็เป็นดังที่ลูกเห็น รั้งมัน มันขี้เกียจพูด ขี้เกียจทำโน่นขี้เกียจทำนี่ รั้งมันทำมันไม่งั้นมันก็จะเป็นซึ้งลึ่งของมัน เพราะว่ามันพักผ่อนของมัน ไม่ได้ไปไหนลูกมันก็อยู่ นักจิตภาวนาเท่านั้นจึงจะทราบลูกว่ามันเป็นอย่างไง
    #คือผู้ที่สติไม่ห่างจากขันธ์ ไม่ห่างออกจากร่างกายนี่จะทราบว่า #จิตมันเจ้าเล่ห์เพทุบายขนาดไหนเจ้าแง่แสนงอนมายาขนาดไหนมันเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว เรารู้นี่ลูกเพราะขันธ์นี้เป็นของมารมัน พอผลสุดท้ายมันท้ายมันก็ถึงขั้น
    #จิตก็ไม่ใช่เรา #เราก็ไม่ใช่จิต ลูกต้องเข้าใจว่าจิตนั้นบริสุทธิ์ผุดผ่องก็จริงลูกแต่สังขารขันธ์สิ รูปยังอยู่เวทนายังอยู่สัญญายังอยู่สังขารการปรุงการแต่งยังอยู่ วิญญาณธาตุรู้ตามยังอยู่ ต่างกันต่างกินก็ใช่แต่อิงอาศัยซึ่งกันและกันนะลูกนะมีร้อน มีหนาว มีเหนื่อย มีเวทนาสุข มีเวทนาทุกข์ แต่หากฝืนไม่ไปตามมัน ฝืนได้คือฝืนเลย หักคอมารเลยเนี่ยถ้าฝืนได้ แต่ถ้าฝืนไม่ได้ก็ถูก็ไถไป ทำไมคำว่าฝืนไม่ได้หมายความว่าไง ก็หมายความว่ามีภาระที่จะต้องทำเหมือนพระพุทธเจ้าทรงนี่พระองค์มีภาระที่จะต้องทำ สงฆ์สาวกก็เฉกเช่นเดียวกัน จึงฝืน เมื่อถึงกาลเวลาจึงตัดสินพระทัยเข้าสู่เมืองพระนิพพาน นี่มหาเหตุ

    ▪️ลูกก็เหมือนกันถ้าลูกเข้าใจเรื่องธรรมในขั้นนั้นลูกจะเข้าใจว่าฝืนเป็นอย่างไง สิ้นสุดสัญญาเป็นยังไง ถ้าเราไม่ถึงที่นั่นมันก็เหมือนเดิมลูกเราก็ไม่รู้เรื่องอะไร ฝืนทำไมก็ไหนบอกว่าเบื่อหน่ายลูกจะเข้าใจเองว่าทำไมเมื่อเบื่อหน่ายแล้วต้องฝืนอยู่ มันคนละเรื่องนะลูกนะ ทั้งที่ไม่มีความรู้สึกนึกคิดมาก่อนทำไมจึงทำได้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเหนือหมดแล้ว คำว่าทุกสิ่งทุกอย่างก็คือต่างกันต่างกินต่างกันต่างอยู่ มันเหนือหมด #อะไรเป็นตัวเหนือจิต #เหนือขันธ์๕ ทุกสิ่งอย่าง ใครจะว่ายังไงก็ตามแต่มันรู้ของมันอยู่ของมัน มันสมควรไม่สมควรมันรู้ของมันนี่ก็คือมหาเหตุ นี่ถ้าพวกเราปฏิบัติถึงก็จะรู้ก็จะเห็น สิ่งที่พ่อพูดไว้เทศน์ไว้นี่ เรายังไม่ถึงเรายังไม่รู้ เรายังไม่ทราบเรายังไม่เห็นเราก็ฟัง ฟังด้วยความเคารพพิจารณาไตร่ตรองดู หากเป็นเช่นนั้นจริงหรือ ยังงั้นเราจะเพียรพยายามให้ถึงจุดนั้น เราก็อยากจะทราบว่ามันเป็นอย่างงั้นจริงหรือ ความกระตือรือร้นเกิดเดินจงกรมนั่งภาวนาฟัดกันหนักพอมันถึงจุดนั้นลูกก็จะทราบเอง อ๋อ...มันสิ้นสุดสัญญามันเป็นอย่างงี้เอง เมื่อสิ้นสุดสัญญาสัญญาใหม่เกิดเป็นยังไง อ๋อ...มันเป็นอย่างงี้เอง

    ▪️ฝืนขันธ์เป็นยังไงลูกจะรู้เองฝืนสังขารขันธ์คือตัวปรุงตัวแต่งเป็นยังไง แต่งมันปรุงให้รักฝืนมันยังไง มันแต่งมันปรุง
    ให้โกรธให้เกลียด ให้ไม่พึงพอใจให้ทำผิดหลักคุณศีลคุณธรรม ตามหลักธรรมหลักวินัยเราจะฝืนยังไงนี่มหาเหตุลูกต้องเข้าใจนะไม่ใช่ว่าแต่ละองค์ แต่ละองค์ สิ้นภพสิ้นชาติแล้วจะอยู่เป็นปกติแบบที่เหมือนที่เราคิดไว้ คือปกติเหมือนที่เราคิดไว้ ไม่ใช่ลูก มันเป็นอีกสภาวะหนึ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้พูดอย่างนี้เข้าใจง่ายกว่า มันเป็นสภาวะหนึ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ แม้นอธิบายหรือเทศน์จนถึงวันตายก็ไม่ใช่การอธิบายตัวนั้นไงลูก เป็นเพียงอธิบายภายนอกตามตำรา หากแม้นไม่เอาตำรามาเทศน์ก็อยู่ในตำรา แต่ตัวนั้นไม่มีคำว่าอธิบายลูกเพราะมันเหนือตำรา
    นี่มันจะเป็นอย่างนี้ลูก ก็เลยเป็นซึ้งลึ่งๆในบางวันไงเพราะมันขี้เกียจไม่อยากพูดไม่อยากเทศน์ไม่อยากสั่งสอนใครอยากอยู่เงียบๆ อยากไปองค์เดียว ก็ปรุงก็แต่งตามประสีประสามันเคยไปนั่นแหละ เขานั้นบ้าง เขานี้บ้าง ป่านั้นบ้าง ป่านี้บ้าง ตามประสีประสามันนั่นแหละ ก็ฝืนมันซิลูกฝืนมัน ฝืนได้ไหมนั่น ถ้าฝืนมันได้ก็ไม่ลำบากกายไม่ลำบากใจนี่มาหาเหตุมัน ถ้าฝืนไม่ได้ก็ลำบากกายและลำบากใจ แต่ถ้าฝืนมันได้ก็ไม่ลำบากกายและไม่ลำบากใจ
    ฟังให้เข้าใจนะลูก

    ▪️ถ้าเข้าใจมันก็ เอ....พูดเรื่องอะไร พ่อหลวงปู่พูดเรื่องอะไร ก็ไม่ได้พูดอะไรก็พูดเรื่องธรรมนี่แหละพุดให้ลูกให้หลานได้สดับรับฟังเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจในภาคปฏิบัติที่ใช้คำว่า #สิ้นสุดสัญญา #วันที่พ่อสิ้นสุดสัญญาอยู่ที่ภูเมืองนะนั่นแหละ เอ๊ะ...พุทโธนี่ระลึกอย่างไรก็ระลึกไม่เห็น สิ้นสุดสัญญาแบบสุดๆนะลูก ไม่ใช่สิ้นสุดสัญญาที่มันยาวๆที่มันระลึกเห็น ตั้งแต่จำความได้เหลือสัญญาเดียวก็คือ พุทโธ ธัมโม สังโฆ ตัวนี้ยังไม่ถือว่าสิ้นสุดสัญญาระดับนั้นไง สิ้นสุดสัญญาระดับนั้นต้องเหมือนที่องค์หลวงปู่อยู่ภูเมืองนะ แต่ถ้าสิ้นสุดสัญญาธรรมดาเป็นตั้งแต่นานแล้วลูกนั่นเป็นตั้งแต่ครองฆาราวาสแล้วลูกนั่น เป็นตั้งแต่ยังไม่มาบรรพชา ถ้าสิ้นสุดสัญญาแบบหยาบนะลูกนะภาวนาไป ภาวนาไป ภาวนาไป มันเบลอ มันเหมือนไม่นึกไม่ตรึกไม่ตรองอะไร มันจะเอาแต่ พุทโธ พุทโธ พุทโธ อย่างเดียวก็เพราะว่ามันมีสัญญาเดียว สัญญาอื่นลืมทั้งหมดไง ขนาดหลวงปู่เป็นช่างช่วงที่ภาวนาหนักๆช่วงที่เป็นฆาราวาส ลืม นึกตรึกตรองอย่างอื่นไม่ออก นอกจากการภาวนาตัวนั้นนี่ภาวนาที่สุดๆมันเป็นอย่างนี้ลูกนะฟังแล้วเอาไปภาวนาไม่ใช่ฟังแล้วก็ทิ้งนะลูกนะ เอาไปภาวนาเพื่อเสริมสติกำลังปัญญาของพวกลูกพวกหลาน ดังที่พูดให้ฟังศาสนาเรานี่เสื่อมคลอนไปมาก ถ้าเราไม่หาวิธีการสู้เพื่อรักษาพระสัทธรรมเราก็จะตกระกำลำบากต่อไป การว่าสู้เพื่อสัทธรรมก็คือให้พวกเรานั้นตั้งใจรักษาศีล ตั้งใจภาวนาลูกนั่น เพราะอายุเราก็ปูนนั้นแล้วถ้าพวกเราไม่ประพฤติปฏิบัติแล้วใครจะมาประพฤติปฏิบัติแทนเรา ยากนะลูกนะ ฟังแล้วก็นำไปประพฤติปฏิบัติเพื่อขัดเกลาจิตใจที่มันมัวหมองให้มันเบิกบานบ้างแค่นี้นะลูกนะสาธุ”

    โอวาทธรรม:องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร
    วัดป่าห้วยริน ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
    ๑๐ กันยายน ๒๕๖๑
    #องค์หลวงปู่น้อย #วัดป่าห้วยริน #สิ้นสุด #สัญญา#เหนือจิต #เหนือขันธ์
    — กับ วัดป่าห้วยริน จังหวัดขอนแก่น 61536060_2448066771879249_4659324936681160704_n.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...