สุดยอดวัตถุมงคล หลายสายวิชา หลายคณาจารย์

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย พญาเพชร, 31 มกราคม 2017.

  1. พญาเพชร

    พญาเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +922
    พระภูเตศวร (มหาศิวะเทพ) จอมบดีแห่งภูติพราย เนื้อผงมหาเทพ

    พระอาจารย์เทพพงศาวดาร กุสลจิตโต

    ภูเตศวรคือปางหนึ่งของพระศิวะเจ้ามหาเทพอันสูงสุดแห่งพราหมณ์ปฐมแห่งฤษี ท่านเป็นผู้มีอำนาจอิทธิฤทธ์มากมายเหนือเทพองค์ใด สำหรับผู้ที่บูชาท่านอยู่อาจทราบดี ว่าเมื่อเราสักการะบูชาท่านอยู่เป็นนิจแล้วไซร้ท่านย่อมประธานพรอันวิเศษให้แก่บุคคลนั้นทุกประการ และท่านยังชอบประทับอยู่ที่ป่าช้าใช้พวกวิญญาณ ผี ภูติ พราย ต่างๆมาเป็นบริวาณจึงเป็นที่มาของชื่อ ภูเตศวร หรือ จอมบดีแห่งภูติพราย

    ตามตำนานองค์ท่านจะมีเส้นผมเป็นลอนปล่อยยาวสยายคล้ายกับงูที่เกี้ยวไปมาทั้งหัว มี 4 กร กรซ้ายบน ถือบันเฑาะว์ สัญลักษณ์แห่งการเนรมิตรสร้างสรรค์ กรซ้ายล่างถือ แก้วน้ำรูปหัวกระโหลกกลับหัว หมายถึง ความมีอำนาจกว่าคนทั้งหลายทุกๆด้าน มือขวาบน ถือคฑาหัวกระโหลกหมายถึงสัญลักษณ์แห่งยมฑูตผู้หนือความตาย มือขวาล่างถือเชือกบ่วง แสดงถึงความสำเร็จ(เฉกเช่นพระพิฆเณศวร์ผู้เป็นบุตร) ในหน้าที่การงาน ความสมหวังในชีวิต ความรัก ทรงภาหนะคือเสือ ปางนี้ถือว่าเป็นปางที่ใหญ่เหนือภูติ พราย ทั้งปวง

    ด้านหลังโรยพลอยดิบ เพื่อเพิ่มกำลังอำนาจ และสิริมงคล

    ผู้ที่บูชาวัตถุมงคลสายพราย ควรมีไว้บูชาครับ เพราะจะทำให้ควบคุมภูติพรายทั้งหลายได้แน่นหนาขึ้น หากพกพาไว้ แม้แต่ผีบ้านผีเรือนยังต้องออกมากราบท่านครับ

    บันดาลความสมหวัง ความสำเร็จ อำนาจ ตบะเดชะ เหนือชนทั้งหลาย

    บูชา 700 จองได้ 3 วัน หลังจากนั้นตัดสิทธิ์

    เพทาย
    090-4167951
    fatherbless@hotmail.com

    SAM_1538.JPG SAM_1537.JPG
     
  2. พญาเพชร

    พญาเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +922
    พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อกวย

    พระอาจารย์ตั้วสร้าง หลวงปู่หมุน ปลุกเสก ออกวัดซับลำใย

    บูชา 2200 จองได้ 3 วัน หลังจากนั้นตัดสิทธิ์

    เพทาย
    090-4167951
    fatherbless@hotmail.com

    SAM_5874.JPG SAM_5875.JPG
     
  3. พญาเพชร

    พญาเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +922
    ล็อคเก็ตนางปลามหาเสน่ห์ พระอ. อำนาจ มหาวีโร วัดพระเจ้าอุ้ย ชัยภูมิ

    เครื่องรางสายมหาเสน่ห์สร้างจาก ดินรอยพญานาคทีแม่น้ำโขงเจ็ดโค้งอาถรรพ์ แม่ตะเคียนพระเจ้าอุ้ยที่อายุมากกว่า 200 ปี ผสมกับว่านด้านเมตตามหาเสน่ห์ล้วนๆเช่นเสน่ห์จันทร์ แสนนางล้อม ว่านดอกทอง เครือร้อยปลา พาเทครัว ไก่แดง ห้าร้อยนาง เทพรัญจวน เสกนาน 1 ไตรมาสเต็ม ด้วยวิชามหาเสน่ห์นางปลา ใช้พกติดตัวเป็นเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามและเพศเดียวกัน เป็นเมตตามหานิยมสูงมาก เด่นด้านโชคลาภค้าขาย ติดต่อการงานดีมาก ด้านหลังฝังพลอย และตะกรุด เพื่อเรียกทรัพย์เรียกลาภ และเป็นเสน่ห์เมตตาอย่างล้นเหลือ

    วัตถุที่กล่าวมานี้ถือว่ามีธาตุมหาวิเศษทั้งสิ้นปลุกธาตุจนเกิดฤทธิ์ หนุนธาตุจนเกิดผลพลังวิชาบังคับจิตให้เป็นผลด้านมหาเสน่ห์พกแล้วไม่เข้าตัวด้วย ใช้บูชาเรียกคนรักหรือต้องการให้สมหวังกับความรักและโชคลาภในทุกๆด้าน

    บูชา 700 จองได้ 3 วัน หลังจากนั้นตัดสิทธิ์

    เพทาย
    090-4167951
    fatherbless@hotmail.com

    SAM_1868.JPG SAM_1869.JPG
     
  4. พญาเพชร

    พญาเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +922
    พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก ทานบารมี ๕๕ ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม วัดสุวรรณเจดีย์

    พระนครศรีอยุธยา

    3 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา ทางวัดสุวรรณเจดีย์ได้จัดพิธี ไหว้ครูอาจารย ์ และ พิธีทอดผ้าป่าสามัคคี ณ วัดสุวรรณเจดีย์ จ.พระนครศรีอยุธยา ทางวัดได้จัดงานมหากุศลเพื่อรำลึกบูรพาจารย์ประจำปีและได้ทอดผ้าป่าสามัคคีในคราวเดียว ครั้งนี้สำคัญตรงที่ ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม ได้จัดสร้างพระผงรูปเหมือน รุ่นแรก ท่านเจ้าคุณฯให้ชื่อว่า " ทานบารมี ๕๕" เพื่อแจกให้กับคณะศิษยานุศิษย์ได้ร่วมทำบุญในงานบุญครั้งนี้ พระผงรูปเหมือนรุ่นแรก ทานบารมี ๕๕ จัดสร้างเพื่อนำมาแจกจำนวน 3,000 องค์ หลวงปู่ท่านเจ้าคุณเสงี่ยมปรารภหลังจากปลุกเสกเสร็จ " พระชุดนี้มหาลาภหนักมากรวยไว"

    พระผงรูปเหมือนรุ่นแรกทานบารมี ๕๕ สุดยอดชนวนมวลสารล้ำค่า อาทิ ผงปัฐมัง ตรีนิสิงเห พุทธคุณ ที่หลวงปู่เสงี่ยมนั่งลบผง เกษา จีวร ข้าวสารเสกปลุกเสกนาน 3 วาระ บดจนละเอียด ผงพระนอนไสยาสน์อายุนับร้อยปี ผงหลวงพ่อจันทร์อายุกว่าร้อยปี ผงหลวงพ่อในโบสถ์เก่าอายุหลายร้อยปี ผงพระกรุ ผงว่าน ๑o๘ ผงพระกรุแตกหัก ผงพระวัดเกศไชโยจำนวนมาก ใครได้ไปใช้หลวงลุงเล็กท่านรับรองว่า " ทานบารมี ๕๕ แจ๋วจริงพุทธคุณแรง " ทานบารมี ๕๕ หลวงปู่เสงี่ยมแจกเองรับกับมือท่านเจ้าคุณเสงี่ยมทุกคน..

    บูชา 500 จองได้ 3 วัน หลังจากนั้นตัดสิทธิ์

    เพทาย
    090-4167951
    fatherbless@hotmail.com

    SAM_5534.JPG SAM_5535.JPG SAM_5536.JPG
     
  5. พญาเพชร

    พญาเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +922
    รูปหล่อหลวงปู่จักร วัดถ้ำเขารังไก่

    คนมาขอให้หลวงปู่ สร้างรูปหล่อรุ่นแรก หลายร้อยคนหลวงปู่ก็บอกว่ายังทำไม่ได้ ท่านบอกว่า เมื่อไรที่ท่าน ไม่มีอายุ ค่อยทำ หลวงปู่ล่วงเข้าวัย 80
    ใครถามอายุท่านหลวงปู่ก็จะพูดดุๆว่าท่าน "ไม่มีแล้ว หมดแล้ว อายุหมดแล้ว" ไม่รู้หลวงปู่หมายถึงอะไร ในพรรษานี้ หลวงปู่ได้สร้างรูปหล่อท่านขึ้น ช่างปั้นก็ดีใจหาย
    ปั้นซะเหมือนหลวงปู่มากๆ ท่านปลุกเสกรูปหล่อทุกวัน สองเวลา ก่อนทำวัตรเช้าและหลังทำวัตรเย็น ท่านบอกว่า เทวดา จะมาช่วยท่าน รูปหล่อท่านอยู่ที่ไหน
    เทวดาที่ใกล้ที่สุดจะไปช่วยก่อนที่ อำนาจพุทธคุณจะไปถึง มีเรื่องแปลก อยู่ว่า ลูกศิษย์หลวงปู่อยู่ อินโดนีเซีย และพม่า ฝันว่า รูปหล่อหลวงปู่มาหา บอกว่า
    ให้มาเอารูปหล่อ นี้ซะ หลวงปู่จักร สร้างแล้ว แสดงว่ารูปหล่อนี้เก่งไปบอกลูกศิษย์ถึงต่างประเทศได้ ใครที่ รักนับถือหลวงปู่ ก็อย่าพลาดรูปหล่อนี้ เพราะเป็นรุ่นแรก
    ที่ศิษย์หลวงปู่รอกันมาก ส่วนหนึ่งของรูปหล่อได้เจอะก้น อุดแร่เลือดผา (หรือเหล็กไหลป่าที่หลวงปู่ได้มาตอนธุดงค์ แต่หลวงปู่ไม่ไห้พูดไปท่านจะเรียกว่าแร่เขาอึมคึม
    หรือ แร่ สุคคโต) หลวงปู่ให้เอารูปหล่อนี้ ทำน้ำมนต์ เจริญ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ และเอาผ้ายันต์แมงปอ ม้วนๆ แทนที่พรมน้ำมนต์ พรมของขาย พรมบ้าน
    ค้าขายดี อธิษฐานอะไรสำเร็จได้ เร็วเท่าใจ ที่ปรารถนา

    บูชา 1900 จองได้ 3 วัน หลังจากนั้นตัดสิทธิ์

    เพทาย
    090-4167951
    fatherbless@hotmail.com

    2.jpg 4.jpg 5.jpg
     
  6. พญาเพชร

    พญาเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +922
    พ่อท่านเอื้อม วัดบางเนียน + หลวงปู่ทวด

    บูชาเป็นคู่ ในกล่องเดียวกัน เนื้อไม้มงคล ปัดทอง รุ่นนี้ สวยสง่า สร้างน้อยครับ

    บูชา 700 จองได้ 3 วัน หลังจากนั้นตัดสิทธิ์

    เพทาย
    090-4167951
    fatherbless@hotmail.com

    2.jpg 4.jpg 5.jpg
     
  7. พญาเพชร

    พญาเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +922
    รูปเหมือนรุ่นแรก หลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมน สุรินทร์

    เนื้อทองแดงเถื่อน

    หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ(พระครูปราสาทพรหมคุณ สุสานทุ่งมน (วัดเพชรบุรี) อ.ปราสาท จ.สุรินทร์

    ครั้นบรรพชาแล้วพระอุปัชฌาย์ได้ตั้งนามให้ใหม่ว่า"สามเณรพรหมศร" ลุมาได้ 3 วัน ขณะนั่งบนแคร่ไม้ใต้โคนต้นมะขามใหญ่ได้มีบุรุษหญิงชายแปลกหน้าทั้งมีอายุแก่และหนุ่ม แต่งกายแบบชาวบ้านมาขอร้องให้เทศน์โปรดทีเถิด สามเณรพรหมศรกล่าวว่า "ฉันพึ่งบวชได้ไม่ถึงวันยังเทศน์ไม่เป็นหรอก ชายหญิงผู้แปลกหน้าทั้งหลายต่างให้ข้อแนะนำว่า" "ท่านเจ้าคะท่านเทศน์ไม่เป็นก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้ท่านทดลอง ว่านะโม 3 จบ ประเดี๋ยวท่านก็จะเทศน์ได้เองนั่นแหละ" สามสามเณรพรหมศรนั่งนิ่งแลสงสัยว่า บุคคลทั้งหลายเหล่านี้เป็นใคร? มาจากไหน? อยู่ๆก็มาขอร้องให้เราเทศน์ แต่เมื่อลองคิดแล้วเขาบอกให้ว่านะโม 3 จบ จากนั้นก็เป็นเรื่องที่ปากพูดไปได้เองเป็นเรื่องเป็นราว ชายหญิงทั้งหลายต่างนั่งพนมมือ อมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ครั้นเทศน์จบก็กราบขอบคุณขอลากลับ หันไปอีกทาง ปรากฏว่าหายไปทางไหนก็ไม่รู้ ผู้เขียนกราบเรียนถามหลวงปู่ว่าทำไมสามเณรพรหมศรจึงเทศน์ได้ ท่านกล่าวว่า มันเป็นของเก่าหรือที่เรียกว่า "ธรรมบันดาล" ที่พาให้พูดกล่าวไปได้เอง ความตั้งใจที่จะบวชเพียง 7 วัน ก็อยู่เลยเรื่อยมาจนอายุครบ 20 ปี พระอุปัชฌาย์จึงอุปสมบทให้ ณ วัดเพชรบุรี ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ โดยตั้งนามฉายาให้ใหม่ว่า "พรหมปัญโญ" แปลว่า ผู้มีปัญญาดุจพรหม

    เมื่ออุปสมบทแล้ว หลวงปู่หงษ์ ตั้งใจมั่นขยันหมั่นเพียรศึกษาพระปริยัติธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า หลวงปู่เป็นผู้มีความวิริยะสูง จดท่องจำแม่นยำยิ่งนัก ทั้งฝักใฝ่หาความรู้ เพียรหาครูบาอาจารย์อย่างไม่ลดละแม้จะไกลไปยาก ก็อุตส่าห์ดั้นด้นเดินทางไป เพื่อให้ได้ความรู้กลับคืนมาเป็นรางวัล ด้วยปณิธานมั่นที่จะโปรดลูกหลานญาติโยมภายหน้า สืบไป

    ครั้นอุปสมบทได้แล้ว 3 พรรษา จึงกราบลาพระอุปัชฌาย์จาริกธุดงควัตรตามแบบฉบับแห่งพระบรมครู อาศัยอยู่ตามโคนไม้ นุ่งห่มใช้ผ้าเพียงสามผืน ทั้งถือที่สงบสัปปายะ เช่น ป่าช้าเป็นที่เจริญภาวนาเช้าค่ำ ขบฉันภัตตราหารเพียงมื้อเดียว ได้ท่องเที่ยวสู่เมืองขุขัน จ.ศรีสะเกษ เพราะเป็นเขตแห่งสรรพศาสตร์มนตรา จึงได้เข้าขอศึกษากับครูอาจารย์ที่เป็นทั้งฆราวาสก็ดี เป็นผู้ทรงศีลสมณะก็ตาม จนเป็นที่พอใจแล้ว จึงขออนุญาตลากลับเพื่อจาริกธุดงค์สู่พนมเปญ กัมพูชาสืบไป

    เมื่อธุดงค์ข้ามเขาเข้าเขตกัมพูชา อันเป็นที่ตระหนักดีอยู่แล้วว่าเป็นดินแดนแห่งอาณาจักรขอมถิ่นอาถรรพ์ เป็นที่รวมแห่งสรรพศาสตร์ ไสยเวทย์มนตรารุ่งเรืองนัก คงเป็นด้วยบุญบารมีเก่าหนุนนำ พาให้ได้พบกับครูบาอาจารย์เก่า เมื่อพบเห็นแล้วทุกครูอาจารย์ ต่างพึงพอใจในพระภิกษุหงษ์ พรหมปัญโญ ผู้สันโดษอ่อนน้อมถ่อมตนยิ่งนัก ได้บังเกิดความเมตตาประสิทธิประสาทสรรพวิชา ทั้งเวทย์มนแลคาถาเมตตา มหาเสน่ห์ กำบังภัยทั้งคุ้มครอง แคล้วคลาดกันอาวุธ ปืน หอก ดาบ ธนูหน้าไม้เขี้ยวงา ช้างเสือ หุงสีผึ้ง กันยาเบื่อ ทั้งคุณไสย ทำน้ำมนต์รดอาบต่างหายไป แม้นบ้าใบ้จิตหลอนก็อ่อนโยน จนลุเลยข้ามดงสู่จังหวัดสารพัดไต่เขาและภูผา อาศัยหุบเขาข้างห้วยเอนกายา ตกค่ำภาวนาตลอดไปยามสองจิตผ่องใส บังเกิดธรรมบันดาลพาพบไป กับพระอาจารย์ใหญ่องค์เทพเทวาได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาลงจารเสกปากกา อุปเท่มีคุณมากหนากว่าพันประการ ประทานเสร็จสอนจบครบตำรา พระพรหมปัญโญ ให้ปิติทั้งศรัทธา ตั้งจิตกราบครูบาแล้วเงยหน้าขอชมบารมี ทันทีที่ลืมตารูปท่านอาจารย์ใหญ่ก็จางหายทันที พระพรหมปัญโญ สุดที่จะเสียดายเพราะมิได้กล่าวคำว่าขอบคุณ แก่ท่านผู้กรุณาประสาทวิชา ครั้นล่องไพรในพนากลางป่าใหญ่ อัศจรรย์ใจเป็นนักหนาเห็นเด็กร่างดำใหญ่ดุจศิลา พลางผลักทักทายมาแต่ใด กุมารดินล้มหงายหลัง แล้วตั้งตรงทดลองใหม่ ผลักล้มมาด้านหน้า ทดลองถึงสองครั้งให้ระอาจึงแสดงกายาสูงใหญ่ได้ห้าเมตร แสดงเสร็จให้เกิดศรัทธาแล้วสั่งสอนถึงวิธีการสร้างกุมารทองให้ถูกต้องตามตำรับฉบับครู ครั้นธุดงค์ผ่านเขาพนาไพร นานอยู่ได้เกือบขวบปี แวะผ่านที่หมู่บ้านชื่อ "บ้านกรู"

    ณ หมู่บ้านนี้เองที่ชาวบ้านต่างกล่าวขานคุณงามความดีในวีรกรรมหลายๆสิ่งที่ไม่อาจลืมเลือนได้ จากหัวใจของทุกคน แม้หลวงปู่จะธุดงค์กลับประเทศไทยแล้วก็ตามจนขณะนี้หลวงปู่มีอายุย่าง 85 ปี จึงได้เดินทางไปเยี่ยมชาวกัมพูชา เมื่อชาวบ้านทราบข่าวว่าหลวงปู่จะมาต่างดีใจ ครั้นหลวงปู่ไปถึงชาวบ้านเกือบพันคนต่างนอนคว่ำเรียงรายตั้งแต่ถนนจนถึงศาลา แล้วอาราธนาให้หลวงปู่เดินเหยียบบนหลังของเขาเหล่านั้น หลวงปู่จะไม่เดินชาวบ้านเขาก็ไม่ยอม กล่าวว่ายอมพร้อมพลีกายด้วยความเคารพบูชา หลวงปู่ขัดเขามิได้จึงยอมเดินบนหลังของเขาเหล่านั้น แม้แต่ผู้เฒ่าอายุราว 100 กว่าปี เมื่อทราบข่าวว่าหลวงปู่หงษ์ มาก็อุตส่าห์ลากไม้เท้าหลังงองกเงิ่นเดินทางมากราบบูชา

    ผู้ติดตามหลวงปู่ทุกคนต่างแปลกใจและถามว่าทำไมจึงศรัทธาองค์หลวงปู่ขนาดนี้ พวกเราทุกคนต่างก็ถึงบางอ้อ! เพราะพ่อเฒ่าต่างเล่าให้ฟังว่า "หลานเอ๋ย ถ้าวันนั้นหลวงพ่อไม่ได้อยู่กับเราแล้ว หมู่บ้านกรูทั้งหมู่บ้านก็แตกกระจายป่นปี้ไปแล้ว เพราะมันเป็นเรื่องแปลก ตาเองก็ไม่เคยเห็น ว่าลูกระเบิด และลูกปืนใหญ่ขนาดแตงโม มันตกมาบนหลังคาหญ้าแฝก แปลกที่มันไม่ทะลุหล่นลงมา กลับกลิ้งคลุกๆ ไปตามทางลาดชายคา พวกเราก็นึกว่าต้องตายแน่ๆ ถ้าลูกระเบิดตกกระทบกับพื้นดิน ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังตุ้บ! ปรากฏว่าลูกปืนจมดินเกือบครึ่งลูก แต่มันอัศจรรย์มาก หลานเอ๋ย มันไม่ระเบิด! เท่านั้นแหละเม็ดกรวด เม็ดหิน แม้แต่ดินใต้แคร่ไม้ไผ่ เขายังขุดไปลึกเป็นเมตรเอาไปปั้นเป็นลูกอมตากแดด ครั้นหลวงพ่อกลับประเทศไทยไปแล้ว แคร่ตัวที่ท่านนั่งก็ยังไม่มีเหลือ ชาวบ้านเขาจุดธูปเอามาพลีแบ่งกันจบหมดไม่เหลือหรอ หลวงพ่อเน้อ! พร้อมกับยกมือไหว้ทางหลวงปู่หงษ์ พวกตาและชาวบ้านรอดตายมาได้ทุกคน เสมือนตายแล้วเกิดใหม่ เท่ากับหลวงพ่อท่านมาชุบชีวิตให้ใหม่"

    ดังนั้นจึงไม่แปลกใจว่าทำไมชาวบ้านเขาจึงพร้อมใจกันยอมนอนคว่ำให้หลวงปู่ท่านเดินบนหลังของพวกเขา ชาวบ้านทุกคนเคารพรักหลวงปู่เสมือนเป็นเทพของพวกเขาทีเดียว เพราะมิใช่ว่าหลวงปู่ จะป้องกันภัยให้พวกเขาได้อย่างเดียว แต่หลวงปู่ได้แผ่เมตตาปล่อยสัตว์ ขุดบ่อ ขุดสระ สร้างฝายน้ำล้น ปลูกป่า ปล่อยช้าง วัว ควาย เต่า งู ตะขาบ สัตว์ทุกชนิด และสั่งห้ามมิให้ชาวบ้านทำลายป่าไม้ โดยอบรมสั่งสอนให้เห็นคุณและโทษของการไม่มีป่าไม้ไม่มีน้ำ จะเกิดความเดือนร้อนนานาประการ พร้อมทั้งสอนให้ชาวบ้านทุกคนถือศีลห้า ห้ามดื่มเหล้าเมายา แล้วครูอาจารย์ของหลวงปู่ท่านจะคุ้มครอง ทุกคนเคารพศรัทธาในหลวงปู่ได้ประพฤติปฏิบัติตาม จึงมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข

    หลวงปู่หงษ์ เป็นพระธุดงค์ ถือสันโดษ โปรดสัตว์ จึงไม่ติดกับที่อยู่ หรืออมิสลาภ จึงได้ลาญาติโยม เพื่อจาริกแสวงบุญต่อเรื่อยมา

    เมตตาบารมีอิทธิปาฏิหารย์ ปราบนางพญาโจรี
    หลวงปู่หงษ์ ธุดงค์จาริกแสวงบุญเรื่อยมายังเมืองพระตะบอง ขณะนั้น ชาวเมืองเกิดความเดือดร้อน ข้าวยากหมากแพง เกิดขโมย โจรชุกชุม แต่ยังมีกลุ่มโจรหนึ่งมีหัวหน้าเป็นสตรี มีลูกน้องกว่า 50 คน มีนามว่า "มะลิ" มะลิเป็นชื่อของสาวใหญ่ชาวเขมร ถือกำเนิด ณ เมืองพะตะบอง ในยุคนั้นแล้วต้องถือว่ามะลิเป็นสาวที่มีความงดงามที่สุด ความงามสมัยนั้นจะต้องมีผิวดำเป็นมัน ผมดำเงา มีความสง่าแฝงไปด้วยตะบะบารมีประดุจนางพญา เพราะนางนั้นมีสมุนพลพรรคบริวารประมาณกว่า 50 คน ทั้งนางและสมุนบริวารนั้นล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่ทางราชการของกัมพูชาต้องการตัวมากที่สุด เพราะมะลิและบริวาร มีอาชีพในการจี้ปล้น

    แต่ก็เป็นโจรที่มีคุณธรรม เพราะข้าวของที่ได้มาจากการปล้นนั้นนางได้แบ่งปันแล้วก็นำไปแจกจ่ายแบ่งต่อคนยากจนด้วย ซึ่งการจี้ปล้นแต่ละครั้ง จะปล้นจากคนรวยมาแบ่งคนจน หรือการจี้ปล้นแต่ละครั้งนั้นจะกระทำก็ต่อเมื่อพรรคพวกอดอยากไม่มีจะกินแล้ว จึงทำการปล้น ในการลูกสมุนออกปล้นแต่ละครั้ง นางมะลิจะทำพิธีเบิกทางโจร ด้วยวิชาไสยศาสตร์โดยการตั้งขันทำน้ำมนต์เสร็จแล้วก็นำน้ำมนต์นี้แจกจ่ายแก่พวกสมุนให้ดื่มกินกันจนครบ จึงได้ออกกระทำการปล้น จนเป็นที่หวาดหวั่นสะพรึงกลัวต่อผู้มีฐานะร่ำรวย เดือดร้อนไปตามๆกัน จึงได้นำความนี้ขึ้นร้องเรียนแจ้งต่อกฎหมายบ้านเมือง แต่ก็มิได้รับผลสำเร็จแต่ประการใด เพราะยามใดที่ทางราชการออกกวาดล้างไล่จับ ก็ไม่สามารถจะจับได้ หรือติดตามได้ทัน ขนาดประชิดตัวเห็นอยู่หลัดๆจับได้ก็ดิ้นหลุด หายตัวมองไม่เห็นต่อหน้าต่อตา อย่างหาสาเหตุไม่พบ ขนาดตำรวจทราบลังหรือแหล่งที่อยู่ล้อมรอบไว้แล้วก็ยังมิอาจจะทำอะไรต่อสมุนนางได้

    เมื่อตำรวจล้อมบ้านยามใดสมุนทุกคนต่างกระโดดลงอ่างน้ำมนต์ หายไปต่อหน้าต่อตาเช่นกัน โดยที่บ้านเมืองนั้นต้องพบกับความผิดหวังร่ำไป และเมื่อทุกคนต่างทราบกิตติศัพท์ของหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ว่าเป็นพระธุดงควัตร ประพฤติปฏิบัติดีมีสรรพวิชา เรืองด้วยวิทยาอาคมอันแก่กล้า ต่างก็นำความมากราบเล่าสู่หลวงปู่หงษ์ และขอความเมตตาช่วยเหลือปราบนางพญาโจรี และพรรคพวกด้วยเถิด หลวงปู่ก็ได้เมตตาสัตว์ที่ยากไร้ อันหาที่พึ่งมิได้ จึงได้ดำเนินเดินทางมาถึงบ้านของมะลิ และได้นั่งภาวนาแผ่เมตตาบารมีอยู่ ณ บนบ้านของนางพญาโจรี จนพลบค่ำนางพญาโจรีได้กลับมาถึงบ้าน หลวงปู่กล่าวว่านางมะลิมาแล้ว แต่ทุกคนก็มิอาจมองเห็นนางได้เลย แต่มะลินั้นมิอาจที่จะรอดพ้นสายตาของหลวงปู่หงษ์ผู้ทรงด้วยฌานแห่งทิพย์จักษุและเจโตปริยญานไปได้ ว่านางนั้นต้องการอะไร และจะประพฤติปฏิบัติเหตุการณ์อะไรต่อไปเป็นลำดับ ด้วยญานของอนาคตตังสะญาณ

    ทั้งที่นางมะลิพยายามก้าวขาขึ้นบันไดด้วยวิธีใดๆก็ตาม ก็มิอาจที่จะขึ้นบันไดบ้านของตนได้ จนหลวงปู่ได้กล่าวขึ้นว่า "อ้าว! ขึ้นมาบนเรือนซิ" นางจึงขึ้นมาบนเรือนได้ ทุกคนได้ยินเสียงเท้าคนเดินไปมา แต่ก็มิอาจที่จะมองเห็นนางมะลิได้อยู่ดีนั่นเอง จนหลวงปู่ได้กล่าวว่า "นั่งลงซี" พร้อมกันนั้นหลวงปู่ได้ทำการถอนเวทมนต์ทั้งปวง ทุกคนจึงได้เห็นว่านางมะลินั่งอยู่ หน้าหลวงปู่ ทันใดนางก็ชักปืนออกมาจากเอว หมายจะสังหารพระภิกษุรูปนี้เสีย แต่นางก็หาได้มีความไวเกินจากญานอันหยั่งรู้ของหลวงปู่ไปมิได้ ทันใดนั้นหลวงปู่ก็ตบที่หัวเข่าของท่านว่า "ติด" เป็นที่แปลก นางมะลินั้นมือก็ติดอยู่ที่ปืน และก็ไม่สามารถที่จะชักปืนนั้นออกมาจากเอวของนางได้ สักครู่ต่อมาหลวงปู่จึงได้ถามว่า "ยอมแล้วหรือยัง ถ้ายอมแพ้ให้กราบ" นางมะลิยอมแพ้และได้ก้มกราบแต่โดยดี และนำปืนไว้ข้างหน้า

    สักครู่นางจึงนึกว่าหลวงปู่ตายใจแล้วว่ายอมแพ้ พอหลวงปู่เผลอด้วยสัญชาติญาณของนางพญาโจรี นางก็ยื่นมือเตรียมหยิบปืน หมายจะสังหารหลวงปู่เสีย ให้สิ้นจงได้ แต่ก็มิสามารถที่จะหลุดเลยจากญานของหลวงปู่ไปได้ ทันใดนั้นหลวงปู่ก็ตบหัวเข่าของท่านอีกครั้ง และกล่าวว่า "ติด" ด้วยสัจจวาจาและตะบะบารมีจึงทำให้นางพญาโจรีจะเอื้อมหยิบปืนอย่างไรก็ไม่สามารถหยิบได้เลยทั้งๆที่ปืนนั้นอยู่ด้านหน้าของนางเองไม่ถึงศอก

    จากนั้นหลวงปู่หงษ์ ก็กล่าวอบรมให้สติ ด้วยหลักแห่งศีลและเมตตาธรรม จนนางนั้นได้เกิดความละอาย เกรงกลังต่อบาป บังเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ถวายตัวเป็นอุบาสิกา และขอสมาทานศีลแปด ประพฤติดี ปฏิบัติชอบจนถึงทุกวันนี้ ณ ประเทศกัมพูชา ซึ่งหลวงปู่ก็นับถือน้ำใจของนางมะลิ ทั้งต่างให้ความนับถือกันเป็นพี่น้องบุญธรรมร่วมชาตินี้ด้วย

    ส่วนพรรคพวกสมุนบริวารต่างกลับตัวกลับใจ หันมาประกอบสัมมาอาชีพประพฤตัวถูกต้องตามกฎหมายเป็นพลเมืองดีของชาติบ้านเมืองสืบไป

    ห้าสิบห้าหาไม่เห็น
    หลวงปู่หงษ์ ได้ธุดงค์ ดั้นด้นมาถึงเขตดินแดงติดต่อระหว่างกัมพูชากับเวียดนาม(เวียดกง) ซึ่งขณะนั้นลัทธิคอมมิวนิสต์กำลังเผยแพร่ มีอิทธิพลต่อทวีปเอเชียอาคเนย์เป็นอย่างมาก ได้มีหลายประเทศเปลี่ยนระบบการปกครองเป็นลัทธิดังกล่าว ในจำนวนนี้ ประเทศเวียตนาม หรือเรียกกันว่า "พวกเวียดกง" ก็เปลี่ยนระบบการปกครองไปแล้ว ระบอบการปกครองลัทธินี้ สอนให้ไม่มีศาสนา มีความเชื่อเกี่ยวกับเทพเทวดา หรือว่าวิญญาณทั้งหลาย จึงได้กวาดล้างลัทธิของทุกศาสนาให้หมดไปโดยสิ้นเชิง ดังนั้นพระสงฆ์องค์เจ้าก็ต้องศึกไป บ้างก็ต้องหนีออกนอกประเทศ มิฉะนั้นจะถูกทำลายล้างเข่นฆ่าให้ตายหมด

    ขณะที่หลวงปู่หงษ์ ได้ธุดงค์มาถึง ณ เขตชายแดนประเทศกัมพูชา กับประเทศเวียดนาม ทันใดนั้นทหารเวียตกงก็ได้แห่กันมาประมาณห้าสิบกว่าคน ล้อมรอบกลดของหลวงปู่หงษ์ เพื่อจะจับนำตัวไปฆ่า แต่เมื่อเปิดผ้าคลุมมุ้งกลดดู ก็เห็นแต่กลดว่างเปล่า คงมีแต่กาน้ำใส่น้ำตั้งอยู่ กับบาตรและถุงยามเท่านั้น แต่องค์หลวงปู่นั้นได้หายไปแล้วจึงทำให้นึกย้อนเหตุการณ์สมัยหลวงปู่หงษ์ ผจญกับนางพญาโจรีที่พาลูกสมุนโดดลงขันน้ำกลางบ้านหายกันไปหมด แต่ได้กราบเรียนถามท่านแล้วว่าหลวงปู่ใช้วิชานี้หรือเปล่า หลวงปู่ท่านกล่าวตอบว่า "ทำมิได้หรอก" เป็นเรื่องของครูบาอาจารย์ ที่จะช่วยให้ศัตรูเห็นก็ได้ หรือมิเห็นก็ได้ เป็นเรื่องของท่านหลวงปู่ทำไม่เป็นหรอก

    ซึ่งในการนี้ทหารเวียดกงจะค้นหาอย่างไรก็ไม่พบองค์หลวงปู่หงษ์ได้ ผลสุดท้ายท่านเมตตา และสงสารพวกทหารเวียดกง จึงได้ปรากฏกายยอมให้ทหารเวียดกงจับตัวไป โดยคิดปลงเสียว่า ถ้าอดีตเคยเป็นศัตรูกันมาก็ดี เคยเป็นเจ้ากรรมนายเวร จะนำไปฆ แกงอย่างไรก็เชิญจับไป ให้ถือว่าใช้เวรใช้กรรมกันเป็นชาติสุดท้าย จักได้เป็นอันตัดขาดหมดเวรหมดกรรมกันไป แต่ถ้ามิได้เป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมาก่อนแล้วละก็ ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัยรักษา ครูบาอาจารย์รักษาคุ้มครอง อย่าได้เป็นอันตรายแต่ประการใดเลย

    ทันใดที่หลวงปู่ได้ปรากฏกายออกมาจากกลดนั้น ทหารเวียดกงต่างตกใจขวัญหนีดีฝ่อ จึงได้นำปืน M16 ประทับบ่าแล้วยิงถล่มสู่เป้าหมายถึงองค์หลวงปู่หงษ์ ทันที หลวงปู่นั้นก็ได้แต่ยืนเฉย หาได้สะทกสะท้าน หรือหวาดกลัวเสียงลูกปืนแต่ประการใดไม่ เพราะลูกปืนนั้นได้ตกลงกองอยู่ ณ ด้านปลายเท้าของหลวงปู่นั่นเอง ห่างจากปลายเท้าประมาณ 1 วา บางกระบอกปืนก็ยิงจนปากกระบอกแดง บางกระบอกลูกปืนไหลออกจากปากกระบอกเอง ซึ่งตามตำราของท่านเรียกว่า "ปืนแตกน้ำ" คือลูกกระสุนจะด้านหรือหมดสภาพประดุจลูกปืนหรือดินประสิวนั้น แช่อยู่ในน้ำ เวลายิงจึงด้าน และไหลออกมาประดุจว่าไหลมากับน้ำ จึงเรียกว่าปืนแตกน้ำ "ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดของวิชาคงกระพันของท่าน"

    เมื่อทหารเวียดกงจะฆ่าอย่างไรๆ ก็มิอาจฆ่าได้ ทุกคนต่างก็จนใจ ผลสุดท้ายจึงเข้ารุมจับหลวงปู่ แล้วนำมาใส่กรงเหล็ก นำเดินทางมาถึงท่าเรือ จากนั้นก็ยกกรงเหล็กใส่เรือตังเกออกสู่กลางทะเล สักครู่ต่อมาเวียตกงจึงนำเชือกผูกกรงเหล็ก แล้วยกกรงเหล็กถ่วงทะเล ประมาณ 10 นาทีต่อมาจึงได้สาวเชือกดึงกรงเหล็กขึ้นมา ทุกคนต้องตกใจอย่างที่สุด เพราะพระภิกษุที่อยู่ในกรงเหล็กนั้นนั่งสมาธิเฉยหาได้สะทกสะท้านตกใจกลังต่อภัยใดๆไม่ แถมจีวรที่นุ่งห่มอยู่นั้นก็ไม่เปียกน้ำทะเลแต่ประการใด

    ซึ่งการนี้ได้กราบเรียนถามหลวงปู่ว่าทำไมจีวรของหลวงปู่จึงไม่เปียกน้ำ หลวงปู่ได้เมตตาตอบว่า "อ๋อศีลคุ้ม คนเราถ้ามีศีลมั่นถือมั่น ในปฏิทาแห่งคุณพระพุทธเจ้า และครูบาอาจารย์แล้ว เชื่อว่าตกน้ำก็ไม่ไหล ตกไฟก็ไม่ไหม้ ประกอบกับการที่เรามีเมตตาอธิษฐานแผ่ยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย"

    แต่ก็ยังไม่สะใจพวกทหารเวียดกง เพราะเขากลับมีคำสั่งให้เรือหาปลานั้นวิ่งแล่นต่อไปอีกไกลแสนไกล จนเห็นแค่ขอบฟ้าจรดผิวน้ำเท่านั้น จากนั้นก็นำกรงเหล็กหย่อนลงมหาสมุทร อยู่นานสักประมาณ 10 นาที จึงได้สาวเชือกขึ้นมา ทันใดทหารเวียดกงก็ต้องช็อค เพราะว่าหลวงปู่นั้นยังคงนั่งสมาธิเฉยดุจเดิมอยู่ในกรงเหล็ก ทำให้พวกทหารเวียตกงนั้น หมดความสามารถที่จะประหารเข่นฆ่าพระภิษุรูปนี้ได้ จึงได้สั่งคนเรือหัวเรือกลับสู่ฝั่งของเมือง ได้กราบเรียนถามว่า"หลวงปู่หงษ์ ทราบได้อย่างไรว่าเป็นมหาสมุทรมิใช่ทะเล" หลวงปู่ได้เมตตาตอบว่า "ก็น้ำในมหาสมุทรนั้นจะเย็นมากกว่าน้ำในทะเล ผู้เขียนจึงถึงบางอ้อ และมีความรู้เพิ่มขึ้นอีก"

    สุดท้ายทหารเวียดกงก็ยอมแพ้ในอิทธิบุญบารมีของหลวงปู่ จึงได้นำองค์หลวงปู่หงษ์ ออกจากจระเข้ใหญ่ พร้อมทั้งกราบถวายตัวเป็นศิษย์สืบมา

    สัจจะวาจา...ปืนแตก

    หลวงปู่หงษ์ ได้เดินธุดงค์ จากเวียตนามสู่ประเทศกัมพูชาอีกครั้งหนึ่ง ขณะรุกขมูลอยู่กกลางป่าใหญ่นั้น จึงเต็มไปด้วยสัตว์ป่าน้อยใหญ่ ช้าง ม้า เสือ กวาง กระต่าย งู นานาพันธุ์ที่น่าแปลกยามใดที่หลวงปู่ปักกลดพักแรมเวลาค่ำคืน ณ ที่ใดก็ดี มักจะมีช้าง กวาง กระต่าย งูมาเป็นเพื่อนล้อมอยู่โดยรอบ ซึ่งหลวงปู่หงษ์ จะมีความสุขมากยามที่เงียบสงบ และได้พบกับสัตว์ป่านานาชนิดมาร่วมอยู่ข้างตัว ท่านเรียกว่า"เพื่อนของเรา" จนเวลารุ่งอรุณหลวงปู่หงษ์ จะบอกแก่สัตว์ทั้งหลายว่า ให้กลับเข้าป่าไป เดี๋ยวพวกคนป่า หรือนายพรานมาพบเข้าจะทำร้ายเอาให้รีบกลับเข้าป่าไปอย่างเป็นระเบียบ แต่น่าสงสารยังมีกวางท้องแก่ตัวหนึ่ง ท้องแก่มากเดินไม่ค่อยไหว เพราะต้องอุ้มท้องเดินต้วมเตี้ยมๆ อุ้ยอ้ายอยู่หลังสุด สักครู่ก็มีพรานป่าออกมาจากริมป่า พร้อมด้วยอาวุธปืนประทับบ่าเตรียมพร้อม จ้องสู่เป้าหมายคือกวางแม่ลูกอ่อน แต่ในยามนั้น ได้ลุล่วงสู่ฌาณสมาบัติของหลวงปู่หงษ์ จึงได้แผ่บารมีธรรมคุ้มครองป้องกัน ทั้งได้กล่าวด้วยเมตตาธรรมแห่งสัจจะวาจาว่า "อย่ายิงกวางแม่ลูกอ่อนนะ ถ้ายิงเดี๋ยวปืนมันจะแตก" ด้วยความไร้เมตตาและขาดคุณธรรมของนายพราน แถมยังดื้อดันมิยอมเชื่อฟัง คำห้ามปรามของภิกษุสงฆ์ ซึ่งขออภัยทานในชีวิตของสัตว์อีก

    จึงได้ยกปืนยาวขึ้นประทับบ่า แล้วลั่นไกปืนขึ้นทันที ทันใดนั้นเองปากกระบอกปืนของนายพรานดื้อก็ลั่นเสียงดัง เปรี๊ยะ! แต่เป็นเพียงให้หลาบจำมิได้เป็นอันตรายต่อร่างกายแต่ประการใดด้วย

    ความกลัวและตกใจ พรานป่าผู้ใจบาปจึงยอมลดปืนลง เบื้องหน้า พร้อมกับก้มกราบขอขมาต่อหลวงปู่ว่าจะไม่ประพฤติทำเช่นนี้อีกหลวงปู่จึงได้เมตตาให้โอวาทตักเตือน และให้พรจากนั้นพรานป่าจึงได้ลากลับสู่ครอบครัวของตน

    พระธาตุปรากฏ

    คุณหมอชัชชัย ด่านสุนทร นายแพทย์ประจำโรงพยาบาลบุรีรัมย์ได้หยิบพระพิฆเนศปางอ้อมจักรวาลเนื้อชานหมากกับพระพิมพ์ขุนแผนชัยวรมันให้ชมพร้อมกล่าว "แปลกนักพระเนื้อชานหมากทั้ง 2 นี้ได้มีเม็ดพระธาตุผุดเรียงเต็มไปหมดบางองค์ก็มากบางองค์ก็น้อย แต่ส่วนใหญ่ที่พิจารณาแล้วพระพิมพ์ขุนแผนชัยวรมันจะมีเม็ดพระธาตุขึ้นมากกว่าจึงได้พิจารณากันว่าพระธาตุที่ผุดขึ้นมีสีขาวทราบภายหลังว่า ในการผสมผงสร้างพระชุดนี้ ได้นำผงพระธาตุสิวลี ซึ่งหล่นอยู่ก้นโหลแก้วครั้งที่ คุณพี่ประดิษฐ์ สุขประเสริฐ ทายาทศิษย์สายหลวงพ่อดิ่ง วัดบางบัวจ.ฉะเชิงเทรา นำมาถวายหลวงปู่จึงได้นำผงพระธาตุสิวลีผสมกับผงของพระพิมพ์ขุนแผนชัยวรมัน ชุดนี้ด้วยประการแรก ประการที่สองเล็บของหลวงปู่นั้นงอกยาวได้ใสบ้าง เป็นเม็ดใสก็มี ประการที่สามอันว่าธาตุขันธ์ในกายของหลวงปู่ เช่น เกศ เล็บ น้ำลายผสมอยู่กับชานหมากก็ตาม เหล่านี้กระมังที่มาประชุมธาตุจนทำให้พระพิมพ์ ขุนแผนชัยวรมัน กับพิมพ์พระพิฆเนศ เนื้อผงชานหมากเหล่านี้ ปรากฏเป็นธาตุขึ้นได้ หรือแม้แต่พระผงรุ่นแรกพิมพ์นิยม พิมพ์ไกเซอร์ก็ดี พระพิมพ์สมเด็จ พระประธานก็ดี รุ่นฉลองชัยที่กดพิมพ์มือล้วนกรรมวิธีการสร้างแบบโบราณ คือ กดด้วยมือตัดขอบด้วยผิวไผ่หรือมีด ผึ่งลมตามธรรมชาติ เมื่อนำมาสักการบูชา ก็ปรากฏว่างอกได้ฟูได้ มีเม็ดพระธาตุงอกขึ้นเต็มทั้งองค์เช่นกัน หลวงปู่หงษ์ กล่าวว่า"เราตั้งใจทำให้จริงๆแล้วก็ทำให้อย่างดีด้วย เพราะว่าคณะศิษย์ตั้งใจทำเพื่อฉลองอายุครูบาอาจารย์ ครูบาอาจารย์มิมีสิ่งใดที่จะตอบแทนน้ำใจ ก็มีแต่ศีลปฏิบัติภาวนาและน้ำจิตที่เป็นบุญเป็นกุศลสะสมมาแต่กาลก่อน อธิษฐานขอช่วยลูกศิษย์ให้ได้ดีทุกคนแต่ปรารถนา ขออย่างเดียวอย่าดื่มเหล้าหรือผิดลูกเมียผู้อื่นเขา อะไรก็ทำมิได้เลย สำหรับเรื่องนี้ทำให้นึกถึงคุณหมอชัชชัย หมอดีฝีมือเยี่ยมแห่งโรงพยาบาลบุรีรัมย์ จำได้ว่าวันที่ คุณหมอชัชชัย ได้ไปกราบหลวงปู่พร้อมกับผู้เขียนได้นำครอบน้ำมนต์ถวายหลวงปู่ได้ประสิทธิพร้อมขอน้ำมนต์ของหลวงปู่เติมไว้เป็นปฐม หลวงปู่เมตตาตักให้พร้อมกล่าวว่า"ให้นำน้ำธรรมดามาเติมใช้ได้ดี 108 ประการ" ครั้นกลับมาบ้านคุณหมอก็นึกถึง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ว่าเวลาท่านสร้างพระมักนำพระแช่น้ำมนต์ 1-2 วัน นำขึ้นมาผึ่งก็บังเกิดมีพระธาตุผุดขึ้น เอ! ถ้าหลวงปู่ของเราก็น่าจะทำได้เช่นกัน เพราะบารมีธรรมจริยปฏิปทา จึงทำให้เกศาที่บูชาก็ยังเป็นแก้วเป็นธาตุได้ ครั้นเวลากลางคืนได้ฝันถึงหลวงปู่มาบอกว่า "ให้นำพระขุนแผนชัยวรมัน แช่น้ำมนต์ ซึ่งประเดียวก็เห็นเอง" คุณหมอชัชชัย สะดุ้งตื่น แต่มีความรู้สึกว่าหลวงปู่มากล่าวพูดเช่นนั้น จึงได้อาราธนาพระขุนแผนชัยวรมันองค์ละ 100 บาท แช่น้ำมนต์ประมาณ 1-2 วันแล้วนำมาผึ่งวางไว้ พอเวลาค่ำได้พบเห็นว่า พระพิมพ์ขุนแผนชัยวรมัน เกิดมีธาตุใสได้ จึงปลื้มปิติยินดีอย่างที่สุด

    เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าพระที่ชอบอยู่กับงู พระที่ชอบปล่อยงู พระที่มีงูเป็นทหารในยุคนี้หมายถึงพระภิกษุรูปใด หนึ่งเดียวในสยามแห่งอีสานใต้ที่กระทำการดังกล่าวนี้เชื่องสุดๆ ประดุจปลาไหล เพราะหลวงปู่ท่านเป็นพระผู้มากด้วยเมตตาจิตต่อสัตว์ป่า แผ่บารมีธรรมสู่สัตว์โลก แม้แต่งูก็อยู่กับหนูได้ใต้โพรงหินไม่กัด ไม่กินกันหรืองูอยู่กับกบในสระน้ำไม่ทำร้ายกัน เป็นต้น สร้างความฉงนแก่ผู้พบเห็นนัก

    ยังมีเหตุการณ์หนึ่งที่ผู้เขียนได้พบเองสมัยครั้งแรกที่ได้ยินชื่อเสียงของหลวงปู่ใหม่ๆ เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว โดยได้ยินบุคคลต่างๆทั่วไปกล่าวขานกันว่า หลวงปู่องค์นี้อยู่กับงู ชอบปล่อยสัตว์นานาชนิด จึงสนใจใคร่ติดตามไปจนถึงสำนักของหลวงปู่หงษ์ และต้องหายสงสัยหมดสิ้น ขณะนั้นเวลาประมาณ 6 โมงเช้า หลวงปู่นั่งออกรับญาติโยม สักครู่ต่อมาได้มีกระรอกขาวตัวหนึ่งไต่สายไฟจากป่ามายังที่หลวงปู่นั่งรับแขกโดยมิเกรงกลัวบุคคลที่นั่งเต็มไปหมด โดยวิ่งด้วยเท้าทั้ง 4 แล้วมาหยุดอยู่ข้างหน้าหลวงปู่ทันใดนั้นกระรอกยกขาคู่หน้าชูขึ้นคล้ายกับทำความเคารพ พลางส่งเสียงร้อง "จิกๆ" แล้ววิ่งมาทางด้านข้างขวาของหลวงปู่หงษ์ ที่มีจานองุ่นตั้งอยู่ เจ้ากระรอกก็วิ่งรอบจานองุ่นวิ่งกลับไปกลับมาอยู่เช่นนั้น

    โดยมิกล้าถือวิสาสะกินเองจนหลวงปู่ได้ยินเสียง "คลุกๆ" ไปมาจึงได้หันมาทางจานองุ่นด้วยอากัปกริยาอมยิ้มแล้วพยักหน้าพลางกล่าวว่า "เอาซิๆ" เท่านั้นและเจ้ากระรอกก็ตรงเข้ากัดกินองุ่นในจาน จากนั้นหลวงปู่ก็หันหน้ากลับมาทางญาติโยมแล้วเอ่ยว่า "เขากินไม่มากหรอกลูกสองลูกประเดี๋ยวก็ไป" และก็เป็นไปตามคำพูดของหลวงปู่เพราะเจ้ากระรอกเขากินเพียงสองเม็ดจริงๆ แล้วคลานออกไป แต่ที่แปลกประทับใจทุกคนที่ได้พบเห็นก็คือ ก่อนที่เจ้ากระรอกจะไปได้คลาน 4 เท้า ข้ามาพอถึงด้านหน้าหลวงปู่ก็ยกเท้าคู่หน้าชูคล้ายกับพนมมือแล้วส่งเสียงร้อง "จิกๆ" แล้วจึงหันหลังวิ่งไต่สายไฟกลับสู่ป่าอันเป็นที่อยู่อาศัย สิ่งเหล่านี้คืออะไร ทำไมสัตว์ป่าจึงต้องทำความเคารพทั้งมาและไป ทุกคนต่างนึกต่างคิด ต่างฉงนมึนงงไปตามๆกันแต่สุดท้ายที่ทุกคนสรุปก็คือ หลวงปู่องค์นี้มิใช้พระธรรมดาแน่แม้นแต่สัตว์ป่ายังกระทำความเคารพ แล้วทำไมเราเป็นคนมิลองศึกษาจริยาวัตรข้อธรรมและปฏิปทาของท่าน ครั้นเดินลงมายังข้างศาลาก็ต้องผงะหงายเพราะได้เจอกับอสรพิษนามว่าแสงอาทิตย์ นอนกลิ้งหงายไปมาประดุจว่ามีแต่เขาเพียงตัวเดียวอยู่บนโลกนี้ แต่ผู้เขียนเองเมื่อได้มอง เห็นแล้วว่าน่ารักดีดูแล้วเหมือนลูกสุนัขที่กลิ้งหงายไปมายามต้องแสงสุริยาเพลาเช้าอย่างนั้น จึงได้ถึงบางอ้อ! อ๋อ! หลวงปู่หงษ์ ท่านชอบปล่อยงู ตะขาบ แมงป่อง ก่อนจะปล่อยหลวงปู่จะเป่าเสกให้ก่อน แล้วจึงปล่อยสัตว์ทั้งหลายไปเพื่อให้เขาเชื่องไม่ทำร้ายคน เป่าเพื่อเป็นเกราะกำบังคุ้มครองสัตว์นั้นๆ เป่าเสกเพื่ออธิษฐานให้สัตว์เหล่านั้นเมื่อละโลกนี้ไปแล้วขอให้เกิดเป็นคน อย่าได้เป็นสัตว์ต้องทุกข์ทรมาน เหล่านี้คือน้ำจิตอันเยือกเย็นแผ่ไพศาลยังสรรพสัตว์ทั้งหลายของโลก ให้อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข ละเลิกจากความเบียดเบียนซึ่งกันและกันย่อมเป็นสุข

    บูชา 800 จองได้ 3 วัน หลังจากนั้นตัดสิทธิ์

    เพทาย
    090-4167951
    fatherbless@hotmail.com

    2.jpg 4.jpg 5.jpg 6.jpg
     
  8. พญาเพชร

    พญาเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +922
    พระปิดตายันต์ยุ่ง หลวงพ่อสามชัย

    วัดดอนกระดี่ จ.อ่างทอง

    เจ้าตำรับกุมารทองคะนองฤทธิ์ ศิษย์หลวงพ่อเต๋ คงทอง จ.นครปฐม ผู้สืบทอดวิชาอาคมและการสักยันต์จากหลวงพ่อเปิ่น สมัยอยู่วัดโคกเขมา ตะกรุดบันลือสีหนาท สายวัดประดู่โรงธรรม จ.พระนครศรีอยุธยา อันลือลั่น
    หลวงพ่อสามชัย สิริปัญโญ พระเกจิคมในฝัก แห่งวัดดอนกระดี๋ ต.ป่างิ้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง นั้นได้สืบทอดวิชาการต่างๆ
    มาจากพระเกจิผู้โด่งดังในอดีตที่คนรู้จักกันทั่วประเทศ 2 ท่าน คือ หลวงพ่อ เต๋ คงทอง วัดสามง่าม จ.นครปฐมและหลวงพ่อเปิ่น หลวงพ่อสามชัยท่านได้อยู่รับใช้ใกล้ชิดตั้งแต่สมัยหลวงพ่อเปิ่นอยู่วัดโคกเขมา ก่อนที่ท่านจะมาอยู่วัดบางพระ วิชาอาคม ตำรับต่างๆนั้น หลวงพ่อได้รับสืบทอดมาจากหลวงพ่อเปิ่นโดยตรง แม้กระทั่งวิชาสักยันต์ต่างๆ
    ท่านได้ทำวัตถุมงคลและเครื่องรางต่างๆ เพื่อให้ลูกศิษย์เอาไว้คุ้มกาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากพยันตรายต่างๆ ส่วนหลวงพ่อเต๋นั้นหลวงพ่อได้เรียนวิชาทำกุมารทอง การทำเครื่องราง การปลุกเสก เรียกอักขระต่างๆ และวิชาด้านเมตตา มหาละลวย คงกระพัน เรียกว่าหลวงพ่อเจนจบทุกอย่าง

    บูชา 600 จองได้ 3 วัน หลังจากนั้นตัดสิทธิ์

    เพทาย
    090-4167951
    fatherbless@hotmail.com

    2.jpg 4.jpg 5.jpg 6.jpg
     
  9. พญาเพชร

    พญาเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +922
    พระมหาฤาษีโคตบุตร มหาอิสีผู้เป็นบรมครูของเหล่ามนุษย์ เทพยดา และอสุรา

    อ.เม้ง ขุนแผน

    เชื่อกันว่าพระมหาฤาษีตนนี้เป็นบรมครูด้านไสยเวทย์และวิชาอาคมด้านเมตตามหาเสน่ห์เทียบเคียงกับรมครูปู่เจ้าสมิงพราย ซึ่งเป็นบรมครูอีกท่านหนึ่งที่เชียวชาญด้วยเสน่ห์เช่นกัน มีคุณด้านเมตตามาเสน่ห์ทั้งเพศตรงข้ามและเพศเดียวกัน น่าคบค้าสมาคมด้วย โชคลาภ เสี่ยงโชค เชื่อกันว่าบริวารของท่านซึ่งมีมากมายทั้งเทพยดาและอสูรจะได้ดลบันดาลให้เกิดโชคลาภ ค้าขายดีมีกำไร ป้องกันภยันตรายต่างๆ คุณไสย เดียรัจฉานทั้งสิบสองภาษาไม่กล้ากล้ำกราย ศักตรูผู้มีจิตคิดร้ายจะวิบัติไป เดินทางใกล้ไกลไม่เกิดอุบัติเหตุ ภูติผีปีศาจ สัมภเวสีเร่ร่อนต่างเกรงกลัวในตบะแห่งบรมครูท่านนี้ยิ่งนัก ยังเหมาะสำหรับผู้ที่บูชาสายพรายและสายเสน่ห์ เพราะท่านจะช่วยแผ่บารมีให้พรายเหล่านั้นมีตบะบารมีแก่กล้าขึ้น ทั้งยังป้องกันมิให้ต้องธรณีสาร หรือเกิดอาการของเข้าตัว ทำให้ศิริมงคลในตัวของเราเสื่อมลง

    เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ท่านอาจารย์เม้ง ขุนแผน ได้จัดสร้างล็อคเก็ตพระฤาษีโคตบุตรขึ้น มีปรสบการณ์เป็นอย่างมาก ทั้งเมตตามหาเสน่ห์และโชคลาภการพนัน รวมไปถึงแคล้วคลาดป้องกันภัย ทำให้หมดลงอย่างรวดเร็ว และมีราคาสูง แต่ในตลาดไม่ค่อยได้พบ เพราะผู้ที่บูชาต่างหวงแหนไม่ยอมปล่อยออกมา

    ครั้งนี้ท่านอาจารย์ได้สร้างล็อคเก็ตขึ้นมาอีกครั้ง โดยด้านหน้าประกอบด้วยบรมครูฤาษีโคตบุตร นั่งประส่าทพร ด้วยการแบสองพระหัตถ์ออกดานหน้า เฉกเช่นรูปลักษณ์ในรุ่นแรกที่สำนักได้ทำการจัดสร้าง และเป็นเอกลักษณ์ของทางสำนัก หมายถึงการประสาทพรให้ผู้บูชาเจริญรุ่งเรือง สมใจนึก อุระมีรูปค้างคาว แทนความหมายของคำมงคล "ฝู" ในภาษาจีน แปลว่าการเจริญด้วยอำนาจวาสนาบรรดาศักดิ์ พระวรกายทรงอาภรณ์เป็นมหาฤาษีประทับนั่งบนเพิงศิลา ด้านข้างประกบด้วยกุมารน้อย 2 ตน คนหนึ่งผมจุก คนหนึ่งผมเปีย สื่อให้เห็นความหมายของความรัก ความไร้เดียงสา อีกทั้งท่านได้ทำการปลุกเสกลงวิชากุมารทองเจ้าจุกเจ้าเปียอันเลื่องชื่อของท่านให้กับกุมารน่ารักทั้งคู่ เพื่อให้เป็นบริวารของปู่ คอยดลบันดาลให้ผู้บูชาบังเกิดโชคลาภ ค้าขายดี เสี่ยงโชคได้โชค ร่ำรวยกันถ้วนหน้า และบันดาลให้เกิดเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์แก่คนทุกเพศทุกวัย

    ด้านหลังบรรจุมวลสารอาถรรพณ์คือ ผงเทวบรมครูที่เหลือจาการบรรจุล็อคเก็ตรุ่นแรก ผงยาวาสนาจินดามณีอันลือลั่นด้านอำนาจวาสนา ปลอดโรค ปลอดภัย ผงใบรักซ้อนมหาเสน่ห์ ซึ่งได้นำรักซ้อนป่า พลีจากป่าอาถรรพณ์ในยามดึกสงัด เพื่อให้รักซ้อนนั้นนอนเสียก่อน ว่านจูงนาง ว่านดอกทอง น้ำมันว่านดอกทอง ว่านสาวหลง ว่านห้าร้อยนาง และทุกองค์เจิมด้วยน้ำมันแสนเสน่หาอาลัยที่ท่านได้รวบรวมไว้นานหลายปิอีกด้วย น้ำมันนี้ท่านได้กล่าวสั้นๆว่า "แรงเรื่องเสน่ห์จนเอ็งต้องเหนื่อยเลยแหละ"

    คาถาและวิธีบูชา แนบไปกับวัตถุมงคลครับ

    บูชา 700 จองได้ 3 วัน หลังจากนั้นตัดสิทธิ์

    เพทาย
    090-4167951
    fatherbless@hotmail.com

    SAM_1658.JPG SAM_1659.JPG
     
  10. พญาเพชร

    พญาเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +922
    เทพราหูกะลาตาเดียว สามเหลี่ยม เจ้าทรัพย์ ตะกรุด 3 ดอก หลวงปู่หยุด วัดปรางค์หลวง

    หลวงปู่หยุด วัดปรางค์หลวง อายุ 90 ปี



    ศิษย์หลานหลวงพ่อเงิน บางคลาน ศิษย์ลูก หลวงปู่เผือก วัดโมลี



    พระราหูยอดเพชร หลวงปู่หยุด เขมาราโม วัดปรางค์หลวง

    ด้านหลังอุดตะกรุดสาริกาป่า และตะกรุดสาริกาดง พร้อมทั้งผงมงคลจักรวาลใหญ่ เป็นผงก้นกรุทุ่งเศรษฐี (มีกูแล้วไม่จน) ลูกสวาทตายพราย (มหาเสน่ห์) ก้านธูปเทวดาจุด ใบลานลงยันต์ "พุทธผูกจิต" ดอกไม้ ถั่ว งา โปรยพิธีขอฝน (มีลาภร่มเย็นเป็นสุข) ผงอุดครบสูจร จึงเรียกว่ามงคลจักรวาลใหญ่ได้ เสกนานหลายเดือน เสกพิเศษในวันที่ 10 ธันวาคม 2554 วันจันทรุปราคา ตามตำรา

    พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง "หลวงปู่หยุด เขมาราโม" ปัจจุบันสิริอายุ 90 ปี วัดปรางค์หลวง ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เป็นศิษย์ของหลวงปู่เผือก วัดโมลี สุดยอดพระเกจิอาจารย์ของเมืองนนท์ในอดีต หลวงปู่เผือกนั้นท่านยังเป็นหลานชายของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

    "หลวงปู่หยุด" ได้ร่ำเรียนวิชากับหลวงปู่เอี่ยม วัดสังวร, หลวงปู่ดิษฐ์ วัดบางม่วง, หลวงปู่พัน วัดปรางค์หลวง แม้แต่หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ท่านก็ไปเรียนกรรมฐานด้วย หลวงปู่หลุย พระเถระผู้ใหญ่วัดเทพศิรินทร์ หลวงปู่หยุดก็ไปรับขึ้นกรรมฐาน ท่านจึงมีชื่อเสียงโด่งดัง ว่ากันว่าท่านปลุกเสกอะไรขลังเป็นที่สุด

    ถ้าอยากให้พระราหู ช่วยให้เกิด ลาภสักการะโภคผลทรัพย์สมบัติ ความเจริญรุ่งเรือง ความก้าวหน้า ตำแหน่งหน้าที่การงานสูงส่ง การค้าขายดีมีเงินไหลมาเทมา ให้รีบน้อมบูชามหาเทพพระราหู ในช่วงที่พระราหูโคจรให้คุณกับเรา ในตำแหน่งนี้และดวงเมืองราชาโชคอย่างนี้ดีเหมาะถูกต้องที่สุด

    เทพพระราหู เป็นมหาเทพเปลี่ยนเคราะห์ร้ายให้กลายเป็นดี คุ้มครองป้องกันภัยพิบัติ ในดวงดาวราศีปัจจุบันใครได้บูชาพระราหูแล้ว จะเสริมให้ดีใหญ่โตทีเดียว 2.jpg 4.jpg

    เจ็บป่วยทางกาย ทางใจ การงานหยุดชะงัก ลงทุนเสียหาย ทะเลาะเบาะแว้ง ผิดหวังในความรัก หรือถึงขั้นเลือดตกยางออก อย่าประมาท ใส่บาตร ทำบุญ ทำสังฆทานอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร เทวดารักษาตัวท่าน และที่ลืมไม่ได้เลยให้ท่าน บูชา เทพพระราหูเอาไว้จะกลับร้ายกลายเป็นดี เคราะห์กรรมต่างๆจะหายจางไป ได้ง่ายดาย รวดเร็ว

    บูชา 700 จองได้ 3 วัน หลังจากนั้นตัดสิทธิ์

    เพทาย
    090-4167951
    fatherbless@hotmail.com
     
  11. พญาเพชร

    พญาเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +922
    พระผงพุทธซ้อนหนุนดวง หลังรูปถ่าย หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง ปทุมธานี

    พระผงพุทธซ้อน หลวงพ่อชำนาญ หลวงปู่สุรินทร์ หรือเรียกอีกชื่อว่าพระผงหนุนดวง พระผงชุดนี้หลวงพ่อสร้างเองที่วัดทุกองค์ มีทั้งแช่น้ำมนต์และไม่แช่น้ำมนต์ ติดรูปถ่ายหลวงพ่อและไม่ติดรูปถ่าย ผงที่นำมาสร้างล้วนคัดสรรเป็นอย่างดี ทั้งผงพระกรุเก่าที่แตกหักและผงพุทธคุณทั้งห้าประการที่หลวงพ่อเขียนและลบด้วยตนเอง ที่หลวงพ่อตั้งใจทำเป็นพิเศษเพราะ มีรูปหลวงปู่สุรินทร์ เรวโต อดีตเจ้าอาวาสวัดบางกุฎีทองที่เป็นองค์อาจารย์ของหลวงพ่ออยู่ด้วย องค์นี้ติดรูปถ่ายหลวงพ่อไว้ เป็นพระผงยุคต้นๆ ของหลวงพ่อชำนาญ

    สร้างน้อย

    บูชา 1300 จองได้ 3 วัน หลังจากนั้นตัดสิทธิ์

    เพทาย
    090-4167951
    fatherbless@hotmail.com

    2.jpg 4.jpg
     
  12. พญาเพชร

    พญาเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +922
    ตะกรุดหนังกลองเพล หลวงปู่คีย์ กิตฺติญาโณ วัดศรีลำยอง สุรินทร์

    (พระคุณท่านพระครูวิสุทธิ์กิตติญาณ)

    พิธีมหาพุทธาภิเษก : วันที่ 9 ตุลาคม 2551 ณ วัดศรีลำยอง สุรินทร์

    เนื่องในวาระที่ พระคุณท่านพระครูวิสุทธิ์กิตติญาณ (หลวงปู่คีย์ กิตฺติญาโณ) มีอายุเวียนบรรจบครบ 80 ปี 59 พรรษา ได้มอบหมายให้ทางคณะกรรมการดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลอันทรงคุณค่า พิมพ์ทรงสวยงาม มวลสารชั้นเลิศ พิธีกรรมเข้มขลัง นับเป็นวัตถุมงคลที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญถึงความเพียบพร้อมสมบูรณ์ในทุกด้าน นำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลแก่ผู้บูชา

    สร้าง 999 ดอก

    พุทธคุณ
    เน้นโชคลาภค้าขาย ป้องกันภัยต่างๆ หนังกลองเพล ยังเป็นเคล็ดของชื่อเสียงโด่งดัง ร่ำรวยอีกด้วยครับ

    บูชา 700 จองได้ 3 วัน หลังจากนั้นตัดสิทธิ์

    เพทาย
    090-4167951
    fatherbless@hotmail.com

    2.jpg
     
  13. พญาเพชร

    พญาเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +922
    ตะกรุดพระฤาษีม้วนคัมภีร์ หลวงปู่คนน พระเกจิเขมร

    สายวิชา พระเถรคันฉ่อง พระอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวร ซึ่งเป็นสายวิชาทางพม่า คงความอาถรรพณ์ และมวลสารการจัดสร้างแบบพิเศษแทบทุกรุ่น สร้างออกมาน้อย จัดสร้างเพื่อสืบสายวิชาตามครูบาอาจารย์

    มวลสารประกอบด้วย คำภีร์ใบลานเก่าแก่ โลหะเศียรพระฤาษีเก่า ผงสัตตโพชฌงค์ ผงธาตุพระฤาษี ผงศิลาธิคุณ น้ำมันมนต์ฤาษีเบิกไพร ผงพุทธคุณที่หลวงปู่เก็บไว้เป็นพิเศษ

    อิทธิคุณ เปิดงาน เปิดเงิน เปิดทรัพย์ เปิดบารมี เปิดโชคลาภ กันภัย พกติดตัวเวลาเดินทางดีเป็นนักแล

    บูชา 1100 จองได้ 3 วัน หลังจากนั้นตัดสิทธิ์

    เพทาย
    090-4167951
    fatherbless@hotmail.com

    2.jpg 3.jpg
     
  14. พญาเพชร

    พญาเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +922
    เหรียญชนะมาร พระอาจารย์สัญญา วัดกลางบางแก้ว นครปฐม

    ท่านเกิดเมื่อ วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2489 ตรงกับปีจอ เดือน 7 ณ ตำบลไทยาวาส อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
    มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน ทั้งหมด 7 คน เป็นผู้ชาย 3 คน ผู้หญิง 4 คน ส่วนท่านเป็นบุตรคนกลาง
    หลวงพ่อสัญญา กมฺมสุทฺโธ หรือที่ชาวบ้านและลูกศิษย์ของท่านมักจะเรียกท่านว่า "หลวงตาสัญญา" ท่านเป็นชาว อ.นครชัยศรีโดยกำเนิด ขณะยังเยาว์วัย ท่านจะเป็นที่รักใคร่ของโยมพ่อ, โยมแม่ และบุคคลทั่วไปที่ใกล้ชิดท่าน เนื่องจากว่าท่านเป็นผู้มีอุปนิสัยเรียบร้อย
    โอบอ้อมอารี ท่านได้เริ่มเรียนหนังสือ ณ วัดโคกแขก (หรือวัดประชานาถ) จนกระทั่งจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ท่านได้ออกจากโรงเรียนเพื่อมาช่วยบิดามารดา ประกอบอาชีพทำนาทำสวน จนเมื่อกระทั่งท่านเข้าสู่วัยหนุ่ม อายุ 22 ปี โยมพ่อและโยมแม่ของท่าน อยากให้ท่านบวชซึ่งท่านก็ไม่ได้ขัดใจโยมพ่อกับโยมแม่ โดยส่วนตัวท่านเองมีจิตใจไปในทางธรรมอยู่แล้วท่านจึงตัดสินใจที่จะเข้าศึกษาธรรม โดยโยมพ่อ
    กับโยมแม่ก็ได้จัดพิธีอุปสมบทให้ท่านที่วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เนื่องจากโยมพ่อเคยบวชเรียนอยู่ที่วัดกลางบางแก้วมาก่อน ตั้งแต่สมัยหลวงปู่บุญ ขนฺธโชติ ยังอยู่ ซึ่งหลวงปู่บุญเป็นพระอุปัชฌาย์ของโยมพ่อ เพราะฉะนั้นโยมพ่อจึงอยากให้ท่านได้บวชที่นี่เช่นเดียวกันกับท่าน
    เมื่อเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
    ท่านได้อุปสมบท ในวันที่ 24 เมษายน พ.ศ.2511 ณ พระอุโบสถวัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เวลา 9.40 น.
    ผู้เป็น พระอุปัชฌาย์ให้กับท่านคือ พระพุทธวิถีนายก (หลวงปู่เพิ่ม บุญญสวโน) และได้ฉายาทางธรรมว่า "กมฺมสุทฺโธ"
    หลังจากที่ท่านได้บวชแล้วก็จำพรรษาอยู่ที่วัดกลางบางแก้วมาโดยตลอด และช่วยงานภายในวัดมิได้ขาด เช่น เมื่อหลวงปู่เพิ่มท่านสร้างพระ
    เนื้อดินเผาหรือทำยาวาสนาจินดามณี ท่านก็จะช่วยหลวงปู่เพิ่มบดยาหรือเผาพระเนื้อดินมาโดยตลอด และถ้าช่วงไหนมีเวลาว่างท่านก็จะมาช่วยตีเบี้ยแก้เมื่อมีลูกศิษย์ให้หลวงปู่เพิ่มทำ สมัยนั้นหลวงปู่เจือ ปิยะสีโล ท่านก็ได้บวชอยู่ด้วยโดยเป็นลูกศิษย์หลวงปู่เพิ่มเหมือนกัน เมื่อพูดถึงความผูกพันธ์ระหว่างหลวงปู่เจือ กับหลวงพ่อสัญญา นั้นลึกซึ้งมากไม่ว่าจะเป็นทางด้านสายเลือดเครือญาติ ซึ่งท่านทั้งสองมีศักดิ์เป็นอากับหลานกัน เพราะ
    ย่าสุด ทวีวงษ์ ซึ่งเป็นย่าแท้ ๆ ของหลวงพ่อสัญญา เป็นพี่สาวแท้ ๆ ของโยมแม่หลวงปู่เจือ ชื่อ ย่าปู่ ซึ่งใช้นามสกุล "เนตรประไพ" หลวงปู่เจือกับหลวงพ่อสัญญานั้น ทั้งสององค์เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่เพิ่มแต่เดิมมาศึกษาวิชาทำยาวาสนาจินดามณี เสกปรอท เขียนอักขระเลขยันต์ ทำเบี้ยแก้มาโดยตรง สมัยนั้นมีพระลูกวัดที่ศึกษาวิชาทำเบี้ยแก้ และทำยาวาสนาจินดามณี ประมาณ 4-5 รูป คือ พระตึ๋ง, พระใบ, หลวงพ่อสัญญา และ
    หลวงปู่เจือ ส่วนอีกองค์จำชื่อท่านไม่ได้แต่ปัจจุบันได้มรณภาพไปทุกรูปแล้ว เหลือแต่หลวงพ่อสัญญารูปสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่ ส่วนคนในพื้นที่นั้นต่างก็รู้ดีว่าหลวงพ่อสัญญาท่านเป็นพระสมถะเรียบง่าย ไม่ถือตัว เป็นหลวงพ่อที่มีเมตตาสูงมากไม่ว่าลูกศิษย์จะขออะไรท่านก็ไม่เคยขัดมีแต่ให้เสมอมา จิตใจของท่านไม่ผิดไปจากหลวงปู่เพิ่ม อาจารย์ของท่านและหลวงปู่เจือเลยแม้แต่น้อย หลวงปู่เจือท่านเป็นพระที่มีเมตตามาก เมื่อครั้นมีลูกศิษย์ขอเข้าพบท่าน ก็ได้เรียนถามท่านว่า "หลวงปู่ครับถ้าหลวงปู่ไม่อยู่หรือไปติดนิมนต์ที่ไหน หากผมมาหาท่านไม่เจอ ผมจะให้พระองค์ไหนทำเบี้ยแก้ให้กับผมได้ครับ" ท่านก็พูดเสียงเบา ๆ ว่า "ถ้าท่านไม่อยู่หรือไปติดนิมนต์ที่ไหน ให้ไปหาท่านสัญญา"

    หลวงพ่อสัญญานั้นท่านเรียนวิชาทำเบี้ยแก้และยาวาสนาจินดามณีมาจากหลวงปู่เพิ่มโดยตรง ซึ่งตกทอดมาจากหลวงปู่บุญ ขนฺธโชต

    เนื้อทองทิพย์ ด้านหลังเป็นบทสวดพาหุงครับ

    บูชา 500 จองได้ 3 วัน หลังจากนั้นตัดสิทธิ์

    เพทาย
    090-4167951
    fatherbless@hotmail.com

    2.jpg 3.jpg 4.jpg
     
  15. พญาเพชร

    พญาเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +922
    ตะกรุดสาวังเพชร หลวงปู่คีย์ วัดศรีลำยอง สุรินทร์

    แบบห่วงเดียว เนื้อตะกั่วอวน

    วัตถุประสงค์ : สมทบทุนสร้างวิหารวัดศรีลำยอง

    พิธีมหาพุทธาภิเษก : วันที่ 9 ตุลาคม 2551 ณ วัดศรีลำยอง จ.สุรินทร์

    เนื่องในวาระที่ พระคุณท่านพระครูวิสุทธิ์กิตติญาณ (หลวงปู่คีย์ กิตฺติญาโณ) มีอายุเวียนบรรจบครบ 80 ปี 59 พรรษา ได้มอบหมายให้ทางคณะกรรมการดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลอันทรงคุณค่า พิมพ์ทรงสวยงาม มวลสารเป็นเลิศ พิธีกรรมเข้มขลัง นับเป็นวัตถุมงคลที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญถึงความเพียบพร้อมสมบูรณ์ในทุก ๆ ด้าน นำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลแก่ผู้บูชา

    พุทธคุณ
    คุ้มครองป้องกัน แคล้วคลาดปลอดภัย คุณไสย คุณคน ลมเพลมพัด เมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาด บรรเทาเคราะห์ร้ายให้กลับกลายเป็นดี

    คาถาบูชา แนบไปให้พร้อมตะกรุดครับ

    บูชา 700 จองได้ 3 วัน หลังจากนั้นตัดสิทธิ์

    เพทาย
    090-4167951
    fatherbless@hotmail.com

    5.jpg
     
  16. พญาเพชร

    พญาเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +922
    พระนาคปรกเพชรกลับ อจินไตย หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน สวนสมุนไพร

    เนื้อทองแดง หลังยันต์เดินธาตุ

    ประวัติขององค์หลวงปู่ละมัย ฐฺิตมโน นั้นยังคงเป็นปริศนาอยู่ทุกวันนี้ว่าท่านเป็นใคร มาจากที่ไหน เนื่องจากไม่สามารถสืบค้นประวัติที่แท้จริงของท่านได้จากการที่รู้คร่าวๆ ท่านเป็นพระอริยะสงฆ์องค์หนึ่ง ที่อยู่กระทำกิจบางอย่างเพื่อสืบทอดและปกป้องพระพุทธศาสนา ท่านเคยเล่าว่า ท่านเคยอยู่เขมร30ปี ลาว30ปี ไทยเลย30ปี ไม่มีที่ไหนที่ท่านไม่เคยไป ท่านไปมาแล้วทุกที่พออ่านแล้วได้ฟังตอนนี้น่าคิดในความหมายของหลวงปู่ที่ท่านพูดว่าท่านไม่ใช่พระธรรมดา แบบปรกติทั่วๆไป เพราะการไปของท่านในสมัยก่อนไม่มีรถรา ไม่มีเครื่องบิน แต่เป็นการเดินธุดงค์ ด้วยเท้าเปล่าๆไปทั้งศรีลังกา อินเดีย ทั่วโลกจนได้เจอครูบาอาจารย์ของท่านที่ศรีลังกา ปัจจุบัน ครูบาอาจารย์ของท่านก็ยังคงทรงสังขารอยู่ที่ศรีลังกา อายุไม่ต้องไปพูดถึง เพราะมันเป็นปัจจัตตังและท่านมีความผูกพันธุ์กับหลวงปู่เทพโลกอุดร ตั้งแต่ยังเป็นเณรอีกทั้งสำเร็จลุนพระอริยะสงฆ์ที่สองฝั่ง ไทยลาว ให้การนับถือทั้งอิทธิฤทธิ์ และบุญฤทธิ์ และธรรมะปัจจุบันหลวงปู่ละมัยท่านละสังขารแล้ว สรีระไม่เน่าเปื่อยเป็นที่รู้กันว่า หลวงปู่ละมัยองค์นี้ท่านมีกิจในการการปกป้องพระพุทธศาสนาและพี่น้องชาวไทยใครที่เคยได้ไปกราบท่านสักครั้ง คงจะไม่สามารถลืมพระแบบท่านได้อีกเพราะท่านมีทั้งคุณธรรมขั้นสูง จนบรรดาพระเกจิดังๆหลายๆองค์ต้องเดินทางไปกราบและยกย่องในคุณธรรมของท่าน บางองค์ไปขอปรึกษาอรรถธรรมวิชาการจากท่านเช่น หลวงพ่อรวยวัดตะโก หลวงปู่ใหญ่ พิษณุโลก หลวงพ่อคูณก็เป็นศิษย์ของท่านนะครับ หลวงปู่น๊ะ วัดหนองบัวหลวงพ่อบุญลือวัดคำหยาด และหลวงปู่เปรี่ยมวัดกำแพงและหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน ครูบาเที่ยงธรรมและอีกมากมาย ที่เคารพในคุณธรรมของท่าน



    จะหาพระแบบท่านไม่ง่ายเลยนับเป็นบุญกุศลยิ่งนัก ที่ได้บูชาวัตถุมงคลของท่าน ด้วยความเคารพในองค์หลวงปู่"อจินไตย" เหนือการคาดคิด ด้นเดา "เหนือโลก อุดมโชค ชนะมาร"



    พิธี เสาร์ ๕ รวยทันตา ( อจิณตรัย )
    หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน พระเหนือโลก อายุพรรษามากกว่า 100 ปี
    หลวงปู่ท่านสำเร็จวิชาปรอท ไม่มีใครเสมอเหมือน
    พิธีเสก รุ่น เสาร์ ๕ อจิณตรัย รวยทันตา
    วัดเวฬุวัน จ.ศรีสะเกษ วัตถุประสงค์ เพื่อจัดสร้างพระประธาน หน้าตัก 59 นิ้ว
    วัดป่าหนองหล่ม จ.สระแก้ว วัตถุประสงค์ เพื่อจัดสร้างมหาวิหาร หลวงพ่อสัมฤทธิ์ผลองค์ใหญ่
    พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดป่าหนองหล่ม จ.สระแก้ว ๒๕ เม.ย ๕๔ โดย
    (๑.)หลวงปู่ลมัย ฐิตมโน จ.เพชรบูรณ์ ** ละสังขารแล้ว **
    (๒.)หลวงปู่คำบุ คุตฺตจิตฺโต จ.อุบลฯ ....
    (๓.)หลวงปู่สิงโต จ.เชียงใหม่ ** ละสังขารแล้ว **
    (๔.)หลวงปู่หมี ปณฺญาธโร จ.อุบลฯ
    (๕.)หลวงปู่ถวิล เขมโก จ.ศรีสะเกษ
    (๖.)หลวงปู่สำราญ อนุตฺตโร จ.สระแก้ว
    (๗.)หลวงปู่พระครูศิลาพิมณฑ์ จ.พิษณุโลก
    (๘.)พระอาจารย์จ่อย สิริคุตฺโต
    (๙.)พระอาจารย์ขวัญเมือง จ.สระแก้ว

    ท่านละสังขารเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.54

    บูชา 1100 จองได้ 3 วัน หลังจากนั้นตัดสิทธิ์

    เพทาย
    090-4167951
    fatherbless@hotmail.com


    2.jpg 5.jpg
     
  17. พญาเพชร

    พญาเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +922
    สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประกาศอิสรภาพ

    รุ่นสร้างศาลาวัดป่าเรไรย์ นครสวรรค์ 7 พ.ย. 2536

    บูชา 500 จองได้ 3 วัน หลังจากนั้นตัดสิทธิ์

    เพทาย
    090-4167951
    fatherbless@hotmail.com

    2.jpg
     
  18. พญาเพชร

    พญาเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +922
    ดาวสมหวัง พระอาจารย์โอ พุทโธรักษา สำนักพุทธสถานวิหารธรรมราช เพชรบูรณ์

    พระอาจารย์ธวัชชัยชีวสุทโธ" พระอาจารย์โอ พุทโธรักษาสำนักพุทธสถานวิหารธรรม หล่มสัก เพชรบูรณ์ผู้สืบทอดสรรพศาสตร์วิชาโกเก้าโกฏิสายสำเร็จลุนและสำนักกุญแจไสยเวท

    " พระอาจารย์ธวัชชัย" หรือบรรดาลูกศิษย์ลูกหาเรียกท่านว่า"พระอาจารย์พุทโธรักษา" ไม่ก็"พระอาจารย์โอ"ส่วนที่เรียกว่าพระอาจารย์พุทโธรักษานั้นก็คงจะมาจากคำให้พรของท่านที่มักจะให้พรลูกศิษย์ต่างๆว่าพุทโธรักษาจนติดปาก

    พระอาจารย์โอท่านเป็นพระนักปฏิบัติธรรมและชอบศึกษาหาความรู้ในด้านต่างๆเพราะหมั่นศึกษาหาความรู้มาตั้งแต่วัยเยาว์โดยเริ่มศึกษาความรู้วิชาสายสำเร็จลุนจากปู่ของท่านที่เป็นหมอธรรมผู้เลื่องชื่อแห่งอำเภอหล่มสักและเชี่ยวชาญในศาสตร์วิชาธรรมเก้าโกฏิซึ่งน้อยคนนักที่จะเจนจบในศาสตร์วิชาสายนี้ต่อมาก็ยังได้ศึกษาจากฤๅษีและพระเกจิอาจารย์อีกหลายรูป แม้แต่หลวงพ่อผินะ ซึ่งเหล่าศิษย์ ต่างเสาะหา "ดาวนายพัน" อันเลื่องชื่อ

    ในครั้งนี้ พระอาจารย์โอจึงได้จัดสร้าง "ดาวสมหวัง" อันมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกันให้เหล่าศิษย์ได้บูชาครับ

    วิธีใช้ และคาถาบูชา แนบไปให้พร้อมวัตถุมงคลครับ

    บูชา 14 2.jpg 5.jpg 00 จองได้ 3 วัน หลังจากนั้นตัดสิทธิ์

    เพทาย
    090-4167951
    fatherbless@hotmail.com
     
  19. พญาเพชร

    พญาเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +922
    ตะกรุดพระครุฑพ่าห์ หลวงปู่ผาด วัดไร่ อ่างทอง

    จารยันต์พระครุฑพ่าห์ ซึ่งเป็นเทวพาหนะของพระนารายณ์ และเป็นสัญลักษณ์ของราชการ


    พญาครุฑ มีฤทธิ์อำนาจมาก เสมอพระนารายณ์มหาเทพ มีกำลังมาก สามารถปราบได้ทั้งสามโลก ผู้บูชาตะกรุดพระครุฑพ่าห์ จักจำเริญด้วยหน้าที่การงาน ความสำเร็จของชีวิต ทำกิจการค้า ก้าวหน้า กำกสิกรรม หรือรับจ้าง งานฝีมือ ก็จะมีแต่รุ่งเรือง ทั้งยังดี มีคุณวิเศษ เสริมส่งสำหรับผู้รับราชการ ไม่ว่าจะป็นทหาร ตำรวจ หรือข้าราชการพลเรือน ไม่ว่ายศใด ตำแหน่งใด เมื่อบูชาแล้ว จะเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ราชการ เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง เป็นเจ้าคน นายคนจนถึงชั้นพระยา เจ้าพระยาพานทอง ทรัพย์สินเนืองนอง เพิ่มพูนบริบูรณ์ ลาภ ยศ รุ่งเรืองขจรขจาย เป็นใหญ่กว่าคนทั้งปวงแล

    มีประสบการณ์กับตัวเลยนะครับ ได้มาไม่นานก็เห็นผล ผมไม่ได้รับราชการนะครับ เป็นลูกจ้างนี่แหละ ทั้งการงานและค้าขาย ยอมรับครับ ว่าสุดยอด เป็นวัตถุมงคลของหลวงปู่ผาดชิ้นแรกของผม ที่ทำให้ผมต้องตามเก็บวัตถุมงคลของท่านครับ

    คาถาบูชา จัดส่งพร้อมวัตถุมงคลครับ

    บูชา 1900 จองได้ 3 วัน หลังจากนั้นตัดสิทธิ์

    เพทาย
    090-4167951
    fatherbless@hotmail.com

    2.jpg 5.jpg
     
  20. พญาเพชร

    พญาเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    682
    ค่าพลัง:
    +922
    ตะกรุดนารายณ์เบิกฟ้า หลวงปู่คง พระเกจิเขมร

    ท่านอยู่ประเทศเขมร และเดินทางไปๆมาๆระหว่าง ชายแดนไทย-กัมพูชา บ่อยครั้งช่วงที่ท่านแข็งแรง การสร้างวัตถุมงคลแต่ละอย่างแต่ละรุ่นนั้นไม่มากนัก ตอนนี้ท่านมีอายุมากกว่า 97 ปี หลวงปู่คงนี้ เมื่อครั้งที่ท่านทำพิธีปลุกเสกกุมารทองรุ่นแรก เดิมทีท่านไม่มีรอยสักยันต์ตามเนื้อตัวท่าน แต่พอเริ่มพิธีการปลุกเสกระหว่างในพิธีนั้น อักขระขอมเขียวๆจะปรากฏขึ้นมาและวิ่งไปรอบตัวหลวงปู่คง นับว่าอัศจรรย์มาก ท่านยังมีวิชาบางวิชาที่แทบจะสูญหายไปแล้ว เพราะไม่มีผู้สืบทอด คือวิชาการสร้าง บ่วงนาคบาศก์ เขมรบน ชั้นสูง ซึ่งสายวิชาเขมรบนชั้นสูงนั้น จะต้องใช้พลังจิตมากในการเรียกลูกงูองอาจที่ตายพรายในไข่ ให้เลื้อยออกมาขดเป็นวงกลมเอง เรียกวิชานี้ว่า "พญานาคคายแก้ว" และก็ยังมีวิชา งูกินหาง ดั้งเดิมตำรับสายวิชาเขมรบน นี้อีก คือ ให้งูที่จะหมดอายุขัย มากินกันเอง (โดยต้องเป็นงูเห่ากินงูจงอางเท่านั้น)และวิชาบ่วงนาคบาศอีกชนิดหนึ่ง ต้องให้งูทั้งสามชนิดกินกันเอง งูแสงอาทิตย์ งูเห่าและงูจงอาง วิชาต่างๆนี้ หลวงปู่คงท่านสืบทอดมาจากสายเขมรบนทั้งหมด ซึ่งตกทอดการเล่าเรียนสืบกันมาจากพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นับว่าหาไม่ได้ง่ายๆแล้วสำหรับผู้ที่สืบทอดสายวิชาเขมรบนแท้ๆอย่างหลวงปู่คง (ในสมัยโบราณพันปี สายวิชาเขมรบน จะสามารถร่ำเรียนได้ก็เฉพาะหน่อเนื้อกษัตริย์สืบทอดกันมาเท่านั้น) มาสมัยนี้ วิชาสายเขมรแตกออกไป มีทั้งเขมรบน (สายกษัตริย์ชั้นสูง) เขมรกลาง (สำหรับผู้ที่ร่ำเรียนต่อทอดกันมาอย่างหลวงปู่คง ซึ่งมักจะเป็นภิกษุ และอาจารย์ต่างๆรวมทั้งผู้ที่มีศีลธรรม) เขมรล่าง (ต่ำ) เป็นสายวิชาชาวบ้านซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสียถ้านำไปใช้ไม่ถูกวิธี



    สร้าง 41 ดอก



    มวลสาร
    แผ่นโลหะจารอักขระขอมโบราณ โลหะเก่า หญ้าคาปลุกเสกแล้วพันเป็นเส้นรอบตะกรุด ผงพระนารายณ์แปลงรูป ผงดินงอกใต้ฐานพระ ผงเทวาเปลี่ยนรูป น้ำค้างถ้ำ
    อิทธิคุณ
    เด่นดีด้านเสริมบารมี เมตตามหานิยม ผู้คนต่างๆนิยมชมชอบ เสริมดวง กันคุณไสย ภูติผีปีศาจ อำนาจมืดทั้งปวง

    บูชา 1100 จองได้ 3 วัน หลังจากนั้นตัดสิทธิ์

    เพทาย
    090-4167951
    fatherbless@hotmail.com

    2.jpg 5.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...