สุดยอดอาจารย์ !..เล่านิทานธรรมะหน้าเสาธง

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>นักเทศน์หน้าเสาธง "ถาวร ชัยจักร"...ผอ.ร.ร.มัธยมฐานบิน

</TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4></TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1><CENTER></CENTER>


"ให้เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาเวลา ๐๘.๐๐น. หรือเวลาเข้าเรียนในตอนเช้าตามความเหมาะสม ส่วนการลดธงในตอนเย็น ให้ลดธงในเวลา ๑๘.๐๐น. ทั้งนี้นักเรียนร้องเพลงชาติในขณะเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาด้วยตนเอง ห้ามใช้วิทยุหรือแผ่นเสียง แต่ถ้าสถานศึกษาจะใช้แตรวงบรรเลงประกอบการร้องของนักเรียนด้วยก็ให้กระทำได้"


<CENTER></CENTER>


ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นการเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาของสถานศึกษาซึ่งเป็นการปฏิบัติตามระเบียบการเชิญธงชาติสยาม โดยประกาศใช้ครั้งแรกใน พ.ศ.๒๔๗๙นอกจากนี้แล้วยังมีกิจกรรมที่สำคัญอีก ๒ อย่าง ที่โรงเรียนปฏิบัติเหมือนกันคือ สวดมนต์ไหว้พระและ ฟังการอบรมจากครูหรือฟังครูด่านั่นเอง
แต่การเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาของโรงเรียนมัธยมฐานบินกำแพงแสนอ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งมีนายถาวรชัยจักร เป็นผู้อำนวยการแล้วกลับมีความแตกต่างจากโรงเรียนทั่วๆ ไปอย่างสิ้นเชิง กล่าวคือ การเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาเป็นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ มีการกล่าวคำปฏิญาณตน ที่สำคัญคือ นายถาวรจะยืนเล่านิทานธรรมะและนิทานชาดก ก่อนเคารพธงชาติทุกๆ เช้า ให้นักเรียนกว่า ๒,๕๐๐คน ฟัง โดยไม่เคยซ้ำเรื่องกันเลย และทำมาติดต่อกันเป็นปีที่ ๖ แล้ว ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่า ผอ.ถาวร คือ นักเทศน์หน้าเสธง ก็ได้
เพราะเราไม่สามารถบรรจุวิชาศีลธรรมไว้ในหลักสูตรได้เพราะเวลาเรียนมีขอบเขตจำกัด โรงเรียนจึงใช้วิธีทำหลักสูตรโดยบรรจุวิชาศีลธรรมไว้ในพิธีกรรมหน้าเสาธง ๑ ชั่วโมง โดยจะแบ่งกับรอง ผอ.อีก ๓ คน มาช่วยสอนและช่วยเล่านิทานธรรมะ ทั้งนี้แต่ละคนต้องเขียนแผนที่จะพูดแต่ละวันด้วย เมื่อรวมแล้ว นักเรียนจะมีความรู้ด้านศีลธรรมครอบคลุมทุกเรื่อง นี่คือเหตุผลของนายถาวร <CENTER></CENTER>


พร้อมกับเล่าให้ฟังว่าวันแรกที่ยืนเล่านิทานธรรมะ เด็กไม่สนใจฟังเลย แต่ก็ไม่คิดโทษเด็ก แต่กลับมองที่ตัวเราเองว่า หานิทานไม่สนุก หรือวิธีการนำเสนอที่ไม่ได้เรื่องกันแน่ จากนั้นก็ปรับปรุงเรื่อยมา ทุกๆ เช้าจะไม่ไปไหน เพราะมีหลักที่ว่า นักเรียนต้องมีความสำคัญที่สุด ด้วยเหตุนี้ ถ้าใครนัดประชุมเช้านอกโรงเรียน ผมจะปฏิเสธ หรือจะส่งครูคนอื่นไปแทน ซึ่งตลอดเวลาของการเป็นผู้อำนวยการมา ๖ ปี เล่านิทานธรรมะ รวมทั้งนิทานชาดกทุกวัน โดยไม่ซ้ำเรื่องกัน โดยเรื่องที่นำมาเล่านั้นทั้งจากการอ่านหนังสือ และดูรายการพุทธศาสนาทางโทรทัศน์ของดีเอ็มซี ทั้งนี้จะเขียนไว้ทุกๆ วัน
วันไหนนิทานสนุกเล่ามัน เด็กจะไม่คุย ถ้าเด็กคุยจะไม่โทษเด็ก ครูผู้เล่าต่างหากที่นำเสนอเนื้อหาที่ไม่น่าสนใจ รวมทั้งเรื่องการสอนหนังสือด้วย การที่ครูโทษเด็กว่า ไม่สนใจเรียนคุยกัน ครูต้องมองและสำรวจตัวเองก่อนว่า ได้เตรียมเนื้อหามาสอนเป็นที่น่าสนใจหรือเปล่า ครูคนไหนโทษเด็ก คือครูไม่รู้จักตัวเอง นายถาวร กล่าว
นอกจากความโดดเด่นของพิธีกรรมหน้าเสาธงแล้วยังมีนโยบายที่โดดเด่นอีก ๒ อย่าง คือ นักเรียนทุกคนไม่ต้องสอบเข้า เมื่อมาสมัครเพื่อที่จะเข้าเรียนแล้ว โรงเรียนจะมอบหนังสือคู่มือผู้ปกครองไปให้ฟรีๆ ๑ เล่ม ผู้ปกครองต้องกลับไปอ่าน ถ้าอ่านไม่ออก ลูกต้องอ่านให้ฟัง เนื้อหาของหนังสือจะออกไปในแนวการเลี้ยงลูกและธรรมะ พร้อมกับให้ข้อสอบไปช่วยกันทำทั้งครอบครัวอีก ๑๐๐ ข้อ ในวันมอบตัวผู้ปกครองจะต้องสอบ ทั้งนี้จะนำข้อสอบทั้ง ๑๐๐ ข้อ มาเลือกให้เหลือ ๕๐ ข้อ โดยจะสลับข้อกันทั้งข้อเขียนและเลือกคำตอบ ถ้าผู้ปกครองสอบไม่ผ่าน ลูกของผู้ปกครองจะไม่ได้เรียน
ทั้งนี้นายถาวรพูดไว้อย่างน่าคิดว่าพูดเรื่องดีๆทุกๆ เช้า พูดเรื่องดีๆ ทุกวัน จะทำให้ผู้ที่ได้ยินและผู้ที่พูดคิดและทำในสิ่งดีๆ ด้วย เด็กดีไม่ดีอย่าโทษเด็กต้องโทษพ่อแม่ครูผู้ปกครองว่า ฝีมือไม่ถึงที่จะสอนให้เด็กเป็นคนดีได้ โรงเรียนค้นพบกุญแจสำคัญที่ว่า การแก้ปัญหาต้องแก้ที่เหตุ และเหตุที่เด็กจะดี หรือไม่ดี ไม่ได้อยู่ที่ครู หากอยู่ที่สถาบันครอบครัวเป็นหลัก พ่อแม่เป็นครูคนแรก ถ้าครูคนแรกดีลูกย่อมดีด้วย ครูที่โรงเรียนเป็นเพียงครูคนที่๒-๓ เท่านั้น แม่แบบหรือแม่พิมพ์ซึ่งหมายถึงครูจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ส่วนอีกสิ่งหนึ่งคือโรงเรียนนี้ไม่มีกระดิ่ง ระฆัง รวมทั้งสัญญาณใดๆ เป็นเครื่องบอกเวลาเข้าแถวหน้าเสาธง เวลาหมดคาบ เวลาพักกลางวัน รวมทั้งเวลาเลิกเรียน ที่เป็นเช่นนี้เพราะเกิดจากการฝึกอบรมเรื่องระเบียบวินัย ทุกคนมีนาฬิกา ทุกคนมีเวลาเป็นของตัวเอง ทุกคนรู้หน้าที่ และมีวินัยในตัวเอง กระดิ่ง ระฆัง รวมทั้งสัญญาณใดๆ จึงไม่ใช่สิ่งสำคัญ โรงเรียนแห่งนี้ทั้งครูและนักเรียนไม่ได้ยินเสียงเหล่านี้มากว่า ๕ ปี แล้ว
"พุทธศาสนาไม่ได้สอนให้ท่องจำหลักคำสอน การท่องจำหลักคำสอนได้ทุกข้อหรือจะสู้การปฏิบัติตามหลักคำสอนเพียงข้อเดียว ถ้านักเรียนมีศีลธรรม มีวินัย รู้หน้าที่ สิ่งที่ตามมาคือ การเอาใจใส่ต่อการเรียน เอาใจใส่ต่อการอ่าน มีความเพียรพยามยาม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนเก่งนั่นเอง" นายถาวร กล่าวทิ้งท้าย

เสียงจากทีมบริหาร
อ.ประเจิดอยู่สงค์ รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารวิชาการบอกว่า นอกจากความโดดเด่นเรื่องศีลธรรมของนักเรียนแล้ว ศีลธรรมของครูก็แตกต่างจากโรงเรียนอื่นๆ เดิมทีครูกินเหล้า สูบบุหรี่ พอๆ กับนักเรียน แต่เมื่อครูได้ยินครูใหญ่ฝึกอบรมศีลธรรมนักเรียนหน้าเสาธง ซึ่งครูทั้งโรงเรียนก็ฟังอยู่ด้วย ทำให้ครูเกิดความละอายนักเรียน จากที่กินเหล้าสูบบุหรี่อยู่ก็ทยอยเลิก ในที่สุดจำนวนครูที่กินเหล้าสูบบุหรี่ เกือบจะไม่มีเลย โดยเฉพาะในระดับผู้บริหารถือว่าไม่มีเลย
ปีแรกครูให้ความสนใจกับแนวคิดของผอ.เพียงร้อยละ ๑๐ เท่านั้น ปีถัดมาก็เพิ่มขึ้น จนถึงปีที่ ๔ ครูจึงเห็นด้วยเกือบเต็มร้อย ที่เห็นชัดเจน คือ กินเหล้าสูบบุหรี่ รวมทั้งเรื่องชู้สาว หายจากโรงเรียนแห่งนี้ไปเลย
นอกจากนี้แล้วครูทุกคนในโรงเรียนซึ่งมีอยู่เกือบ ๑๓๐ คน จะต้องสอบวัดผลเรื่องคุณธรรมจริยธรรมทุกๆ ปี ด้วย
"ในส่วนของผู้ปกครอง ก็เช่นกัน แรกๆ ก็ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของโรงเรียน แต่เมื่อโรงเรียนบอกว่า ทุกสิ่งที่เราทำ เราไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง หรือทำเพื่อโรงเรียน แต่โรงเรียนทำเพื่อลูกหลานของท่าน ผู้ปกครองจึงเห็นด้วยกับโนยบายของโรงเรียน" อ.ประเจิด กล่าว

0 เรื่อง / ภาพไตรเทพ ไกรงู 0​

ขออนุโมทนาสาระธรรมจาก http://www.komchadluek.net/2008/02/13/x_phra_j001_189745.php?news_id=189745



</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขออนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์และท่านที่อนุโมทนาบุญ ครับ
สาาาาา...ธุ
สาาาาา...ธุ
สาาาาา...ธุ

เยี่ยมจริงๆ
<O</O

 

อนุโมทนาสาธุค่ะ......ถึงเด็กบางคนจะไม่ได้ตั้งใจฟังหรือฟังผ่าน ๆ แต่ก็ยังดีที่ได้ยินเสียเล่านิทานธรรมะของอาจารย์ค่ะ

 

อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ...ดีแล้ว ชอบแล้ว

คุณครูน่าจะไปทำงานที่กรมการศาสนา จะได้ขยายคิดความให้กว้างไกล

 

ขออนุโมทนาสาธุค่ะ
ดีใจกับเด็กนักเรียนโรงเรียนนี้
ที่มีโอกาสได้รับฟังสิ่งที่ดี ๆ ตั้งแต่เช้า
(good) (good) (good)

 

Sa Tu Ka
that very nice thing to do ka , Sa Tu agin again
Tanya

 

ตอนเด็ก ๆ ก็เคยฟังคุณครูใหญ่เล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟังหน้าเสาธงเหมือนกัน(อยู่ตจว.อ่ะ เด็กกรุงเทพคงไม่มีหรอก)

 

ขออนุโมทนา สาธุ
ขอให้มีครูที่เป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชนไทยเยอะๆ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

โรงเรียนมัธยมฐานบินกำแพงแสนอ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

น่าจะส่งลูกเข้าเรียนที่นี่นะ....ดีมั่กๆ

 

สาธุ....ขออนุโมทนาด้วยครับ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั่น ความพยายามในการแสดงธรรมของอาจารย์ย่อมต้องมีคนเข้าใจและได้รับประโยชน์ไปไม่มากก็น้อยครับ เมื่อเด็กได้ฟังธรรมทุกวันๆ ย่อมซึมซาบและถูกปลูกฝังสิ่งดีงามเข้าไปในจิตใจโดยไม่รู้ตัวครับ

 

ขออนุโมทนา สาธุ ผ.อ.คิดดีทำดี ขอผลบุญที่ช่วยสร้างคนให้เป็นคนดี ส่งผลให้ ผ.อ.เจริญในหน้าที่การงานจนได้ไปสอนในระดับปริญญา จะได้บัณฑิตที่มีศิลธรรมในใจเพิ่มมากขึ้นเลื่อยๆ

แต่ชอบตรงนี้จัง "ในวันมอบตัวผู้ปกครองจะต้องสอบ ..............ถ้าผู้ปกครองสอบไม่ผ่าน ลูกของผู้ปกครองจะไม่ได้เรียน" เป็นการบังคับผู้ปกครองเรียนรู้ธรรมมะและวิธีเลี้ยงลูก

อย่างนี้เขาเรียกว่าหัวดีหางก็ตาม "เดิมทีครูกินเหล้า สูบบุหรี่ พอๆ กับนักเรียน แต่เมื่อครูได้ยินครูใหญ่ฝึกอบรมศีลธรรมนักเรียนหน้าเสาธง........ ทำให้ครูเกิดความละอายนักเรียน จากที่กินเหล้าสูบบุหรี่อยู่ก็ทยอยเลิก ในที่สุดจำนวนครูที่กินเหล้าสูบบุหรี่ เกือบจะไม่มีเลย โดยเฉพาะในระดับผู้บริหารถือว่าไม่มีเลย"

 

ขอชื่นชมอย่างจริงใจครับ สมควรเป็นโรงเรียนที่ได้รับการยกย่องครับ แต่ที่สำคัญอยากให้ หลายๆ โรงเรียนเอาหลักการนี้ไปใช้ครับ ได้ยินข่าวแบบนี้และได้รู้ว่าโรงเรียนแบบนี้มีอยู่ในโลก แล้วรู้สึกตื้นตันใจครับ คงไม่ต้องบอกมากกับความรู้สึกแบบนี้กับคนในยุคนี้ที่มีน้อยเต็มทีครับ ขอนุโมทนาด้วยครับ

 

อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ

__________________________________________________


ทาน ศีล สมาธิ

 

อาจารย์คนนี้เป็นบุคคลากรที่มีแนวคิดประเสริฐยิ่ง อนุโมทนาครับ

 

อนุโมทนาบุญ กับสุดยอดอาจารย์ ด้วยครับ
น่ายกย่องจริงๆ.....

 

อนุโมทนาท่านอาจารย์ด้วยความซาบซึ้งอย่างยิ่ง....ท่านเป็นหนึ่งของอาจารย์ระดับมัธยมแท้ๆ ในโลกปัจจุบัน....กราบชื่นชมและภาคภูมิใจ..สาธุ สาธุ สาธุ (ขอตั้งจิตอธิฐานให้กับผู้บริหารในอนาคตดำเนินรอยตามท่านตลอดกาลเทอญ)

 

ขออนุโมทนาครับ

ขอแสดงข้อคิดนิดหน่อยนะครับ ถ้าเราดูครูที่นำเสนอนิทานธรรม ก็น่าจะผ่านขบวนการศึกษามาไม่ใช่น้อยครับ 40 หรือ 50ปีก่อน นั้น คือ วัดยังเป็นศูนย์กลางของชุมชน และบางทีเด็กสมัย ครูต้องบวชเรียนอย่างเข้ม เปนสามเณร หรือพระ และศรัทธาเข้ามาบวชอย่างแท้จริงจึงได้ปลูกฝังมาแต่สมัย 40-50ปี
เราควรมอง2 ด้าน 1 ด้านเด็กนักเรียนที่ได้ฟังนิทาน 2 ครูที่เล่านิทาน

และสิ่งที่สำคัญมาก คือ ครูที่เล่านิทานครับ เพราะได้บ่มอุปนิสัยด้านพระพุทธศาสนามานานมาก และได้มาเป็นครูผู้สอน ข้อเสนอของผมคือ สร้างบุคลากรแบบคุณครูสิครับ ผลิตออกสู่ชุมชนมากๆ บ้านนั้นเมืองนั้นจึงสันติสุข ครับ

 

อนุโมทนา สาธุ

(*) เป็นโรงเรียนตัวอย่างที่ดีมากๆ น่าสนับสนุนและ สรรเสริญจริงๆ ถ้าเมืองไทยมีโรงเรียนแบบนี้ทั่วทุกภาคจะดีมากๆ เพราะจะทำให้เด็กๆ เติบโตมาด้วยใจและกายที่มีธรรมะ ทำให้เป็นคนที่มีจิตใจที่ดี รู้ผิด ชอบ ชั่ว ดี ลดอาชญากรในอนาคต ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน โอบอ้อมอารี ช่วยเหลือเกื้อกูล ครอบครัวก็จะมั่นคง แข็งแรง ต่อสิ่งที่มากระทบภายนอกได้อย่างสง่าผ่าเผย เพราะมีธรรมะประจำใจ

(i) และโรงเรียนต่างๆน่าจะนำไปใช้บ้าง หรือไม่ก็พยายามนิมนต์พระมาเทศน์ ขณะนี้ก็มีพระเทศน์ที่ดังๆที่วัยรุ่นยอมรับเยอะ เช่น ท่านว.วชิรเมธี,หลวงพี่สมปอง,พระพยอม เป็นต้น

(i) ฝากถึงโรงเรียนต่างๆ โปรดเห็นธรรมะเป็นเรื่องใกล้ตัวได้แล้ว ถ้ามีธรรมะเด็กๆแม้กระทั่งครูก็จะได้เดินทางอย่างถูกครรลองคลองธรรม จะทำให้เด็กแม้กระทั่งผู้ใหญ่อยู่ในโลกนี้ได้อย่าง สง่าผ่าเผย องอาจ รู้ ผิด ชอบ ชั่ว ดี ทำดีละบาปได้ในที่สุด

(i) ธรรมะของพระพุทธเจ้าจะได้อยู่ครบถึงห้าพันปี

สาธุ(^)