สุข

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Kamen rider, 5 ตุลาคม 2004.

  1. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,776
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 สิงหาคม 2005
  2. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,776
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    สิ่งที่เราต้องการเดี๋ยวนี้ หรือทุกวันนี้ จะให้ความสุขแก่เราจริงอย่างที่คิดหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน จะมีผลกระทบต่อคนอื่น และต่ออนาคตของเราอย่างไรบ้าง ความทุกข์ที่เราเกลียด และกลัวที่สุดนั้นเกิดจากเหตุปัจจัยอะไรบ้าง ทุกวันนี้เราแก้ถูกวิธีหรือไม่

    ในความมืด เอาความหวังในความสุขข้างหน้าเป็นที่ปลอบใจ ความมืดกลายเป็นความสว่าง แต่พระพุทธศาสนาสอนไว้ว่า โยม มันสว่างอยู่แล้ว ไม่ต้องไปบนบานศาลกล่าวที่ไหนหรอก ลืมตาก็จะเห็นเอง ลืมหู ลืมตาขึ้นพิจารณาความเป็นมนุษย์ของเราอะไรไว้กับโลกนี้ คำถามเหล่านี้สำคั_ แต่อย่าเชื่อคำตอบใครง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างมงาย ตามพวกวัตถุนิยมจะเสียคน จงหาคำตอบของตนเองด้วยสติปั__า และความจริงใจ

    ชีวิต และวิธีการที่จะเข้าถึงเป้าหมายนั้น พระพุทธองค์ทรงเรียกว่า สัมมาทิฐิ ผู้ที่มุ่งจะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงในสิ่งที่ดีงาม จะขาดสัมมาทิฐิไม่ได้ เพราะคนเราถ้าคิดผิดแล้ว การกระทำ และคำพูดทุกอย่างย่อมพลอยผิดไปด้วย จิตก็พาลพาไปหาผิดอยู่ร่ำไป

    ในเบื้องต้นหนทางปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ เสวยสุขที่แท้จริงนั้น เริ่มด้วยทิฐิ ระดับความเชื่อถือ ค่านิยมแนวความคิดซึ่ง หนึ่งเป็นมาตรฐานชีวิต และสอง ลงรอยกับความจริงของธรรมชาติ เช่น เรามีกรรมเป็นของๆ ตน การละกิเลสนำสุขมาให้ การพ้นทุกข์ ไม่พ้นสมัย

    สำหรับผู้ที่สนใจปฏิบัติใหม่ๆ ท่านจึง (ควรพิจารณาว่าได้) เน้นในการปรับทิฐิให้สอดคล้องกับความดี และความจริงเกินไปหรือเปล่า เน้นจนละเลยในการเสริมสร้างสัมมาทิฐิ (ซึ่งก็) คือแนวการมองความหมายของชีวิต และโลก ความเข้าใจในเป้าหมายชีวิตของมนุษย์ ความหมายของคำว่าดี ชั่ว บุ_ บาป ความเข้าใจว่า อะไรคือพฤติกรรมที่นักปราช_์สรรเสริ_ อะไรคือพฤติกรรมที่ผู้รู้ตำหนิ และที่สำคั_อย่างยิ่งคือ ความเข้าใจในเรื่องความสุข และความทุกข์

    ในสมัยนี้ดูเหมือนว่าความเข้าใจของคนทั่วไปในสิ่งเหล่านี้ค่อนข้างพร่ามัว คนไม่เข้าใจคำสอนของพระพุทธศาสนา ก็ย่อมไม่ได้รับประโยชน์เท่าที่ควร แล้วอย่างนี้จะเป็นความผิดของศาสนาหรือ
     
  3. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,776
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ทุกวันนี้พวกเราถือว่าความร่ำรวย การมีอำนาจ ชื่อเสียง ยศถาบรรดาศักดิ์ ความพรั่งพร้อมด้วยวัตถุ คือยอดความสุขของพวกเรา ความสุขดังกล่าวเป็นความสุขระดับล่าง มักมีทุกข์เจือปนอยู่เสมอ

    สังคมใดที่เต็มไปด้วยความฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อ นิยมการอวดฐานะ บ้ายี่ห้อ ให้เกียรติคนรวย โดยไม่สนใจว่ารวยมาอย่างไร สังคมที่ถือว่าการเป็นเจ้าคนนายคนคือ การประสบความสำเร็จในชีวิต โดยไม่พิจารณาความประพฤติ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นอาการของสังคมที่วิปริตทางทิฐิ คือ คิดผิด

    ทุกคนในโลกนี้ล้วนแต่ต้องการความสุขเพราะอะไร เพราะทุกคนรู้สึกว่ายังได้ไม่พอ ที่เคยได้แล้วก็ดีอยู่ แต่ยังไม่ดีที่สุด ความสุขที่เคยได้ พอผ่านไปแล้วก็เหลือแต่ความทรงจำที่หวานชื่น (กว่าของจริง
     
  4. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,776
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ปั_หาในโลกหลายๆ อย่าง ไม่ว่าปั_หาภายในจิตใจของคนเรา ปั_หากับคนรอบข้าง หรือปั_หาในสังคมทั่วไป เกิดจากการหวังความสุขที่ถาวรจากสิ่งที่ไม่ถาวร เมื่อไม่ได้สมหวังก็ระทมขมขื่น สมหวังแล้วก็ต้องพลัดพรากจากสิ่งที่ตนยึดติดก็เศร้าโศก หรือกลัดกลุ้ม

    เราว่าสิ่งเดียวที่จะให้ความสุขอย่างนี้แก่เราได้ คือ "ความรัก" ..... คนหนุ่มสาวจึงสั__ากันว่า จะรักกันจนดินฟ้าทลาย แต่ความจริงปรากฏว่า ความรักอมตะของหลายๆ คู่ แต่งงานกันไม่กี่ปี หรือไม่ทันถึงปีก็ร่อแร่เต็มที ดินฟ้ายังคงเดิม อารมณ์ทลายไปก่อนบุ_ ยังไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร ค่อยเอาไว้คุยทีหลัง สิ่งที่เป็นแก่นแท้ของพุทธธรรมคือ เรื่องภพนี้และชาตินี้ พระองค์ตรัสว่า
     
  5. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,776
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นเอหิปัสสิโก คือชวนมาดู ทนต่อการพิสูจน์ ท่านไม่ต้องการให้เราเชื่ออะไรง่ายๆ ท่านต้องการให้เราเอาคำสอนไปดู เทียบเคียงกับชีวิตของเราว่าจริงไหม อย่างเช่น ท่านสอนว่าทุกวันนี้เราเป็นทุกข์เพราะความยึดมั่นถือมั่น ความผูกพัน การหวังความสุขแต่จากสิ่งนอกตัว ยึดมั่นถือมั่นมากก็ทุกข์มาก ยึดมั่นถือมั่นน้อยก็ทุกข์น้อย ถ้าไม่ยึดมั่นถือมั่นเลยก็ไม่ทุกข์เลย คำสอนลักษณะอย่างนี้ไม่ใช่ทฤษฎีที่ผู้มีศรัทธาต้องเชื่อ หากเป็นเรื่องประสบการณ์ของมนุษย์แท้ๆ

    คำสอนของพระพุทธศาสนาล้วนแต่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราทุกคน เกี่ยวกับความสุข เกี่ยวกับความทุกข์ของมนุษย์ สมัยนี้คนตกระกำลำบากกันมาก ทุกข์แล้วมีทางเลือกสองทางคือ โอดครว_ให้จิตล่มจมหรือใคร่ครว_ให้จิตที่ล้มได้ลุกขึ้น เราเป็นชาวพุทธอย่างไหนจะเหมาะกว่ากัน

    ครูบาอาจารย์ท่านยอมรับว่าทุกคนต้องการความสุข แต่ท่านกลัวว่าเราจะผิดหวัง ท่านจึงขอให้เราพิจารณาให้ชัดเจนเสียก่อนว่าความสุขนั้นคือ อะไร
     
  6. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,776
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า..... ความสุขที่เกิดจากความสงบเป็นสิ่งที่ประเสริฐ และเป็นสิ่งที่ไม่เหลือวิสัยของมนุษย์ มันเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ ถ้าหากว่าสร้างเหตุสร้างปัจจัยของมัน คือการกระทำต่อเนื่องและสม่ำเสมอโดยไม่คาดหวังในผล แต่ทำอยู่ในปัจจุบันไปเรื่อยๆ ไม่ว่ารู้สึกขยันหรือขี้เกียจก็ตาม เมื่อสมาธิภาวนาเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่เหลือบากกว่าแรง เราก็ควรจะทำ เพราะผลจากการกระทำก็อัศจรรย์จริง

    ถ้าเราต้องการความสุขที่น่าอัศจรรย์ ก็ต้องปฏิบัติอย่างเด็ดเดี่ยวหน่อย สิ่งที่จะช่วยอุดหนุนการปฏิบัติอย่างดี คือการพิจารณาเนืองนิจในความไม่แน่นอนของชีวิต เพื่อให้ตระหนักว่าเราไม่มีเวลาผลัดวันประกันพรุ่งเลย เพราะเราไม่รู้ว่าจะอยู่ในโลกนี้อีกนานเท่าไร ไม่ใช่เฉพาะคนแก่เท่านั้นที่ตาย คนที่จะมีอายุถึง 80 ปีก็มีน้อย ไม่มีที่ไหนในโลกที่ปลอดภัย เหมือนมีทุ่นระเบิดรอบตัวเราอยู่เสมอ ชีวิตของเรานี้พร้อมที่จะแตกสลายเมื่อไรก็ได้ เพราะมันเป็นของเปราะบอบบาง เป็นของที่เราไว้ใจไม่ได้เลย

    ร่างกายนี่มันก็เนรคุณเหลือเกินเราเอาใจใส่มันมาก มันต้องการอะไรก็ให้ทุกอย่าง มันต้องการอาหารก็อุตส่าห์ ไปหาอาหารให้มันกิน มันเหนื่อยเราก็ให้มันพักผ่อน มันร้อน มันเย็น เราก็ปรนนิบัติเต็มที่ มันป่วย มันไม่สบายก็หายา มาให้มันกิน ให้ทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วมันตอบแทนบุ_คุณของเราอย่างไร

    เห็นมีแต่ตอบแทนด้วยความแก่ ความเจ็บ ความตาย เรียกได้ว่าเนรคุณ ร่างกายนี้เป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่ายจริงๆ แต่ยังไงๆ เรามีไว้ก็ต้องรักษาไว้ให้ดี เพราะเป็น พาหนะที่เราต้องใช้ในการแสวงหาสัจธรรม ถ้าหากว่าเราเบื่อที่จะต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย อย่างซ้ำๆ ซากๆ เราต้องประพฤติปฏิบัติธรรม เราต้องใช้กายนี้ ใจนี้ เป็นที่ตั้งของการปฏิบัติ มันเป็นที่ตั้งของการศึกษาให้รู้ความจริงในการดับกิเลส

    ดังนั้น ความทุกข์ก็อยู่ที่นี่ ความสุขก็อยู่ที่นี่ เราก็ต้องปฏิบัติ ไม่ปฏิบัติไม่ได้ ในการปฏิบัติ ท่านให้มีหลักว่า "รีบช้าๆ" รีบปฏิบัติแต่อย่าใจร้อน ปฏิบัติอย่างรีบๆ ก็ไม่ได้ ช้าๆ ก็ไม่ได้ ท่านจึงให้เรารีบช้าๆ รีบด้วยสติปั__า ด้วยความสุขุมรอบคอบ หรืออย่างพร้อมที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์ทุกอย่าง สงบก็รู้ว่าสงบ ไม่สงบก็รู้ว่าไม่สงบ ถ้าหากรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา ถือได้ว่าเรากำลังอยู่บนทางสายกลาง

    สงบแล้วหลง หมายความว่า ได้เฉออกนอกทาง อย่างเช่นวันหนึ่งนั่งสมาธิ จิตสงบ สว่างโร่ไปหมด นั่งนานเป็นชั่วโมงไม่ ปวดไม่เมื่อยเลย วันหลังครุ่นคิด ทำยังไงหนอ จิตจะได้สงบเหมือนครั้งก่อน อย่างนี้ถลำไปแล้ว สงบยาก อยากให้เหมือนก็ไม่เหมือน ไม่สงบแล้วก็รำคา_ตนเอง หงุดหงิด นั่นก็คือการไม่ยอมรับความจริงเป็นอย่างไร ให้เราปฏิบัติต่อภาวะอันนั้นด้วยสติด้วยปั__า

    เมื่อเราไม่อยู่กับความจริง ความทุกข์จะเกิดขึ้น อยากได้นั่น อยากได้นี่ คือไม่ได้อยู่กับความจริงในปัจจุบัน อยากหนีจากความจริง ไปหาอะไรที่สนุกกว่านี้ ที่ดีกว่านี้ นั่นเป็นอาการของตัณหา ท่านจึงให้เรารีบช้าๆ ต้องรีบเพราะชีวิตของเรามันสั้นเหลือเกิน แต่ต้อง ช้าๆ หน่อย ไม่อย่างนั้นอาจจะพลาดพลั้งหรือหลงทาง ตรอกซอยมีเยอะ โอกาสหลงทางมันมีมาก ต้องค่อยๆ ดู ค่อยๆ ศึกษาไปเรื่อยๆ ความสุขที่สูงสุด ความสุขที่แท้จริงมันเป็นอย่างไร เราเจอหรือยัง
     
  7. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,776
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ประวัติท่านชยสาโรภิกขุ


    นามเดิม : ฌอน ชิเวอร์ตัน (Shaun Chiverton)

    พ.ศ. 2501 : เกิดที่ประเทศอังกฤษ

    พ.ศ. 2521 : ได้พบกับอาจารย์สุเมโธ (ลูกศิษย์หลวงพ่อชา) ที่วิหารแฮมสเตดประเทศอังกฤษ และได้ถือเพศเป็นอนาคาริก (ปะขาว) อยู่กับท่านอาจารย์สุเมโธ 1 พรรษา แล้วเดินทางมายังประเทศไทย

    พ.ศ. 2522 : บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี

    พ.ศ. 2523 : อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดหนองป่าพง โดยมีพระโพธิ_าณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท) เป็นพระอุปัชฌาย์

    พ.ศ. 2540-44 : รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติ ตำบลบุ่งหวาย อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

    ปัจจุบัน : พำนัก ณ สถานพำนัก สงฆ์ จังหวัดนครราชสีมา
     
  8. sukhawadee

    sukhawadee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    332
    ค่าพลัง:
    +130
    ค่ะ
     
  9. seven

    seven สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0

แชร์หน้านี้

Loading...