สุดยอดเครื่องราง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย montrik, 24 พฤษภาคม 2017.

  1. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
     
  2. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 148 : ตะกรุดกระดูกห่านหลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด
    สวย แท้ ดูง่าย

    ราคา 6,500 บาท


    หลวงพ่อหรุ่น ท่านเป็นจอมขมังเวทย์ที่มีวิชาคงกระพันหนังเหนียวจัดเป็นหนึ่งในสุดยอดของบรรดาผู้มีอาคมคนหนึ่งของเมืองไทยทีเดียว และผู้ที่เป็นปรมาจารย์สักยันต์เก้ายอด ก็คือหลวงพ่อหรุ่นแห่งวัดอัมพวัน นั่นเอง

    หลวงพ่อหรุ่น (เก้ายอด) ท่านเป็นชาวเชียงราก จังหวัดอยุธยา เกิดเมื่อ พ.ศ. 2390 ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยหนุ่มนั้นนายหรุ่น (ชื่อเดิมของหลวงพ่อ) เป็นคนที่ชอบทางด้านเวทย์มนต์คาถามาก ถ้ามีอาจารย์ดีที่ไหนเป็นต้องไปฝากตัวเป็นศิษย์เสมอจนไม่ได้ทำงานทำการช่วยเหลือพ่อแม่จนพ่อแม่เอือมระอา และบ่นว่าจะเลี้ยงไม่ไหวแล้ว นายหรุ่นจึงตัดสินใจออกจากบ้านเพื่อเผชิญกับชีวิตด้วยตัวเอง

    ต่อมานายหรุ่นได้มีชื่อเสียงขึ้นในนามของ เสือหรุ่น ใจภารา มีกิตติศัพท์ปล้นฆ่าไปทั่วจังหวัดอยุธยาและที่อื่นๆ ไม่มีใครสามารถปราบเสือหรุ่นได้ เพราะเกรงเสือหรุ่นที่มีวิชาอาคมแกร่งกล้า จนกระทั่งนายอำเภอเมือง จังหวัดอยุธยาต้องปิดป้ายประกาศให้เสือหรุ่นมาเพียงคนเดียว และต้องไม่พกพาอาวุธ ถ้าเสือหรุ่นมอบตัวจริงจะไม่เอาความผิดใดๆ ทั้งสิ้น

    เสือหรุ่นเมื่อได้ยินประกาศก็เข้ามอบตัวกับนายอำเภอ เพราะเกิดเบื่อหน่ายชีวิตการปล้นฆ่าเต็มประดา แต่เสือหรุ่นหารู้ไม่ว่า ประกาศนี้คือ กลลวงที่จะจับตัวเสือหรุ่นเข้าคุก

    เมื่อนายหรุ่นไปที่บ้านนายอำเภอก็ถูกรายล้อมไปด้วยเจ้าหน้าที่ซึ่งขู่ว่า ถ้าไม่มอบตัวจะยิงทิ้งทันทีเมื่อเสือหรุ่นรู้ว่าตัวเองถูกหลอกจึงได้ใช้วิชาอาคมผูกเป็นหุ่นแทนตัวเอง ให้นายอำเภอและเจ้าหน้าที่หลงกล และก็หลบหนีออกไปได้

    เหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้เสือหรุ่นแค้นเคืองยิ่งนัก จึงทวีจำนวนการปล้นฆ่าขึ้นกว่าเดิม จนเจ้าเมืองอยุธยาทราบเรื่องจนต้องลงมาควบคุมเรื่องนี้เอง ท่านเจ้าเมืองได้ปรึกษาหารือกับบรรดากำนัน ผู้ใหญ่บ้านหลายๆคนแล้ว ก็มีความเห็นว่าเสือหรุ่นเป็นคนมีฝีมือ และมีคาถาอาคมยากที่จะปราบปราม ทางที่ดีน่าจะเกลี้ยกล่อมให้เสือหรุ่นกลับใจและหันมารับใช้บ้านเมืองจะดีกว่าจึงได้เขียนประกาศด้วยตัวท่านเองให้เสือหรุ่นมอบตัว

    ฝ่ายเสือหรุ่นนั้น เมื่อได้อ่านประกาศก็เกิดความรู้สึกสองทางด้วยกัน ทางแรกก็คิดว่าอาจจะเป็นการลวงอีกก็ได้ แต่อีกทางก็คิดว่า จะเข้ามอบตัวดีกว่า เพราะตัวเองทำบาปกรรมมามาก ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็จะยอมรับสภาพตามนั้น เสือหรุ่นเลือกเดินไปตามทางที่สองคือ มอบตัว

    แต่ในคราวนี้ ท่านเจ้าเมืองมิได้หลอกลวง ท่านมาพบกับเสือหรุ่นสองต่อสองตามสถานที่นัดหมาย และท่านได้เกลี้ย กล่อมให้เสือหรุ่นกลับใจและเข้ารับราชการจนสำเร็จ โดยแต่งตั้งให้เป็นกำนัน จนสุดท้ายกำนันหรุ่นได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น ขุนกาวิจล ใจภารา

    จนกระทั่งเวลาผ่านไป 1 ปี ก็ ปรากฏว่า มีคนแอบอ้างชื่อเสือหรุ่น ออกปล้นฆ่าอีก ทางการได้ตามจับกำนันหรุ่นอีกเป็นวาระที่สอง เสือหรุ่นรู้สึกเบื่อต่อโลกเต็มทน จึงติดตามลูกชายคนโตเข้ามาอยู่กรุงเทพ ลูกชายเป็นทหารม้ากรมอัศวรักษ์ หลวงพ่อก็มาอยู่ วัดอัมพวันดุสิต ที่นี่จึงกลายเป็นที่ชุมนุมของ คนหนุ่มเลือดทหารม้านักสู้ ทุกคนจะก้มตัวลงให้ อาจารย์ภู่ (ศิษย์เอกหลวงพ่อหรุ่น ซึ่งเป็นฆราวาส) ทำการสักลงบนแผ่นหลัง แล้วหลวงพ่อหรุ่นเป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทให้อีกครั้ง ตลอดการสัก หลวงพ่อไม่เคยสักให้ใคร คนสักที่แท้จริงคือ อาจารย์ภู่

    หลวงพ่อหรุ่นมีเครื่องรางที่โด่งดังมากคือ ตะกรุดกระดูกห่าน แต่หายาก และแทบจะกลายเป็นตำนานไป ส่วนรอยสักเก้ายอดนับวันก็จะหมดไป คนรุ่นสุดท้ายของเก้ายอด มีอายุไม่ต่ำกว่า 70 ปี นอกจากนี้ก็ยังมีเหรียญซึ่งจัดอยู่ในเหรียญนิยมในวงการนักเล่น เพราะเป็นวัตถุมงคลชิ้นเดียวที่หลงเหลืออยู่ในวงการ

    ตะกรุดกระดูกห่านหลวงพ่อหรุ่น เป็นที่ขึ้นชื่อลือชาและมากประสบการณ์ยิ่งนักในด้านคงกระพัน เป็นที่เสาะแสวงหาเป็นอย่างมากสำหรับลูกศิษย์ลูกหาที่มีจิตใจห้าวหาญ(นักเลง) เพราะประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์มานักต่อนัก สำหรับตะกรุดดอกนี้เนื้อหาฉ่ำมันส์...สะใจ ผ่านสมรภูมิมาโชกโชน ร่องรอยที่เกิดจากการใช้ทำให้เห็นถึงความศรัทราของเจ้าของเก่าเพราะถ้าไม่ดีจริงคงไม่ใช้ติดกายจนมีสภาพดังที่เห็นนี้ ดอกนี้ตัดปัญหาเรื่องไม่ถึงยุคออกไปได้เลยครับ ปัจจุบันเวลาเปลี่ยนเจ้าของเปลี่ยนเด็กรุ่นลูกรุ่นหลานเห็นคุณค่าทางจิตใจน้อยลงเพราะไปหลงติดกับคุณค่าทางวัตถุ สมบัติของปู่ย่าตายายจึงเปลี่ยนมือ เพื่อให้คนที่เห็นคุณค่าของวัตถุมงคลเหล่านี้หรือคนที่เป็นเจ้าของใหม่ได้ครอบครอง สนใจติดต่อมานะครับ

    ตะกรุด กระดูกห่าน.jpg
     
  3. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 149 : ลูกอมผงยาดำเจ็ดพญาช้างสารของหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว จ.ฉะเชิงเทรา ยุคต้น
    รับประกัน
    ปิด
    ราคา 8,500 บาท
    (ราคากลาง 25,000 บาท)

    หลวงพ่อดิ่งท่านสร้างลูกอมจาก ไคลพระเจดีย์๗วัด ไคลพระอุโบสถ๗วัด ไคลเสมาอีก๗วัด ผสมด้วยผงอิทธิเจและผงมหาราช แล้วนำมาคลุกเคล้าปั้นเป็นลูกอมลูกเล็กๆ ขนาดประมาณ1ซม เมื่อลูกอมแห้งแล้วจะนำมาลงด้วยรักและปิดทองทุกเม็ด จากนั้นท่านหลวงพ่อดิ่ง ก็จะนำมาปลุกเสกจนมั่นใจแล้ว ท่านหลวงพ่อดิ่งจะนำลูกอมผงยาดำเจ็ดพญาช้างสาร ของท่านออกแจกในงานวัด หรือ งานบุญฉลองอายุของท่าน เป็นลูกอมที่กล่าวขานกันในตำนานของเสือขาว ศิษย์ของท่านหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว ผู้อยู่ยงคงกระพันด้วยมีลูกอมลูกอมผงยาดำเจ็ดพญาช้างสารของท่านหลวงพ่อดิ่ง ลูกอมผงยาดำนี้ มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ลูกอมเจ็ดพญาช้างสาร ด้วยกล่าวกันว่า ผู้ใดมีลูกอมนี้ไว้ติดตัว จะมีพละกำลัง ดุจพญาช้างสาร คุ้มครองป้องกันภัยต่างๆและยังอยู่ยงคงกระพันยามเมื่อมีภัยมาถึงตัวได้อย่างชะงัดนักแล ลูกอมหลวงพ่อดิ่งมีคุณวิเศษในด้านคงกระพันชาตรีเป็นอย่างมาก ว่ากันว่าสมัยก่อนคนแถบวัดได้นำมาทดลองโดยนำมาใส่ไว้ในปากปลาช่อนแล้วทดลองฟันดู ปรากฏว่าฟันไม่เข้าคมมีดเด้งออกเหมือนกับเอามีดไปฟันยางรถยนต์ยังไงยังงั้น ยิ่งเรื่องกันปืนผาหน้าไม้ด้วยแล้วนับได้ว่าไม่ธรรมดา ปัจจุบันหาของแท้ๆได้ยากมากๆใครมีติดตัวรับรองไม่ตายโหงแน่นอน

    กล่าวกันว่าลูกอมหลวงพ่อดิ่งนี้ ในช่วงประมาณปี 2490 กว่าๆเมื่อครั้งที่หลวงพ่อครื้มซึ่งเป็นหลานหลวงพ่อดิ่งถูกนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสวัดคลองสวน หลวงพ่อดิ่งท่านได้จัดสร้างลูกอมของท่านเพื่อที่จะให้หลวงพ่อครื้มมาแจกมอบให้แก่ผู้ที่มาช่วยสร้างวัด โดยหลวงพ่อดิ่งได้มอบหมายให้หลวงพ่อครื้มจัดหามวลสารตามที่หลวงพ่อดิ่งสั่งไว้ เสร็จแล้วหลวงพ่อดิ่งจึงจัดสร้างและทำการเสกให้ ลูกอมชุดนี้ท่านไปรับหลังหลวงพ่อดิ่งมรณภาพไปแล้ว โดยหลวงพ่อดิ่งท่านเขียนระบุไว้ว่าเป็นของท่านครื้มมีราวๆครึ่งบาตรหรือประมาณ4,000กว่าลูก ลูกอมชุดนี้หลวงพ่อครื้มท่านหวงมากๆไม่ค่อยได้แจกให้ใคร หลังจากหลวงพ่อครื้มมรณะภาพลูกอมชุดนี้ตกค้างอยู่ในกุฏิพันกว่าลูก ลูกอมหลวงพ่อดิ่งในยุคปลายนี้จึงตกอยู่กับคนแถววัดคลองสวนและละแวกใกล้เคียงพอสมควร แต่ก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆนะครับเพราะใครมีต่างก็หวงแหน....

    เกร็ดประวัติเสือขาว ฉายาขุนโจรร้อยศพ กับลูกอมผงยาดำเจ็ดพญาช้างสารของ หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว

    เสือขาวเป็นจอมโจรเจ้าของฉายาขุนโจรร้อยศพ มีประวัติเหี้ยมโหดมาก เสือขาวมีของดีที่อยู่กับตัวคือ "ลูกอมหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว" หลวงพ่อดิ่งได้เตือนเสือขาวว่า "มึงจะต้องตายโหงหากไม่เลิกเป็นโจร" เสือขาวนั้นทะนงตัว เพราะไม่มีอาวุธใดๆทำอันตรายได้ ปืนยิงไม่ออก มีดแทงไม่เข้า ความเป็นอมตะของเสือขาวนี้เอง ทำให้เกิดความลำพองใจไม่ฟังคำเตือนของหลวงพ่อดิ่งผู้เป็นอาจารย์ ตำรวจชุดไล่ล่าได้มาหาหลวงพ่อดิ่งที่วัดบางวัว แล้วถามว่าจริงหรือที่ว่าเสือขาวนั้นหนังเหนียว หลวงพ่อดิ่งบอกว่า "จริง ไอ้ขาวมันหนังเหนียว ยิงฟันไม่เข้าหรอก แต่มันจะแพ้ดวงของมันเอง อาตมาบอกไม่ได้หรอกว่าจะสังหารไอ้ขาวได้อย่างไร เพราะมันเป็นการผิดศีล"ตำรวจชุดไล่ล่าลาหลวงพ่อดิ่งกลับ ในขณะนั้นมีตาเถรคนหนึ่งซึ่งรู้จักกับจ่าบุญมีได้มาบอกว่า "ถ้าจะสังหารไอ้ขาว จะต้องใช้ลูกปืนที่หัวกระสุนทำด้วยใบมีดหมอ มีดหมอต้องเป็นของหลวงพ่อโศก วัดปากคลอง ท่านเป็นสหธรรมมิกของหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว วิชาอาคมของหลวงพ่อดิ่งที่ลงไว้ หลวงพ่อโศกท่านจะจารแก้ไว้บนใบมีดหมอของท่าน" เสือขาวได้ปะทะกับตำรวจชุดไล่ล่าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกครั้ง เพราะกระสุนเพียงนัดเดียวเสือขาวถึงกับทรุดสิ้นลายของคำว่า"จอมโจรหนังเหนียว" ต่อมาเสือขาวถูกจับกุมและพิพากษาโทษประหารชีวิต ซึ่งกระสุนที่เพชรฆาตใช้สังหารเสือขาว หัวกระสุนทั้งหมดที่ใช้ยิงทำจากใบมีดหมอของหลวงพ่อโศก วัดปากคลองทุกนัด
    30768160_232900654113391_74687728_o.jpg 30550051_232900650780058_1872986290_o.jpg 30550169_232900647446725_1211735654_o.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2018
  4. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการส่งพัสดุ
    ปรอทกินทอง 18 เม็ด
    EU628663346TH
    ปลายทางกาญจนบุรี

    ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงที่ไว้วางใจครับ
     
  5. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการ 150 : ปรอทกรอล้านนา
    วิ่งกังวาน
    รับประกัน
    ปิดครับ
    ราคา 1,850 บาท

    หรือ ทางเหนือเรียกกว่า "หน่วยบะป่อย"นั้นเป็นหนึ่งในเครื่องรางล้านนาที่ถือได้ว่าเป็นยอดเครื่องรางทรงค่าหายาก หนึ่งวัดจะมีอยู่ลูกเดียวคือฝังไว้ที่ใต้ฐานพระอุโบสถขนาดมีหลายขนาดทั้งเล็กและใหญ่ ลูกเล็กมักจะเรียกกันว่า “ปรอทกรอตัวผู้ “ ลูกใหญ่มักจะเรียกกันว่า “ปรอทกรอตัวเมีย”

    วัตถุประสงค์ของการสร้างปรอทกรอของล้านนาในสมัยโบราณนั้นก็คือการสร้างขึ้นเพื่อใช้ป้องกันสิ่งชั่วร้ายและสิ่งอัปมงคลทั้งปวง รวมถึงโจรผู้ร้ายที่คิดจะมาโขมยของในวัดเมื่อมีโขมยหรือสิ่งผิดปกติเข้ามาปรอทกรอก็จะส่งเสียงดังหรือ ที่เรียกกันว่า “ปรอทกรอวิ่ง”
    ภายในลูกปรอทกรอนั้นว่ากันว่าเป็นของวิเศษกายสิทธิ์จำพวกเหล็กไหล หรือปรอทเรียก หรือ ปรอทสำเร็จ ที่พระอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมได้เอาเป็นส่วนผสมของลูกกลมเล็กๆด้านในปรอทกรอ โดยนำเอามาหุงและหล่อเป็นลูกปรอทกายสิทธิ์ ฉนั้นเวลาเขย่าปรอทกรอจะมีเสียงคล้ายมีกริ่งอยู่ข้างในปรอทกรอนั่นก็คือลูกกลมเล็กๆที่ว่านี่เอง

    บ้างจะพบโดยบังเอิญจากการขุดพบหรือจากการขุดที่ถมที่ ในสถานที่เคยเป็นวัดร้างมาก่อน บางท่านก็ได้รับเป็นมรดกตกทอดมาจากปู่ย่าตายาย
    เคยมีคนผ่าดูข้างในปรากฏว่ามีความซับซ้อนมากคล้ายหวีที่ใช้หวีผม สับเข้าหากันเวลาเขย่า และมีลูกกลมๆเป็นของวิเศษอยู่ภายใน ประเภทเหล็กไหลเป็นลูกกลมที่มีหลายเลี่ยม เรื่องความหายาก วัดในสมัยก่อนจะมีฝังไว้ที่ใต้อุโบสถทุกวัดแต่หนึ่งวัดจะมีฝังไว้เพียงลูกเดียวเท่านั้น
    วิธีการใช้ : ใช้ห้อยคอหรือ พกพาติดตัว(ไม่ควรต่ำกว่าระดับเอว) ใส่พานบูชา หรือ บรรจุบนหัวเสาเรือน
    อาณุภาพ : คนสมัยก่อนเชื่อกันว่าปรอทกรอจะนำความร่มเย็นเป็นสุขมาให้ และป้องกันสิ่งอัปมงคลทั้งปวง เตือนเมื่อมีภัย บูชาไว้เป็นสิริมงคลให้ลาภ และคุ้มกันบ้านเรือนและผู้อาศัย
    ปรอทกรอล้านนา.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2018
  6. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    ปิด
     
  7. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    ดอกพิกุลเงินหลวงพ่อโอภาสี มีให้บูชา 4 ดอก
    ราคาพิเศษ
     
  8. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    ปิดรายการนี้ครับ
     
  9. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 151 : สีผึ้งเขียว หลวงปู่ทาบ มาเป็นพวง เลี่ยมเก่า
    มี 7 ชิ้น ปริมาณ ประมาณ 4 หัวไม้ขีด
    รับประกัน

    ราคา รายการละ 1,250 บาท
    ค่าส่ง ครั้งละ 50 บาท
    ปิดทั้งหมด
    20180421_120700.jpg 20180421_120623.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2018
  10. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    ปิดดอกยาว 1 ดอก
     
  11. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    ปิดรายการนี้ครับ
     
  12. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการ 152 : สะเก็ดดาว หรือ เรืยกได้หลายชื่อ อุลกมณี แก้วข้าว พลอยจันทรคราสหรือ หินจันทรคราส มหานิล แก้วดำ หยดน้ำฟ้าหรือมณีหยาดฟ้า เหล็กไหลต่างดาวและ ภาษาอังกฤษเรียก Tektite มาจากคำว่า Tektos ในภาษากรีก แปลว่า หลอมละลาย

    รับประกัน
    ราคา 1,500 บาท

    เรียกว่าเป็นหินนำโชคแก่ผู้ที่มีไว้กับตัว อีกทั้งยังสามารถ ใช้ป้องกันคุณไสยมนต์ดำ ภูตผีปีศาจต่างๆมิให้มากล้ำกรายได้ด้วย เป็นวัตถุที่เกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ มีพลังงานสะสมอยู่มหาศาล จึงอาจเรียกได้ว่ามีฤทธิ์ในตัว เมื่อนำมาประกอบด้วยกรรมวิธีที่ถูกต้อง จึงทำให้มันสามารถสลายพลังงานเชิงลบ (สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย) ไปได้ และเนื่องจากเป็นวัตถุที่มีสีดำสนิท จึงทำให้มันสามารถ ดึงดูดพลังที่ดี ๆ เข้ามา อีกทั้งยังส่งเสริม (ให้พลัง) เชิงบวกแก่วัตถุอื่น ๆ ให้มีพลังสูงขึ้นได้อีกด้วย นับเป็นวัตถุที่เหนือกว่าวัตถุอื่นใดในโลก ที่บันดาลสิ่งดีๆแก่ผู้ครอบครองได้ และยังส่งเสริมให้ชีวิตเจริญขึ้น เสริมเสน่ห์ชักจูงให้ผู้อื่นรักใคร่นับถือ เรียกว่ากลับร้ายกลายเป็นดี ทวีลาภเลยทีเดียวหรือกล่าวได้ดังนี้ :

    เป็นแหล่งของพลัง กระตุ้นเตือนจิตสำนึก ก่อให้เกิดความจดจำที่แม่นยำ ลึกซึ้งหากนำมาใช้ตอนปฏิบัติทำสมาธิจิต

    การพกพาไว้กับ ตัวจะเป็นการเพิ่มพลังแก่ออร่ารอบตัว ทำให้ออร่าเข้มเข็ง มั่นคง ปกป้องคุ้มครองและขับไล่สิ่งที่มารุกราน ขจัดปัดเป่าสิ่งเลวร้าย

    มีความเชื่อว่าการเก็บสะเก็ดดาว(สะเก็ดดาว)ไว้ในบ้าน จะช่วยป้องกันอัคคีภัย และภัยพิบัติต่าง ๆ ได้

    ในบางตำรากล่าวว่า ถ้านำมาบูชาร่วมกับไม้งิ้วดำและข้าวสารดำ จะให้อานุภาพเป็นมหาอุด แคล้วคลาด และเมตตาสูงมาก
    30743683_1910136065698244_2425507533599272316_n.jpg 31117985_1910136062364911_2133274286507493521_n.jpg
     
  13. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการนี้ ไม่ได้ลงให้บูชา
    แต่จัดหาให้ได้ตามออเดอร์ อีก 17 เม็ด
    ขอขอบคุณท่านที่ไว้วางใจ และเชื่อมั่น

    ท่านใดต้องการ ขนาดไหน ราคาอย่างไร ติดต่อมาได้ครับ
    Screenshot_20180421-113908.png
     
  14. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 153 : เบี้ยอธิษฐาน คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม (ไม่ใช่เบี้ยแก้ครับ)
    มีสองตัว

    รับประกัน

    ราคาตัวละ 2,250 บาท

    เป็นอีกหนึ่งวัตถุอธิษฐานที่หายากพอควรครับ เช่าหาดูที่มาที่ไปกันอย่างเดียวครับ. เบี้ยตัวนี้ ถูกเจ้าของเดิมเจาะเอาห่วงเงินแท้ร้อยแขวนอยู่


    20180422_093821.jpg 20180422_093843.jpg 20180422_093936.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2018
  15. พื้นทราย

    พื้นทราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2015
    โพสต์:
    752
    ค่าพลัง:
    +624
    โอนเงินแล้วครับ ค่าบูชารายการที่ 140
    ดอกจําปีงาแกะ ลพ.สด วันที่ 22/04/18
    เวลา 20.02 ที่จัดส่งแจ้งในpmครับ
     
  16. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 154 : ตะกรุดกระดูกแร้ง หลวงพ่อไป๋ วัดท่าหลวง จ.พิจิตร เก่า รอยจารชัด
    รีบประกัน

    ราคา 2,500 บาท

    เจ้าตำหรับตะกรุดที่สร้างจากกระดูกแร้ง ลูกศิษย์ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ศิษย์น้องหลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง สุดยอดเครื่องรางมหาอำนาจและเมตตามหานิยม

    ตะกรุดกระดูกแร้งเมืองพิจิตร หลวงพ่อไป๋ วัดท่าหลวง ตะกรุดกระดูกแร้ง เกิดจากการที่มีแร้งมาตายที่หลังวัดท่าหลวงคู่หนึ่ง หลวงพ่อไป๋ ท่านจึงมีดำริห์ว่า แร้งนั้นเป็นสัตว์สะอาดคือกินแต่ของที่เน่าเสียตายแล้วไม่กินของสด ด้วยความบริสุทธิ์ของแร้ง หลวงพ่อไป๋ท่านจึงนำเอากระดูกมาจารอักขระที่ได้ร่ำเรียนมาจากหลวงพ่อเงินบางคลาน และหลวงพ่อพิธวัดฆะมัง แล้วห้อยที่คอสุนัขท่านเดิมมันเป็นสุนัขที่โดนทั้งฝูงหมาวัดแล้วชาวบ้านรังแก ปรากฏว่าเมื่อเจ้าสุนัขตัวโปรดนี้ได้ห้อยตะกรุดนี้ปรากฏว่ามีอำนาจมากเป็นที่เกรงกลัวของฝูงหมาวัดท่าหลวงที่รังแกมันและคนที่เคยเกลียดก็รักมัน จึงได้มาขอกับหลวงพ่อไป๋ ท่านที่วัดท่าหลวง โดยหลวงพ่อไป๋ท่านจะให้วาจาสิทธิ์เวลามอบตะกรุดให้ใครท่านจะว่า ขอให้ทุกอย่างเป็นของตายเสมือนอีแร้งกินของตายนะ นับเป็นตะกรุดที่มีทั้งมหาอำนาจและเมตตามหานิยมในตัว

    31117989_2010868809167296_5756413148017748681_n.jpg 31048255_2010868785833965_2567853501631547082_n.jpg 31116782_2010868852500625_6107004573333369940_n.jpg
     
  17. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    แท้ และรับประกันทุกรายการครับ
    สอบถามก่อนสั่งจอง
    เนื่องจากบางรายการ มีการจำหน่ายนอกเวปด้วย
    ขอบคุณมากครับ
     
  18. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    ปิดรายการนี้
    จัดส่งให้วันนี้ครับ
     
  19. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 155 : ปรอทกินทอง ครบขนาด ชุดใหญ่ ครูบาศรีอ่อง

    ราคาเล็ก 3,500 บาท
    กลาง 4,000 บาท
    ใหญ่ 5,000 บาท
    จัมโบ้ 6,000 บาท
    ปรอทกินทอง 30 ลูก.jpg

    ประวัติความเป็นมา สมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ท่านได้สร้างเครื่องรางไว้ตามตำราปรอทสำเร็จของพม่า(จากการค้นคว้าสอบถามประวัติกับเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันให้ข้อมูลว่า โยมพ่อของหลวงพ่อศรีอ่องมี เชื้อสายพม่า ส่วนทางโยมแม่มีเชื้อเจ้าทางเจ้านาย ฝ่ายเหนือ นามสกุล เชื้อเจ็ดตน
    หลวงพ่อศรีอ่องท่านเริ่มทำปรอทกินเงิน และ ปรอทกินทอง ตั้งแต่สมัยจำพรรษาที่วัดเอี่ยมวรนุช มีอยู่สองชนิดคือ ปรอทกินเงินและปรอทกินทอง

    ท่านจะนำปรอทไปแช่ในพิษหลากชนิดแล้วจึงเสกให้ปรอทฆ่าพิษตามตำรา จากนั้นนำปรอทที่ได้มาทำพิธีทางไสยเวทย์โบราณ โดยท่านใช้ทองคำล่อให้ปรอทกินทอง(ทองคำแท้)จนอิ่มตัว หากเป็นเงินบริสุทธิ์ก็จะออกมาเป็นปรอทกินเงิน จากนั้นนำไปเททรายจะได้ปรอทในกองทราย แล้วจึงมาแต่งให้เข้ารูป ปรอทกินทองและปรอทกินเงินหรือบางท่านเรียกปรอทหัวแหวน
    หลวงพ่อจะสร้างให้ศิษย์ใกล้ชิดและนับถือที่ขอให้ท่านทำให้เท่านั้น มิได้ทำออกให้บูชาแต่อย่างใด จำนวนการสร้างจึงน้อยมาก เนื่องจากผู้ที่อยากได้ต้องเตรียมการอย่างถูกต้องตามตำราและที่สำคัญคือต้องใช้ต้นทุนในการจัดหาทองคำแท้หรือเงินบริสุทธิ์มาเอง

    ประสบการณ์ เรื่องของศิษย์ท่านที่ปัจจุบันมีชีวิตอยู่เล่าว่า การสร้างต้องตั้งมณฑลพิธี มีพิธีบูขาครู เทพยดาเจ้าป่าเจ้าเขา และห้ามเข้าในเขตมณฑลพิธีอย่างเด็ดขาด การสร้างจะทำช่วงเช้า เวลา 9.09 น. จนถึงบ่ายกว่าๆ จึงหยุดโดยท่านจะบริกรรมคาถาตลอดเวลาที่ทำพิธี เคยมีสตรีผู้หนึ่งไม่รู้ว่าท่านทำปรอทอยู่ เข้ามาในเขตมณฑลพิธี เตาหลอมถึงกับระเบิด ปรอทและทองที่กำลังล่อหายไปสิ้น
    เท่าที่ทราบไม่ปรากฎว่ามีเกจิท่านใดมีการสร้างปรอทในลักษณะเดียวกันนี้ ผู้รู้จึงแสวงหากัน นานๆครั้งจึงออกมาให้เห็น แม้ในพื้นที่ก็ใช่ว่าจะออกมาให้เห็นได้บ่อยนัก ส่วนใหญ่จะเห็นผู้รู้บางท่านนำติดตัวทำหัวแหวนเพราะขนาดพอเหมาะ พุทธคุณ สามารถช่วยขับพิษต่างๆที่ร่างกายได้รับเช่นสัตว์มีพิษเอาปรอทกดที่แผล กันสิ่งอัปมงคล เสริมธาตุในร่างกาย ป้องกันกระดูกหักจากอุบัติเหตุ บางท่านแช่ปรอทในน้ำผึ้งเพื่อรับประทานถือเคล็ดว่าให้ปรอทกินน้ำผึ้งและปล่อยพลังงานออกมาในน้ำผึ้ง ส่วนมากพบการใช้ทองคำเปลวปิดไว้ที่ก้นหัวปรอทซึ่งท่านว่าเป็นการเลี้ยงปรอทโดยใช้แผ่นทองคำเปลวเลี้ยง
    คาถากำกับปรอทกินทอง "จิเจรุนิ กัณหะเนหะ"

    อาณุภาพนั้นใช้ได้หลายทางดังนี้

    1.ดีทางแคล้วคลาดคงกระพัน ป้องกันกระดูกหัก จากอุบัติเหตุ
    2.ป้องกันพวกภูติผีปีศาจและ อมนุษย์ อสุรกาย
    3.ป้องกันยาพิษต่างๆ
    4.ใช้เสริมดวงและอธิษฐานเสี่ยงทายเกี่ยวกับดวง เมื่อใดดวงขึ้น ทองจะสุกใส เมื่อดวงตก ทองจะหมองคล้ำ
    5.ขับพิษต่างๆที่ร่างกายได้รับเช่น เมื่อถูกสัตว์มีพิษกัดให้เอาปรอทกินทอง กินเงิน ปิดปากแผลดูดพิษ
    6.รักษา และปรับสมดุลย์ธาตุในตัว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤษภาคม 2018
  20. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,119
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,075
    รายการที่ 156 : บ่วงนาคบาศ หินแกะ กรุทางภาคเหนือ อายุหลายร้อยปี
    รับประกันความเก่า
    เล็กพอเหมาะ เลี่ยมขึ้นคอได้
    ราคา 1,500 บาท
    ค่าส่ง 70 บาท

    บ่วงนาคบาศก์.jpg
    “บ่วงนาคบาศ” นั้นในตำราโบราณ มีความเชื่อถือกันมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลเป็นสุดยอดที่มีพุทธคุณจัดเป็นสุดยอด เครื่องรางแห่งโชคลาภป้องกันภัย กินเท่าไหร่ก็ไม่จักหมดไม่จักสิ้น ในตำราล้านนากล่าวไว้ว่า สามารถชนะทุกอย่าง หรือชนะหมด ใช้ทำน้ำมนต์ เสริมดวง ป้องกันภูตผี และคุณไสย เป็นเมตตามหานิยมแคล้วคลาดปลอดภัย ค้าขายดี มีกินไม่อด

    มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม และเด่นด้านการเสี่ยงโชค คือ มีกินไม่หมด ไม่มีอด งูกินหางกัน ต่างตัวก็ต่างกิน ยิ่งกินก็ยิ่งรัดเข้าหากัน พอชนกันก็คลายออก จึงเรียก “กินไม่หมด” ถ้าบูชาด้วยความเคารพจักชุ่มเย็นเปรียบเหมือนมีนาคมาอยู่ด้วย ถือว่าเป็นของดีที่หายาก ตามตำนานโบราณ นาคบาศ” หรือ “ศรของอินทรชิต” อานุภาพทำลายได้ทั้งสามโลก ศรที่ยิงไปเป็นงูรัดศัตรู

    เป็นอาวุธที่พระพรหมประทานให้อินทรชิต และได้ทำพิธีชุบศร ภายหลังตกเป็นของพญานาคราชเป็นผู้ครอบครอง ได้ชื่อว่าเป็นบ่วงเชือกที่แข็งแรงที่สุด กล่าวกันว่าขนาดพญาครุฑ เจ้าแห่งนกยังต้องกลัว ภายหลังตกเป็นของพญานาคราชเป็นผู้ครอบครอง เมื่อครั้งพรานบุญไปขอยืม บ่วงบาศนี้ จากพญานาค เนื่องจากพรานบุญ เคยช่วยเหลือพญานาคราชไว้
    พญานาคราชได้ให้สัญญาว่า ขออะไรก็จะให้ ทั้งที่เป็นของสำคัญ และกลัวพรานบุญไม่คืน แต่ก็ให้ไป เพราะต้องรักษาคำพูด พรานบุญจึงสามารถจับกินรีได้ และนำบ่วงนาคบาศนั้นไปคืน อีกเรื่องเล่าเกี่ยวกับ “บ่วงนาคบาศ” ด้วยการขดเป็นวงเหมือนห่วงนาคบาศ

    ในความเชื่อแต่โบราณที่เล่าสืบต่อๆกันมาก็คือ ในสัปดาห์ที่ 6 หลังการตรัสรู้พระพุทธองค์ได้เสด็จไปนั่งขัดสมาธิเสวยวิมุตติสุขภายใต้ร่มไม้จิกชื่อมุจจลินท์ อันตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของต้นพระศรีมหาโพธิ์และ ณ ที่แห่งนี้ได้มีฝนตกพรำๆ และสายลมพัดผ่านตลอด 7 วัน พญานาคราชมุจจลินท์จึงได้ออกมาจากนาคพิภพทำขนดล้อมพระวรกายพระพุทธองค์ ถึง 7 ชั้นแล้วแผ่พังพานใหญ่ขดเป็นวงเหมือนห่วงนาคบาศ ปกคลุมเหนือพระเศียรด้วยพระประสงค์จะป้องกันมิให้สายฝนและสายลมพัดเข้ามาถูกต้องพระศาสดาได้จึงได้ จึงถือเป็นคติในการสร้างวิชาสายป้องกันภัย บ่วงนาคราช

    คาถานาคบาศ

    ใช้สำหรับเสี่ยงโชค : โอม เอ หิ พญานาคะสุปัณณานัง สิทธิชะนาจิตตัง อุ มะอะ โชคลาภจงบังเกิด
    ใช้สำหรับค้าขาย มหาเสน่ห์ : เอหิ พญานาคะสุปัณณานัง พุทโธภะคะวา พุทธังสิทธิชะนาจิตตัง ธัมมังสิทธิชะนาจิตตัง สังฆังสิทธิชะนาจิตตัง อิติปิโสภะคะวา พุทธมัดใจ โมเรียกมา บ่วงทัพพะนาคา เยติ โอมประสิทธิเม
    ใช้สำหรับกันภูติกันภัย : เอ หิ พญานาคะสุปัณณานัง สิทธิชะนาจิตตัง อิติปิโส ภะคะวา พุทธังปิด ธัมมังปิด สังฆังปิด มะอุอะ



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2018

แชร์หน้านี้

Loading...