เรื่องเด่น สิ้นแล้ว…หลวงพ่อสถิต พระป่านักอนุรักษ์ผืนป่าเขาแดงภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 12 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,297
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,273
    ค่าพลัง:
    +9,528
    0b8a5e0b989e0b8a7e0b8abe0b8a5e0b8a7e0b887e0b89ee0b988e0b8ade0b8aae0b896e0b8b4e0b895-e0b89ee0b8a3.jpg

    สิ้นแล้วหลวงพ่อสถิตพระป่านักอนุรักษ์ผืนป่าเขาแดงภูสิงห์ 3,400 ไร่ โรคความดันสูงกำเริบหน้ามืดล้มหัวฟาดพื้นกุฎิที่สำนักสงฆ์เขื่อนบ้านศาลาซึ่งจำวัดอยู่เพียงลำพังกลางป่า เผยจากการรักษาป่าทำให้ถูกนายทุนอิทธิพลรวมกลุ่มกันฟ้องถึง 16 คดี

    เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดประชาสามัคคี (บ้านใหม่) ตำบลน้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พระครูสิริธรรมานุรักษ์ รองเจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษ ได้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธีสวดพระอภิธรรมศพของ พระสถิต มหาเตโช หรือหลวงพ่อสถิต ประธานสงฆ์ สำนักสงฆ์เขื่อนบ้านศาลา ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพระนักอนุรักษ์ป่าเขาแดงซึ่งเป็นป่าที่อยู่ในพื้นที่ป่าชุมชน ต.โคกตาล และเป็นป่าถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา บริเวณพื้นที่ติดกับสำนักสงฆ์เขื่อนบ้านศาลา ซึ่งเป็นป่าแหล่งต้นน้ำมีพื้นที่กว่า 3,400 ไร่ โดยมีคณะสงฆ์ศรีสะเกษ นายก อบต.น้ำคำและบรรดาญาติพี่น้องชาวบ้านโนนซึ่งเป็นบ้านเกิดของหลวงพ่อสถิต มาร่วมกันเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมมากถึง 33 คณะท่ามกลางบรรดาที่เศร้าโศก[​IMG] [​IMG]

    ดต.ฉัตรชัย จันทศิลา ประธานอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านจังหวัดศรีสะเกษ (ทสม.) ซึ่งมาร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม กล่าวว่า ป่าเขาแดงซึ่งเป็นป่าที่อยู่ในพื้นที่ป่าชุมชน ต.โคกตาล และเป็นป่าถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา เป็นป่าแหล่งต้นน้ำมีพื้นที่กว่า 3,400 ไร่ ได้ถูกกลุ่มนายทุนและผู้มีอิทธิพลบุกรุกเข้าไปตัดไม้ ทำลายป่า และมีการปลูกพืชเศรษฐกิจขึ้นมาจำนวนมาก เช่น ยางพารา มันสำปะหลัง และต้นกล้วย เพื่อแสดงสิทธิยึดครองที่ดิน โดยหลวงพ่อสถิต ได้ทำการร้องเรียนไปยังส่วนราชการหลายแห่งที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เข้ามาช่วยดูแลไม่ให้ผู้มีอิทธิพลเข้ามายึดครองป่าแห่งนี้ เนื่องจากว่า หลวงพ่อสถิตเป็นนักอนุรักษ์ป่าที่ทุ่มเทมากเพื่อต้องการรักษาป่าเขาแดงเนื้อที่ 3,400 ไร่ไม่ให้ตกไปเป็นของนายทุนอิทธิพล และมีการตรวจป่าเขาแดงเพื่อป้องกันการบุกรุกป่าเป็นประจำทุกวัน ทำให้กลุ่มนายทุนอิทธิพลส่งคนมาขี่ป่าและมีมือปืนมายิงข่มขู่ที่สำนักสงฆ์หลายครั้ง เพื่อหวังให้หลวงพ่อสถิตหนีไปอยู่ที่อื่น แต่ว่าหลวงพ่อสถิตยังคงร่วมกับพวกตนต่อสู้อิทธิพลเถื่อนมาอย่างต่อเนื่องนานกว่า 5 ปีแล้ว

    ดต.ฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า หลวงพ่อสถิตได้ต่อสู้เพื่อรักษาป่าเขาแดงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ถูกกลุ่มนายทุนผู้มีอิทธิพลฟ้องดำเนินคดีมากถึง 16 คดี แต่ว่า ศาลได้พิพากษายกฟ้องหมด เนื่องจากหลวงพ่อสถิตต่อสู้เพื่อรักษาป่าไว้ให้เป็นมรดกของชาติ โดยหลวงพ่อได้ประกาศเสมอว่า จะรักษาป่าเขาแดง 3,400 ไร่ ไว้ให้เป็นมรดกของชาติไทยไปจนกว่าจะตายไปจากโลกนี้ และศาลได้พิพากษาให้นายทุนอิทธิพลที่บุกรุกป่าเขาแดงโดนจำคุกไปแล้วหลายรายด้วยกัน การที่หลวงพ่อสถิตได้มรณภาพอย่างไม่คาดคิดแบบนี้ ทำให้ตนและนักอนุรักษ์ป่าทุกคนเสียใจเป็นอย่างมาก และไม่ทราบว่า จะหาพระที่ใดที่มีจิตใจเป็นนักอนุรักษ์ป่าไม้ ต้นน้ำ มาช่วยดูแลป่าเขาแดงแทน ตนจึงขอวอนให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลป่าเขาแดง ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา ซึ่งเป็นป่าแหล่งต้นน้ำพื้นที่กว่า 3,400 ไร่ด้วย เนื่องจากว่า ขณะนี้กำลังถูกผู้มีอิทธิพลและนายทุนเถื่อนบุกรุกอย่างหนัก คาดว่าไม่นานป่าแห่งนี้จะต้องหมดสิ้นไปจากทำเนียบป่าของศรีสะเกษอย่างแน่นอน

    ดต.ฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับสาเหตุที่ทำให้หลวงพ่อสถิตมรณภาพนั้น เนื่องจากว่า หลวงพ่อสถิต มีโรคประจำตัวคือโรคความดันโลหิตสูง และมักจะบ่นปวดหัวเป็นประจำ ต่อมาเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 8 ก.พ. 61 ชาวบ้านที่ทำภัตตาหารไปถวายหลวงพ่อสถิต เป็นประจำทุกวัน ได้เข้าไปที่สำนักสงฆ์เขื่อนบ้านศาลา พบว่า หลวงพ่อสถิตล้มฟุบอยู่กับพื้นกุฏิ ลมหายใจรวยริน ดังนั้น จึงได้ช่วยกันนำหลวงพ่อสถิต ส่งไปยัง รพ.ภูสิงห์ และแพทย์ได้ส่งตัวต่อไปยัง รพ.ศรีสะเกษ จากนั้น แพทย์ รพ.ศรีสะเกษ ได้ส่งหลวงพ่อสถิตต่อไปยัง รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี และหลวงพ่อสถิต ได้มรณภาพในคืนของวันที่ 8 ก.พ. 61 ซึ่งแพทย์สันนิษฐานว่า มรณภาพเนื่องจากเส้นโลหิตฝอยในสมองแตก เพราะโรคความดันโลหิตสูง สร้างความเศร้าโศกเสียใจแก่บรรดาลูกศิษย์และญาติพี่น้องเป็นอย่างมาก โดยจะมีการประกอบพิธีฌาปนกิจสรีระสังขารของหลวงพ่อสถิต ในวันที่ 12 ก.พ. 61 เวลา 14.00 น. ณ วัดประชาสามัคคี (บ้านใหม่) ตำบลน้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงขอเชิญประชาชนชาวศรีสะเกษและสมาชิกอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านจังหวัดศรีสะเกษ (ทสม.)ทุกคนไปร่วมพิธีในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกันด้วย

    ขอขอบคุณที่มา
    https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_749562
     

แชร์หน้านี้

Loading...