สุดขอบฟ้า...กาลาปากอส / ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 8 ตุลาคม 2006.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สุดขอบฟ้า...กาลาปากอส / ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>8 ตุลาคม 2549 16:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> โดย : ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ตุลาคมของทุกปี เป็นเวลาที่คนรักหนังสือมาเจอกัน สำหรับปีนี้ "มหกรรมหนังสือและสื่อการสอน" เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 18-29 ตุลาคม ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สถานที่อันคุ้นเคยสำหรับพวกเรา

    ในฐานะนักเขียนอาชีพ ผมมีนัดเป็นประจำกับคุณ ๆ ผู้กรุณาสนับสนุน โดยตั้งมั่นว่า แต่ละปีข้าน้อยต้องออกหนังสือให้สี่ห้าเล่ม ไม่ใช่ขยันเกินหน้านักเขียนคนอื่น แต่เป็นเพราะข้าพเจ้ามือเติบ เห็นเงินไม่ได้เป็นต้องใช้ รายจ่ายจึงท่วมหัว ติดหนี้เกินเลยไปอีกสิบปีข้างหน้า

    ผมเป็นคนเขียนหนังสือจับฉ่าย หมายถึงเรื่องแนวใดก็ได้หากสำนักพิมพ์ไม่จ่ายเช็คเด้ง เราจะเขียนให้ ผมมีไมตรีสามัคคีกับสำนักพิมพ์ "บ้านพระอาทิตย์" ในเครือ "ผู้จัดการ" มานานนม ส่วนหนึ่งเนื่องจากเค้าไม่เคยจ่ายเช็คเด้งให้ผม อีกทั้งไม่เคยติดค้างค่าต้นฉบับจนต้องทวง (เกิดมาทวงเงินคนไม่เป็น ทวงเป็นแต่ความรัก) อีกส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะความผูกพันตั้งแต่อดีต ในฐานะเป็นนักเขียนคนแรกของสำนักพิมพ์ อีกทั้งเป็นคนที่มีผลงานมากสุด ทั้งที่พิมพ์กับเค้าทั้งที่ฝากเค้าจำหน่าย รวมแล้วได้ตั้ง...นับนิดหนึ่งนะ โอ้โฮ...ได้ตั้ง 18 เล่ม ขนาดคุณสนธิยังมีหนังสือน้อยกว่าผมอีกแน่ะ (คุณสนธิ คงไม่มีใครสับสนว่าสนธิไหนนะครับ)

    เมื่อต้นปีผมออกหนังสือ 3 เล่ม หนึ่งเป็นนิยายรักหวานจี๋ "ซึ้งใจแม่ยอดรัก" อีกหนึ่งเป็นแนวท่องเที่ยว "รักน้องต้องไปเช็ก" ภาคต่อจาก "หิมะสีขาวกับสาวแก้มแดง" ที่ยอดวิ่งกระฉูดเป็นกระต่ายทาเท้าด้วยจารบี เล่มที่สามออกมาตอนกลางปี "สมุทร" บันทึกเกี่ยวกับทะเลในราคาน่าสะพรึง (ถูกจนน่าสะพรึงนะจ๊ะ)

    มาถึงงานปลายปี เราเตรียมไว้ 2 เล่ม ทั้งคู่เป็นงานแนวท่องเที่ยว เพราะเมื่อเดือนเมษายน ผมได้ลาภแต่เสียตังค์ ได้ลาภหมายถึงมีโอกาสไปดินแดนที่ใฝ่ฝัน กาลาปากอส อเมริกาใต้ เสียตังค์หมายถึงไปแล้วต้องควักกระเป๋า แม้จะมีรายได้จากการเขียนสารคดีเป็นตอนบ้าง แต่เบ็ดสะระตี่แล้ว ข้อยหมดเงินไปครึ่งล้าน โอ้...เย่

    คุณ ๆ อาจคิด ไหนบอกว่าจน จ่ายตังค์ไปเที่ยวทีละครึ่งล้านเนี่ยนะ เผอิญผมแน่ใจว่า ด้วยสุขภาพของร่างกายวัยอ้วนพอง หากทนรอจนสามารถหาตังค์ไปได้แบบไม่สะดุ้ง ผมคงต้องนั่งรถเข็นไปชมเพนกวินว่ายน้ำ จึงจำใจไปตั้งแต่ตอนนี้ ถึงกระนั้น เงินครึ่งล้านที่จ่ายไป ทำให้สถานการณ์ด้านการเงินที่ง่อนแง่น ทำท่าจะล้มครืน ขนาดไปออกเกมส์โชว์ก็ยังไม่ได้ตังค์กะเค้า ฟ้าเอ๋ยฟ้า อยากถามว่าทำไมฟ้าใจร้ายจังวุ้ย

    จึงตั้งมั่น...มุ่งมั่น และเชื่อมั่น ยิ่งกว่าการปฏิรูปการปกครองของประเทศไทย ยังไงเสียข้าพเจ้ากลับมาเมื่อไหร่ ต้องเขียนหนังสือถอนเศษทุนคืน ผมจึงเดินทางไปอเมริกาใต้แบบครบเครื่อง มือซ้ายถือกล้องถ่ายภาพตัวที่หนึ่ง มือขวาถือกล้องถ่ายภาพตัวที่สอง คอคล้องไว้ด้วยกล้องวิดีโอ

    ผมเป็นนักเขียนงก อันหมายถึง ชอบกินเรียบฮุบหมด ไม่เหลือเผื่อแผ่ไปให้เพื่อน ๆ สมัยก่อนทำสารคดีแต่ละที ช่างกล้องเอาไปนิด นักเขียนเอาไปหน่อย บก.อีก สำนักพิมพ์อีก แล้วมันจะคุ้มได้ไงเนี่ย จึงจำเป็นต้องฝึกฝีมือทำหนังสือแบบตัวคนเดียว เพื่อหวังผลในการเพิ่มสัดส่วนรายได้

    การทำสารคดีแบบนี้ สนุกครับ สนุกมากเชียวล่ะ เพราะตนเป็นที่พึ่งแห่งตน อยากทำอะไรอยากใส่อะไร ทำได้ทั้งนั้น ปัญหาสำคัญคือเหนื่อยน่ะ เพราะนักเขียนที่ดีต้องจดข้อมูลเก็บเรื่องราวและบรรยากาศเพื่อสร้างมโนภาพนำมาร่ายเป็นตัวอักษร ช่างภาพที่ดีต้องหามุมกล้องมีเวลาอดใจรอถ่ายภาพ แต่นักเขียนและช่างภาพงก จะต้องทำทุกอย่างให้ได้ในเวลาเดียวกัน อีกทั้งผมเกิดอาการน้อยใจ คุณ ๆ ผู้สนับสนุน โดยเฉพาะสาวน้อยหลายราย ชอบต่อว่า อาจารย์ขา ทำไม CD ที่แถมพร้อมหนังสือ ถึงเป็นภาพนิ่งล่ะคะ อยากได้ภาพเคลื่อนที่ไปมาโย้น ๆ ครั้งนี้ผมจึงตั้งใจเป็นพิเศษ ห้อยกล้องวิดีโอไปด้วย เพื่อสร้างภาพโย้น ๆ เมื่อนำมาบันทึกลง CD ภาพแตกเสียงแหบไม่เร้าใจ เอานี่เลยจ้า ข้าพเจ้าจะทำเป็น DVD ขยี้ใจน้อง

    การเดินทางไปในสถานที่อันไม่คุ้นเคยในต่างประเทศ เป็นบททดสอบที่ยากเย็นของนักทำหนังสือ แต่สถานที่ซึ่งผมไป ล้วนเป็นที่อาศัยของส่ำสัตว์ ทั้งนกทั้งเต่าทั้งแมวน้ำ วิ่งว่ายบินกันให้วุ่น ผมเคยเจอเหตุการณ์ แมนต้าอยู่ซ้ายเรือ เพนกวินอยู่ขวาเรือ บนหัวคือนกโจรสลัดทะเลาะกับนกกระทุง ยุ่งเหยิงยิ่งกว่าไปสุวรรณภูมิวันแรกอีกครับ

    แต่ด้วยตัวเลขในบัญชีธนาคารลดลงอย่างน่าใจหาย ผมจึงกัดฟันผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมาได้ พร้อมด้วยภาพถ่ายค่อนหมื่น แม้ภาพที่จะใช้ในหนังสือมีแค่ไม่กี่ร้อย แต่เราต้องถ่ายเผื่อไว้ร้อยเท่า บอกประสบการณ์ไว้เผื่อคุณอยากทำหนังสือหาเรื่องจนบ้าง หนังสือประเภทสารคดีที่มีภาพเยอะ ต้องคุมสมดุล จะมีภาพวิวอย่างเดียว ภาพคนอย่างเดียว หรือภาพสัตว์อย่างเดียว ดูแล้วไม่ระรื่นตา

    เพื่อความระรื่นตาคุณ ผมจึงนอนดึกเกือบสามเดือน หอบงานไปทำด้วยแม้ตอนเข้าโรงพยาบาล โอดโอยด้วยอาการเจ็บบั้นท้ายยังไงก็ต้องเขียน (ความเล่าไปแล้วในตอน"ไปโรงพยาบาล" สนุกสนานเฮฮามาก เอาไว้สักวันจะรวมเล่มบทความประเภทนี้ครับ)

    ในช่วงสามเดือน ผมดูหน้าแมวน้ำมากกว่าหน้าภรรยา เลือกแล้วเลือกอีกจนกว่าจะได้ภาพแมวที่ถูกใจ ยังหมายถึงนกอีกนานาชนิด หมายถึงกิ้งก่าบกกิ้งก่าทะเล เต่ายักษ์เต่าทะเล จากนั้นถึงเวลาใส่เนื้อเรื่อง ผมยึดมั่นในแนวทางเนื้อเรื่องกับภาพต้องสัมพันธ์ แต่หน้ากระดาษเค้าไม่ยอมเชื่อฟัง ต้องลงแรงกันยกใหญ่ จนสุดท้าย...เสร็จแล้วเอย

    เอ๋...ยังไม่เสร็จอีกเหรอ เนื่องจากความเจ้าคิดเจ้าแค้น อยากตอบแทนสาวน้อยที่ชอบถามถึงภาพเคลื่อนไหว ผมถ่ายวิดีโอมาเกือบสิบชั่วโมง จึงได้ฤกษ์ทำงานใหม่ที่ข้าพเจ้าไม่เคยลอง นั่นคือการตัดต่อวิดีโอจนเหลือความยาวสี่สิบนาที ใส่เสียงในฟิล์มเสียงเพลงประกอบและเสียงบรรยายแบบไร้สคริปต์ เล่นกันสด ๆ อย่างนี้แหละคนดูชอบ ทั้งหมดนั้นสิ้นเวลาไปอีกหนึ่งเดือน

    เมื่อส่งต้นฉบับ ผมแทบกรีดเลือดสาบานกับคุณวิทยา บก.สำนักพิมพ์ "บ้านพระอาทิตย์" หากเล่มนี้เสร็จไม่ทันงาน เราจะแอบบูชายันสำนักพิมพ์ด้วยพระเพลิง ก่อนป้ายความผิดให้การปฏิวัติซ้อน จนถึงวันนี้ แม้มือของผมยังไม่ได้สัมผัสหนังสือ แต่เริ่มเห็นเงาราง ๆ จนเชื่อมั่นว่า จะได้เห็นเล่มจริงก่อนงานเป็นแน่

    กล่าวโดยสรุป"สุดขอบฟ้า...กาลาปากอส" เป็นหนังสือที่หืดจับ ทั้งการเดินทางยาวนานเกือบเดือน ทั้งค่าใช้จ่ายปิดไปตั้งหลายบัญชีธนาคาร ทั้งการลงทุนลงแรงเกินหน้าเล่มไหน สุดท้าย...เราได้หนังสือคนทำตัวสั่นมาหนึ่งเล่ม

    สั่นในที่นี้ บางส่วนสั่นเพราะความหวาดหวั่น ด้วยหนังสือเล่มนี้ฉีกตลาด แม้จะเป็นแนวท่องเที่ยว แต่เป็นดินแดนที่พันคนอ่านหนึ่งคนตามไป จึงมิอาจหวังได้กับกลุ่มนักเดินทางที่ต้องการคู่มือ

    แต่อารมณ์บางส่วน...สั่นสู้ครับ

    สั่นสู้...ด้วยความภูมิใจ เกือบสามสิบปีที่คิดอยากเขียนหนังสือ กว่าสิบปีในแวดวงนักเขียนสารคดี ทุกประสบการณ์ที่ผ่านมา...มีค่าและได้ใช้ อย่างน้อยเราก็ได้ทำหนังสือเกี่ยวกับมุมหนึ่งของโลก มุมที่ไม่เคยเปิดเผยให้คนไทยได้อ่านมาก่อน
    เชื่อเสมอ เหตุที่เขียนหนังสือมาได้จนทุกวันนี้ เหตุที่ยังมีคุณ ๆ ติดตาม ไม่ใช่เพราะเค้ารักเราชอบเรา แต่เป็นเค้าชอบผลงานของเรา ผลงานที่ทำให้คนชอบ มีคำตอบแสนง่าย นั่นคือเราเอาจริง

    จะเป็นการทำหนังสือหรือการทำเมืองไทยให้น่าอยู่ขึ้น หากคนทำเอาจริง
    คนอื่นจะไม่ทอดทิ้งเราครับ...

    หมายเหตุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...